|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เด็กป่า ซาบิเน่ (JUNGLE CHILD)
เด็กป่า ซาบิเน่ (JUNGLE CHILD) ผู้เขียน ซาบิเน่ คูเกเลอร์ / คำเมือง :แปล
สนพ.สันสกฤต
เรื่องย่อจากปกหลัง
เด็กหญิงผมบลอนด์ชาวเยอรมัน เติบโตในป่าลึกของเกาะปาปัวนิวกินี เธอกับครอบครัว ใช้ชีวิตร่วมกับ "ชนเผ่าฟายู" ผู้ซึ่งใช้ชีวิตแบบมนุษย์ยุคหิน เรื่องราวที่เต็มไปด้วยรสชาติมีทั้งความรัก ความชัง ความโหดร้าย การใช้อภัย และลงท้ายด้วยความงดงามของชีวิต แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เทพนิยายมันเป็นเรื่องจริงของชีวิตเธอ... "ซาบิเน่ คูเกลอร์"
ความรู้สึกหลังอ่าน
เป็นหนังสือสารคดีที่สนุกเล่มหนึ่งค่ะ ผู้เขียนเปิดฉากตัวเองตอนอายุ 17 ปี แล้วเล่าย้อนกลับไปในวัยเด็กของเธอ ซึ่งต้องติดตามพ่อและแม่ซึ่งเป็นนักนิรุกติศาสตร์ (วิชาที่ว่าด้วยประวัติรากศัพท์และความหมายของคำ) ชาวเยอรมันไปอาศัยอยู่กับเผ่าฟายู ในปาปัวนิวกินีประเทศอินโดนีเซีย เกาะซึ่งมีเผ่าโบราณยุคดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่
ครอบครัวคูเกลอร์ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน พ่อ แม่ พี่สาว เธอ และน้องชาย นึกภาพเด็กชาวเยอรมันอายุ 8 ขวบ ผมทองอร่าม ท่ามกลางชนเผ่าดุร้ายซึ่งกินเนื้อมนุษย์ เผ่าฟายูแบ่งเป็นหลายหมู่บ้าน ไม่ใช่ทุกหมู่บ้านกินเนื้อมนุษย์ เป็นเพียงบางกลุ่มเท่านั้น แต่มันก็ยังลี้ลับและน่าตื่นเต้นอยู่ดีเมื่อต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับคนเหล่านั้น (ซึ่งเดาใจไม่ถูก)
สำนวนการเล่าเรื่องของคนเขียนตลกและสนุกสนานค่ะ ราวกับสวมวิญญาณความเป็นเด็กในขณะนั้น มาก่อเป็นรูปร่างตัวอักษร นอกจากความตื่นเต้นคาดเดาไม่ได้ ปัญหาต่างๆ ในการอยู่ป่า สารพัดสัตว์ การดำรงชีวิต และวิถีแห่งป่าแล้ว ครอบครัวเล็กๆ นี้ยังเป็นจุดเล็กๆ ซึ่งสะกิดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหมู่ชาวฟายู
ในอดีตนั้นมนุษย์ดำรงอยู่ได้ด้วยความหวาดกลัว บูชาผีป่า มนุษย์กลัวธรรมชาติ เคารพธรรมชาติ และไม่ฝืนวิถีแห่งธรรมชาติ มนุษย์ไม่ได้ต่างกับสัตว์ทั้งหลาย ใช้กำลังตัดสินปัญหา ยังคงความป่าเถื่อน ไม่สนใจความรู้สึกอันละเมียดละไม การร้องเพลงคือการถ่ายทอดเรื่องราวง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่มีดนตรีเพื่อความสุนทรีย์อันซับซ้อนให้ยากต้องแปลความหมาย แต่เดิมความรักไม่ใช่สิ่งจำเป็น พวกเขาจึงทำทุกอย่างไปเพื่อดำรงชีพและสืบเผ่าพันธุ์
เหมือนที่เคยอ่านการ์ตูนล้อเลียนแล้วมนุษย์ถ้ำตีหัวผู้หญิงจิกเข้าถ้ำนั่นแหละค่ะ ชายชาวฟายูก็ปฏิบัติต่อภรรยาไม่ต่างไปจากสัตว์ที่ต้องควบคุมให้เชื่อฟัง ล่าผู้หญิงมาเป็นเมีย
แต่การมาถึงของครอบครัวเล็กๆ ชาวเยอรมัน ซึ่งอยู่กับพวกเขานานนับหลายปีทำให้ชาวฟายูรู้จักความรักระหว่างสามีภรรยา ทำให้การขโมยไม่จำเป็นต้องจบลงที่ฆ่าหัวขโมยเสมอไป การให้อภัยเป็นสิ่งแปลกใหม่ซึ่งพวกเขาไม่เคยรู้จัก
การไปอยู่อย่างมิตร อยู่ตามกฏของฟายู ไม่ใช่ไปเพื่อปกครองหรือออกคำสั่ง การช่วยเหลืออย่างการรักษาแผล ทำคลอด ยิ่งช่วยให้ชาวเผ่าเคารพรักและไม่อยากให้ครอบครัวคนขาวจากไป ไม่ใช่เพราะคนขาววิเศษเป็นคนเหนือกว่า (เหมือนอย่างที่คนบ้านเรามองว่าฝรั่งวิเศษ เก่ง มีตังค์จึงยกย่อง) แต่เพราะการให้ใจ ซึ่งนำไปสู่การเรียนรู้ความเป็น "คน"
เรื่องนี้มีความผูกพันระหว่าง ซาบิเน่ กับเด็กชาวฟายู ซึ่งรักกันมากเหมือนครอบครัวเดียวกัน มาเรียกน้ำตาได้ระหว่างอ่าน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาภายหลัง เป็นจุดหักเหให้ซาบิเน่ตัดสินใจออกจากป่า ไปสู่ชีวิตซึ่งเรียกว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไปอยู่โรงเรียนประจำในยุโรป
นั่นเป็นความหวาดกลัวแบบใหม่ที่ทำให้รู้สึกว่า ป่า ไม่ได้น่ากลัว แต่เป็นสังคมและโลกสมัยใหม่ที่เราอยู่นี่แหละน่ากลัวกว่า คนป่าซื่อ แต่คนเมืองหลอกลวง ความกดดันจากการปรับตัวไม่ได้ ทำให้เธอพยายามฆ่าตัวตาย
หวนนึงถึงเรื่อง อะมาซอนพิศวาส ขึ้นมา ตอนที่ อนาลัย ออกจากป่าแล้วกลับมาอยู่ในเมือง อะไรๆ มันก็รับไม่ได้ รู้สึกได้ถึงกลิ่นของน้ำซึ่งเจือปนคลอรีน มันเหม็นเหลือทน
ซาบิเน่ก็เช่นเดียวกัน ผลกระทบที่เกิดกับเธอรุนแรงมากจนทำให้ชีวิตปัดเป๋ไป ไม่สามารถทำตัวให้กลมกลืนกับวัฒนธรรมเมือง แต่เธอต้องพยายามฝ่าฟันสิ่งเหล่านั้นไปให้จงได้
ภายหลังจากป่ามานานนับสิบปี ซาบิเน่ เล่าว่า
"เพื่อนพ้องของฉันถามพ่อเสมอว่า ซาบิเน่เป็นอย่างไรบ้าง หัวใจเธอเป็นสุขหรือเปล่า พวกเขาไม่ได้ถามว่าบ้านฉันใหญ่แค่ไหน หรือมีหมูป่าเลี้ยงไว้กี่ตัว สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วงฉัน ไม่ใช่ฐานะทางสังคม"
เป็นถ้อยคำบอกเล่าที่ประทับใจ...ทุกวันนี้คนรอบตัว เพื่อน คนรู้จักพ่อแม่ ญาติ มักจะถามว่า เรียนจบอะไรมา ทำงานที่ไหน เงินเดือนดีรึเปล่า มีเงินเก็บเท่าไรแล้ว เมื่อไรจะซื้อบ้าน ซื้อรถ บลาๆๆ ถูกถามแบบนี้ก็คงเซ็งไม่น้อย
ในการจัดรูปเล่ม หนังสือเล่มนี้ใช้ตัวอักษรใหญ่ จัดช่องไฟ และเว้นวรรคห่างมาก ถือว่าหลวมค่ะ ถ้าจัดแบบปกติคงเหลือความหนาสักครึ่งเล่ม และลดราคาลงได้ แต่ว่า...
ชอบค่ะ อ่านง่ายดี (สงสัยแก่แล้ว) ถามว่า แพงไหม ขอตอบว่าคุ้มค่าสำหรับเนื้อหาและความรู้สึกทางจิตใจ ไม่รู้สึกเสียดายเงินหรือว่าแพง การแปลก็เป็นธรรมชาติดีมาก
ลืมบอกไปว่ามีภาพสีประกอบด้วยค่ะ เป็นภาพถ่ายของซาบิเน่ ชาวฟายู ครอบครัว และแผนที่
ปล. มันจะเชียร์ออกนอกหน้าไปไหมนี่ แต่ตัดสินใจรีวิวหนังสือของสันสกฤตหลังจากอ่านไปแล้วหลายเล่ม ตกลงใจว่าชอบจริงๆ ด้วย
Create Date : 30 เมษายน 2550 |
|
8 comments |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2550 1:41:22 น. |
Counter : 1725 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ยาคูลท์ 30 เมษายน 2550 18:54:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: นราเกตต์ 3 พฤษภาคม 2550 12:19:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิ๊ฟ IP: 58.10.64.183 8 ตุลาคม 2550 16:43:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ่านแล้ว IP: 125.25.192.86 3 กุมภาพันธ์ 2551 21:38:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|
... เลยดองไว้มากกว่าจะหยิบมาอ่าน