เขาวัง - มฤคทายวัน เพชรบุรี
วันเสาร์ที่ 20 ต.ค.50
ออกเดินทางจากนนท์ 07.00 น.ใช้เส้นทางสะพานพระราม 5 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกาญจนาภิเษกมาออกพระราม 2 จนมาถึงแยกวังมะนาว เลี้ยวซ้ายเข้าเพชรบุรี เส้นทางขับสบาย มีตรงพระราม 2 ตั้งแต่ มหาชัย จนเกือบถึงวังมะนาวมีซ่อมทางเป็นบางจุด และถนนพื้นถนนไม่ค่อยเรียบ นอกนั้นฉลุย ผมมาถึงเพชร ประมาณ 10.00 น. แวะทานข้าวหมูแดง+ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ในตัวเมือง เดินดูตลาดนิดหน่อย 11.00 น.ได้เวลาเที่ยวพระนครคีรี (เขาวังเพชร)แล้วครับ บริเวณด้านหน้า ที่จอดรถ
ก่อนอื่นต้องตีตั๋วก่อนนะครับ ราคาตามป้ายเลย ถ้าอยากออกกำลังกาย ก็สามารถเดินขึ้นได้นะครับ แต่เป็นอีกด้านหนื่งครับไม่เก็บตังค์ แต่ผมขีเกียจเดินขึ้น ขอนั่งรถรางดีกว่า
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เขาวัง เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 08.30-16.30 น. ค่าเข้าชม (รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี) ชาวไทย 20 บาท นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมเขาวังได้โดยการเดินขึ้น หรือโดยสารรถรางไฟฟา (ตั๋วไป-กลับ รวมคาเข้าชมทั้งหมด) เสียค่าบริการ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 15 บาท และทุกๆ ปีจะมีงานเฉลิมฉลองพระนครคีรี มีการแสดงต่างๆ ที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรม และการจุดพลุดอกไม้ไฟ ในเวลากลางคืน โดยจะจัดขึ้นทุกวันศุกร์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นระยะเวลา 10 วัน 10 คืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-3240-1006, 0-3242-5600
ประวัติพระนครคีรี https://www.paiduaykan.com/province/central/phetchaburi/khaowang.html
ขออนุญาตเอาข้อความในเวปมาแปะให้อ่านนะครับ ขี้เกียจบรรยาย เขาวัง หรือ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เป็นสถานที่เที่ยวที่สำคัญของเพชรบุรีซึ่งถือได้ว่า เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเพชรบุรี เพราะเมื่อเข้าสู่เมืองเพชรบุรี สิ่งที่จะได้เห็นโดดเด่นเห็นมาแต่ไกล คือ เขาวัง ซึ่งมีเจดีย์และอาคารสีขาวสะอาดเขาวังเป็นโบราณสถาน เก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 92 เมตร เดิมเรียกว่า เขาสมนหรือเขาคีรี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพอพระราชหฤทัยที่จะสร้างพระราชวังสําหรับเสด็จแปรพระราชฐานขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาเพชรนิสัย ศรีสวัสดิ์ปลัดเมือง เพชรบุรีเป็นนายงานก่อสร้างจนสําเร็จเรียบร้อยเมื่อปีพ.ศ.2403 ทรงพระราชทานนามว่า พระนครคีรี แต่ชาวเมือง เพชรเรียกกันติดปากว่า เขาวัง สืบมาจนบัดนี้ พระนครคีรีมีสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และน่าสนใจบนยอดเขาทั้ง 3 ยอด ดังนี้ ยอดเขาด้านทิศตะวันตก เป็นที่ตั้งของพระราชวังอันซึ่งมีพระที่นั่งและสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น - พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ ซึ่งเป็นพระที่นั่งองค์ใหญ่ประกอบด้วย ห้องบรรทม ห้องแต่งพระองค์ ห้องเสวย และห้องโถงออกขุนนาง (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี)
- พระที่นั่งปราโมทย์มไหศวรรย์ เป็นพระที่นั่งสองชั้น ประกอบด้วยห้องบรรทม และห้องโถง
- พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท เป็นปราสาทยอดปรางค์สวยงามสูง 14 เมตร ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปปั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระที่นั่งราชธรรมสภา เป็นพระที่นั่งชั้นเดียวคล้ายเก๋งจีน แต่มีสถาปัตยกรรมแบบโรมันผสม ภายในพระที่นั่งประดิษฐานพระพุทธรูป ใช้เป็นที่ประชุมสาธยายธรรม
- หอพิมานเพชรมเหศวร์ ประกอบด้วยหอย่อยเล็ก 3 หอ หอทางขวาเป็นศาลเทพารักษ์ (ศาลพระภูมิเจ้าที่) หอตรงกลางเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และหอทางซ้ายเป็นที่ประโคมสังคีต
- ตำหนักสันถาคารสถาน เป็นหมู่ตำหนักขนาดใหญ่ สำหรับรับแขกเมือง ซึ่งสามารถพักแรมได้
- หอจตุเวทปริตพัจน์ เป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ทรงสดับพระธรรมเทศนาในวันพระธรรมสวนะ
- หอชัชวาลเวียงชัย เป็นอาคารทรงกลมคล้ายกระโจมไฟ หลังคาเป็นรูปโดม มุงด้วยกระจกโค้ง ภายในห้อยโคมไฟ ภายในโดมหอยโคมไฟไวมองเห็นได้ระยะไกลจากทะลซึ่งใช้เป็นจุดสังเกตของการเดินเรือในอดีต (ชาวบ้านเรียกว่า หอกระโจมแก้ว หรือ หอส่องกล้อง) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดให้สร้างไว้โดยมีพระราชประสงค์จะทรงส่องกล้องทอดพระเนตรดวงดาวในตำราดาราศาสตร์
นอกจากนี้แล้วยังมี ศาลาทัศนานักขัตฤกษ์ โรงรถ โรงม้า ศาลามหาดเล็ก ศาลาลูกขุน ศาลาด่าน ศาลาเย็นใจ ทิมดาบองครักษ์ โรงครัว รอบพระราชวังมีป้อมล้อมอยู่ทั้ง 4 ทิศ คือ ป้อมธตรฐป้องปกทางทิศตะวันออก ป้อมวิรุฬหกบริรักษ์ทางทิศใต้ ป้อมวิรูปักษ์ป้องกันทางทิศตะวันตก และป้อมเวสสุวรรณรักษาทางทิศเหนือ กรมศิลปากรได้ใช้บางส่วนของพระราชวังบนยอดเขาด้านทิศตะวันตกนี้ จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี ภายในเก็บรักษาโบราณวัตถุต่างๆ ได้แก่ เครื่องราชูปโภคของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปหล่อโลหะสำริดและทองเหลืองที่ใช้สำหรับตกแต่งห้องต่างๆ ในพระที่นั่ง และเครื่องกระเบื้องของจีน ญี่ปุ่น และยุโรป ยอดเขาด้านทิศตะวันออก บริเวณไหล่เขาเป็นที่ตั้งของวัดมหาสมณาราม เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ภายในพระอุโบสถมีภาพเขียนฝีมือขรัวอินโข่งบนผนังทั้งสี่ด้าน ส่วนบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้ว เป็นวัดที่สร้างใหม่เพื่อเป็นวัดประจำพระราชวังพระนครคีรี เช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเป็นวัดประจำพระบรมมหาราชวังในกรุงเทพฯ แต่เดิมมีพระแก้วผลึกเป็นพระประธานแต่เมื่อสิ้นแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทางการได้นำพระแก้วผลึกกลับคืนไปกรุงเทพฯ โดยเปลี่ยนเป็นพระพุทธรูปหินอ่อนมาประดิษฐานเป็นพระประธานแทน ภายในวัดพระแก้วประกอบด้วยพระอุโบสถขนาดเล็กประดับด้วยหินอ่อน ด้านหลังพระอุบสถเป็นพระพุทธเสลเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงกลม ฐานสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ 9 เมตร องค์เจดีย์สูง 9 เมตร ทำด้วยหินอ่อนสีเทาอมเขียว ด้านหน้าพระอุโบสถ มีศาลา และพระปรางค์แดง ซึ่งเป็นพระปรางค์เป็นแบบไทย ย่อมุม ภายในโปร่ง มีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ (ปกติพระปรางค์จะตันและทึบ) ภายในมีแท่นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป ชาวบ้านเรียกพระปรางค์นี้ว่า เจดีย์แดง ยอดเขากลาง เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุจอมเพชร เป็นเจดีย์ทรงลังกาสีขาว ลักษณะภายในฐานกลวงเป็นหอกลมกลางฐานตรงกลางมีเสาใหญ่รับน้ำหนักองค์พระเจดีย์ รอบพระเจดีย์มีทางเข้าไปยังหอกลมสี่ทางด้วยกัน องค์เจดีย์สร้างบนภูเขาสูง 92 เมตร มีความสูงจากฐานเจดีย์ 40 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน จากจุดนี้สามารถมองเห็นพระที่นั่งต่างๆ บนยอดเขาอีก 2 ยอด รวมทั้งทิวทัศน์ของตัวเมืองเพชรบุรีได้อีกด้วย
ผมใช้เวลาบนนี้เกือบ 2 ชั่วโมง บ่าย 1 พอดีจึงค่อยเดินทางไปพระราชวังมฤคทายวันต่อ
สงสัยช่วงนี้ปิดเทอม และตรงกับวันเสาร์ รถจึงติดมาก ผมเห็นป้ายบอกทางลัดไปชะอำ ผมเลี้ยวตามป้ายเลย จะมาออกทาง มหาลัยราชภัฎเพชรบุรี ไปทางปึกเตียน ไม่ผิดหวังครับ ถึงแม้จะเป็น 2 เลนรถวิ่งสวนกันแต่ก็กว้างดีครับ แซงได้สบายๆ ที่สำคัญรถไม่มาก ขับตามทางไปเรื่อยๆ จะมีแยกเลี้ยวขวาไปทางปึกเตียน เลี้ยวเลยครับ จะมาออกเพชรเกษม-ชะอำ ส่วนผมแวะเข้าวัดเนรัญชรา ก็จะถึงสะพานปลา ทานข้าวเที่ยง (ต้องเป็นบ่ายซิเนอะ) ที่ร้าน ลักกี้ ซีฟู๊ด 2 หลังจากนั้นก็ไป พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ต่อครับ
ใครอยากทราบประวัติ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ดูที่เวปนี้ได้เลยครับ https://www.paiduaykan.com/76_province/central/phetchaburi/marukathaywan.htmlพระราชนิเวศน์ ปิด 5 โมงเย็นครับ ผมออกจากร้านอาหารมาถึง พระราชนิเวศน์ ประมาณ 3 โมง 40 มีเวลาเดินเล่นชั่วโมงกว่าๆ ก็ยังดี
บริเวณพระราชนิเวศน์ ทั้งร่มรื่นและร่มเย็นดีครับ วันนี้แดดไม่ค่อยมีเลย
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายพระรามหก ประกอบด้วยหมู่พระที่นั่งใหญ่ 3 องค์ ปลูกเรียงรายไปตามแนวชายหาด ทุกองค์สร้างอย่างแบบยุโรปสิ่งที่น่ายกย่องของสถานที่แห่งนี้ ได้แก่ ความตั้งใจและความพยายาม ที่จะสร้างที่ประทับให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศอย่างแท้จริงโดยปรับให้เข้ากับภูมิอากาศของไทยที่ร้อนชื้นได้เป็น อย่างดี สร้างขึ้นด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของพรรณไม้ร่มรื่นและหาดทรายขาวสะอาดตาผสานเสียงเกลียว คลื่นดังกระทบฝั่งอยู่เป็นระยะๆ นับเป็นบรรยากาศที่สงบและรื่นรมย์ดุจดังแต่กาลก่อน
ภายในพระราชนิเวศน์ มีสอนดนตรีไทย และเย็บปักทักร้อย ประดิษฐ์ดอกไม้ ด้วยครับ ฟังดนตรีแล้วบวกบรรยากาศ ทำให้ไม่อยากไปไหนต่อเลยครับ
แต่ติดตรงที่เค้าปิด 5 โมงเย็นนี่ซิครับ ก็จำเป็นต้องไป ลืมบอกไปครับว่าค่าเข้า คนละ 30 บาท มีให้เช่าจักรยานด้วยครับ คันละ 20 บาท
หลังจากอาลัยอาวรณ์ ก็ได้เวลาออกจาก พระราชนิเวศน์ 5 โมง 15 ก็ตรงไปที่หัวหิน ยังไม่ 6 โมงเย็น เลยแวะที่สะพานปลา หัวหินหน่อย พอดีเรือหาปลาเข้ามาเทียบท่า เลยเก็บรูปมาซะหน่อย สวยดีเหมือนกันเนอะ บรรยากาศยามเย็นที่สะพานปลา มีชาวบ้าน นักท่องเที่ยว มาตกปลาเยอะเหมือนกันครับ
หลังจากนั้นก็เข้าตลาดหัวหิน คนเยอะพอสมควร เดินเล่น ดูของ หิวก็กิน เดินได้สักพัก ประมาณ 2 ทุ่มก็กลับ
ใช้เส้นทาง ราชบุรี เข้านครปฐม เลี้ยวซ้ายเข้านครชัยศรี ออก มหิดล ศาลายา มาถึงบ้านที่นนท์ ประมาณ 5ทุ่ม ครับ
สรุป ค่าเสียหาย ไปกัน 2 คน รวมระยะทางทั้งหมด 464 ก.ม. - ค่าก๋วยเตี๋ยว+ข้าวหมูแดง 78 บาท - ค่าเข้า เขาวังเพชร 50*2 100 บาท - ค่าน้ำเปล่า 1 ขวด 15 บาท - ค่าอาหารร้านลักกี้ ซีฟูด 2 785 บาท ผัดปลาหมึกไข่เค็ม + ปูม้านึง + ปูม้าผัดผงกระหรี่ + กุ้งอบวุ้นเส้น + ข้าวสวย 3 จาน น้ำแข็ง 1 กระติก + น้ำเปล่า 1 ขวด + เป็ปซี่ 1 ขวด - ค่าเข้า พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน 30*2 60 บาท - ค่าเช่าจักรยาน 1 คัน 20 บาท - ค่าก๋วยเตี๋ยว 3 ชาม+น้ำแข็งเปล่า 2 แก้ว 67 บาท - ค่าข้าวโพดย่าง 2 ฝัก 30 บาท รวม 1,155 บาท
Create Date : 27 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 29 ตุลาคม 2560 12:38:03 น. |
|
12 comments
|
Counter : 2240 Pageviews. |
|
|