6 มีค 62 คัดเค้า - Siamese randia
เรื่องราวของดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆ ดอกแรกที่บานในบ้านเรา "คัดเค้า" ฟังชื่อเหมือนตัวละครสักคนในหนังลูกทุ่งย้อนยุค ดอกไม้สีขาวมีมากมายหลายชนิดใครจะไปรู้จักได้หมด หลายปีก่อนไปซื้อต้นไม้คุณป้าเจ้าของร้านชี้ให้ดูต้นคัดเค้ากำลังให้ดอกเต็ม คุ้นๆเหมือนวัชพืชที่บ้านที่ตัดทิ้งบ่อยๆ เพราะรกและหนามเยอะ มีนับสิบต้นขึ้นแซมมาในกอต้นไม้ต่างๆ เป็นต้นเขียวๆใบแหลมเรียวไม่ได้มีอะไรสวยโดดเด่นแถมยังมีหนามยาวราว 1 เซนติเมตรที่แข็งแหลมคมตลอดลำต้น ต่อไปนี้จะลองหยุดตัดและรอดูว่าจะใช่คัดเค้ามั้ย เดือนที่ผ่านมา ต้นเขียว ให้ช่อดอกตุ่มเขียวเล็กๆหลายช่อ นานมากเกือบเดือน ตุ่มเขียวๆเหล่านี้ถึงจะมีทีท่าว่าเริ่มมีขนาดยืดยาวขึ้นบ้าง เรียกว่า ลุ้นนานจนเหนื่อย
แล้วก็ถึงวันที่ ดอกคัดเค้าที่รอคอย คลี่บาน ลูกพี่บอกว่าเหมือนดอกเข็ม ก็ใช่น่ะสิ คัดเค้าอยู่วงศ์เดียวกับดอกเข็ม แต่กลิ่นหอมกินขาดนะ แม้จะมีไม่กี่ช่อ ก็ส่งกลิ่นหอมทั่วบริเวณและหอมแรงอย่างมากในเวลากลางคืน ไม่ว่าจะอยู่กับต้นหรือเมื่อตัดมาปักแจกัน คัดเค้าแรกบานสีขาวสวยงาม เปิดกรุหยิบชุดน้ำชา RA Nacissus สีขาว นอนอยู่ในตู้มาหลายปี มาเข้าฉาก วันนี้เปลี่ยนเป็นขนมฝรั่งบ้างค่ะ
ช่วงนี้ดอกไม้ในสวนกำลังสวยงาม ปีนี้ศรีตรังให้ดอกช่อใหญ่ๆเต็ม โมกหลวงหลังจากทิ้งใบคิดว่าจะตายจากกัน ให้ดอกออกมาเต็มต้น ตัดมาถวายพระด้วยกัน จบเรื่องคัดเค้า ขอให้มีความสุขในการรับชมค่ะ จขบ.เพิ่งฟื้นตัวจากการป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ไปติดโรคมาจากโรงพยาบาลในกทม. อีกครั้ง ยังไม่แข็งแรงดีนัก และมีภารกิจหลายอย่าง ขอขอบคุณและขออภัยเพื่อนๆพี่ๆทุกท่านที่มาเยี่ยมเยียนและฝากข้อความหรือโหวต จะเยี่ยมเยียนตอบแทนเมื่อมีเวลาค่ะ
ภาคผนวก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Oxyceros horridus Lour. Randia siamensis Craib ชื่อวงศ์ : RUBIACEAE ชื่อสามัญ SIAMESE RANDIA ชื่ออื่น : เขี้ยวกระจับ (ภาคใต้) คัดเค้า (เหนือ, ตะวันออกเฉียงเหนือ) คัดเค้าเครือ (นครราชสีมา) คัดเค้าหนาม (ชัยภูมิ) เค็ดเค้า (ภาคเหนือ) จีเค๊า พญาเท้าเอว (กาญจนบุรี) หนามลิดเค้า (เชียงใหม่)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่มหรือไม้พุ่มรอเลื้อย ไม่ผลัดใบ บริเวณข้อมีหนามโค้งแหลมเกิดเป็นคู่ๆ อยู่ตรงกันข้าม ออกจากโคนใบคล้ายเขาควาย ข้อละหนึ่งคู่ เป็นเอกลักษณ์ของคัดเค้าที่จดจำได้ง่าย เรือนยอดไม่เป็นระเบียบ กิ่งก้านหนาแน่นแตกตั้งฉากกันออกตรงข้าม อาจตัดแต่งรูปทรงได้ เปลือกนอกสีเทา มีรูระบายอาอากาศมาก แตกร่องตื้นๆ ตามยาวลำต้น เปลือกในสีขาว
ใบ ใบเดี่ยวออกตรงข้าม รูปใบกลมรีแกมขอบขนาน ปลายใบแหลมทู่ๆ โคนใบมนโค้ง เนื้อใบหนาเกลี้ยง เป็นมัน ขอบใบเรียบ เส้นแขนงใบย่อยไม่ชัดเจน ใบรูปร่างคล้ายใบมะม่วง สีเขียวสด
ดอกสีขาว หอมแรงมากส่งกลิ่นเวลาเย็นตลอดไปจนกลางคืน ดอก ออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่งเป็นช่อกระจุกสั้นๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ 1.5 ซม.โคนคอดเป็นหลอด กลีบรองดอกเป็นรูปถ้วยคล้ายลูกข่างรีๆ ส่วนปลายแยกเป็นอิสระ 5 กลีบ แต่ละกลีบปลายแหลม กลีบดอก 5 กลีบ มีสีขาวเมื่อแรกบาน แล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อแก่
ฝัก/ผล ผลพวง ทรงกลมหรือรี ฉ่ำน้ำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑-๑.๕ เซนติเมตร ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีแดงก้นผลมีแผลเป็นวงกลมสีน้ำตาล ปลายผลแหลม เมื่อผลสุกมีสีดำ ภายในแต่ละผลมีเมล็ดหลายเมล็ด
สรรพคุณ : คัดเค้ามีประโยชน์ทางสมุนไพรแทบทุกส่วนของต้น แพทย์แผนไทยระบุสรรพคุณของดอกคัดเค้า ดังนี้ ราก : รสเย็น ฝาดเล็กน้อย ขับและแก้ไข้เพื่อโลหิต แก้เลือดออกตามไรฟัน ใบ : รสเฝื่อนเมา รักษาโรคโลหิตซ่าน แก้ไข้ ต้น : บำรุงโลหิต เปลือกต้น : แก้เสมหะและโลหิตซ่าน แก้เลือดออกตามทวารทั้ง ๙ เถา : รสฝาด แก้เสมหะ บำรุงโลหิต แก้ไข้ ดอก : รสขมหอม รักษาโลหิตในกองกำเดา ผล : รสฝาดอมเปรี้ยวเป็นยาขับฟอกโลหิตฤดูสตรีที่เน่าร้าย บำรุงโลหิต หนาม : แก้ฝีประคำร้อย แก้พิษฝีต่างๆ ลดไข้ ลดความร้อน แก้พิษไข้กาฬ แก่น : ฝนน้ำดื่ม แก้ไข้ ทั้งต้น : รสเฝื่อนฝาด แก้เสมหะ แก้ไข้ เปลือกต้น รสฝาด ปิดธาตุแก้เสมหะ แก้โลหิตซ่าน วิธีและปริมาณที่ใช้ : ใช้ผล 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว รับประทานวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ขับประจำเดือน
รากของคัดเค้ายังนิยมใช้ต้มกินแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ไข้ แก้ท้องเสีย และนิยมฝนกับน้ำซาวข้าวรักษาฝี รักษาแผลทั่วไปโดยเฉพาะแผลสุนัขกัด หมอยาพื้นบ้านท่านหนึ่งเล่าว่า การใช้รากคัดเค้าฝนกับเขี้ยวเสือรักษาแผลที่ถูกสุนัขกัด จะช่วยรักษาแผลนั้นให้หาย และมีความเชื่อว่าจะทำให้สุนัขตัวที่กัดนั้นถึงแก่ความตาย "มันแพ้กันหมากับเสือ"หมอยาท่านนั้นกล่าว
- ยอดของคัดเค้าที่นิยมรับประทานแกล้มลาบก็เป็นยาแปะรักษาฝีชั้นดี เมื่อเป็นฝีก็จะใช้ยอดคัดเค้าขยี้หรือตำคัดเค้าพอกฝี ก็ทำให้ฝีหายเร็วขึ้น รวมไปถึงหนามคัดเค้าก็เป็นหมอรักษาฝีที่ดีไม่แพ้รากและยอด มีการนำเอาหนามคัดเค้ามาฝนรักษาฝีเช่นเดียวกับการใช้ราก นอกจากการใช้ทาภายนอกแล้วยังมีการต้มคัดเค้าทั้งห้าส่วนรับประทาน เพื่อการรักษาฝีทั้งภายในและภายนอกด้วย
ที่มา https://www.doctor.or.th/article/detail/2171 https://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_26_2.htm https://goo.gl/C3iaq https://www.oknation.net/blog/chabatani/2011/02/28/entry-1 https://www.samunpri.com/herbs/?p=245 https://goo.gl/mCrRK
Create Date : 06 มีนาคม 2562 |
Last Update : 7 มีนาคม 2562 13:14:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2281 Pageviews. |
|
|