Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2562
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 พฤษภาคม 2562
 
All Blogs
 
My first trip to Lord Buddha's Place Day3; 30 Jan 2019 Jundamarkan บ้านนายจุนทะ

 
บริเวณถนนผ่านทางเข้า บ้านนายจุนทะ            

               เนื่องจากเขียนยาวนานมาก  คนเขียนก็เริ่มลืมเลือน   ขอทบทวนลำดับเหตุการณ์สักหน่อย    ความสามารถในการใส่โค้ดแผนที่ก็ไม่มี    ใครทราบกรุณาหลังไมค์มาบอกจักเป็นพระคุณยิ่งค่ะ     ใช้เป็นภาพถ่ายพยายามแทนก็แล้วกันค่ะ

               ลำดับเหตุการณ์ 3 เดือนก่อนปรินิพพาน    หลังจากพระพุทธองค์รับสวนมะม่วงของ นางคณิกา อัมพปาลี  ในพรรษาสุดท้าย  พระพุทธองค์ได้เสด็จมายังเมืองปาวาล  แคว้นวัชชี   
 
               ทรงปลงอายุสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์  เมืองเวสาลี   ว่าอีก 3 เดือนนับจากนี้ จะเสด็จสู่ปรินิพพาน   และจะไปปรินิพพาน ที่  กรุงกุสินารา   ซึ่งสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเล็ก  แม้พระอานนท์จะทูลขอให้ไปปรินิพพานที่เมืองใหญ่ให้สมพระเกียรติ  ในเมืองใหญ่  เช่น จัมปา สาวัตถี สาเกต โกสัมพี  หรือพาราณสี   แต่พระพุทธองค์กลับเลือกที่จะไปปรินิพพาน ที่ กุสินารา แห่งแคว้นมัลละ

  ด้วยเหตุผล 3 ประการ

1  ในอดีตชาติของพระพุทธองค์  เป็นกษัตริย์นามว่าพระเจ้ามหาสุทัสสนะ ปกครองดินแดนกุสินารา  ในอดีตชื่อ  เมืองกุสาวดี  เป็นเมืองที่มั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์มาก  ไม่เคยว่างเว้นเสียงแม้ในยามกลางวัน กลางคืน  เป็นศูนย์กลาง ระหว่าง แคว้นใหญ่สามแคว้น   เป็นเมืองที่เจริญไม่แพ้ ราชคฤห์  มาบัดนี้เป็นเพียงกิ่งเมือง    มีความเปลี่ยนแปลงไปหมด  เช่นเดียวกับสังขารทั้งหลาย
 2  ที่กุสินารา มีโทณพราหมณ์  ผู้มีความสามารถจะจัดแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ
 3  เพื่อโปรด พระอรหันต์องค์สุดท้ายก่อนปรินิพพาน  คือ สุภัททะปริพาชก  ซึ่งขณะนั้นอยู่ใน กรุงกุสินารา  


 
      
                        การเดินทางในวันนี้ของเรา   จำลองเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระพุทธองค์   จากเวสาลี   ชาวเมืองวัชชี  มีความอาลัยรัก  ส่งเสด็จพระพุทธองค์จนพ้นเขตแคว้นวัชชี   พระพุทธองค์  พระราชทาน บาตร  ให้ชาวเมือง  




ชาวแคว้นวัชชี   เก็บพระบาตร ไว้ที่  สถูป เกสริยา



                      ถนนในรัฐนี้ของอินเดียเดินทางไม่ง่าย  ถนนสองเลน สวนกันไปมา  ทั้งคนและสัตว์และยานพาหนะทุกชนิดมีอิสระเสรีเท่าเทียมกันมาก  

 



                    ไกด์พาเราลงรถ  ที่ตลาดที่อยู่สองข้างถนน  ตลาดที่คึกคัก  มีร้านขายของหลากหลาย  ผู้คนเดินขวักไขว่   เราเดินเข้าไปในซอยเล็กๆ  เพื่อจะไป  บ้านนายจุนทะ  

 

 





เข้ามาถึง ประตูบ้านนายจุนทะ   ล้อมรั้วรอบขอบชิด 
เป็นบริเวณที่ดูแลโดย หน่วยงานโบราณสถานอินเดีย  



                   บริเวณบ้านนายจุนทะ  บุตรนายช่างทอง ที่อยู่ภายในรั้วแห่งนี้   เป็นบริเวณกว้างขวาง    เป็นเนินดินสูง   บ้างว่าเป็นแนวของบ้านนายจุนทะที่หลงเหลือ  บ้างว่า เป็นสถูปที่พระเจ้าอโศกมหาราช สร้างไว้พร้อมเสาอโศก  แต่บัดนี้หลงเหลือเพียงเท่าที่เห็น  เพราะสมัยต่อมาถูกยึดครองด้วยชาวมุสลิม    และปัจจุบันบางส่วนใช้เป็นที่ฝังศพของชาวมุสลิม   จึงพัฒนาขุดค้นได้เพียงเท่าที่เห็น

 
 







                   

                    บ้านนายจุนทะ  เป็นพูนดินสูง  ขอบเขตกว้างขวาง   แต่บางส่วน ถูกครอบครองด้วย ชาวมุสลิม ทำเป็นที่ฝังศพ  จึงไม่ได้รับการขุดค้นทีสมบูรณ์สักเท่าไหร่    ไม่มีภาพสถานที่มากนัก  เพราะใกล้มืดเต็มที  และรูปภาพมีแต่นายแบบนางแบบทั้งนั้น  


 
 
 
บริเวณของมุสลิม อยู่ภายในรั้วบ้านนายจุนทะ 
 
 

 


            ในเมืองปาวานั้น มีมหาอุบาสกท่านหนึ่งชื่อว่า จุนทะ มีสร้อยท้ายนามว่า กัมมารบุตร แปลว่า เป็นลูกนายช่างทอง เป็นผู้ดีมีอันจะกิน และได้ปวารณาตัวเป็นอุบาสกในพระพุทธศาสนามานานแล้ว นายจุนทะยังสร้างวัดอัมพวัน ถวายไว้ในบวรพระพุทธศาสนาเป็นป่ามะม่วงเหมือนป่าของนางอัมพปาลี ซึ่งมะม่วงนั้นในสมัยพุทธกาลถือว่าเป็นผลไม้เลิศรส มีราคาแพง พระเจ้าพิมพิสารถึงกับสั่งห้ามมิให้ใครกินมะม่วงในพระราชอุทยาน ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษถึงตายทีเดียว ดังนั้น ผู้ที่จะมีสวนมะม่วงเป็นของตนเองต้องเป็นระดับมหาเศรษฐี เช่น พระราชา นางอัมพปาลี เป็นต้น พระพุทธองค์เสด็จผ่านมาทางนี้ก็มักจะเสด็จไปรับอาหารบิณฑบาตที่บ้านของนายจุนทะเป็นประจำ ครั้งนี้ก็เช่นกัน

               ครั้นนายจุนทะทราบว่าพระบรมศาสดาเสด็จมาประทับ ณ สวนมะม่วงของตนเองก็ดีใจรีบไปเฝ้า และกราบทูลเชิญเสด็จไปรับอาหารบิณฑบาตในคฤหาสน์ของตนเอง ซึ่งในวันนั้น นายจุนทะได้สั่งทำอาหารชนิดหนึ่งมีชื่อว่า สุกรมัททวะ เมื่อพระบรมศาสดาทรงเห็นสุกรมัททวะแล้ว ทรงมีพระดำรัสสั่งนายจุนทะว่า "จงประเคนเราตถาคตด้วยสุกรมัททวะ ส่วนพระภิกษุสงฆ์องค์อื่นๆ จงประเคนด้วยอาหารอย่างอื่น และจงฝังสุกรมัททวะที่เหลือ อย่าให้ใครกินเป็นอันขาด" ซึ่งในจุนทะก็น้อมรับพระพุทธดำรัส

                 ปรากฏว่า เมื่อพระบรมศาสดาทรงเสวยสุกรมัททวะเข้าไปแล้ว ทรงเกิดพระอาการประชวรในช่องท้องอย่างรุนแรงถึงกับลงพระโลหิต คือถ่ายออกมาเป็นเลือด !

แต่พระพุทธองค์ก็ยังทรงมีพระบัญชาให้ท่านพระอานนท์และพระภิกษุสงฆ์ นำพระองค์เสด็จไปยังพระนครกุสินารา ในเวลาสายของวันนั้น
 

ในระหว่างนั้นพระพุทธองค์ทรงปริวิตกถึงนายจุนทะผู้ถวายสุกรมัทวะ จึงตรัสกับพระอานนท์ว่า..

“ดูกรอานนท์ ! เมื่อเราปรินิพพานไปแล้ว อาจมีผู้กล่าวโทษจุนทะว่าถวายอาหารที่เป็นพิษ จนเป็นเหตุให้เราปรินิพพานหรือมิฉะนั้นจุนทะอาจจะเกิดวิปฏิสารเดือดร้อนใจตัวเองว่า เพราะเสวยสุกรมัทวะ อันตนถวายแล้วพระตถาคตจึงนิพพาน”

“ดูกรอานนท์ ! บิณฑบาตทานที่มีอานิสงส์มาก มีผลไพศาล มีอยู่สองคราวด้วยกัน คือ 

เมื่อนางสุชาดาถวายเราก่อนจะตรัสรู้ครั้งหนึ่ง 

และอีกครั้งหนึ่งที่นายจุนทะถวายนี้ 

ครั้งแรก เสวยอาหารของสุชาดาเป็นเวลาที่ตถาคตถึงซึ่งกิเลสนิพพาน คือ การดับกิเลส 

ครั้งหลัง นี้เสวยอาหารของจุนทะบุตรนายช่างทองก็เป็นเวลาที่เราถึงซึ่ง ขันธนิพพาน คือ ดับขันธ์ อันเป็นวิบากที่เหลืออยู่ 

ถ้าใคร ๆ จะพึงตำหนิจุนทะ เธอพึงกล่าวให้เขาเข้าใจตามนี้ ถ้าจุนทะจะพึงเดือดร้อนใจ เธอพึงกล่าวปลอบใจให้เขาคลายวิตกกังวลเสีย อาหารของจุนทะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายสำหรับเรา”

 




Create Date : 03 พฤษภาคม 2562
Last Update : 3 พฤษภาคม 2562 19:43:38 น. 16 comments
Counter : 1355 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณ**mp5**, คุณเริงฤดีนะ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณวลีลักษณา, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณชีริว, คุณSweet_pills, คุณKavanich96, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณJinnyTent


 
คงต้องกลับไปทบทวนพุทธประวัติอีกครั้ง
เกี่ยวกับเรื่องนายจุนทะ ...

จะด้วยอะไรก็ตาม คิดว่าการตั้งจิตบริสุทธิ์ในการทำบุญก็น่าจะได้บุญ
ไม่คิดเยอะค่ะ อิอิ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:18:36 น.  

 
พระพุทธองค์ รู้อะไรล่วงหน้า มีเมตตาเกรงว่าผู้ถวายอาหารจะ
เดือดร้อน.. พระอานนท์ใช่หรือเปล่าครับที่ว่าเป็น เสมือนเลขา
จดบันทึก คำสอน ข้อห้ามของพระองค์

...

แผนที่ดาวเทียมเมื่อก่อนทำได้ แต่ไม่ได้ทำนานแล้ว ลืมครับ 555
เดือนกว่ามานี้ อากู๋บอกมาว่า จะลบภาพดาวเทียมออกจากบล๊อก
แต่คงจะมีไม่เท่าไรครับ

วันหลังผมเลขใช้วิธีเปิดดูหมุนภาพได้ดี Printsce แล้วเซฟ
ไปตัดให้ได้พอเหมาะแล้ว ค่อยนำลง..


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:21:42 น.  

 
ส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:40:04 น.  

 

ชอบๆชื่นชมศิลปะวัฒนธรรมของอินเดีย
ที่เป็นต้นกำเนิดศิลปะวัฒนธรรมของ Southeast Asia เรา
ได้มาเห็นมาเที่ยวกับบล็อกนี้ยิ่งชื่นใจ
เพราะอยากไป
แต่คงไม่มีโอกาส


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:44:19 น.  

 
คุณเย็นเก็บภาพระหว่างทางได้เยอะเลยค่ะ ชอบภาพแนวนี้ ได้เห็นผู้คน สภาพแวดล้อมด้วย

แผนที่ส่วนมาก ใช้แคปหน้าจอแล้วค่อยเอามาแปะค่ะ

*** เนาะ คุณเย็น ครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:18:23:27 น.  

 
เห็นเปิดภาพแรกมาก อืม
คนไปเที่ยวอินเดียต้องทำใจเรื่องสถานที่ให้มาก
เข้าใจถึงสภาพแวดล้อมและถนนหนทางที่เราจะไปด้วยเนอะ
ถ้ารับความไม่ค่อยสะดวกสบายหรือความสะอาดพวกนี้ไม่ได้
ก็อย่าไปดีกว่า ไปแสวงบุญ อาจได้บุญแบบไม่มีความสุขกลับมา

คุณเย็นและคุณแม่มาความตั้งใจและอดทนเป็นอย่างมากเลย
ถ้าเป็นจิน ๆ ก็สู้นะ ถ้ามีเวลาและสุขภาพพร้อม
คนที่บ้านอนุญาต จินพร้อมลุย แต่คงยาก
5555 บ่นกับคุณเย็นตลอดนิ อย่าเพิ่งเบื่อจินบ่นนะ

อ่านเรื่องนายจุนทะจบแล้ว หดหู่ใจ
เคยได้ยินมาหลายครั้ง แต่จำได้ลางเลือน มาชัดเจน
ตอนอ่านบล็อกคุณเย็นอีกครั้ง

พระพุทธองค์ทรงมีความเมตตาสูงมากนะ
ถึงได้สั่งพระอานนท์คอยปลอบและชี้แจ้งให้คนอื่นเข้าใจ
ถ้าจินเป็นนายจุนทะ ก็ไม่มีทางทำใจได้ เสียใจไปตลอดชีวิตแน่
แม้จะเชื่อมันในกฎแห่งกรรม ถ้าเลือกได้ก็คงไม่อยาก
มีส่วนในเหตุการณ์ที่พระพุทธองค์จะต้องเสด็จดับขันธปรินิพาน

ทริปนี้ของคุณเย็นเก็บรายละเอียดมากเลย

ส่วนที่บล็อกจิน ไม่มีโรงครัวพระราชทานเลยค่ะ
จุดที่เพื่อนไปแจกอาหารตลอดระยะเวลา 9 วันคือ
ศาลาหน้าที่ทำการอำเภอสะเมิง เป็นจุดที่ จนท.ดับไฟป่า
เหยี่ยวไฟ เสือไฟ ต้องมารายงานตัวและส่งตัวแทนมารับอาหาร
ทำกันเองที่บ้าน ซื้อที่ตลาดสดสะเมิงบ้าง แล้วหอบมาแจก

ส่วนหลังสถานการณ์ดีขึ้น งดแจกอาหาร
เงินที่เหลือเพื่อนที่อยู่ป่าไม้แม่ตุงติงลงมาซื้อของที่โลตัส
ในอ.เมือง แล้วนำเอาไปแจกที่ทำการป่าไม้ของแต่ละหน่วย
กระจายหน่วยงานให้ได้มากที่สุดค่ะ



โดย: JinnyTent วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:09:38 น.  

 
วันนี้มาแบบตัวเบา
พรุ่งนี้มาโหวตให้น๊า แปะคนเย็นไว้ก่อน


โดย: JinnyTent วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:10:09 น.  

 
มาชมภาพต่อครับ
บ้านนายจุนทะ นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมา นักแสวงบุญ+พระสงฆ์มาบ้างไหมครับ
สุโขทัย ก็มีสวนมะม่วง ของพ่อขุนรามคำแหง ภายหลังสร้างเป็นวัดป่ามะม่วง



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:23:25 น.  

 
ขอบคุณนะคะคุณเย็น ที่แวะแจมเล่นด้วยกันที่บล็อก

เรื่องอาหารการกิน เป็นสิ่งสำคัญ ร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน

บางคนกินแล้วแพ้ และไม่ดีต่อตัวเอง เรื่องนี้เข้าใจค่ะ

โอเล่ก็แพ้เยอะเลยค่ะ พออายุเริ่มมากขึ้น แพ้ง่ายจริงๆค่ะ

กุ้ง หอยแครง หอยทอด อดหมดเลยค่ะ

วาซาบิก็ไม่กินเหมือนกันค่ะมันเผ็ด

คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ

โอเล่ไปทำบล็อกอัพเล่นต่อพรุ่งนี้ค่ะ บายค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 3 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:31:49 น.  

 
นายจุนทะ .....เคยได้ยินตอนเรียนพุทธแต่จำไม่ได้แล้วว่าทำอะไร มาอ่านบล็อกนี้ได้รื้อฟื้นประวัติศาสตร์ยุคพุทธกาล ^^
พระพุทธเจ้าปรินิพพานที่เมืองเล็กก็ดีนะครับ ได้สถานที่ดึงดูดผู้คนให้หลั่งใหล ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองรอง
หนนี้ได้ออกมาเมืองทุรกันดาร บรรยากาศตื่นตาน่าชมไปอีกแบบ
บ้านนายจุนทะน่าเสียดายที่พื้นที่บางส่วนถูกมุสลิมดัดแปลงไปนะครับ แต่ยังดีที่เหลือของให้ชม


โดย: ชีริว วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:0:40:14 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:2:48:17 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณเย็น

ที่นี่ผมได้ไปด้วยครับ
ยังจำบ้านที่พังๆตรงข้างทางได้เลย
โดห...ยังอยู่ด้วย
ผมถ่ายภาพประตูกับแม่กุญแจของเขามาด้วยครับ
เห็นภาพในบล็อกคุณเย็น
ผมจำได้ทันทีเลย 5555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:39:30 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับคุณเย็น

การศึกษาในปัจจุบัน
กำลังทำร้ายเด็กแบบฝังลึก
เมื่อไหร่ที่เด็กมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเรียนรู้
ผมว่าเด็กคนนั้นจะโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีความสุขในชีวิตครับ

ผมมุ่งหวังในการเรียนรู้
คืออยากเห็นลูกเรียนรู้อย่างมีความสุข
และให้ลูกรู้ว่าโลกของการเรียนรู้ที่แท้จริงอยู่นอกห้องเรียน
ชีวิตจริงอยู่ในผู้คนที่อยู่รอบๆตัว

พ่อแม่คือครูที่สำคัญของลูกจริงๆครับ
ผมอาจไม่ได้ทำหน้าที่ครูให้ใคร
แต่ก็เป็นครูของลูกอยู่ทุกวันครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:12:10:33 น.  

 
เลื่อนดูทีละภาพย้อนไปย้อนมา
พร้อมกับฟังเพลงประกอบไปด้วย
เป็นเพลงที่เพราะมากเลยค่ะ

กดโหวตด้วยความถูกใจ
แล้วปิดหน้าไปเลย 555 ลืมทักทาย

ขอบคุณที่พาชม เส้นทางอันศักดิ์สิทธิ์ค่ะ


โดย: วลีลักษณา วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:19:19:10 น.  

 
เมืองนี้ดูน่ากลัวเหมือนกันนะ เดินทางลำบากด้วย

เมื่อศาสนาหนึ่งๆ เข้ามามีอิทธพลในพื้นที่หนึ่งๆ มันก็ย่อมมีผลกระทบตามมา


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:37:05 น.  

 
แวปมาโหวตให้ค่า
เกือบลืมแน่ะ แฮร่


โดย: JinnyTent วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:54:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mcayenne94
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]




Bangkok

Kyoto

Sydney

Mcayenne94's Diary มีวัตถุประสงค์เพื่อบันทึกเรื่องราวของเจ้าของบ้านและสิ่งแวดล้อม ไม่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการ จัดจำหน่าย ต้นไม้ดอกไม้ หรือสิ่งใด อนุญาตให้นำภาพถ่าย พร้อมชื่อMcayenneผู้ถ่ายภาพไปใช้ประโยชน์ได้ และสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้นำภาพถ่าย Mcayenne ไปใช้ โดยการดัดแปลงตัดต่อหรือลบชื่อภายในภาพ
Friends' blogs
[Add mcayenne94's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.