เส้นเสียงดนตรีในหัวใจ & เส้นทางเดินชีวิตไทยในต่างแดน ++ Thai music heart abroad ++
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

:::: โรคเท้าเหม็น :::: คุณเป็นหรือเปล่า ???



โรคเท้าเหม็น (Pitted Keratolysis) เป็นโรคที่พบมากในเขตร้อน พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผู้ชายและผู้หญิง แต่จะพบได้บ่อยในผู้ชาย เพราะจะมีเหงื่อออกที่ฝ่าเท้ามากกว่า และผู้ชายมักสวมถุงเท้าอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดการหมักหมมบริเวณเท้า

คนเป็นโรคเท้าเหม็น หากสังเกตก็จะเห็นหลุมเล็กๆ ที่ฝ่าเท้า บางครั้งหลุมอาจรวมตัวกันเป็นแอ่งเว้าตื้นๆ มักพบตามฝ่าเท้าที่รับน้ำหนัก และที่ง่ามนิ้วเท้า

อาการที่แสดงออกมาของโรคเท้าเหม็นคือ ร้อยละ 90 เท้ามีกลิ่นเหม็นมาก ร้อยละ 70 คือ เวลาถอดถุงเท้าจะรู้สึกว่าถุงเท้าติดกับฝ่าเท้า ส่วนอาการคันนั้นพบได้น้อยเพียง ร้อยละ 8 เท่านั้น

วิธีการรักษาโรคเท้าเหม็น

1. พยายามทำให้เท้าแห้งอยู่เสมอ โดยอาจใช้แป้งฝุ่นฆ่าเชื้อโรยที่เท้า หรือยารักษาสิว (Benzoyl Peroxide) ก็นำมาใช้ได้เช่นกัน นอกจากนั้นก็อาจใช้ยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อราชนิดทาก็ได้

2. โบทอกซ์ที่ใช้แพร่หลายกันในเรื่องการลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ก็สามารถนำมาใช้รักษาโรคเท้าเหม็นได้ด้วย โดยการฉีดโบทอกซ์เข้าไปที่ฝ่าเท้าเพื่อลดเหงื่อที่ออกมากๆ ประมาณ 6-12 เดือน ก็จะเห็นผล (วิธีการนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก 10,000-20,000 ต่อครั้ง)

3. การใช้ไอออนโตเพื่อลดเหงื่อ ซึ่งเป็นวิธีการที่ปฏิบัติกันมากว่าเจ็ดสิบปีแล้ว โดยทำบริเวณที่มีเหงื่อให้เหงื่อออกมาครั้งละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จนเหงื่อที่ออกลดลงเป็นปกติ วิธีนี้ไม่เจ็บ ไม่แพง แต่ก็ไม่นิยมในบ้านเรา

4. แช่เท้าในน้ำล้างเท้าผสมสูตรระงับกลิ่นทุกวัน โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที


สูตรผสมน้ำระงับกลิ่นเท้า

- น้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูกับด่างทับทิม

- น้ำอุ่นผสมส้มฝานบางๆ อาจใช้มะนาวแทนก็ได้

- น้ำอุ่นผสมกระเทียมทุบ 2-3 กลีบ

- น้ำอุ่นผสมน้ำมะขามเปียก

- น้ำชาจีนอุ่นๆ ต้มแก่ๆ (สูตรนี้จะไม่ถูกกรดอ่อนๆ กัดเท้าเหมือนสูตรอื่น)


7 เคล็ดลับรักษาเท้าให้น่าคลั่งไคล้

1. จงเข้าใจว่าศัตรูของเท้าไม่ใช่ความแห้ง แต่เป็นกลิ่น ดังนั้นไม่ควรหมักหมมเท้าไว้ในรองเท้าให้นานเกินไป ควรหาเวลาถอดเพื่อระบายเหงื่อ หรือใช้สเปรย์แป้งเพิ่มความสดชื่นให้แก่เท้าอยู่เสมอ

2. เวลาล้างเท้าควรล้างอย่างพิถีพิถันโดย เฉพาะบริเวณแต่ละง่ามนิ้วเท้า ควรใช้สบู่เด็กหรือผลิตภัณฑ์รักษาความสะอาดโดยเฉพาะ เพราะบริเวณนั้นเป็นแหล่งรวมของเชื้อราเลยทีเดียว จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดให้หมดจด

3. ควรประณีตกับการล้างเท้าสักหน่อย โดยการใช้ "หินลอย" (Pumice Stone) มาขัดหนังที่แข็งกระด้างออก และไม่ลืมที่จะใช้เวลาในการเช็ดเท้าให้แห้งสนิทมากที่สุดด้วย

4. แล้วเมื่อเท้ามีอาการปวดเมื่อยจากการเดิน หรือวิ่งก็ตาม ง่ายๆ เลยเพื่อระงับความปวดเมื่อยคือ การนำเท้าไปแช่น้ำอุ่น (ผสมเกลือ) สัก 10-15 นาที แล้วยกออก ตามด้วยการจุ่มน้ำเย็นสัก 1-2 นาที ก็จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และยังทำให้ผิวเท้านุ่มขึ้นอีกด้วย

5. เมื่อมีเวลาว่างเมื่อใด ก็ควรนำเท้าไปนวดครีมหรือนวดน้ำมัน เพื่อรักษาผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ

6. ไม่ควรใส่รองเท้าที่คับจนเกินไปเพราะนอกจากจะสร้างความเจ็บปวดแล้ว ยังทำให้เกิดแผลและตาปลาอีกด้วย

7. ไม่ควรทำเล็บที่ร้านเสริมสวย หรือใช้เครื่องมือของทางร้าน เพื่อป้องกันความสกปรกหรือโรคผิวหนังที่จะติดมากับเครื่องมือเหล่านั้น (ทำด้วยตัวเองดีที่สุด)



ข้อมูลและภาพประกอบจาก
First Magazine & Kapook.Com









 

Create Date : 25 กันยายน 2551
7 comments
Last Update : 25 กันยายน 2551 20:15:44 น.
Counter : 1037 Pageviews.

 

น่าสนใจดีค่ะ แต่แอบสงสัยว่าเอาเท้าแช่น้ำกระเทียมคงจะทำให้เท้าเหม็นกลิ่นกระเทียมแทนหรือเปล่า

 

โดย: Oreo's Mama 26 กันยายน 2551 0:01:45 น.  

 

ดีจังมีวิธีแก้เท้าเหม็นด้วย ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟัง

 

โดย: ต๋อย (Roseshadow ) 26 กันยายน 2551 0:04:46 น.  

 

จะเอา เคล็ดนี้ไปใช้ ชาลิสา เท้าเหม็นมาก แถม ชอบเอา เท้า เหม็นๆ มา แหย่หน้า ภา ประจำค่ะเพระ เริ่ม ใส่รองเท้าแล้ว เมื่อวาน ถอดรองเท้าไหม่มา โอ้ยนี้มันกลิ่นที่เรียกว่า อับๆ นะค่ะ รองเท้าก็ใส่ไม่ยอมให้ถอดอีกต่างหากค่ะ ไม่รุ้ จะได้ผลกับน้องหนู หรือเปล่า เพระคงจะ ไม่ยืนนิ่งให้ ล้างเท้าให้ แน่ๆ ค่ะ

 

โดย: Anitapa 27 กันยายน 2551 12:45:24 น.  

 

แวะมาอ่านเพื่อประดับความรู้ค่ะ

พี่อายจังค่ะ พี่ก็เป็นโรคนี้เหมือนกัน แต่เค้าบอกว่าส่วนใหญ่เกิดกับผู้ชาย แต่พี่เป็นผู้หญิง พี่จะเกิดตอนที่พี่ออกกำลังกายค่ะ เวลาถอดถุงเท้าออกมาแล้วกลิ่นออกเลย

แต่หลังจากถอดถุงเท้า พี่ก็รีบอาบน้ำ ทำตามขั้นตอนของน้องน่ะค่ะ

เห็นด้วยกับการแช่น้ำอุ่นมาก ๆ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจเรื่องการทำงานน่ะค่ะ

มีความสุขมาก ๆ ค่ะ

 

โดย: jiney (สวยตลอดกาล ) 28 กันยายน 2551 0:08:38 น.  

 

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ ^^

โรคเท้าเหม็นเนี่ย ปกติไม่เป็นนะ...แต่เวลาใส่คัชชูแล้วเป็นประจำเลยค่ะ ตอนนี้เลยไม่ค่อยอยากใส่

 

โดย: Halimeda Lover 30 กันยายน 2551 21:06:20 น.  

 

รองเท้าที่ใช้ใส่ไปทำงานทุกวันเป็นรองเท้า safety หนัง หัวเหล็กนะคับ และไม่สามารถซักได้ ตากแดดทุกครั้งที่มีโอกาส พอมาถึงบ้านถอดรองเท้าออกทุกคนแทบสลบ(เป็นคนเหงื่อออกเยอะคับ ตัวท้วม)

 

โดย: POOL IP: 125.25.175.22 28 มกราคม 2552 19:02:34 น.  

 

ไม่ได้ผล

ลองแล้ว

โบทอกไรก็แล้ว

ไม่ได้ผล

หมอบอกว่า ของผมเป็นขั้นรุนแรง

หายยาก เชื้อราแดกหมดแล้ว

 

โดย: ไอตีนเหม็น IP: 118.173.51.183 13 กุมภาพันธ์ 2552 6:44:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nok_alg
Location :
/Gold Coast / Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




** หลงรักเสียงเพลงฝรั่งมาตั้งแต่เด็กๆ
แต่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันอยากจะมีสะมีเป็นฝรั่ง
จนแล้วจนรอดสุดท้ายก้อแต่งงานกับฝรั่งจนได้
บุพเพสันนิวาสมีจริง ๆ นะ... เชื่อกันอ่ะป่าว ?? !!**
Do you believe in "Destiny" ???

Friends' blogs
[Add nok_alg's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.