|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
21 มิถุนายน 2562
|
|
|
|
พอร์ตเขียวต้องโชว์
งานเยอะ งานเหนื่อย(ใจ) ทำไห้ไม่มีเวลามาพบปะเพื่อนๆ ใน blog แต่การเขียนก็ยังเป็นงานที่รัก และสามารถเป็นที่ผ่อนคลายจิตใจ จากโลกความเป็นจริงที่เหนื่อยร้าย ให้ยังเหลือความสุขใจได้บ้าง ไม่มีอะไรมาก แค่อยากมาอัพเดตชีวิตการออมให้เพื่อนๆ ฟัง
เมื่อซักหนึ่งปีก่อนๆ ผมเคยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการออมไว้ แต่รู้สึกสึกเป็น blog ที่ไร้สาระหาความรู้อะไรไม่ได้ก็เลยลบไป แต่ยังจำถึงคำถามที่ตั้งไว้ในบรรทัดสุดท้ายใน blog ได้ว่า สุดท้ายตอนเกษียนเงินออมผมควรไปอยู่ที่ไหน ระหว่าง
ซื้อกองทุนหุ้นปันผล VS ซื้อหุ้นเป็นรายตัว
ทั้งสองอย่างต่างมีข้อดีข้อเสีย กองทุนมีผู้จัดการกองทุนที่เค้าเก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่แพงถ้าเทียบกับความรู้ เวลา และการทำงานที่ต้องมาเฝ้าจอแทนเรา กองทุนหุ้นยังพยายามปันผลจากการดำเนินงานให้ได้ประมาณ 10% ไม่งั้นคงไม่มีแรงจูงใจให้คนเอาเงินมาฝาก แทนที่จะซื้อหุ้นปันผลโดยตรง หากปีนั้นขาดทุน ก็ต้องพยายามปันผล แม้จะทำให้ NAV จะลดลงก็ตาม
เปิดพอร์ทซื้อหุ้นเองในตลาด ก็ต้องรับภาระดูแลชีวิตโดยรับกำไรหรือขาดทุนเต็มๆ แต่สำหรับคนเกษียนกลับเป็นข้อดีนะ คือดูตัวเลขในตลาดบ้าง ฟังข่าวบ้างฝึกสมอง ซื้อหุ้นเป็นรายตัวเราเลือกชีวิตเองได้ ไม่อยากเสี่ยงก็ซื้อหุ้นที่มันปันผลเยอะๆ หรือจะเลือกชอบเห็นตัวเลขในพอร์ตเติบโตเป็นร้อยๆ เปอร์เซ็นต์ ก็ได้
แลกมากับเงินปันผลของบริษัทที่มักจะน้อย เรียกว่าลงล้านได้หมื่นกว่าบาท ต่างจากกองทุนถ้าได้ 10% ก็เอาไปเที่ยวต่างประเทศ แม้เงินต้นไม่โตก็ไม่เป็นไร เพราะเราคงไม่ได้ใช้เงินก้อนนี้นานๆ อ้อ การฝึกสมองอีกอย่างของคนซื้อหุ้นคือ มีประชุมผู้ถือหุ้นปีละครั้ง ให้เรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทตามโรงแรม
ยาวไปล่ะ
จากรูปคงเห็นว่า 3 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากกองทุน LTF น้อยกว่า การลงทุนหุ้นเป็นรายตัวอย่างมาก ซึ่งในรายละเอียดของการลงทุน คือ LTF แทบจะซื้อแบบ DCA เพียงแต่เลือกวันซื้อในแต่ละเดือนเท่านั้นเอง ส่วนหุ้นรายตัวนี่เจาะจงซื้อแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ซื้อตลอดเพราะเป็นเงินพิเศษ
แบบที่กล่าวว่า ต้องใช้เงินเย็น ดังนั้นผมจึงไม่ได้แบ่งเงินเดือนมาซื้อ การซื้อจึงเป็นสุ่ม เพราะมีเงินเข้ามาเป็นก้อนเมื่อไหร่ก็ค่อยคิดจะซื้อ มั่วกว่า LTF ที่ซื้อทุกเดือนอย่างแน่นอน เพราะเวลาตลาดลงแต่อาจไม่มีเงิน ส่วนคำถามว่า เพราะผมเก่งกว่ากองทุนหรือ แน่นอนว่า ไม่เก่งกว่าแน่นอน
คำถามคือซื้อมาขายไป แบบจ้องหน้าจอแบบที่เห็นในทีวีหรือเปล่า คำตอบคือ ผมมองว่าหุ้นเหมือนที่ดิน ที่นับวันจะมีราคาเพิ่มขึ้น หากบริษัทมีการเจริญเติบโตที่ดี กำไรจะเพิ่ม ราคาหุ้นจะเพิ่ม คำถามว่ามีขายทิ้งไหม ก็มี เพราะในกำไรที่เห็นนั้นแบ่งเป็นสองส่วน
ครึ่งนึงเป็นกำไรที่รับรู้แล้วจากการขายแล้ว จะไม่หายไปจากการขึ้นลงแน่นอน อีกครึ่งเป็นกำไรที่ยังไมรับรู้ คือเป็นส่วนต่างราคาที่ผมซื้อถูกกว่าราคาปัจจุบัน ที่ขายออกไปเพราะอะไร ก็มีหลายเหตุผลมาก แล้วคิดถูกทุกครั้งที่ขายไปหรือไม่ คำตอบคือ ทำผิดและถูกเท่าๆ กัน บางครั้งถ้าถือไว้คงกำไรกว่านี้ บางครั้งก็ดีที่ขายไป สรุป ในเวลาที่ผ่านมา ประสบการณ์บอกว่าการซื้อขายเองของผมมันดีกว่า แต่สำหรับคนอื่นก็ต้องลองกันเอง แต่ทั้งหมดนี้อาจเป็นประโยชน์บ้าง สำหรับคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน กำลังตัดสินใจไปซ้ายหรือขวา แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ จงเชื่อว่าตลาดหุ้นมันโหดร้ายกว่าที่คุณคิด
ขอให้โชคดีมีกำไรทุกท่านครับ
หากมีคำถาม ทิ้ง comment ไว้ได้เลย ถ้าผมพอจะตอบได้นะ ยกเว้นถามว่า มีหุ้นอะไร เพราะคนลงทุนในตลาดฯ เค้าห้ามถามกัน
Create Date : 21 มิถุนายน 2562 |
Last Update : 21 มิถุนายน 2562 16:57:38 น. |
|
2 comments
|
Counter : 790 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
ผู้ชายในสายลมหนาว |
|
|
|
|
*** ที่เที่ยวของตุรกี แต่ละที่อยู่ไกลกันพอสมควร ต่อให้บินภายใน และไม่อยากใช้วันเยอะ ก็ย่นระยะเวลาไปอย่างมากแค่ 2 วัน แต่จะเหนื่อยมากสิคะ เพราะโปรแกรมแน่นมาก
กลัวคนดูเบื่อสิคะ มีแต่วิวข้างทางทุกทริป แต่ยังไงก็จะอัพบล็อก ถ่ายรูปแบบนี้ล่ะค่ะ