ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
สิงหาคม 2559
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 สิงหาคม 2559
 
 
Why Love? โอบกอดด้วยรัก? ตอนที่ ๑๑ (YURI)



๑๑

อลิษาก้าวไปตามทางเดินยาวของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง หลังสอบถามจากประชาสัมพันธ์จนรู้ว่า กันทิมาถูกส่งไปรักษาตัวห้องไหน

สาวน้อยกระวนกระวายใจมากอย่างบอกไม่ถูก ตอนนั่งอยู่ในรถแทบจะคิดถึงแต่หมอสาวตลอดทุกลมหายใจเข้าออก นึกหงุดหงิดไม่น้อยที่พลขับสูงวัยขับชักช้าไม่ทันใจเอาเสียเลย ไม่รู้จะอืดอาดไปไหน

...หากเหาะได้ อลิษาคงทำไปแล้ว

'พี่ฟ้าใจร้ายที่สุด ทำแบบนี้กับพี่มาได้อย่างไร?'

ในใจคิดตัดพ้อต่อพี่สาว ที่ทำอะไรป่าเถื่อนเกินคาดคิด และนึกตำหนิตนเองที่เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ในวันนี้

แม้ในใจลึกๆ จะแอบยินดีไม่น้อยที่ได้ยินคำสารภาพของกันทิมาที่ยอมรับกับแองเจิลว่า

“ใช่...พี่คิดจะจูบอลิษา”

ร่างบางอดที่จะหัวใจพองฟูไม่ได้

'แปลว่าพี่มา มีใจให้ฉันเหมือนกันใช่ไหม?'

ความเคลือบแคลงยังไม่สิ้นไปจากสมองของหญิงสาว ซึ่งคนที่จะกำจัดความสับสนว้าวุ่นเหล่านั้นให้หมดไปได้ คงมีแต่กันทิมาเท่านั้น

แต่ไม่เหมาะเอาเสียเลยที่จะไปสอบถามตรงๆ จากคนเจ็บยามนี้ คงต้องร้องเพลงรอต่อไปจนกว่าจะสบโอกาสครั้งใหม่ พาลทำให้นึกโมโหพี่สาวอีกรอบที่โผล่เข้ามาถูกจังหวะเกิน ไม่งั้นก็คงเสียจูบแรกไปแล้ว

'เฮ้อ! พี่ฟ้านะพี่ฟ้า มาขัดจังหวะกันทำไมก็ไม่รู้...'

เมื่อไปถึงหน้าห้องฉุกเฉิน อลิษาก็พบกับละเอียดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เพียงลำพัง จึงรีบสาวเท้าเข้าไปหา ทรุดตัวคุกเข่าข้างกายหญิงสูงวัยที่ตนรักเคารพไม่ต่างจากมารดาคนที่สอง แล้วก้มกราบที่ตักอย่างเรียบร้อย

“นมเอียดคะ อลิษากราบขอขมานะคะ ที่เป็นต้นเหตุให้พี่มาต้องเจ็บตัว”

แม่ของหมอสาวจับมือของคุณหนูแล้วส่ายหน้า

“ไม่ต้องขอขมาหรอกค่ะ นมไม่โกรธอลิษา” เธอพูดเสียงเครือสั่น พลางดึงหญิงสาวให้ลุกนั่งเก้าอี้

หญิงสาวสงสารอีกฝ่ายจับใจ หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาคนตรง หน้าอย่างอ่อนโยน ไม่บ่อยเลยที่หล่อนจะได้ทำหน้าที่นี้ ปกติละเอียดจะเป็นคนเช็ดน้ำตาหล่อนต่างหาก

“มาอึดจะตายไป ไม่นานก็หายค่ะ ไม่น่าห่วงหรอก” นมเอียดพูดเปรยขึ้นเหมือนปลอบใจตัวเอง

“นั่นสิคะ” คนฟังเออออไปตามน้ำ ไม่คิดขัดคอหรือพูดล้อเล่นอะไรตอนนี้ อลิษาปวดใจที่เห็นละเอียดเศร้าสร้อย ทั้งที่ปกติหญิงสูงวัยผู้นี้มีจิตใจเข้มแข็งมาก

...จะมีแม่สักกี่คนที่ใจร้ายใจดำ ยามเห็นลูกเจ็บปวดทรมาน

ทั้งคู่นั่งรออยู่ไม่นาน พยาบาลคนหนึ่งก็เดินออกมาจากห้อง

“คนเจ็บที่ชื่อกันทิมาเป็นอย่างไรบ้างคะ?” อลิษาลุกขึ้นถามสาวในชุดขาวทันที

“ทำแผลเกือบเสร็จแล้วค่ะ ส่วนอาการให้คุณหมอมาตอบดีกว่านะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”

แล้วพยาบาลคนนั้นก็เดินไปทำธุระของตนต่อ

หญิงต่างวัยจับมือกันแน่น ส่งยิ้มให้กัน ใจชื้นขึ้นหลังรู้ว่า อาการของหมอสาวไม่น่าจะหนักหนาจนเกินไป

สิบนาทีต่อมา

แพทย์หนุ่มวัยสามสิบต้นเดินออกมาจากห้องนั้น

“ลูกฉันเป็นอย่างไรบ้างคะคุณหมอ?” ละเอียดแทบจะถลาไปหาบุรุษสวมเสื้อกาวน์สีขาว

อลิษาลุกตามไปยืนอยู่ด้านหลังแม่นม เพื่อร่วมรับฟังด้วย

“ไม่น่าเป็นห่วงครับ เอ่อ อาจจะเจ็บแผลบนหน้าสักหลายวัน แต่หมอขอเอ็กซเรย์สมองกับช่วงท้องของคนเจ็บก่อนนะครับ นอนพักที่นี่สักสองคืน ถ้าไม่มีอะไรก็กลับบ้านได้ครับ” เขาพูดอย่างสุภาพนุ่มนวล ไม่ทำให้ญาติคนไข้ตกใจจนเกินไป

'คุณพระ!'

ละเอียดยกมือขึ้นทาบเหนือตำแหน่งหัวใจด้วยอาการตกใจ ด้วยไม่คิดว่า หมอจะต้องตรวจละเอียดขนาดนี้ ความหวาดกลัวเริ่มพุ่งสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผล

อลิษาเหลือบเห็น กันทิมาที่นั่งบนรถสี่ล้อถูกเข็นออกมาโดยนางพยาบาลสาว จึงรีบก้าวไปหา หล่อนสังเกตเห็นใบหน้าสวยของคนเจ็บ ซึ่งตอนนี้มีผ้ากอซแปะ ช่องจมูกข้างหนึ่งถูกอุดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดกำเดาไหล ริมฝีปากที่เคยสวยได้รูปบวมช้ำมีรอยแตก

'คงเจ็บน่าดูเลยสินะ'

หล่อนคิดสงสารไม่น้อย ที่เห็นหมอสาวทำหน้าบิดเบี้ยวเจ็บปวด แต่ก็ไม่ยอมปริปากร้องสักแอะ ถือว่าใจแข็งเอาการ

“พี่มา...” เรียกชื่อคนเจ็บเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือไปบีบมือเรียวของคนตรงหน้าเบาๆ เหมือนให้กำลังใจ

“อืม...”

กันทิมาครางเสียงต่ำๆ ในลำคอ ไม่สะดวกที่จะขยับริมฝีปากพูดอะไรออกมา เจ็บระบมไปจนเกือบทั้งใบหน้า เธอไม่เคยคิดเลยว่า กำปั้นของแองเจิลจะหนักหน่วงถึงขนาดนี้ ไม่งั้นจะส่งไปชกมวยชิงแชมป์โลก รับรองว่าต้องได้รางวัลเพียบ

'อ่า...เจ็บชะมัด แสดงว่าฉันยังหน้าด้านไม่พอสินะ'

นึกประชดตัวเองในใจ

“มาเป็นไงบ้างลูก?” ละเอียดถามอย่างเร็ว จนลิ้นแทบจะพันกัน ยกอุ้งมือขึ้นประคองแก้มของลูกสาวอย่างระมัดระวัง

“อือ...” หมอสาวได้แต่ส่งเสียงอือตอบ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย จนปัญญาที่จะพูดโต้ตอบ ขนาดจะยิ้มให้มารดายังทำไม่ได้

“แม่จะรออยู่ข้างนอกห้องนะลูก” คนเป็นแม่พูดเสียงสั่นๆ

“อืม...” ครางต่ำๆ รับคำ

“ขออนุญาตพาคนไข้ไปห้องสแกนฯ ก่อนนะคะ” นางพยาบาลที่เข็นรถบอกอย่างสุภาพ

“พวกเราตามไปด้วยได้ไหมคะ?” อลิษาถาม

“ได้ค่ะ แต่ต้องรออยู่หน้าห้องนะคะ”

“เข้าใจแล้วค่ะ” หล่อนรับคำ แล้วจูงมือนมเอียดเดินตามรถเข็นของกันทิมาไป โดยแอบหวังว่า ผลการสแกนคงไม่มีอะไรร้ายแรง

ละเอียดสวดภาวนาในใจ นึกขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือให้ช่วยคุ้มครองลูกสาวให้แคล้วคลาดจากทุกสิ่ง

'คุณพระคุณเจ้า! ช่วยคุ้มครองลูกของลูกช้างด้วยเถอะ หากยายมาปลอดภัย ลูกช้างจะถวายพวงมาลัยเก้าสิบเก้าพวงที่วัดข้างบ้านเจ้าค่ะ'

มารดานึกบนบานศาลกล่าว ตามความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมา บางเรื่องที่เหนือวิทยาศาสตร์ เหนือกฎของเหตุผล แต่เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจของชาวพุทธส่วนใหญ่

ขณะนั่งรออยู่หน้าห้องสแกน ละเอียดเซ็นชื่อเป็นเจ้าของไข้ลูกสาว ไม่นานประสงค์กับกริชก็มาถึง อลิษารายงานอาการของกันทิมาให้ผู้มาใหม่รับทราบ พ่อกับลูกชายจึงสบายใจขึ้นและนั่งรออยู่ด้วย

ละเอียดนั่งนิ่งไม่เอ่ยปากพูดทักทายสักคำ ตั้งแต่คนในครอบครัวมาถึง สนใจแต่อาการของลูกสาวมากกว่า เธอไม่ได้ลำเอียง

...แค่รักลูกห่วงลูกไม่เท่ากัน


“แกคิดว่ามาไปทำอะไร ฟ้าถึงได้โกรธขนาดนี้?” คนเป็นพ่อถามลูกชาย ในฐานะเป็นคนสนิทของแองเจิล ที่น่าจะรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี

กริชเงียบตรึกตรองถึงความเป็นไปได้

“ไม่แน่ใจครับพ่อ” เขาตอบอย่างลังเล “ปกติคุณฟ้าไม่เคยลงมือกับใครเลยนะครับ ยกเว้นเรื่องการแข่งกีฬา”

“ก็นั่นนะสิ” ประสงค์เห็นด้วย

เขารู้จักนายหญิงผู้นี้มานาน ตั้งแต่ตัวนิดเดียว ยังเดินไม่แข็งเลยด้วยซ้ำ อุปนิสัยใจคอแองเจิลเป็นอย่างไร เขาย่อมรู้ดี ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ

'ตกลงสองคนนั้นมีปัญหาอะไรกัน?'

“สงสัยเราคงต้องตะล่อมถามจากคุณอลิษา” กริชพูดถึงทางออกสุดท้ายที่มีอยู่ บุคคลที่สามในเหตุการณ์

“ก็คงงั้น” ประสงค์เห็นด้วย ก่อนพึมพำพูดทิ้งท้าย “ถ้าเธอยอมพูดตามจริงก็คงดี”

'แปลว่าอะไร?'

ชายหนุ่มเหลือบมองบิดาด้วยความแปลกใจ ไม่เข้าใจความนัยที่ได้ยิน แต่ไม่คิดจะซักไซ้อะไรตอนนี้ เมื่อเห็นเขามองออกนอกหน้าต่างเหมือนไม่อยากคุยต่อ

ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง


“คุณอลิษา ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ?” ชายหนุ่มหันไปถามคุณหนูแห่งไดมอนด์กรุ๊ปอย่างสุภาพ

“อะไรคะพี่กริช?”

“ทำไมคุณฟ้าถึงทำร้ายพี่มา?”

'จะตอบยังไงดี?'

หล่อนอึ้งไม่รู้จะตอบคำถามนี้อย่างไรดี อึดอัดกับสายตากดดันของผู้อาวุโสอีกสองคนไม่น้อย แม้เรื่องนี้พี่สาวของหล่อนจะทำรุนแรงเกินไป แต่หากพูดไปถึงต้นสายปลายเหตุคงต้องโทษตัวเองถึงจะถูกต้องที่สุด

“อลิษาเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ อลิษาผิดเองค่ะ” ก้มหัวยอมรับผิดออกมาอย่างกล้าหาญ โดยไม่คิดจะเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ร่างบางต้องการให้บางเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนเป็นความลับต่อไป จนกว่าจะมีผลสรุปทางใดทางหนึ่ง

'แบบนี้นี่เอง'

กริชปรายตามองไปทางบิดา แล้วเข้าใจความหมายที่คุยกันก่อนหน้านี้ ดูเหมือนคุณหนูคนนี้ก็มีนิสัยคล้ายๆ กับนายหญิงคนพี่ ที่ไม่ชอบโยนความผิดให้คนอื่น แต่เลือกจะรับโทษนั้นเอาไว้เอง

ชายหนุ่มรู้สึกอ่อนใจไม่น้อย นึกเสียใจที่ประเมินหล่อนต่ำเกินไป จนต้องขยับแว่นสายตาคิดหาแผนสองแผนสาม

'แล้วจะทำยังไงต่อดีล่ะเนี่ย?'

ประสงค์ยิ้มมุมปากอย่างสะใจนิดๆ ที่เห็นลูกชายคว้าน้ำเหลวกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ

'ต้องฝึกอีกเยอะ ไอ้ลูกชาย'

'จะมาสอบปากคำอะไรตอนนี้...ใช่เวลาไหม?'

ละเอียดไม่สบอารมณ์กับพฤติกรรมของลูกชาย ที่ทำกับคุณหนูคนโปรดของตนอย่างไม่ไว้หน้า แทนที่จะห่วงพี่สาวที่เจ็บอยู่

“พอเลยนายกริช แล้วอลิษาก็ด้วย ไม่ต้องคุยเรื่องนี้ตอนนี้ เข้าใจไหม?” นมเอียดกล่าวคำประกาศิตออกไป ด้วยใบหน้าขึงขัง

“ค่ะ” / “ครับ” หนุ่มสาวรีบรับคำ ก่อนจะโดนตำหนิอีกชุดใหญ่

'ยิ่งแก่ยิ่งดุ...เมียใคร?'

ประสงค์แอบบ่นเมียตัวเองกระปอดกระแปดในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกไปอย่างเด็ดขาด ขืนหลุดปากมีหวังเข้าบ้านไม่ได้เป็นอาทิตย์

คำว่า ‘แก่’ เป็นหนึ่งในคำต้องห้ามของภรรเมียที่เคารพ เฉกเช่น เดียวกับคำว่า ‘หย่อนยาน’ ‘หนังเหนียว’ ‘ตายยาก’ ฯลฯ ที่จะเผลอพูดไม่ได้เลยทีเดียว

ละเอียดหันมองสามีที่ทำหน้าชวนสงสัย จึงหรี่ตาลง

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะคุณประสงค์?” สุ้มเสียงเย็นเยือก ไม่น่าชวนต่อล้อต่อเถียงด้วย

ชายสูงวัยทำหน้าเหลอหลา ก่อนส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเร็ว

“ไม่มีครับ ไม่มีแน่นอน”

“ดีค่ะ”

แล้วเธอก็หันไปสนใจมองยังประตูห้องที่กันทิมาอยู่ด้านใน ไม่สนใจจะคุยอะไรแม้แต่ครึ่งคำ

'เฮ้อ! น่ากลัวจริงๆ'

ประสงค์ผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งใจ ราวผ่านพ้นช่วงวิกฤติมาได้อย่างหวุดหวิด เขาจัดเป็นผู้กล้าใจเพชรที่ไม่เกรงกลัวภยันตรายใดๆ

...ยกเว้นภรรเมียผู้นี้เท่านั้น

'น่าอับอายชะมัด...สุดยอดคุณพ่อของฉัน เวรกรรม!'

กริชได้แต่ปลงกับชายคนนี้ที่เก่งทุกอย่าง หากแต่เกรงอกเกรงใจเมียเป็นที่สุด จนทำให้ชายหนุ่มไม่คิดอยากมีครอบครัว เหตุผลสำคัญก็มาจากประสงค์นี่แหละ

'หากมีเมียแล้วต้องหงอ ฉันขอเป็นโสดดีกว่า'

ประกอบกับหน้าที่การงานของเขามีความเสี่ยงสูง คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากฝากชีวิตด้วย ที่ผ่านมากริชจึงคิดเรื่องคู่ชีวิตน้อยมาก

ผิดกับอีกคนที่มองคู่รักอย่างชื่นชม

'อยากรู้จังนมเอียดทำอย่างไร ถึงปราบลุงสงค์ซะอยู่หมัด?'

อลิษาอยากได้คำตอบนี้เหลือเกิน เผื่อจะเอาเคล็ดลับนี้ไปใช้กับใครบางคนที่หล่อนอยากให้ยอมศิโรราบ

...คงดีไม่น้อย หากใครคนนั้นทั้งรักและจงรักภักดีต่อหล่อนชนิดไม่มีเสื่อมคลายเหมือนสามีภรรยาคู่นี้

แม้ว่าสังคมในปัจจุบัน จะนิยมเปลี่ยนคู่ควงกันเป็นว่าเล่น เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก อาจเพราะอิทธิพลของโลกออนไลน์ที่หมุนไวเกินไป ทำให้ความรักดูเสมือนเป็นเรื่องไร้สาระ สิ้นมนตร์ขลังสิ้นเสน่ห์ไปมาก

หากแต่อลิษายังคงศรัทธาในเรื่องรักแท้และเนื้อคู่ แอบโรแมนติกฝันหวานเพียงลำพัง ไม่กล้าปริปากบอกกับใคร กลัวโดนค่อนขอดว่า ‘ไร้เดียงสาเพ้อเจ้อเป็นเด็กๆ’

แต่หล่อนรู้จักตัวเองดีพอว่า ตนก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้แข็งแกร่งหนักแน่นอะไรมากมาย ต้องการความรัก ความเข้าใจ และความเอาอกเอาใจจากคนสักคนที่ใช่...เหมือนคนอื่น ผู้ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างไปด้วยกันตลอดชั่วชีวิต

และสาวน้อยเริ่มมั่นใจแล้วว่า หล่อนได้เจอใครคนนั้นแล้ว เจอมานานแล้ว แต่ไม่เคยเฉลียวใจฉุกคิดมาก่อน

รู้แต่ว่า ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ชิดกับหมอสาว หล่อนมีความสุข รู้สึกอบอุ่นมั่นคง ยิ้มและหัวเราะออกมาได้อย่างง่ายดาย เป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องห่วงเสียภาพพจน์ภาพลักษณ์คุณหนูของไดมอนด์กรุ๊ป

...มีไม่กี่คนที่ทำให้หล่อนไว้วางใจได้ขนาดนี้

เพียงแต่ว่าอลิษายังไม่มั่นใจว่า กันทิมาคิดกับตนแบบไหน?

...แค่น้องสาว หรือมากกว่านั้น?

นั่นเป็นเพียงเหตุผลเดียว ที่ฉุดรั้งไม่ให้อลิษาแสดงอะไรออกมามาก กลัวผิดหวัง กลัวถูกปฏิเสธ หล่อนยังไม่อยากรู้จักคำว่า ‘อกหัก’

...ถ้าชาตินี้ไม่ต้องรู้จักคำนี้เลยจะเยี่ยมมาก

ขณะที่ทั้งสี่คนกำลังครุ่นคิดอะไรเงียบๆ ในใจ กันทิมาซึ่งนั่งบนรถสี่ล้อก็ถูกเข็นออกมาโดยพยาบาลคนเดิม โดยมีหมอหนุ่มตามออกมาด้วย เขาสรุปอาการของคนเจ็บแบบสั้นกระชับ ฟังดูแล้วไม่น่ากังวลเท่าไหร่

แต่ละเอียดยังคงทำหน้าไม่สบายใจ

“พยาบาลจะพาคนเจ็บไปส่งที่ห้องพิเศษ แล้วเย็นๆ ผมจะแวะไปดูอาการนะครับ”

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” คนเป็นแม่กล่าวอย่างเกรงใจ

“ผมขอตัวก่อนนะครับ”

ญาติคนไข้พากันกล่าวขอบคุณคุณหมอ เขาส่งยิ้มให้ก่อนเดินไปทางอื่น ขณะที่ทั้งสี่พากันให้กำลังใจกันทิมา และเดินตามไปยังห้องพัก

อลิษานั่งเล่นอยู่ในห้องพิเศษ จนกระทั่งกันทิมาเปลี่ยนชุดเป็นชุดของโรงพยาบาล แล้วละเอียดก็เอ่ยปากไล่ให้คุณหนูกลับบ้าน

“อลิษากลับบ้านไปก่อนเถอะค่ะ ทำงานค้างอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

“เอ่อ...”

“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวนมอยู่เฝ้าเอง ถ้ามีอะไรนมจะโทรไปบอกค่ะ”

นมเอียดไม่ต้องการให้หล่อนเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ หลังดูแล้วกันทิมาอาการไม่น่าเป็นห่วง

“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวไม่กล้าอิดออด แม้จะไม่ค่อยเต็มใจนักก็ตาม ก่อนหันหน้าไปร่ำลาคนเจ็บ “ไว้พรุ่งนี้อลิษาจะมาเยี่ยมใหม่นะคะพี่มา”

“อือ” หมอสาวพยักหน้าน้อยๆ แต่ยิ้มไม่ออก แค่ไม่ร้องโอดโอยออกมาสักคำก็เก่งมากแล้ว

หลังจากในห้องพิเศษเหลือแต่สมาชิกในครอบครัว ละเอียดปรายตาสะกดพ่อกับลูกชายไม่ให้ซักไซ้คนป่วยตอนนี้ ไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากรู้ความจริง หากแต่สภาพของกันทิมาต่างหากที่ไม่สะดวกจะตอบคำถาม เธอไม่อยากทรมานคนเจ็บมากเกินไป

'รู้ช้าแค่สองสามวัน...คงไม่ทันขาดใจตายหรอก'

เธอ
หากเธอเหลียวมองฉันแม้สักนิด
หากเธอคิดเข้าใจกันสักหน่อย
อย่าใจดีกับฉันจนเก้อคอย
เด็กตัวน้อยเจ็บหัวใจเป็นนะเธอ.

OoXoO

ขอแจ้งว่าเรื่องนี้มีทั้งหมด ๓๓ ตอน กับอีกหนึ่งตอนพิเศษ จะอัพจบตอนที่ ๑๘ ค่ะ
หากอ่านแล้วชอบ อยากให้กำลังใจไรท์ ก็แจกหัวใจที่ MEB ให้ด้วยจะขอบคุณมากค่ะ

หนังสือสั่งได้ถึงวันจันทร์ที่ ๘ สิงหาคมนะคะ E-book โหลดได้ที่ MEB

หรือใจร้อนอยากอ่านตอนต่อไปก็ แวะไปที่ เพจนิ้วนาง ค่ะ

https://www.facebook.com/Nuinang321/

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ

นาง

OoXoO



Create Date : 06 สิงหาคม 2559
Last Update : 6 สิงหาคม 2559 15:03:35 น. 1 comments
Counter : 960 Pageviews.

 
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:28:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com