เที่ยว 1 วันที่ฉะเชิงเทรากับครอบครัว



วันเสาร์ที่ 7 ก.ค.61

ทริปนี้ไม่มีอะไรแค่แม่อยากไปไหว้หลวงพ่อโสธรจัดไปตามคำขอ




ล้อหมุนเวลา 07.36 น. เซทไมล์ 0 กม.น้ำมันเต็มถัง สมาชิกทั้งหมด 5 ชีวิต




จากบ้านนนทบุรี ออกศาลากลางนนทบุรีข้ามสะพานแคราย ขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน - พระราม 9 – มอเตอร์เวย์ ลงด่านบางประกงถึงด่านบางประกงเวลา 8.40 น.ระยะทาง 74.7 กม. รถวันนี้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่วิ่งสบายๆ 100-120 กม. ออกด่านบางประกงแวะปั๊มน้ำมันประมาณ 15 นาทีเดินทางตรงไปยังวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จากด่านบางประกงวิ่งตรงอย่างเดียวใกล้ถึงจะมีป้ายบอกไปยังหลวงพ่อโสธรแถวนั้นมีไข่ต้มขายเยอะมาก

ถึงหลวงพ่อโสธรเวลา 09.18 น.ระยะทาง90 กม. (จากด่านบางประกงถึงหลวงพ่อโสธรประมาณ 16 กม.)




เข้าไปจะมีลานจอดรถด้านหลังวัด(เลี้ยวขวาเข้าไปเลยครับ) หมดปัญหาเรื่องเจ้าถิ่นขายพวงมาลัย หลังจากจอดรถได้เข้าไปไหว้หลวงพ่อกันครับ







5 เรื่องควรรู้ก่อนไปไหว้หลวงพ่อโสธร เพื่อเป็นมงคลชีวิต

เกร็ดความรู้ก่อนไปนมัสการหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอันเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของประชาชนทั่วทุกสารทิศ
เมื่อพูดถึงวัดโสธรวรารามวรวิหารแน่นอนว่าทุกคนจะต้องนึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ "หลวงพ่อโสธร"พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทราทั้งยังเป็นศูนย์รวมความศรัทธาอันล้นหลามจากประชาชนทั่วทุกสารทิศหลายคนน่าจะเคยมีโอกาสไปสักการะหลวงพ่อโสธรกันมาบ้างแล้ววันนี้เราจะมาแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับคนที่ยังไม่เคยไปไหว้หลวงพ่อโสธรมาฝากเพื่อที่ว่าไปไหว้คราวนี้เพื่อน ๆทุกคนจะได้รับผลบุญและสิริมงคลให้กับชีวิตตัวเองกันอย่างเต็มที่

1. วัดโสธรวรารามวรวิหารอยู่ที่ไหน ?
วัดโสธรวรารามวรวิหารตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทราวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในประดิษฐาน"หลวงพ่อพุทธโสธร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพระรูปปางสมาธิ ลงรักปิดทองสมัยแบบล้านช้าง

2. ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธร

เรามักได้ยินคำเล่าขานเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อโสธรซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ที่มีความศรัทธาและทำให้มีประชาชนจำนวนมากต่างหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้และขอบารมีจากหลวงพ่อปกป้องคุ้มครองหรือรักษาโรคให้แคล้วคลาด จนมีการเล่าขานกันต่อ ๆ มาว่า ใช้ขี้ธูปดอกไม้บูชาที่แห้งเหี่ยวแล้ว และอธิษฐานหยดเทียน ขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อมาทำยาปรากฏว่าโรคหาย จนกลายเป็นกิติศัพท์โด่งดังไปทั่ว

3. เรื่องอื่นบนได้หมดยกเว้นก็แต่เรื่องนี้
ด้วยเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธรทำให้มีประชาชนเป็นจำนวนไม่น้อย เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ มาบนบานศาลกล่าวหวังพึ่งพาบารมีความศักดิ์สิทธิ์กันทั่วหน้าว่ากันว่ามีอยู่เรื่องสองเรื่องเท่านั้นที่บนแล้วจะไม่สมหวังคือเรื่องขอไม่ให้เป็นทหารกับเรื่องขอบุตร เล่ากันว่าเพราะหลวงพ่อชอบให้คนเป็นทหารจะได้ปกป้องรักษาบ้านเมือง ใครมาบนว่าไม่อยากเป็นทหารเชื่อหรือไม่ว่า…เป็นต้องถูกเกณฑ์ทุกราย ส่วนเรื่องบนบานขอบุตรก็มักจะได้บุตรอาการไม่ครบ 32 ประการ เพราะท่านได้ส่งลูกหลานซึ่งเป็นทหารที่บาดเจ็บล้มตายมาให้นั่นเอง(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล จริงเท็จแค่ไหนต้องใช้วิจารณญาณให้ดี ๆ นะคะ)

4. ไข่ต้มแห่งความศรัทธา
ว่ากันว่าหลวงพ่อโสธรชอบไข่ต้มเราจึงเห็นร้านขายไข่ต้มตั้งร้านเรียงรายอยู่รอบบริเวณเต็มไปหมด เพราะคนที่สมหวังจากคำบนบานจะนิยมแก้บนด้วยไข่ต้มซึ่งเป็นของหาง่ายในยุคแรก ๆ ของวัดโสธรหลังจากนั้นเลยนิยมใช้ไข่ต้มเป็นเครื่องแก้บนมาตั้งแต่นั้น แต่ก่อนก็มีพวกหมู เห็ดเป็ด ไก่ แต่ด้วยเพราะมีผู้คนจำนวนมาก เมื่อนำมาถวายเยอะ ๆ เข้า อาจทำให้ไม่สะดวกนอกจากนี้ยังมีการแก้บนด้วยพวงมาลัย และนางรำละครชาตรี หรือลิเก เป็นต้น


5. ศรัทธาที่ไม่มีวันสูญสิ้น
กลายเป็นงานประจำปียิ่งใหญ่ไปแล้วกับงานนมัสการหลวงพ่อโสธรจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละ 3 ครั้ง ครั้งแรกกลางเดือนห้าครั้งที่สองกลางเดือนสิบสอง และครั้งที่สามในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งทุกครั้งที่มีการจัดงานเราจะเห็นประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เหล่านี้เป็นส่งสะท้อนให้เราได้เห็นว่าความศรัทธาต่อหลวงพ่อโสธรเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสูญสิ้นไปจากสังคมไทยอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับใครก็ตามที่อยากจะไปสักการะหลวงพ่อโสธรสักครั้งวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง วันหยุดนี้ถ้าใครไม่รู้จะไปไหนลองเดินทางไปไหว้หลวงพ่อโสธรดูก็ได้นะคะ อาจไม่จำเป็นต้องบนบานศาลกล่าวแค่ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตเท่านี้ก็คุ้มค่าแก่การมาไหว้หลวงพ่อโสธรแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจากเวป https://travel.kapook.com/view147531.html

หลังจากไหว้หลวงพ่อเสร็จก็ออกมาทำบุญบริเวณนี้จะให้คนมาแก้บน จุดธูป เทียน ไหว้พระได้ครับ




คนเยอะมาก







ทำบุญเสร็จได้เวลาเดินทางต่อ

ออกจากวัดโสธรเวลา 10.22 น. เป้าหมายต่อไปไม่รู้ 555 ไม่มีแผนตอนแรกว่าจะไปตลาดบ้านใหม่ออกจากวัดบังคับเลี้ยวซ้ายจะหาที่กลับรถไม่เจอเลยขับไปเรื่อยๆเห็นป้ายบอกไปตลาดบางคล้าเลี้ยวซ้าย งั้นไปตลาดบางคล้าก็ได้ ขับตามป้ายไป เจอสะพานข้ามแม่น้ำขับตรงไปเรื่อยๆตามทาง ถนนเส้นนี้กำลังขยายแถมรถสิบล้อเพียบขับระวังด้วยแล้วกันครับ

ขับมาได้ซักพักเจอป้ายบอกไปวัดสมานรัตนารามเลี้ยวซ้ายขับตามป้ายไปเลยครับ จากปากทางประมาณไปวัดสมานประมาณ 5 กม.มีป้ายบอกตลอดทางไม่ต้องกลัวหลง




ขับตามป้ายมาจะเจอลานจอดรถ จะเห็นพระธาตุอินแขวงจำลอง




เพิ่งมาครั้งแรกยัง งงๆ อยู่ ขับมึนๆเข้าไปผ่านเหมือนตลาดนัด ขายของเยอะมาก หาที่จอดก็ไม่มีเลยขับไปเรื่อยๆมาถึงองค์พระพิฆเนศวร มีลานจอดรถเจอที่ว่างพอดีเลยเข้าไปจอด

มาถึงวัดสมานเวลา 10.51 น.ระยะทาง 107กม.




วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีองค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุขซึ่งถือเป็นปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยให้ได้ไปกราบไหว้ อีกทั้งบริเวณรอบ ๆฐานพิฆเนศองค์ใหญ่จะมีพระพิฆเนศทั้ง 32 ปาง ประดิษฐานอยู่ เพื่อให้ผู้คนกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วยสำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วัดสมานรัตนารา (ใหม่ขุนสมาน)ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 081-983 0400 หรือที่เว็บไซต์










ตบกล้วยทอดมา 1 ชุด 40 บาทที่วัดสมานนะครับ ไม่ใช่อัมพวา




เดินเล่นแถวนั้นแหละครับ ไม่ได้ไปไหนหลังจากนั้นก็เดินทางต่อ

ลาด้วยรูปแม่ผมที่วัดสมาน




ออกทางเดิมผ่านร้านขายผลไม้เยอะมากแวะซื้อกลับบ้าน โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อนขายเป็นลูกถูกมาก แคนตาลูปก็อร่อย แนะนำผ่านแวะซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน เลือกร้านได้เลยครับ มีหลายร้านมาก

จากวัดออกไปหน่อยจะมีร้านอาหารหลายร้านมากเปิดกูเกิ้ลมีแนะนำอยู่ 4-5 ร้าน ผมเลือกร้านนี้




ร้านนายออมจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนจะข้ามเขื่อน ก่อนถึงร้านนายออมจะมีอีกร้านอยู่ด้านขวามือ ร้านนั้นลูกค้าจอดรถเต็มร้านเลย ส่วนร้านนายออมในเนทก็แนะนำอยู่นะ แต่เข้าไปมีผมอยู่โต๊ะเดียว มองหน้ากันจะดีเหรอ 555 เอ้า... จอดรถแล้ว ให้โอกาสเค้าหน่อย

เลือกที่นั่งได้ตามใจชอบเลยครับได้โต๊ะแล้ว เมนูมา





ราคาไม่แรง พอคบได้ เมนูแรก ปลาหมึกนึ่งน้ำมะนาวรสชาติกลมกล่อมมาก เปรี้ยวกำลังดี ใช้น้ำมะนาวแท้ ปลาหมึกสดมากให้มาชิ้นใหญ่เคี้ยวมันปากมาก จานนี้โอเคอยู่




ต้มยำปลาคัง ผมให้แยกพริกมาต่างหากน้ำต้มยำเปรี้ยว เค็ม ลงตัวมาก จานนี้สมาชิกพูดเป็นเสียงเดียวว่า สุดยอดส่วนปลาให้มาชิ้นใหญ่ หนังปลากรุ๊ปๆไม่มีกลิ่นคาวเลย ทำได้ดีครับ เมนูนี้ห้ามพลาด




ยำหัวปลี รสชาติจัดจ้านแต่เผ็ดไม่มากพอดีแม่ผมไม่กินเผ็ด เลยสั่งแบบทุกอย่างไม่เผ็ด ชอบปลาหมึกแห้งที่โรยมาไม่เหนียว ไม่เหม็นหื่น ทอดได้กรอบกำลังดีกินเข้ากับน้ำยำมันนัวมากเสียดายจากถั่วลิสงน่าจะเป็นเม็ดมะม่วงไม่งั้นจานนี้ให้เต็มแล้วครับ




ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลาตัวขนาดกลางๆไม่ใหญ่มาก ทอดได้กรอบดี แต่ไม่ขม เนื้อข้างในนุ่มไม่แข็ง ไม่แห้งมาก ทอดเก่ง น้ำปลาราดออกหวานนิดๆส่วนน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานลงตัวน่าจะใส่ถั่วหรือเม็ดมะม่วงมาด้วย




เมนูสุดท้าย ไก่ทอดน้ำปลา เมนุแนะนำของทางร้านไม่ผ่านอ่ะ ไก่ทอดแห้งมาก เนื้อไก่แข็งไปเลย ออกเค็มไปหน่อยจิ้มซอสพริกก็ยังเอาไม่อยู่ จานนี้เฉยๆ




ค่าเสียหายทั้งหมด 915 บาทตามใบเสร็จเลยครับ




สรุปอาหารรสชาติพวกยำ ต้มยำ จัดจ้านกลมกล่อม อาหารสด ปริมาณสมราคา ไม่ถูกมากแต่ก็ไม่แพงเวอร์ ราคาโอเคสำหรับผม อาหารออกเร็วไม่ช้าทยอยมาเรื่อยๆ (แน่นอนมีโต๊ะผมอยู่โต๊ะเดียว 555 ) ร้านสะอาด เปิดโล่งรับลมเย็นสบาย พนักงานตอนแรกบริการดี มาช่วยกันเสิร์ฟ เติมน้ำหลังๆเดินไปคุยกันหน้าร้าน แต่เรียกก็มาบริการรวดเร็วเหมือนกัน ถ้าใครไม่มีร้านประจำหรือร้านในดวงใจถ้าผ่านมาไม่รู้จะเลือกร้านไหนร้านนี้ถือว่ารสชาติโอเคเลย ไม่ผ่านไก่คั่วเกลืออยู่เมนูเดียวเอง




อิ่มเสร็จยังไม่เที่ยงเลย ไปเดินตลาดน้ำบางคล้าต่อดีกว่า

ออกจากปากทางวัดสมานเลี้ยวซ้ายวิ่งเส้น304 ไปทางกบินทร์บุรี แต่ไม่ถึงนะครับ วิ่งไปเรื่อยๆจะถึง 4 แยกไฟแดงมีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปบางคล้า เลี้ยวซ้ายตามป้ายเข้าไปเลยครับเลี้ยวซ้ายก็ขับตรงไปถึงสามแยกเลี้ยวขวาไปอีกนิดเดียวก็ถึงตลาดน้ำบางคล้าแล้ว




ถึงตลาดน้ำบางคล้าระยะทาง 130 กม.จอดรถได้ เดินลงไปยังตลาดเป็นแพขายของเลยครับ





ของกินเยอะมากมีหลายอย่างทั้งอาหารคาว หวาน ขนม ของเล่น ของใช้ แต่บอกตรงๆเลย ไม่อินไม่ใช่อะไรหรอก คือ อิ่มมาแล้ว พอเห็นของกินเลยเฉยๆ เดินไม่มัน ถ้าหิวๆมา รับรองจะเดินเพลิดเพลินกับอาหารแต่ละร้านแน่





อิ่มแล้วทำไงต่อละ เคยมา 2 ครั้ง จำได้จะมีกิจกรรมล่องเรือรอบเกาะ ถามร้านค้า(น่าจะเป็นนายหน้า)บอกถ้าเหมาเรือ 500 บาท จำได้ว่ามีเรือโดยสารนั่งรวมกันไปแล้วมีไกด์อธิบายบนเรือด้วย เลยไม่เหมาเดินไปเรื่อยๆจะไปขึ้นเรือโดยสาร ระหว่างทางเจอป้ายนี้เข้า




ถามราคาตามป้ายเหมา 300 บาท 1 ลำไม่เกิน 6 คน พาไหว้พระ 2 วัด ไม่กำหนดเวลาแล้วแต่เรา จัดไปสิ เพราะถ้าไปเรือโดยสารคนละ 50 บาท ผมมา 5 คน 250 บาท เพิ่มอีก 50 บาทได้นั่งเรือส่วนตัวไม่กำหนดเวลาด้วย

จ่ายตังค์เสร็จลงเลย ลำนี้




นายท้ายเรือเป็นผู้หญิงชาวบางคล้าเลยครับ




ได้เวลาล่องเรือรอบเกาะลัดที่อำเภอบางคล้า เรือเล็กออกจากฝั่งแล้ว ไม่ใช่สิ เรือเล็กออกจากโป๊ะท่าเรือตลาดน้ำบางคล้า





เด็กๆเซลฟี่กันไป




ครึ้มมาเชียว ลุ้นว่าจะตกไหม





พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไม่ได้แวะ




วัดปากน้ำโจ้โล้ เรือจอดให้แวะสักการะ




โบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้ ตั้งอยู่ อ. บางคล้า จ.ฉะเชิงเทราชมพระอุโบสถหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ทาสีทองทั้งหลัง  ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือหรือนอกตัวอุโบสถที่งดงามตระการตาเป็นอย่างมาก ภายนอกวัดมีเรือโบราณในสมัยก่อนที่อยู่ในยุคสมเด็จพระจ้าตากสิน โชว์ไว้อีกด้วยนอกจากนี้ภายในอุโบสถยังสามารถลอดใต้ฐานพระประธานเพื่อความเป็นสิริมงคล อีกด้วย แต่เดิม วัดปากน้ำโจ้โล้เป็นสำนักสงฆ์ ในอดีตบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของทัพพม่าซึ่งยกทัพบกทัพเรือไปปะทะกับกองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีชัยจึงโปรดฯให้สร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ ปัจจุบันได้มีการสร้างอุโบสถหลังใหม่เป็นสีทองทั้งหลัง

ขี้เกียจบรรยาย ขอก๊อปข้อมูลจากเวปมาแล้วกันครับขอบคุณข้อมูลจากเวป ไปด้วยกัน https://www.paiduaykan.com/province/central/chachoengsao/watpaknamjoelo.html



















ไหว้พระ ถ่ายรูปประมาณ 20 นาทีได้เวลาไปต่อ




ระหว่างทางเจอเรือท่องเที่ยวโดยสารลำใหญ่เหมือนกันครับ





นั่งชมวิถีชีวิตริมน้ำของชาวบางคล้าเพลินดีเหมือนกัน







มาถึงวัดโพธิ์บางคล้าซึ่งมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนมากมายอยู่บนต้นไม้ในบริเวณวัด เรือจะจอดให้นมัสการปิดทองพระแม่ผมขี้เกียจขึ้นเรือเลยไม่แวะครับ อีกอย่างฝนใกล้ตกแล้วด้วย





จากวัดโพธิ์บางคล้าไม่ไกลจากแพตลาดน้ำแล้วครับ





ใช้เวลานั่งเรือประมาณชั่วโมงนิดๆขึ้นแพได้กลับบ้านโลด




ออกจากตลาดน้ำบางคล้าเวลา 14.09น.ระยะทาง 130 กม. กลับเส้นทางเดิม มาขึ้นมอเตอร์เวย์ ยิงยาวมาลงด่านงามวงศ์วานเข้าบ้านนนทบุรี เวลา 16.16 น.ระยะทางทั้งหมด 243.3 กม. ส่วนน้ำมันตกไป 1 ขีด




สรุปค่าใช้จ่าย

-ค่าทางด่วน 115 บาท (ด่านงามวงศ์วาน60 บาท,ด่านพระรามเก้า 25 บาท มอเตอร์เวย์ ลาดกระบัง-บางประกง 30 บาท)

-ทำบุญที่วัดโสธร 500 บาท

-อาหารร้านครัวนาออม 915 บาท

-มะพร้าวอ่อน 100 บาท

-แคนตาลูป 180 บาท

-มะนาว 100 บาท

-นั่งเรือรอบเกาะ 300 บาท

-กล้วยทอด 40 บาท

-ไอติม 75 บาท (3 แท่ง)

-ผัก 20 บาท

-ปลาทับทิมเผา 180 บาท ( 1 ตัว)

-ค่าทางด่วน 115 บาท (มอเตอร์เวย์ บางประกง-ลาดกระบัง30 บาท,ด่านศรีนครินทร์25 บาท,ด่านอโศกสี่ 50 บาท,ด่านงามวงศ์วาน 10 บาท)

รวมทั้งหมด 2,640 บาท


Create Date : 07 สิงหาคม 2561
Last Update : 7 สิงหาคม 2561 13:31:15 น. 3 comments
Counter : 4084 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96


 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 8 สิงหาคม 2561 เวลา:4:26:57 น.  

 
อาหารน่ากินมากครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 สิงหาคม 2561 เวลา:8:10:21 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ


โดย: moommarm IP: 125.24.192.53 วันที่: 8 สิงหาคม 2561 เวลา:17:30:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2561
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
7 สิงหาคม 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.