'*^-+...ไม่มีอะไรงดงาม เท่าความสงบสุข...+-^*'
ฉันหยิบน้ำยาล้างเล็บเหยาะใส่สำลีและเช็ดเล็บทาสีแดงทีละเล็บ เป็นเวลา 2 ปีแล้วสินะที่เล็บของฉันแทบจะไม่เคยเว้นว่างจากน้ำยาทาเล็บสีสด ๆ เหล่านี้เลย ฉันตัดแต่งเล็บด้วยกรรไกรตัดเล็บให้สั้นกุด คงเป็นเวลาอีกนานกว่าจะได้หยิบสีทาเล็บมาทาอีกครั้ง เพราะวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะได้สวมใส่ชุดยูนิฟอร์มสีฟ้า ทาเล็บสีแดงและลากกระเป๋าลากในฐานะ 'แอร์โฮสเตส'...ฉันเก็บเครื่องแบบทั้งหมดลงในกระเป๋าใบใหญ่เพื่อนำไปคืนบริษัท เก็บข้าวของออกมามากมายก็อดไมได้ที่จะค่อย ๆ หยิบมาพิจารณาดูหลายชิ้น ลิปสติกสีแดง-ต่อไปนี้คงได้ใช้น้อยลง สมุดจดงาน-ที่ฉันจดเอาไว้ว่าทำงานไฟลท์ไหนกับหัวหน้าคนไหน และไฟลท์สุดท้ายเป็นไฟลท์ที่ 170 พอดิบพอดี อดใจหายไม่ได้เหมือนกันที่วันนี้เดินทางมาถึงแล้ว นึกย้อนไปแล้วก็มีความสุขทุกนาที...แม้แต่นาทีนี้ที่ฉันเดินทางมาถึงวันสุดท้ายของอาชีพนี้........................................เป็นเวลา 2 ปีพอดิบพอดี ที่ฉันย้ายถิ่นฐานตัวเองจากเมืองไทยมาประจำการอยู่ประเทศตะวันออกกลางกลางทะเลทราย ด้วยความฝันสวยงามเพียงอย่างเดียวว่าอยากจะเป็น 'นางฟ้าบนเครื่องบิน' หรือแอร์โฮสเตสนั่นเอง...ความใฝ่ฝันของสาว ๆ ทุกยุคทุกสมัย เมื่อวันที่ฉันไขว่คว้าโอกาสมาในมือได้ ฉันจึงเลือกจะเดินทางตามหนทางสายใหม่แทนที่จะดำเนินตามรอยทางที่กรุยทางและร่ำเรียนมากกว่า 5 ปีในมหาวิทยาลัยตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาทำงานสายนี้ ต้องปรับตัว เรียนรู้ความแตกต่าง ทั้งคน วัฒนธรรม ภาษา ความเป็นอยู่ ระบบการทำงาน อะไรก็ตามที่ใหม่และแตกต่างจากที่เคยเป็นมาทั้งหมด มิตรภาพ เสียงหัวเราะ เรื่องราวดี ๆ มากมายและก็มีทั้งเรื่องเศร้า ๆ น้ำตาและความเหงาจากการอยู่ไกลบ้านก็เยอะ...แต่ทั้งหมดนั้นฉันก็ผ่านมันมาได้ด้วยดี จนถึงวันนี้ วันสุดท้าย...ฉัน 'เรียนรู้' อะไรเยอะมากอย่างที่ไม่มีทางจะบรรยายได้หมด อย่างหนึ่งที่สำคัญเลยที่ฉันได้รับมา คือ ฉันรู้ว่าฉันไม่เหมาะกับงานสายนี้ อยากแต่จะเที่ยวต่างประเทศและได้เงินเดือนสูง ๆ คงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต แต่การทำงานในอาชีพต่างหากที่สำคัญกว่า ฉันไม่ชอบงานบริการ ไม่ชอบรับใช้ใคร ไม่ชอบให้ใครมาดูถูกและคิดว่าตัวเองเหนือกว่า ฉันจึงรู้แน่ละว่าฉันควรจะเบี่ยงเบนเส้นทางได้แล้วและเหนืออื่นใด ฉันยังมี 'ฝัน' อีกมากมายรอคอยฉันอยู่ ฉันอยากทำอะไร ๆ อีกเยอะแยะให้เป็นจริง ความฝันหนึ่งคือได้เห็นโลก ได้ท่องโลกฉันก็ทำมันสำเร็จไปแล้ว เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากพอ สะสมเงินได้จำนวนหนึ่งตอนนี้ก็คงถึงเวลาเหมาะควร ที่จะก้าวเดินทางออกตามหาฝันที่กำลังจับตัวเป็นกลุ่มก้อนรอฉันทำมันให้สำเร็จอยู่เบื้องหน้า........................................ลาก่อนฟ้ากว้าง ๆ สุดลูกหูลูกตาลาก่อนเมฆก้อนหนาที่เคยอยู่ใต้เท้าให้เชยชมแต่แม้ภาพจากเบื้องบนจะสวยงามแค่ไหน แต่มันก็เหงาเกินไปถ้าต้องมองอยู่เพียงลำพังและท้ายที่สุดฉันก็ตระหนักได้แล้วว่า "เท้าสองเท้าไม่ได้มีไว้เดินบนฟ้า ควรจะกลับลงมาใช้เดินบนดินอย่างที่มันควรจะเป็น..."
ขอบคุณ...สายการบินที่ให้โอกาสให้ฉันได้เดินทาง ท่องเที่ยว ทำตามความฝันขอบคุณ...มิตรภาพดี ๆ มากมายจากลูกเรือ ทำให้การอยู่ที่นี่อบอุ่นกันเองขอบคุณ...คูเวต แม้คูเวตจะไม่ใช่เมืองในฝันของใคร แต่อย่างน้อยคูเวตก็เติมฝันฉันให้เต็ม
และอย่างน้อยหนูมีโอกาสได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่คนอื่นได้เพียงแต่มองและอยากจะเป็นจ๊ะ..
ของพี่แหม่มน่าจะภายในวันสองวันนี้ล่ะค่ะ เพราะว่าคุณสามีพี่กลับมาดึกทุกวันเลย เกรงใจจะไปรบกวนน้องอ่ะค่ะ เทคแคร์นะจ๊ะ