Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2548
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 พฤษภาคม 2548
 
All Blogs
 

I'm way (รวยเป็นล้าน)

Amway คิดว่าคงจะพอได้ยินกันมาบ้างไม่มากก็น้อย
บ้างคนยังเป็นสมาชิกเสียด้วยซ้ำ
เมื่อวานได้มีโอกาสไปสำผัสเบาๆกับ ธุรกิจที่กล่าวมาข้างบน บังเอิญว่าเพื่อนของแฟนผมได้โทรพูดคุยกันกับแฟนผมตามประสาของเพื่อนฝูง คุยกันไม่คุยเปล่ายังชักชวนกันไปทอลองเครื่องสำอางที่มีชื่อว่า "อาทริตี้" แฟนผมก็มาเล่าให้ผมฟังแล้วยังชวนผมให้ไปเป็นเพื่อนด้วย ผมก็ไม่ขัดข้องอะไร แต่ได้บอกไปว่าถ้าชวนให้ไปนั่งฟัง หรือทดสอบสินค้าผมไม่เอาด้วยนะจะขอรอข้างนอก ซึ่งเรื่องเล่านี้แฟนผมเค้าก็ค่อนข้างจะเหมือนผมอยู่แล้ว ไม่ค่อยจะเห้นด้วยกะสินค้าขายตรงทุกประเภท แต่ที่ไปด้วยเนื่องจากเกรงใจเพื่อน และก็ไม่ได้เจอกันนานแล้วด้วย ก่อนไปผมยังบอกกะแฟนผมเลยว่าเดี๋ยวเราน่าจะเจอคนแต่งตัวดูภูมิฐานประเภทใส่สูท ถือสมุดโน๊ตเล่มหนาๆ พูดจาอวดสินค้าว่าดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ ผมเลยบอกกะแฟนผมว่าผมจะให้ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดคอกลมรองเท้าแต๊ะไป แฟนผมก็ฟังผมแถมยังใส่กางเกงขายาว(แค่เข่า) เสื้อยืดอยู่บ้านไปด้วย เอาให้กะว่าให้เป็นเป้าสายตาของนักธุรกิจ(เงินล้าน)ไปเลย..ฮิๆ
ไปถึงศูนย์นค้า Amway น่าจะเป็นโกดังสินค้าด้วย ซึ่งอยู่แถวๆตีนสะพาน ลำสาลี หาที่จอดรถได้ก็เดินสำรวจศูนย์สินค้าดู ในนั้นก็มี
คนไปซื้อสินค้ากันเยอะเหมือนกัน ในนั้นมีขายเกือบทุกอย่างเหมือนในซุปเปอร์..ตามห้าง มีทั้งของ Amway เองหรือไม่ก็สินค้าของค่ายอื่น มาม่าเอ่ย ถุงยางยังมีเลยอ่ะ คิดดู เดินสำรวจอยู่ได้พักหนึ่งเพื่อนแฟนก็มา เห็นเค้าคุยกันว่าเค้าเองจะไปทดสอบเครื่องสำอาง และอยากจะให้แฟนเราไปเป็นเพื่อนด้วย ก็เลยไปกันที่อาคารพาณิชย์แถวๆนั้นแหละ เห็นว่าเป็นห้องไว้สาธิต สินค้ากัน แฟนผมก็บอกกะเพื่อนเค้าไปว่า "แก..แกมีส่วนได้ส่วนเสียกะสินค้านี้หรือเปล่าถึงได้ชวนฉันมานี่ หรือแก่เป็นสมาชิกแล้วมาขายฉัน ๆไม่ซื้อหรอกนะ" ผมได้ยินที่แฟนผมพูดอย่างนั้นนี่บอกตรงๆเลยว่าดีใจมากๆเลยที่แฟนผมพูดออกไปตรงๆ ไม่ต้องเกรงใจกัน ไม่ต้องไปให้ความหวังอะไรกะเค้าเค้าจะได้ไม่มาเสียเวลากะเราด้วย ทางโน่นก็รีบบอกว่าไม่ใช่ๆหรอกเค้าชวนเรามาเป็นเพื่อนเค้าเท่านั้น ระหว่างที่นั่งคุยกันรอเจ้าหน้าที่มาเปิดห้อง ก็มีเหล่าสาวก Amway ทั้งหลายเข้ามา เหมือนที่บอกตอนแรกเปี้ยบเลย แต่งตัวนี่แต่ล่ะท่าน ชายก็ใส่สูทผูกไท หญิงก็แต่งแบบ เวิกกิ้งวูแม่น มากๆ( ร้อนจะตาย แต่งไปได้ไง วะ) ทุกคนต้องพูดเรื่องผิวพรรญ/ใบหน้าของแฟนเรา ว่าสวยนะ ผิวดีนะ ใช้โฟมอะไรอยู่นะ ลองดูตัวนี้ไหม มันดีนะ ไม่มีสารเคมี คะยั้นคะยอจะให้แฟนเราเข้าไปทดสอบด้วยให้ได้ เราก็ได้แต่คิด ถ้าทดสอบแล้วหน้าเป็นแบบคนพูดนี่สงสัยจะลำบาก ก็เล่นฉาบหน้ากันมาสุดๆ แฟนเราก็ไม่ล่ะค่ะๆ อย่างเดียวจนทางโน่นถอดใจ ..ฮิๆ เค้าก็ขึ้นกันไปทดสอบกัน เราก็ขอตัวกลับ ดีใจมากๆเลยได้กลับซ่ะที วุ่นวายจริงๆพวกไดเร็กเซล์นี่ แต่ก็อย่างว่าแหละเน้อ อาชีพเค้านี่
กลับมาถึงห้องตกเย็นแฟนรับโทรศัพท์จากเพื่อนคนเดิมอีก บอกคราวนี้จะมาหาที่ห้องเลย บอกว่าจะมาปรึกษาเกี่ยวกะเรื่องที่เค้าจะลาออกจากงานประจำมาขาย Amway แฟนเราก็ถามเราว่าให้เค้ามาหรือเปล่า
เราก็บอกว่ามาเหอะถ้ามาถามความคิดเห็น แต่อย่าเอาพวกเซล์อะไรนั่นมาด้วยนะ ไม่งั้นก็ไม่ต้องมา ดีนะที่บอกไปแบบนั้น เพราะรู้ทีหลังว่าสาวก Amway อีกคนจะขึ้นมาด้วย เลยได้แค่มาส่งแล้วกลับ เพื่อนแฟนเข้ามาในห้องเราก็ งง เห็นหอบหิ้วเอา คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง กางจอได้ก็ร่ายรำว่า สินค้ามีอะไรบ้าง ทำมาจากธรรมชาติล้วน แถมยังบีบยาสีฟันให้เราลองดูอีก ว่าดีกว่าของคอลเกตยังไง ถามเราว่าใช้ของอะไรอยู่ เราบอกว่า ดอกบัวคู่ ! หงายเก๋งไปเลย ฮิๆ ยังไม่หมดความพยายาม ยังเอาลูกกลิ้งมาอีกบอกว่านี่น่ะ ใช้แล้วไม่ทำให้เสื้อมีคราบ ถามเราว่าเราใช้ของอะไร เราบอกไปว่า เราใช้แป้งน่ะ
น้องเค้าคงมึนกะคำตอบเรานะ แล้วยังยกตัวอย่างเปรียบเทียบกะสินค้าเครือ ยูนิริเวอร์ อีกว่าของเค้าดีกว่าอย่างโน่นอย่างงี้ เราก็เลยบอกน้องเค้าไปเลยว่าถ้า เอาสินค้าของคนอื่นมาโจมตีอยู่ฝ่ายน่ะ อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้รูเรื่องหรือไม่ได้โต้ตอบอะไรเลย เราถือว่าไม่แฟร์นะ ถือว่าใช้ไม่ได้นะ น้องเค้าถึงได้หยุด ซักพักก็เริ่มอธิบายวงจรของ Amway อีกว่าถ้าเป็นสมาชิกแบบใดบ้าง จะได้ส่วนลดสินค้ายังไง ยังยก ตย. ให้เห็นว่านี่น่ะ บางคนได้ระดับ ทอง, มรกต,มุก,เพรช ได้เงินเดือนเป็นแสนบ้าง เป็นล้านบ้าง พอฟังจบน้องเค้าก็ถามเราว่าเป็นไงบ้าง อาชีพนี้เค้าทำแล้วน่าจะรุ่งไหม นึกในใจนี่ถ้ากรูพูดไปนี่น้องเค้าจะรับได้ไหมหว่า ก็เลยบอกน้องเค้ามา ไอ้ที่ได้เป็นหมื่นๆเป็นแสนๆเป็นล้านๆ น่ะ เห็นมาแล้วจริงเหรอ ลองคิดดูว่าที่ได้ขนาดนั้นน่มีกี่คนกัน เทียบเป็นสัดส่วนของสมาชิกทั้งหมดน่ะ ได้กี่เปอร์เซนต์ ถึง 5%ไหม? บอกเค้าไปว่าตอนนี้น่าจะมีสมาชิกซัก ล้านคน แล้วคนที่ได้รายรับเป็นแสนๆน่ะ ถึง 5หมื่นรายไหม ก็ไม่ถึง สมมุติว่าได้แค่ 5000 ราย คิดแล้วก็น่าจะได้แค่ 0.5% เองนะยังไม่ถึง 1% เลย คิดเอาเองแล้วกันว่าน่าจะรุ่งไหม พี่เห็นมาเยอะแล้ว บางคนก็ถอยกลางคัน คิดดูค่าสมัครสมาชิกแรกเข้า 900 บาท ล้านคนก็ 900ล้านแล้ว สินค้าก็งั้นๆ แถมแพงกว่าของชาวบ้านตั้ง 2-3 เท่า คนที่มีปัญญาซื้อของแบบนี้ มีซักกี่เปอร์เซนต์กันในประเทศไทย แถมต่างคนต่างก็เป็นสมชิกกันหมด แล้วเราจะไปขายใครได้ บอกน้องเค้าไปว่า ธุรกิจแบบนี้น่ะดีนะไม่ใช่ไม่ดี แต่น้องน่ะเข้ามาช้าไปแล้ว
เข้ามาก็ไปต่อยอดให้พวกรุ่นก่อนน้อง แล้วรุ่นก่อนน้องก็ไปต่อยอดให้รุ่นก่อนๆนั้นอีก เพราะฉนั้นที่ได้เป็นล้านน่ะมีไม่เถียง แต่มีกี่คนกัน แล้วเดาได้เลยว่าน่าจะเป็นรุ่นแรกๆแน่ น้องมาเริ่มตอนนี้น่พี่ว่าน่าเหนื่อยนะ
ไม่รู้น้องเค้าจะคิดได้หรือเปล่านะ แต่นั้นมันก็สิทธ์ของเค้าที่จะคิดน่ะ แต่บอกน้องเค้าไปเลยว่าไม่ต้องมาชวนพี่กะแฟนพี่หรอกรับรองว่าไม่ทำแน่ๆ ไม่ชอบทำอะไรที่ไปต่อแข้งต่อขาให้คนอื่น
ใครที่เป็นสมาชิก Amway ถ้าเข้ามาอ่านแล้วได้โปรดเข้าใจมุมมองของกระผมด้วยนะ ผมไม่ได้ต่อต้านหรอกนะ แต่ผมก็ไม่อยากให้ใครเข้ามาคะยั้นคะยอผมน่ะ แค่นั้นจริงๆ ผมพอใจก็รายรับที่ผมได้อยู่ทุกวันนี้แล้ว ไม่ต้องมาหวังดีให้ผมมีรายได้เยอะๆหรอกครับ น่าจะไปบอกพ่อแม่พี่น้องท่านดีกว่าทีจะมาบอกผมนะครับ

ปล.ยอมรับว่าคนคิดระบบลูกโซ่ตัวนี้ ว่าโคตรเก่งเลยนะครับ ปีๆทำเงินได้หลายล้านอยู่




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2548
21 comments
Last Update : 30 พฤษภาคม 2548 10:53:14 น.
Counter : 838 Pageviews.

 

ผมก็ใช้สินค้ายี่ห้อนี้อยู่บางตัวครับ แต่ไม่ได้เป็นสมาชิก
ฝากญาติๆ ซื้อเอา เห็นว่ามันรักษาสิ่งแวดล้อมดี ไม่รู้จริงรึเปล่า -_-"
ถ้าเจอแบบที่คุณเจอเนี่ย ผมคงประสาทเสียไปเลยนะครับ เฮ้อ..

 

โดย: Mint@da{-"-} 30 พฤษภาคม 2548 11:26:58 น.  

 

^^เห็นด้วยกะคุณจขบ.ทุกประการค่ะ

เปิ้ลมาเยี่ยมนะคะ...ขอบคุณที่แวะไปทักทาย

ใช่ค่ะ...rob เค้าเปลี่ยนทรงผมค่ะ...ตอนออกอัลบั้มนี้ค่ะ...ร้อนม้าง อิ อิ

 

โดย: เปิ้ล (Mu_in_love ) 30 พฤษภาคม 2548 11:31:04 น.  

 

คนเรามักอยากรวยโดยไม่ต้องทำงานหนักเป็นจริงได้หรอ???
อย่าโดนเค้าหลอก และอย่าหลอกตัวเอง
คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานทุกคนเป็นคนรับผิดชอบ ขยันขันแข็ง มีประสบการณ์ ความรู้ในการทำงานนั้นๆ พัฒนาจนเค้าสามารถประสบความสำเร็จได้ เช่น เบิร์ด ธงชัย (ร้องเพลงเก่ง) , บิล เก็ต (เจ้าของmicrosoft) หรือ แม้กระทั่งนักฟุตบอลอย่าง ซีดาน ซึ่งทุกคนล้วนย่อมต้องฝึกฝน และทำงานหนัก กว่าจะถึงจุดนั้นวันแรกที่เข้าไปฟังแอมเวย์และหลงเชื่อเพราะเราเชื่อที่เค้าล้างสมองเราว่าแอมเวย์เป็นอาชีพอิสระ งานสบาย เน้นความสัมพันธ์ ไม่ต้องทำงานหนักแต่สามารถมีรายได้เดือนละเป็นแสน หรือ เป็นล้าน ถ้าถึงขั้น ยมทูต เอ้ย มงกุฏฑูต
เราและคนมากมายเชื่อเค้าบอกว่าน้องคิดดูนะ ว่าเดือนๆนึงน้องซื้อยาสีฟัน 4 หลอด และต่อมา น้องแนะนำให้คน4คน เพื่อนหรือญาติน้อง ให้ซื้อยาสีฟัน และคน4คน ก็แนะนำไปอีก 4คน เดือนๆนึงน้องจะได้รายได้โดนไม่ต้องเหนื่อยออกแรง แค่
แนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนเป็นงานสบายๆ ไม่ต้องทำงานหนัก ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องมีเจ้านาย ไม่ต้องตอกบัตร
แล้วเราก็หลงเชื่อเค้าด้วยความโง่เขลา พร้อมๆกับคนอีกมากมาย
ณ วันนั้นเราก็ได้สมัครสมาชิกกับเค้าไปพร้อมกับมีความฝันตามที่เค้าได้เล่าเรื่อง ฉายสไลด์ เพื่อให้ความฝันและจินตนาการเราบรรเจิดทุกคนที่House (กลุ่ม) ดีกับเรามาก มีการแลกเบอร์กัน พูดคุยสนุกสนาน พร้อมนัดกันว่า จะพาเราทัวร์คลังสินค้าแอมเวย์ เพื่อจะได้ให้เรารู้จักแอมเวย์ดีขึ้น โดยคนที่จะพาเราไปก็คือ Upline เรา ซึ่งก็คือเพื่อนเราที่ชวนมาวันรุ่งขึ้น เราก็ได้ไปทัวร์ พร้อมกับได้รับการบอกว่า เราน่าจะซื้อสินค้าแอมเวย์ใช้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าสินค้าแอมเวย์ดียังไง และเหตุผลสำคัญคือ เราต้องรู้ในตัวสินค้า ก่อนที่จะไปแนะนำคนอื่นได้ ซึ่งเราก็เห็นด้วยคล้อยตาม วันนั้น เราหมดเงินไปประมาณ สามพันเกือบๆสี่พัน รวมค่าสมัครเราเริ่มไปHouseบ่อยขึ้น ไปคลังแอมเวย์ ไปประชุม ซึ่งUplineเรา และ พวกพี่ที่เฮ้าส์ บอกเราว่าต้องมา ห้ามขาด เพราะเค้าจะมีการสาธิตสินค้าให้เราดู พร้อมบรรยาย และด้วยเหตุผลว่า ถ้าเราไม่ดูแล้วเราจะไปสาธิตให้ลูกค้าดูได้ไง แล้วจะแนะนำสิ่งดีๆให้ลูกค้าได้ยังไงเรายังเรียนอยู่ แต่ด้วยจิตใจมุ่งมั่น เราเริ่มขาดเรียน เราเริ่มกลับบ้านดึก
ไม่ใช่ดึกธรรมดานะ ดึกแบบตีสอง ตีสามเราเริ่มโดนที่บ้านว่า เเละทุกครั้งที่เราบอกที่เฮ้าส์
ทุกคนจะปลอบใจเรา บอกว่า ไว้วันที่น้องสำเร็จกับแอมเวย์ ที่บ้านน้องจะเข้าใจเอง พ่อแม่จะได้ไปเที่ยวเมืองนอก น้องมีเงินให้พ่อแม่ใช้สบายๆไม่ต้องให้เค้าทำงาน ตอนนี้ก็อดทนไปก่อน ถ้าเราโฟกัสกับแอมเวย์ให้มั่น วันที่เราสำเร็จก็จะใกล้ขึ้น ตอนนี้น้องเดินมาเกือบครึ่งทางแล้ว อย่าถอย อย่าท้อแท้ ต้องสู้ ว่าเราสำเร็จได้ และอีกครั้ง ที่เราโง่เขลาเราเริ่มไปHouseทุกๆอาทิตย์ ทุกครั้งที่ไป ก็จะมีการพูดปลุกใจ ปลุกระดม เปิดเพลงประมาณว่า We are the champion อะไรประมาณนั้น
เราเริ่มซื้อของใหญ่ และ แพง โดยบังคับให้ที่บ้านซื้อพร้อมกับบอกว่ามันดีมากๆๆๆ เพราะทุกคนที่แอมเวย์บอกว่ามันคือสุดยอดสินค้า ที่ราคานั้นแม้จะสูง แต่คุณภาพสุดคุ้ม นั่นก็คือ เครื่องกรองน้ำ และ เครื่องกรองอากาศ
เราซื้อที่ละอย่าง เพราะเราต้องพยายามหว่านล้อมที่บ้าน ถึงขั้นทะเลาะกัน เพื่อจะเอา เพราะเราเชื่อแอมเวย์ เชื่อพี่ๆและUplineว่า พ่อแม่เราจะมีสุขภาพดีขึ้น ราคาของสองเครื่องนี้รวมกัน ก็ประมาณเกือบ ห้าหมื่นบาทเราเริ่มไปสัมนาแอมเวย์ที่ต่างจังหวัดพร้อมกับที่กลุ่ม ซึ่งเดือนนึงจะจัด สองครั้ง โดยครั้งๆนึง ประมาณ พันกว่าบาทเหตุผลที่เราได้ถูกบอกว่าต้องไปก็คือ เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสินค้ามากขึ้น มีการบรรยายที่มีประโยชน์มากพร้อมกิจกรรม เกี่ยวกับตัวสินค้า และ ได้พบกับวิทยากรที่ประสบความสำเร็จกับแอมเวย์แล้ว เป็นระดับเพชร มงกุฏฑูตเราก็ไป บางครั้ง ที่มหาลัยใกล้สอบ มีติวกันกับเพื่อน เราก็ไม่ได้ติว เพราะเราต้องไปสัมนาพัทยา เพื่อนเราเก็บชีตไว้ให้ แต่เราก็ไม่มีเวลาอ่านนัก เพราะเรากว่าจะกลับก็ตีสองตีสามแล้ว เรียนเราก็โดด เพราะเราโฟกัสว่าวันนี้เราจะต้องไป เฮ้าส์ตอนเย็น และ เราเริ่มนัดลูกค้าตอนกลางวัน ซึ่งก็เป็นญาติๆของเราแผนทุกอย่างถูกวางโดยUpline ของเรา และรู้มั๊ยหนึ่งในวิธีที่จะสำเร็จกับแอมเวย์ได้ก็คือต้องเชื่อ Upline จริงๆๆๆ เรามีชีทด้วย ได้มาจากสัมนา มันบ้ามากกก แต่ตอนนั้นเราก็เชื่อ เพราะเราโดน บิ้ว ทุกวันจากการไปเฮ้าส์มันคือหนึ่งในวิธีการสะกดจิต หรือ ล้างสมอง หรือ อะไรก็ได้ ที่ทำให้เราไม่รับรู้ความจริงจากโลกภายนอก แม้เพื่อนหรือญาติพ่อแม่ จะบอกอะไรยังไงเราก็ตามเราไม่เชื่อ เราเหมือนถูกผีสิง เราต้องไปเฮ้าส์ทุกวันเพราะที่นั่นมีคนที่เข้าใจเรามีจุดหมายเดียวกับเรา ต้องการสำเร็จเหมือนเรา แล้ววันนึงคนที่หัวเราะเรา จะหันมามองเราด้วยความทึ่ง และ ยอมรับเรา ที่เเอมเวย์มีแต่เพื่อนเเท้ เป็นครอบครัวนั่นคือสิ่งที่เรารู้สึกได้ ซึ่งเรากำลังจะเล่าแล้วล่ะ ว่าต่อไปที่เราค้นพบความจริงเป็นไงเราเริ่มกลายเป็นสาวกแอมเวย์แล้วอย่างเต็มรูปแบบทุกๆวัน เราพูดแต่เรื่องแอมเวย์เราใช้ของทุกอย่างที่เป็นแอมเวย์ ยาสีฟัน สบู่ น้ำยาล้างจาน แฟ้บ น้ำ อากาศ และทุกอย่างที่แอมเวย์จัดจำหน่าย เช่น กระดาษทิชชู่ หลอดไฟฟิลลิปส์ โอรีโอ น้ำมัน ข้าวสาร ทุกๆๆอย่างในชีวิตเราคือแอมเวย์ที่เฮ้าส์จะมีการพูดเปลี่ยนเวรกัน เราได้รับมอบหมายให้พูดเรื่อง แอมเวย์กับชีวิตประจำวัน ซึ่งตอนนั้นเราเล่าอย่างภาคภูมิใจมาก ว่าเราบริโภคทุกอย่างเป็นแอมเวย์จริงๆ เราเสร็จขั้นตอนการซื้อของมาใช้แล้ว ด้วยการหมดเงินไปประมาณแสนหนึ่งถ้าจะได้เราเริ่มกลายเป็นดาวดวงใหม่ ที่ทุกคนตั้งแต่ อัพไลน์ของอัพไลน์ ต้องมาสนใจเป็นพิเศษ ก็แน่สิ เราสร้างยอดให้เค้าหนิทุกวัน
เราต้องเข้าเฮ้าส์แล้วพี่อัพไลน์พวกนี้จะเรียกเราวางแผนกลยุทธการขาย เค้าเริ่มสอนให้เราชวนคนมาทำ มาสมัครโดยให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อนมา ห้า คน แล้วชวนมาให้ได้ มาที่เฮ้าส์แล้วเดี๋ยวเค้าจะจัดการให้เอง เราชวนเพื่อนสนิทเรามา สอง คน จริงๆชวนเจ็ดแต่มาแค่ สอง สองคนนี้รักเรามาก เราก็รู้ว่าเค้ามาเพราะเกรงใจและไม่อยากให้เราเสียใจ เค้ามาฟังๆ โดยที่อัพไลน์เราเป็นคนบรรยาย เราอยู่อีกห้องนึง เชื่อมั๊ยว่าคนเป็นสิบๆมาช่วยเราคิดว่าจะทำยังให้เค้าสมัคร มาบอกทริคมากมายช่วยเรา บ้างก็บอกว่าให้เค้าจ่ายเงินเลยเพราะเค้ากำลังบิ้วได้ที่ คือกำลังมีอารมณ์ร่วม ถ้าปล่อยไปพรุ่งนี้มักจะหายจ้อย เรารู้สึกว่าเราต้องทำให้ได้ เราต้องเริ่มต้นได้เเล้ว และเป็นจริง เราบังคับเพื่อนเราสองคนให้สมัคร โดยเราเค้าว่าลองดูก็ไม่เสียหาย มันดีจริงๆ และเราก็อยากให้เพื่อนรักเราได้เจอในสิ่งดีๆอย่างที่เราเจอ เพื่อนเราก็เงียบๆ และก็ตกปากรับคำสมัคร หลังจากสองคนนั้นกลับไป
ทุกคนต่างมายินดีกับเราในก้าวแรกพร้อมกับคำพูดเด็ดน้องมีเพชรในมือน้องแล้วนะ อย่าให้หลุดมือ สองคนนั้นสามารถเป็นเพชรในสายงานน้องได้ ขึ้นอยู่กับน้องแล้วนะว่าอยากสำเร็จหรือไม่สำเร็จและแล้ววันนั้นเราก็ได้อยู่วางแผนกับอัพไลน์และอัพไลน์ของอัพไลน์จนดึกวางแผนว่าจะทำยังไงกับเพื่อนสองคนนี่ดีจะทำยังไงให้เค้ามาทำเต็มตัว ให้เค้าซื้อเครื่องกรองอากาศ กรองน้ำภายในเดือนนี้ เพราะเราทำยอดไว้เยอะแล้ว ถ้ามียอดสองคนนี้มาเพิ่ม เราก็ได้เบรค ก็คือทำยอดทะลุเป้า ได้เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งทุกคนบอกเราว่าต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้เพราะอีกไม่กี่เปอร์เซนต์เราก็จะเบรคแล้ว ก่อนที่เราจะจัดการเพื่อนสองคนของเราที่ยอมสมัครเป็นดาวไลน์เราเราได้ถูกวางแผนกลยุทธการเยี่ยมบ้านเพื่อนๆ เพื่อขายสินค้า โดยUplineเราเป็นคนสอนวิธีให้เราทุกอย่าง
เริ่มจากจะชวนเค้ายังไง จะทำยังไงให้เค้ายอมให้เราไปสาธิตสินค้า อัพไลน์เราบอกว่า เค้าจะจัดการสาธิตให้เองและไปพร้อมเรา เพราะเค้าเก่งแล้ว พูดเก่งด้วย ก็แน่สิเค้าเป็นดารานี่ไม่เก่งได้ไง เค้าบอกว่าขอแค่เราโทรไปนัดคนให้ได้
ที่เหลือเค้าจัดการเองเราก็เลยโทรไปหาเพื่อนๆ แรกๆเราก็บอกเค้าตรงๆว่าเราจะเค้าไปสาธิตสินค้าแอมเวย์ ซึ่งเพื่อนๆก็จะปฎิเสธ อ้างว่าไม่ว่าง ติดนู่นนี่ พ่อแม่เค้าก็ไม่ว่าง อย่ามาเลยเสียเวลา เรากลับไปบอกอัพไลน์เรา ว่าเราทำไม่ได้ ไม่มีใครสนใจ
อัพไลน์เรา ปลอบใจเราพร้อมสอน ทริคการโกหก ต่างๆนานา โดยให้เริ่มด้วยมุขแรก เค้าสาธิตให้ดูสดสด
สวัสดี อาร์ทเราดามนะ เป็นไงบ้าง โอโห้ไม่เจอกันตั้งแต่มหาลัยเลยนะ หลายปีอยู่ นายเป็นไง สบายดีนะ ที่บ้านพ่อแม่สบายดีนะ ทำงานอะไรอยู่ อืม เผอิญเราผ่านแถวบ้านนาย เราเลยนึกถึงว่าทุกคนสบายดีมั๊ย คุณพ่อยังทำงานเป็นตำรวจอยู่รึปล่าว อืม เกษียนแล้วหรอ แล้วคุณแม่ล่ะ อ้าว แล้วน้องนายเรียนที่ไหน อืมดีนะ ทุกคนสบายดี เราก็ดีใจ แล้วนายปกติเลิกงานกี่โมงล่ะ อืม อย่างงี้ช่วงสองทุ่มก็ถึงบ้านแล้ว สิ ดีดี เผื่อนเราแวะเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ด้วย อยากเจอน่ะ มีเบอร์มือถือมั๊ย แล้วเบอร์ที่ทำงานล่ะ โอเค เดี๋ยวค่อยคุยกันนะบาย
ขั้นตอนนี้ เค้าเรียกกันว่า เช็คฟอร์ม เก็บรายละเอียด "Form Check"
เป็นขั้นตอนสากลทำเพื่อเก็บรายละเอียดของสมาชิกในบ้าน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ครั้งแรกให้ประทับใจ ให้เค้ารู้สึกว่าเรามาดีไม่ได้ต้องการขายของ มุขนี้จะใช้กับคนที่ไม่ได้เจอมานาน และ ไม่รู้ว่าเราทำแอมเวย์ เพราะถ้าเค้ารู้ เค้าก็คงรีบวางหูแล้วล่ะเราเริ่มหลอกเพื่อนสำเร็จ ด้วยมุขแรก หรือมุขที่ว่า เราพึ่งไปฟังบรรยายเกี่ยวกับสุขภาพมา ดีมากๆเลย เราอยากเค้าไปแนะนำคุณพ่อคุณแม่เธอน่ะ มีประโยชน์มากๆเพื่อนกลุ่มแรกๆที่เรานัด เค้ายังไม่ค่อยรู้มากนักว่าเราทำแอมเวย์ จึงใช้ได้ผลกับมุขนี้ ก่อนไปเราก็จะต้องนั่งลิสต์สมาชิกในบ้านเพื่อนคนนั้นๆ ให้อัพไลน์ดู เพื่อที่จะได้เตรียมของไปขายถูก เช่น ถ้าเค้ามีน้องที่เป็นเด็กอ่อน เราควรขาย เครื่องกรองอากาศ อาหารเสริม พร้อมกับเตรียมโบรชัวร์ต่างๆไปให้พร้อม แน่นอน เราต้องอย่ายอมแพ้ ถ้าเค้าทำท่าไม่สนใจระหว่างการสาธิต ให้เราทำทุกวิถีทางเพื่อให้เค้าสนใจให้ได้
และวิธีสุดท้ายที่มักได้ผล ก็คือ ทิ้งสินค้าไว้ให้เค้าทดลอง หนูอยากให้น้องมีสุขภาพดีจริงๆ เห็นคุณแม่บอกว่าน้องเค้าชอบจามเวลานอน มันไม่ดีนะคะ โรคภูมิแพ้ เนี่ย ป้องกันและรักษาตั้งแต่เด็กๆจะดีกว่า เครื่องกรองอากาศเนี่ยได้รับการพิสูจน์แล้วว่ากรองได้ถึง 99.999 เปอร์เซน ถ้าตอนนี้ยังไม่สนใจซื้อไม่เป็นไรค่ะ ฝากไว้ให้ทดลองก่อน เดี๋ยวอาทิตย์หน้าหนูผ่านมาแถวนี้ จะแวะมารับกลับ หนูอยากให้น้องได้อากาศบริสุทธิ์ค่ะ จะได้ไม่จาม แน่นอน หนึ่งในห้า มักเกิดความเกรงใจและซื้อสินค้ากับเราในที่สุด ซึ่งเพื่อนเราไปพูดให้เพื่อนเราอีกทีฟัง ว่าแม่เค้าซื้อก็เพราะตัดความรำคาญ จะได้ไม่มาตื้ออีกตอนนั้นเราได้ฟัง อัพไลน์เราบอกว่า ไม่ต้องสนใจ เพราะเราทำหน้าที่ของเราสมบูรณ์แล้ว คือแนะนำสิ่งดีๆให้กับคนที่เรารัก ทั้งๆที่จริงๆน่าจะพูดว่า ไม่ต้องสนใจ ก็เค้าซื้อแล้ว จ่ายเงินแล้ว เรายอดเพิ่มแล้ว หันไปหาคนอื่นดีกว่า
แอมเวย์เก่งมากเรื่องจิตวิทยา เวลาผ่านไปประมาณครึ่งปีผลการเรียนของเราเทอมนั้นตกหนึ่งตัว ดร็อปหนึ่งตัว เหลือเรียน 3 ตัว ซึ่ง 3 ตัวนั้นเรากิน C,C,Dดร็อปเพราะ ลืมไปสอบQuiz เก็บคะแนนก็เลยดร็อปเพราะคิดว่าสู้ต่อไปคงได้แค่ ด็อก อีกอย่างวิชานั้นเรียนเช้า ไปเรียนก้ไม่ไหวเพราะกลับก็เกือบเช้าแล้ว ดร็อปดีกว่าอัพไลน์บอกว่า เรียนเมื่อไหร่ก็ได้ แก่แล้วก็ยังเรียนได้ การศึกษาไม่จำกัดอายุ จบตรีมาใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต โฟกัสกับสิ่งที่เราทำดีกว่า เรามาครึ่งทางแล้วแน่นอน หมดเงินไปก็สองสามแสนแล้วนี่จุดนี้ เราเริ่มกู้ญาติที่เราสนิท โดยจะผ่อนชำระเค้าเดือนละ ห้าพัน เค้าไม่คิดดอกเพราะเค้ารักเรา เหตุผลของเราก็คือ เรากำลังทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งทุกธุรกิจต้องลงทุน ฉะนั้นการกู้หนี้ยืมสิน ของพวกทำแอมเวย์เป็นเรื่องธรรมดาเพราะมันเป็นเงินลงทุน ยังไงๆก็ได้คืนแน่อนอนอยู่แล้วจุดนี้เเหละเราเริ่มติดบ่วงติดหนี้แล้ว
ตอนนี้เรามีดาวไลน์ สามคน สองคนไม่ทำงาน สมัครเพราะความเกรงใจ ส่วนอีกคน เป็นคนไฟแรงประมาณเราอ้อ เราไม่ได้โชคดีขนาดว่าเจอเพชรในตมง่ายอะไรขนาดนั้นนะเราโทรหาเพื่อนประมาณร้อยคนเห็นจะได้ รวมญาติด้วย และรวมเพื่อนของเพื่อนด้วย ทุกคนเริ่มรำคาญเรา บางคนยอมฟังเรา บางคนรีบขอวาง บางคนไม่รับโทรศัพท์เราเลย เพราะเราพูดแต่เรื่องชวนเค้าไปสัมนา เราเสียเงินเยอะมากๆๆๆจากหัวข้อใหญ่ๆที่จะเล่าให้ฟังนะ
หนึ่ง.... เราเริ่มกักตุนสินค้า เพราะเราชวนใครไม่ได้ ขายได้ก็ไม่มาก แต่เราต้องการเบรคทำยอดติดกัน หกเดือน เพื่อเลื่อนขั้นเป็น ดีดี ซึ่งก็จัดว่าเป็นตำแหน่งที่เกือบๆใกล้ๆเพชร ทำยังไงล่ะ ใครจะยอมให้เรากู้แอมเวย์มีวิธี ใครๆก็ทำกัน
บัตร First Choice ไง กับ บัตร Credit Kasikorn Thai Amway
=ขั้นแรก เครดิตการ์ด
ก็รูดเต็มวงเงิน แบกเครื่องกรองน้ำเต็มคันรถมาเก็บไว้ที่บ้าน
=ขั้นต่อมา สมัครบัตรเฟิร์สชอยส์ ซึ่งสามารถซื้อเครื่องกรองน้ำอากาศโดย โดยเค้ามีตารางให้ผ่อนเป็นงวดๆ อ๊ะอ๊ะ ไม่ใช่แค่บัตรเดียว
อัพไลน์เราบอกว่า ถ้าเรามีความรับผิดชอบอย่าไปกลัวเลย ให้เราไปหาญาติแล้วเอาใบสมัครเฟิร์สชอยส์ไปให้เค้าสมัครและเซ็น แล้วให้เอามาซื้อเครื่องกรองน้ำตุนๆเพื่อเบรคให้ได้ไม่ต้องกลัวน้อง ใครๆก็ทำ
พี่มีอยู่ 12 ใบ พ่อ แม่ ลุง ป้า น้า อา เพื่อน แฟนเพื่อน พี่ชายเพือน ยอดเงินในแต่ละใบก็หลักหมื่นสิคะ ถ้าใช้เต็มวงเงิน ก็หลายแสนที่พี่เค้าเป็นหนี้ แต่เค้าบอกว่าคุ้มแสนคุ้ม กับการรักษาโอกาสนี้ไว้ เพราะเราเดิมมาเกือบถึงเส้นชัยแล้ว เราไม่มีทางเลือก ถ้ารักจะเป็นนักธุรกิจต้องกล้าเสี่ยง รับผิดชอบ หลังจากนี้ต้องสัญญากับตัวเองว่าจะทำงานหนัก ออกขายทุกวัน
เอ๊ะ เริ่มขัดแย้งกับตอนที่ชวนมาทำใหม่ๆนี่ ตอนแรกบอกงานสบาย ๆๆ ไม่ต้องเหนือย มีเงินเดือนๆละเป็นแสน เอ๊ะ แต่ตอนนี้หนูเริ่มติดหนี้เป็นแสนๆ อ้อ อัพไลน์คนนี้ก็ติดหนี้ค่ะ ห้าแสนน่าจะได้ แกเป็นเพชรนะ แต่ติดหนี้
สรุป ด้วยความยังโง่อยู่ หนูไปล่าบัตรเฟิร์สชอยส์จากญาติๆมาได้ 10 ใบ พร้อมกับมีเครื่องกรองน้ำ 9ตัว กรองอากาศอีก 7 ตัว และเครื่องสำอางค์ อาหารเสริมอีกเป็นโกดัง เริ่มสมัครบัตรเครดิต เพราะอ้างได้ว่ามีเงินเดือนจากแอมเวย์ ไปขอใบรับรองเงินเดือนได้ เรามีบัตรเครดิตทุกธนาคาร และใช้เต็มวงเงินทุกธนาคาร สุดท้าย ได้ตำแหน่งค่ะ เป็น ดีดี
มีหนี้ทั้งหมดไม่รวมที่พ่อแม่ช่วยซื้อตอนต้น 582,000 บาท เราเริ่มกลายเป็นคนน่าสงสาร เพราะเพื่อนสนิทเรารู้ว่าเราเป็นหนี้ ข่าวเริ่มแพร่ปากต่อปาก เพื่อนเรามาช่วยกันซื้อครีมคนละขวดสองขวด ถึงตอนนี้เราหยุดสต๊อคของแล้วเพราะเรามีหนี้เยอะ อัพไลน์เราพูดแต่ว่าให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อนมา แล้วเค้าจะช่วยขาย เชื่อมั๊ยว่าเราเหมือนเป็นโรคจิต เวลาเรียนเราก็นั่งลิสต์ชื่อเพื่อน
วิธีก็คือ ลิสต์เป็นชื่อเพื่อนมา ห้าสิบคน แล้วหัวบนสุดก็เป็นชื่อสินค้า ตีตารางเป็นช่องๆ แล้วติ๊กดูว่าเพื่อนคนนี้น่าจะขายสินค้าตัวไหน เราทำตลอด รถติดก็ทำ นั่งเรียนก็ทำ อยู่บ้านก็ทำ ก่อนนอนก็คิด เชื่อมั๊ยว่าเราปล่อยสินค้าไม่ได้เลย เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้ปิดยอดปีบัญชี ทุกคนสต๊อคเหมือนกันหมด ทุกคนของค้างเหมือนกันหมด ต้องการปล่อยของเหมือนกัน ขายยิ่งยากหนัก ยิ่งหาดาวไลน์เพิ่มยิ่งยาก เพราะเพื่อนเราเค้ารู้กันหมดแล้วนี่ ว่าเราไปทำแอมเวย์แล้วติดหนี้ติดสินเยอะขนาดไหน เรากลุ้มใจมาก แต่ดีที่เพื่อนที่ครั้งหนึ่งเราเคยมองว่า คนพวกเนี่ยไม่ใช่เพื่อนแท้ ไม่เข้าใจเรา รังเกียจเรา หนีหน้าเราเพราะเราแค่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้พวกเค้า เค้าหันกลับมาหาเรา เค้าเต็มใจที่จะช่วยเรา บางคนซื้อเครื่องกรองน้ำเราด้วย โดยที่เราไม่ต้องไปสาธิตเค้าเลย เพราะเค้าอยากช่วย ในขณะที่ เพื่อนที่เราเคยคิดว่าเป็นครอบครัว เพื่อนแท้ ง่วนอยู่กับการปล่อยสินค้าที่ตัวเองสต๊อคเหมือนกัน วันวันก็จะพูดแต่เรื่องของ ปล่อยของ และไม่เคยสนใจว่าใครจะเดือดร้อนกว่าใคร เพื่อนแท้จริงๆ และวิธีที่แย่มากๆที่พวกเค้าทำ แต่เราไม่ได้ทำนะ เค้าไปหลอกคนมาเป็นดาวไลน์ พยายามให้คนพวกนั้นซื้อสินค้า และให้ดาวไลน์เค้าซื้อผ่านเค้า โดยเค้าอ้างว่าสะดวกกว่า จริงๆแล้วเค้าไม่ได้ไปซื้อของที่คลังสินค้าให้ แต่เค้าเอาของที่ตัวเองสต๊อคไว้ให้แทน วิธีนี้เรียกกันว่า ปล่อยของลงองกร พอดาวไลน์ถามว่า เอ๊ะทำไมไปเช็คในอินเตอร์เน็ตแล้วไม่มียอดไม่มีพีวีแต้มเลย เค้าก็จะบอกว่า อ๋อ ระบบขัดข้อง แต่เเอมเวย์โทรมาบอกแล้ว ว่า จะเพิ่มยอดให้ทีหลัง แต่มุขนี้ก็ใช้ได้ผลนิดหน่อย สำหรับคนโง่ๆเท่านั้น
เราเริ่มรับรู้แล้ว ว่าอะไรที่เราคิดไว้มันช่างโง่เขลา เราเริ่มไม่ไปประชุม ไม่ไปเฮ้าส์ ไม่ไปสัมนา เริ่มกลับไปใช้ชิวิตกับเพื่อนที่มหาลัย ติวหนังสือ เราเริ่มค้นพบเพื่อนที่แท้จริง ความสนุกในชีวติได้กลับมาอีกครั้ง กลับบ้านเร็วขึ้น พ่อแม่เราแฮปปี้ที่เราเริ่มคิดได้ เราทำงานพิเศษรับสอนพิเศษอีกทางเพื่อผ่อนหนี้ เราพยายามบอกปัดพวกที่แอมเวย์ว่าเราไม่ว่าง เราเริ่มค้นพบความจริงที่เราโง่เขลามานาน ตอนนี้ห่างจากตอนที่สมัครแอมเวย์ มา สาม ปี แล้ว
เราเลิกทำไปแล้ว ไม่ได้ไปเฮ้าส์อีก พี่ๆอัพไลน์แรกๆโทรมาตามกันทุกวัน ให้เราไป
จนเราให้แม่เรารับและบอกเค้าไปว่า ตอนนี้เราเป็นโรคเครียดขอร้องอย่ามาตามเราเลย เราขอหยุดพักแล้ว พวกเค้าถึงจะยอมเลิกราวี แต่ก็ยังส่งแมสเสจมาตลอด แนวปลุกระดม เหมือนเดิม
เราหยุดทำมาเกือบปีแล้ว หนี้สินตอนนี้เหลือประมาณ ห้าแสน เราได้ยินมาว่าอัพไลน์เรา ออกรถเบนซ์
เค้านิยมทฤษฏี สร้างภาพ เพราะเรารู้ว่าเค้ากับแฟนเค้า หนี้สินรุงรังเลย เพราะเราเคยไปจ่ายเงินที่ธนาคารกับแฟนอัพไลน์เรา เราเห็นเค้าจ่ายทีเป็นปึกๆๆ ตอนนี้พวกเค้าอาจยังคิดไม่ได้ ขอเตือน อย่าเด็ดขาด อย่าเชื่อคนง่าย อย่าคิดว่าจะยืมจมูกคนอื่นหายใจได้ อนาคต ความสำเร็จทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา ไม่มีหรอก งานง่ายๆ นั่งสบายๆ ได้เดือนละแสน แค่แนะนำบอกต่อ
ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาอ่านได้มากน้อยแค่ไหนก่อนโดนลบ แต่นี่คือประสบการณ์จริงที่เราไม่อยากให้ใครต้องเจอเหมือนเราแม่เรานั่งรอเราถึงตีสองตีสามทุกครั้งที่เราไปประชุม พ่อเราร้องไห้ เพราะได้รู้ว่าเราติดหนี้อยู่ห้าแสน ทั้งๆที่อายุแค่ ยี่สิบ น้องเรา อายเพื่อน เพราะเวลาเราเจอเพื่อนน้องเราก็จะพูดแต่แอมเวย์ เพื่อนๆ ต้องเดือดร้อน เพราะเราตื้อตลอดเวลา และกลัวว่าเราจะขายของเค้า เวลาที่เสียไป เงินทองเพราะเราแค่ อยากมีเงินอยากมีงานสบายๆ เชื่อคนง่าย โดนครอบงำ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่ะz

 

โดย: น่าฉงฉาน IP: 58.10.109.249 30 พฤษภาคม 2548 11:36:40 น.  

 

เพื่อนเราสมัยมัธยม ก็ไม่สนิทเท่าไหร่หรอก กินยาฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องนี้แหล่ะ ขายไม่ตรงเป้า โดนกดดัน หรืออะไรก็ไม่ทราบได้ แต่ไอ้เนี้ยะเป็นสาเหตุต้นๆที่เพื่อนเราเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

 

โดย: ตุ๊กตารอยทราย (ตุ๊กตารอยทราย ) 30 พฤษภาคม 2548 12:20:57 น.  

 

เข้ามาอ่านค่ะ

ปกติไม่ถูกโรคกะพวกขายตรงอยู่แล้ว

 

โดย: rebel 30 พฤษภาคม 2548 12:23:59 น.  

 

อ่ะนะ นานาจิตตังค่ะ

บางคนทำดี บางคนทำไม่ดี

ตัวเรา ไม่ทำ 555555

 

โดย: Logetus 30 พฤษภาคม 2548 12:34:54 น.  

 

เรียนคุณน่าฉงฉาน : ต้องขอบคุณประสบการณ์ของคุณมากเลยครับ อย่างน้อยก็น่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของคนบางคนบ้าง ผมชื่นชมมากนะครับที่กล้า ยืดอก ออกมายอมรับว่าล้มเหลวโดยชิ้นเชิง มนุษย์(ส่วนหนึ่ง)ก็แบบนี้แหละครับ อยากสบายโดยลืมนึกถึงข้อเท็จจริง สำหรับผมๆค่อนข้างจะโชคดีที่เติบมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยจะมีอะไรพร้อม อยากได้อะไรก็ต้องทำงานแลกเอา เคยได้พบเห็นอะไรที่มันเป็นแบบชนิดที่เรียกว่า ต้มตุ๋นเหยื่อ
มาเยอะ มีการใช้หน้าม้งหน้าม้ามาหลอกเป็นทอดๆ ที่บ้านผมบอกผมเสมอว่า ไม่มีของฟรีในโลกนี้

 

โดย: merf1970 30 พฤษภาคม 2548 12:48:18 น.  

 

เอ่อออ แต่เห็นคนขายยี่ห้อนี้นะ เป็นแบบแอมเวลิซึ่มซะส่วนใหญ่ หายใจเข้าออกเป็นกรูจะขาย ไม่สนว่าคนที่นั่งอยู่เนี่ยเค้าอยากจะฟังที่เค้าพล่ามหรือเปล่า

แต่ให้ไปทดสอบผลิดภัณฑ์เค้าอะ ชอบฮะ ของฟรี แต่ไม่ซื้อ

 

โดย: err_or 30 พฤษภาคม 2548 12:58:57 น.  

 


แอมเวย์ น่าจะลองสอบถามความพึงพอใจของคน ต่อการเสนอขายของแอมเวย์ ดูบ้าง?

จะได้รู้ทัศนคติของคน ว่ามีความพึงพอใจเป็นลบ

ผมก็ไม่เคยซื้อใช้ ผมซื้อของมีคุณภาพผลิตในไทย ราคาบิ๊กซี โลตัส ดีก่า

ดี ที่มีเพื่อนBlog ใจตรงกัน

 

โดย: yyswim 30 พฤษภาคม 2548 13:52:08 น.  

 

ที่บ้านก็ใช้สินค้าของเค้าอยู่บางตัวค่ะ
เพราะพี่ชายเป็นสมาชิกขายตรงอยู่ค่ะ
เลยเอามาให้ทดลองใช้
แต่หลังจากหมดแล้วก็หมดกัน
เพราะไม่มีใครซื้อใช้ต่ออีก

เคยคิด...ลังเล...ลังเล...
สองจิต สามใจ มาเป็นปีๆ แล้วค่ะ
ว่าจะสมัครดี....ไม่ดี...
ดี.....ไม่ดี.....

ตัดสินใจได้ก็คราวนี้เอง

 

โดย: เจ้าของจำเป็น (เจ้าของจำเป็น ) 30 พฤษภาคม 2548 17:13:25 น.  

 

ได้รับการยัดเยียดความหวังดี จนเป็นสมาชิกไปหลายรอบแล้วอ้ะ ^^"

 

โดย: เปลี่ยนชื่อไปเรื่อย IP: 203.155.83.253 30 พฤษภาคม 2548 17:16:42 น.  

 

เหอะๆๆ

เขียนซะยาว ยอมรับว่าแอบอ่านข้ามๆมามั่งอะนะพี่เมอร์ฟี่...

แต่พวกระบบขายตรงก็งี้แหละคับ... อย่าอะไรกะมันมากเลย

 

โดย: nanoguy IP: 203.151.140.118 30 พฤษภาคม 2548 21:25:28 น.  

 

บังเอิญว่า ผมคงโชคดีหน่อยครับ ... ที่ไม่ได้เจอประสบการณ์ไม่พึงประสงค์...

อ่านแล้ว ก็คิดอยู่นานว่าจะคอมเม้น ดีมั้ยนะ
พอทบทวนดูแล้ว มันก็เหมือนกับที่เรา อ่าน/เม้ บล๊อก เรื่องทั่วไป ก็แสความคิด ได้อย่างเสรี และอีกอย่าง ผมคงไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร ผมจึงเม้นด้วยความบริสุทธิ์ใจได้...

ผมสมัครเป็นสมาชิก เพราะอยากใช้สินค้า ครับ และก็ยังคงใช้อยู่บ้าง ... คนที่ชวน ก็น้าของผมเอง ...

Amway ที่ผม รู้จึก จึงแตกต่างจาก ที่หลายท่าน ครับ

มีบางคน เปรียบไว้ว่า Amway มันเหมือนน้ำ ครับ

น้ำอยู่ใน ภาชนะใด ก็เปลี่ยนรูปให้เหมาะกับกับภาชนะนั้นได้ ฉันใด ก็ ฉันเพล เอ๊ย ! ฉันนั้น ครับ

ปล. ข้อความของคุณ น่าฉงฉาน ผมเคยอ่านมาแล้วครับ เจอบ่อยมาก ...ตาม ฟอร์เวิร์ดเมล อิอิ

ปล. เอ่อ ในฐานะ ที่พอจะมี ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ขอยืนยัน ความเห็น ของ คุณ Mint@da{-"-} ครับ

 

โดย: Nutty Professor 30 พฤษภาคม 2548 22:05:50 น.  

 

แวะมาอ่านไม่ออกความเห็นนะค่ะ .... คิดถึงนะค่ะ

 

โดย: พี่เจี้ยวค่ะ (sutida_jeaw ) 31 พฤษภาคม 2548 5:08:03 น.  

 

ไม่ชอบเลยอ่ะ




...

 

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 31 พฤษภาคม 2548 7:52:52 น.  

 

เรื่องนี้ผมเคยเข้ามาอ่านแล้วทีนึง จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยชอบแนวทางของพวกบริษัท เหมือน จขบ เพราะบริษัทพวกนี้ทำตลาดแบบลูกโซ่ มันเหมือนหลอกกันไปเป็นทอดๆ แต่ในเมื่อสังคมมันให้เป็นอาชีพหนึ่งในการทำมาหากิน เราก็ไปว่าเค้าไม่ได้ มันจึงอยู่ที่ตัวของเราเองครับ

 

โดย: noom_no1 8 มิถุนายน 2548 20:11:14 น.  

 

จริง ๆ มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและสิ่งแวดล้อมด้วย

เพื่อนเราก็เคยชวนเราทำธุรกิจตรงนี้นะ ชวนเข้า center (ของเพื่อนเราเค้าไม่เรียกเฮาส์อ่ะ) ชวนไปสัมมนา ชวนไปฟังบรรยาย
โอเค เราก็ไป ไม่ได้สนใจที่จะทำ แต่อยากรู้ว่าธุรกิจมันเป็นไงมากกว่า
ก็เคยไปหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สนใจที่จะร่วมงานกับเค้า

เรามองว่า การที่จะทำธุรกิจนี้สำเร็จเราต้องมีฐานอยู่ก่อนแล้ว ฐานที่ว่า คือ กลุ่มลูกค้าที่คุณต้องมั่นใจว่า เค้าจะใช้สินค้าของคุณตลอด เพราะคุณต้องทำยอด แค่เสนอขายไปวัน ๆ น่ะไม่ได้หรอก มันจะทำให้คุณหมดความน่าเชื่อถือ และในที่สุดก็จะไม่มีใครซื้อของ ๆ คุณ

เรายอมรับว่า สินค้าของแอมเวย์น่ะดีจริง แต่ ABO ยังนำเสนอสินค้าไม่ถูกวิธี ถ้าสินค้าดีจริง ก็ไม่ควรโจมตีสินค้าอื่น ไม่ควรเปรียบเทียบว่าเค้าไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ ต้องแอมเวย์ดีที่สุด มันทำให้หมดศรัทธาในตัว ABO ด้วย เพราะตรงนี้มันเหมือนกับ ABO พยายามจะล้างสมองมากไป แล้วคนส่วนใหญ่เค้ามักจะคิดว่า เค้ามีความคิดพอ ที่จะพิจารณาว่าอะไรดี หรือไม่ดีได้เอง ไม่ต้องให้ ABO มาบอก
ABO ส่วนใหญ่จะพลาดและขาดความน่าเชื่อถือไปในที่สุด

หลายคนมองว่าสินค้าของแอมเวย์แพง ซึ่ง ABO ก็จะบอกว่า ไม่แพงหรอก แอมเวย์เค้าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์บางอย่าง ถ้าแบ่งขายจะได้เยอะและถูกกว่าท้องตลาด แต่ถ้าแบ่งขายจะสร้างขยะ เลยขายทีละมาก ๆ (แต่บรรจุภัณฑ์เดียว)ก็เลยดูแพง

นั่นคือแนวคิดของแอมเวย์ที่นำเสนอต่อลูกค้าที่รักธรรมชาติ(ซึ่งเราก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีนะ)

แต่อย่างที่บอก ถ้าจะทำธุรกิจตรงนี้แล้ว คุณต้องมีฐานที่มั่นคง
เพราะคงจะไม่มีใครมาซื้อสินค้าประเภทเดิม ๆ ของคุณทุกเดือน การจะขายให้คนใหม่ ๆ น่ะยากกว่าการขายให้คนเก่า ๆ เพราะคุณต้องทำให้เค้าเข้าใจในสินค้า แต่สำหรับคนเก่านั้น ก็จะยากตรงที่ว่า บ้านไหนซื้อน้ำยาล้างจานไปแล้ว เค้าก็คงไม่ซื้ออีกหรอก(บรรจุภัณฑ์ใหญ่ กว่าจะใช้หมดก็หลายเดือน) แล้วถ้าคนที่คุณนำไปเสนอขายแล้วเค้าไม่สนใจ แต่ถูกตื้อจากคุณมากไป เค้าก็อาจจะนำไปบอกต่อปากต่อปาก ทำให้คุณหมดความน่าเชื่อถือไป

นั่นคือ สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากสังคมแอมเวย์
เราสนใจแนวคิดของเค้า วิถีของคนในสังคมเค้า แต่เราไม่ได้ไปอยู่ในสังคมนั้น แต่เราพยายามมองเค้าในฐานะคนนอก พยายามเข้าใจเค้า ศึกษาวิธีการของเค้า เราว่าแนวคิดเจ้าของเค้าดีมาก ๆ แอมเวย์มีทั่วโลก เค้าประสบความสำเร็จได้ก็เพราะแนวคิดของเค้าเนี่ยล่ะ นับถือจริง ๆ ที่พัฒนาธุรกิจเล็ก ๆ จนเป็นองค์กรขนาดใหญ่ได้

*ABO คือ นักธุรกิจแอมเวย์ น่ะ

 

โดย: [r]yuU[y]a[S]hA (riar ) 24 มิถุนายน 2548 12:33:56 น.  

 

ผมตอนแรกก็สนใจอยู่จึงลองสมัครดู แต่พอทำไปแล้วรู้สึกว่ามันเสียเงินไปเยอะเลย และยังเป็นหนี้อีก เราอยู่แบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงนี้แหละดีที่สุด

 

โดย: หมดตัวกับแอมเวย์ IP: 61.7.158.205 27 มิถุนายน 2549 9:22:38 น.  

 

ไม่ขอพูดอะไรมากครับ แต่ว่าไม่มีถุงยางครับ นั่นคือสิ่งที่คุณคิดไปเองครับ ขอบคุณ

 

โดย: - - IP: 210.246.160.2 16 สิงหาคม 2549 15:36:21 น.  

 

ขออีกทีนึง

ผมอยากให้ลองใช้วิจารญาณในการอ่านด้วยนะครับ เพราะว่าสิ่งที่คุณเขียนคือสิ่งที่คุณคิดว่ามันใช่อย่างนั้น มีมูลความจริง มีครับ นิดนึง - - นอกนั้นออกจะเอาความเข้าใจส่วนตัวมากกว่านะครับ

ใครที่บอกว่าหมดตัว แสดงว่าคุณทำผิดคน ซึ่งขึ้นอยู่ว่าใคร แต่ไม่ใช่แอมเวย์ครับ

 

โดย: - - IP: 203.131.213.40 17 สิงหาคม 2549 16:34:11 น.  

 

เห็นด้วยกะความเห็นของคุณ [r]yuU[y]a[S]hA ครับ แอมเวย์มีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง จุดแข็งน่าจะอยู่ที่คุณภาพสินค้า แต่จุดอ่อนคงอยู่ที่การนำเสนอสินค้าที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอึดอัด ทุกคนมีสิทธิจะเลือกบริโภคสินค้าตามความพึงพอใจ แม้ว่าสินค้านั้นจะไม่ได้ดีที่สุดก็ตาม สำหรับผมเพิ่งเริ่มทดลองใช้สินค้าครับ ยังไม่แน่ใจว่าจะทำธุรกิจนี้ต่อหรือเปล่า

 

โดย: อีกหนึ่งความเห็น IP: 124.121.17.35 17 มกราคม 2551 8:50:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


merf1970
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




Friends' blogs
[Add merf1970's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.