ที่บ้านจะมีผักสดสำหรับจิ้มน้ำพริกอยู่ตลอด เพราะอาหารประจำวันที่บ้าน
ก็คือน้ำพริกสิจ๊ะ เผื่อจะได้สะได้สวย(บ้าง) อิอิ.... ส่วนเมนูหลนที่บ้านนานๆ จะทำสักที
เพราะหลังๆ จะไม่ค่อยทำอาหารที่มีกะทิให้พ่อกับแม่ เดือนก่อนนึกอยากทานปลาร้าทรงเครื่อง
กับขมิ้นขาวขึ้นมาซะงั้น เชื่อไหมว่าคนที่ไม่ทานปลาร้า ถ้าไม่บอกว่าหลนนี้เรียกอะไร
แทบทุกคนจะตักแล้วตักอีกแล้วบอกว่าอร่อย เพราะพอแกงออกมาจะไม่มีกลิ่นปลาร้าเลย
ส่วนขมิ้นขาวปกติเราจะซื้อมาไว้กินแนมกับพวกน้ำพริกต่างๆ อยู่แล้ว แต่จะเลือกซื้อแบบทั้งเปลือก
หรือไม่ถ้าเป็นแบบที่ปอกแล้วก็เลือกแบบไม่แช่น้ำยา สังเกตุง่ายว่าผิวขมิ้นขาวจะไม่เงา
ส่วนใหญ่จะซื้อจากแม่ค้าเจ้าประจำหรือแม่ค้าที่เป็นชาวบ้านจริงๆ ที่เอาผักโน่นนิดนี่หน่อย
ใส่กระจาดมาขาย แบบที่ใส่แพคขายกันส่วนใหญ่จะแช่น้ำยาให้ขาว พอเก็บไม่กี่วัน
จะมีเมือกลื่นๆ เนื้อขมิ้นจะเละ ไม่กรอบเหมือนทีแรก....น่ากลัวมากกว่าน่ากิน แต่ก็มีบางที
อยากทานมากๆ หาแบบไม่ปอกกับไม่แช่ไม่ได้ ก็หยวนๆ เอาแบบแช่ ซื้อมาปอกเอาอีกรอบ







อย่างปลาดุกแม่จะทานแต่ปลาดุกย่างหรือแดดเดียวทอด พ่อจะทานแค่ปลาดุกผัดเผ็ดที่ต้องทอดปลา
ให้กรอบก่อนหรือไม่ก็ปลาดุกย่างเท่านั้น เราเองได้หมดแถมยังชอบแกงเผ็ดแกงอ่อมมะระ
เราว่าแกงพวกนี้เนื้อปลาจะทั้งหวานทั้งมันอร่อยออก แต่ทำทีไรก็ต้องเหมาคนเดียวทุกที
เวลาทำกับข้าวบางครั้งแม่ครัวมีมึนเพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน แต่ดีที่พ่อกับแม่ทานง่าย
เพราะพออายุมากขึ้นทานได้ไม่มากขอแค่ให้มีกับข้าวที่ชอบอย่างเดียวก็พอแล้ว
แต่ก็มีงอแงบ้าง เวลาที่แม่ครัวขี้เกียจนึกอะไรไม่ออกและก็ทำแต่เมนูซ้ำๆ



ทุกเย็นแถวบ้านจะมีพ่อค้าเข็นปลาสดๆ มาขาย
ปลาดุกจะมีขายทุกวัน ขนาดทั้งเล็กทั้งใหญ่ทำมาเสร็จเรียบร้อย ความที่เป็นกับข้าวที่ใช้ปลาสด
กลัวไม่มีใครช่วยเลยเลือกเอาปลาดุกนาซึ่งตัวจะเล็กหน่อยหนักน่าจะประมาณไม่เกินครึ่งโล


เครื่องปรุง
ปลาดุก 1 ตัว
ตะไคร้หั่นฝอย
ข่าสไลด์บางๆ
ใบมะกรูดฉีก
กระชายหั่นฝอย
หอมแดงซอย
กระเทียมซอย
พริกชี้ฟ้า
ผัก: ถั่วฝักยาว มะเขือเปาะ หน่อไม้ และถ้าทานสะตอใส่ด้วยแจ่มโบ๊ะเลยแหละ
....สัดส่วนเครื่องปรุงกะใส่ตามชอบเลยนะคะ ส่วนตัวเราชอบแบบใส่เครื่องแยะๆ










เตรียมเครื่องทุกอย่างพร้อม ไปรื้อตู้เย็นยังไงก็หาปลาร้าไม่เจอ ทั้งที่แม่จะต้องมีติดตู้ตลอด
รื้อไปหลายรอบแทบสลบ ไปถามแม่ว่าเก็บปลาร้าไว้ตู้ใบไหน แม่บอกว่าหมดไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว...แป่ว
เสียเวลาหาซ๊า รู้งี้ถามแม่แต่แรกก็ดีหรอก ทีแรกว่าจะออกไปตลาด แต่กว่าจะออกไปถึงร้าน
ก็คงเก็บหมดแล้ว เลยวัดดวงใช้ปลาร้าก้อนแทน ทีแรกก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ามันจะใช้ได้หรือเปล่า
เลยไปพลิกหลังกล่องดู มีวิธีทำหลนปลาร้าให้ด้วย งั้นก็ทำปลาร้าทรงเครื่องได้อ่ะดิ ^^

....ตอนหลังแม่ไม่ค่อยได้ซื้อปลาร้ามาเก็บไว้ เพราะมีน้ำพริกปลาร้าที่ญาติ
ส่งมาให้อยู่หลายกิโล ทั้งเอามาทำน้ำแกง ใส่น้ำพริกก็ยังไม่หมดสักที
อีกอย่างเราจะซื้อปลาร้าก้อนติดตู้ไว้ตลอด เวลาทำแกงถ้าไม่ใช้น้ำพริกปลาร้า
ที่ญาติให้มาก็ปลาร้าก้อนนี่แหละ หย่อนปุลงไปในหม้อแกง 1 ก้อน ออกมานัวชัวร์
ข้างในจะเป็นก้อนแบบคนอร์ ถ้าตำส้มตำอยากใส่ปลาร้าก็จะมีแบบเป็นผง
เดี๋ยวนี้มีหลายยี่ห้อ แต่เราใช้ยี่ห้อนี้เพราะซื้อสะดวกที่ซุปเปอร์ฯ ในพารากอนเลยจ้า
เวลาไปต่างประเทศหรือเพื่อนฝูงจากต่างประเทศมา เป็นของฝากที่ทุกคนถูกใจอย่างมาก








ถ้าเป็นปลาร้าสดก็ต้องเอามาต้มกับข่าตะไคร้และกรองเอามาเป็นน้ำแกง
หม้อนี้เป็นปลาร้าก้อน ใช้กะทิ 1 กล่องเติมน้ำอีก 2 เท่า
ใส่ตะไคร้กับข่าพร้อมกับปลาร้าลงไป 3 ก้อน
พอกะทิเดือดใส่ปลาดุกลงไป และปล่อยให้เดือดอย่าไปคนน้ำแกงนะจ๊าเดี๋ยวจะคาว
ใส่ผักลงไป พอผักสุก ปรุงรสเพิ่มตามต้องการ
แกงหม้อนี้ไม่ได้ปรุงเพิ่มเลย เพราะรสชาติของน้ำปลาร้าจะนัวอยู่แล้ว ^^








ใส่เครื่องที่เหลือทุกอย่างลงไป







ค่อยคนแบบเบามือและปิดเตา








ปกติแม่ไม่ทานปลาดุกสด แต่หลนหม้อนี้แม่ชิมแล้วบอกไม่คาวทานได้
มีน้องที่รู้จักบอกไม่เคยทานปลาร้าทรงเครื่อง เราก็บอกว่ามันเหมือนหลนน่ะแหละ
เลยแบ่งไปให้ลองและให้ปลาร้าก้อนไปหนึ่งกล่อง เจอกันวันหลังเธอบอกว่าลูกสาวปกติไม่ทานปลาร้า
ยกไปตั้งโต๊ะก็ไม่บอกอะไร ลูกสาวก็ตักทานใหญ่ หลังจากนั้นน้องบอกว่าทำไปหลายหนแล้ว
ลูกสาวเป็นคนชวนให้แม่ทำให้ทาน ดัดแปลงวิธีทำจากหลนปลาร้าที่อยู่หลังกล่อง







ทานไปจนครึ่งหม้อแล้วเพิ่งนึกได้ว่าลืมใส่สะตอลงไปด้วย
คนที่ทานสะตออย่าลืมใส่ด้วยน๊า สะตอต้มกับกะทิอร่อยเข้ากันมาก







ทำง๊ายง่ายใช่มั๊ยล่ะ....ตักข้าวมารอกันเลยค่ะ















count: 1910+431