Group Blog
 
<<
มีนาคม 2562
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 มีนาคม 2562
 
All Blogs
 
My first trip to Lord Buddha's Place Day2; 29 Jan 2019 Rajgir ; Venuvan



                 หลังจากลงจากเขาคิชฌกูฏ  เราไปต่อ สวน เวฬุวัน Venu van  สวนไผ่ ที่พระเจ้าพิมพิสาร  กษัตริย์แห่งมคธ ถวายพระพุทธเจ้า  เดิมสถานที่แห่งนี้เป็น สวนไผ่ เป็นสวนสถานที่พักผ่อนของพระเจ้าพิมพิสาร   เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร  พระองค์จึงได้ถวายเป็นพุทธบูชา 
 


                 สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญคือ  เป็นวัดแห่งแรกในพุทธศาสนา   และเป็นสถานที่แสดงโอวาทปาติโมกข์  แก่พระภิกษุ 1250 รูป ในวันมาฆบูชา


                            เดิมวัดเวฬุวันเป็นพระราชอุทยานสำหรับเสด็จประพาสของพระเจ้าพิมพิสาร เป็นสวนป่าไผ่ร่มรื่นมีรั้วรอบและกำแพงเข้าออก เวฬุวันมีอีกชื่อหนึ่งปรากฏในพระสูตรว่า "พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน"[4] หรือ "เวฬุวันกลันทกนิวาป" (สวนป่าไผ่สถานที่สำหรับให้เหยื่อแก่กระแต[5] พระเจ้าพิมพิสารได้ถวายพระราชอุทยาน[6]แห่งนี้เป็นวัดในพระพุทธศาสนาหลังจากได้สดับพระธรรมเทศนาอนุปุพพิกถาและจตุราริยสัจจ์[7] ณ พระราชอุทยานลัฏฐิวัน (พระราชอุทยานสวนตาลหนุ่ม) โดยในครั้งนั้นพระองค์ได้บรรลุพระโสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา และหลังจากการถวายกลันทกนิวาปสถานไม่นาน อารามแห่งนี้ก็ได้ใช้เป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์ประชุมจาตุรงคสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา อันเป็นเหตุการณ์สำคัญในวันมาฆบูชา

วัดเวฬุวันหลังการปรินิพพาน 

             หลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน วัดเวฬุวันได้รับการดูแลมาตลอด โดยเฉพาะมูลคันธกุฎีที่มีพระสงฆ์เฝ้าดูแลทำการปัดกวาดเช็ดถูปูลาดอาสนะและปฏิบัติต่อสถานที่ ๆ พระพุทธเจ้าเคยประทับอยู่ทุก ๆ แห่ง เหมือนสมัยที่พระพุทธองค์ทรงพระชนม์ชีพอยู่มิได้ขาด โดยมีการปฏิบัติเช่นนี้ติดต่อกันกว่าพันปี

             แต่จากเหตุการณ์ย้ายเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธหลายครั้งในช่วง พ.ศ. 70 ที่เริ่มจากอำมาตย์และราษฎรพร้อมใจกันถอดกษัตริย์นาคทัสสก์แห่งราชวงศ์ของพระเจ้าพิมพิสารออกจากพระราชบัลลังก์ และยกสุสูนาคอำมาตย์ซึ่งมีเชื้อสายเจ้าลิจฉวีในกรุงเวสาลีแห่งแคว้นวัชชีเก่า ให้เป็นกษัตริย์ตั้งราชวงศ์ใหม่แล้ว พระเจ้าสุสูนาคจึงได้ทำการย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธไปยังเมืองเวสาลีอันเป็นเมืองเดิมของตน และกษัตริย์พระองค์ต่อมาคือพระเจ้ากาลาโศกราช ผู้เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุสูนาค ได้ย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธอีก จากเมืองเวสาลีไปยังเมืองปาตลีบุตร ทำให้เมืองราชคฤห์ถูกลดความสำคัญลงและถูกทิ้งร้าง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้วัดเวฬุวันขาดผู้อุปถัมภ์และถูกทิ้งร้างอย่างสิ้นเชิงในช่วงพันปีถัดมา

             โดยปรากฏหลักฐานบันทึกของหลวงจีนฟาเหียน (Fa-hsien) ที่ได้เข้ามาสืบศาสนาในพุทธภูมิในช่วงปี พ.ศ. 942 - 947 ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าจันทรคุปต์ที่ ๒ (พระเจ้าวิกรมาทิตย์) แห่งราชวงศ์คุปตะ ซึ่งท่านได้บันทึกไว้ว่า เมืองราชคฤห์อยู่ในสภาพปรักหักพัง แต่ยังทันได้เห็นมูลคันธกุฎีวัดเวฬุวันปรากฏอยู่ และยังคงมีพระภิกษุหลายรูปช่วยกันดูแลรักษาปัดกวาดอยู่เป็นประจำ แต่ไม่ปรากฏว่ามีการบันทึกถึงสถานที่เกิดเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตแต่ประการใด

             แต่หลังจากนั้นประมาณ 200 ปี วัดเวฬุวันก็ถูกทิ้งร้างไป ตามบันทึกของพระถังซำจั๋ง (Hiuen-Tsang) ซึ่งได้จาริกมาเมืองราชคฤห์ราวปี พ.ศ. 1300ซึ่งท่านบันทึกไว้แต่เพียงว่า ท่านได้เห็นแต่เพียงซากมูลคันธกุฎีซึ่งมีกำแพงและอิฐล้อมรอบอยู่เท่านั้น (ในสมัยนั้นเมืองราชคฤห์โรยราถึงที่สุดแล้ว พระถังซำจั๋งได้แต่เพียงจดตำแหน่งที่ตั้งทิศทางระยะทางของสถูปและโบราณสถานเก่าแก่อื่น ๆ ในเมืองราชคฤห์ไว้มาก ทำให้เป็นประโยชน์แก่นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีในการค้นหาโบราณสถานต่าง ๆ ในเมืองราชคฤห์ในปัจจุบัน)

จุดแสวงบุญและสภาพของวัดเวฬุวันในปัจจุบัน

                 ปัจจุบันหลังถูกทอดทิ้งเป็นเวลากว่าพันปี และได้รับการบูรณะโดยกองโบราณคดีอินเดียในช่วงที่อินเดียยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ วัดเวฬุวัน ยังคงมีเนินดินโบราณสถานที่ยังไม่ได้ขุดค้นอีกมาก สถานที่สำคัญ ๆ ที่พุทธศาสนิกชนในปัจจุบันนิยมไปนมัสการคือ "พระมูลคันธกุฎี" ที่ปัจจุบันยังไม่ได้ทำการขุดค้น เนื่องจากมีกุโบร์ของชาวมุสลิมสร้างทับไว้ข้างบนเนินดิน, "สระกลันทกนิวาป" ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้ทำการบูรณะใหม่อย่างสวยงาม, และ "ลานจาตุรงคสันนิบาต" อันเป็นลานเล็ก ๆ มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่กลางซุ้ม ลานนี้เป็นจุดสำคัญที่ชาวพุทธนิยมมาทำการเวียนเทียนสักการะ (ลานนี้เป็นลานที่กองโบราณคดีอินเดียสันนิษฐานว่าพระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ในจุดนี้) 

จุดที่เกิดเหตุการณ์สำคัญในวันมาฆบูชา (ลานจาตุรงคสันนิบาต)

             ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตจะเป็นเหตุการณ์สำคัญยิ่งที่เกิดในบริเวณวัดเวฬุวันมหาวิหาร แต่ทว่าไม่ปรากฏรายละเอียดในบันทึกของสมณทูตชาวจีนและในพระไตรปิฎกแต่อย่างใดว่าเหตุการณ์ใหญ่นี้เกิดขึ้น ณ จุดใดของวัดเวฬุวัน รวมทั้งจากการขุดค้นทางโบราณคดีก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการทำเครื่องหมาย (เสาหิน) หรือสถูประบุสถานที่ประชุมจาตุรงคสันนิบาตไว้แต่อย่างใด (ตามปกติแล้วบริเวณที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา มักจะพบสถูปโบราณหรือเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชสร้างหรือปักไว้เพื่อเป็นเครื่องหมายสำคัญสำหรับผู้แสวงบุญ) ทำให้ในปัจจุบันไม่สามารถทราบโดยแน่ชัดว่าเหตุการณ์จาตุรงคสันนิบาตเกิดขึ้นในจุดใดของวัด

ในปัจจุบันกองโบราณคดีอินเดียได้แต่เพียงสันนิษฐานว่า "เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในบริเวณลานด้านทิศตะวันตกของสระกลันทกนิวาป" (โดยสันนิษฐานเอาจากเอกสารหลักฐานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีพระสงฆ์ประชุมกันมากถึงสองพันกว่ารูป และเกิดในช่วงที่พระพุทธองค์พึ่งได้ทรงรับถวายอารามแห่งนี้ การประชุมครั้งนั้นคงยังต้องนั่งประชุมกันตามลานในป่าไผ่ เนื่องจากเสนาสนะหรือโรงธรรมสภาขนาดใหญ่ยังคงไม่ได้สร้างขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันลานด้านทิศตะวันตกของสระกลันทกนิวาป เป็นลานกว้างลานเดียวในบริเวณวัดที่ไม่มีโบราณสถานอื่นตั้งอยู่) โดยได้นำพระพุทธรูปยืนปางประทานพรไปประดิษฐานไว้บริเวณซุ้มเล็ก ๆ กลางลาน และเรียกว่า "ลานจาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าลานจาตุรงคสันนิบาตที่แท้จริงอยู่ในจุดใด และยังคงมีชาวพุทธบางกลุ่มสร้างซุ้มพระพุทธรูปไว้ในบริเวณอื่นของวัดโดยเชื่อว่าจุดที่ตนสร้างนั้นเป็นลานจาตุรงคสันนิบาตที่แท้จริง แต่พุทธศาสนิกชนชาวไทยส่วนใหญ่ก็เชื่อตามข้อสันนิษฐานของกองโบราณคดีอินเดียดังกล่าว โดยนิยมนับถือกันว่าซุ้มพระพุทธรูปกลางลานนี้เป็นจุดสักการะของชาวไทยผู้มาแสวงบุญจุดสำคัญ 1 ใน 2 แห่งของเมืองราชคฤห์ (อีกจุดหนึ่งคือพระมูลคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏ) 
อ้างอิง วิกีพีเดีย
 



 
 
 
 



Create Date : 28 มีนาคม 2562
Last Update : 28 มีนาคม 2562 21:51:08 น. 31 comments
Counter : 1806 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณhaiku, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSweet_pills, คุณRain_sk, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณตะลีกีปัส, คุณtuk-tuk@korat, คุณThe Kop Civil, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณKavanich96, คุณไวน์กับสายน้ำ


 
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ ดีต่อใจจริงๆค่ะ ขอบคุณที่บรรยายและพา

ไปไหว้สักการะคราวนี้ด้วยค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 28 มีนาคม 2562 เวลา:20:56:03 น.  

 
เก็บรายละเอียดดีครับ การที่เราได้ไปเห็นสถานที่จริง และได้เอามาประกอบกับข้อมูลที่เรามี มันก็ทำให้เราเข้าใจอะไรบ้างอย่างมากขึ้น หรืออาจทำให้เราสนใจในสิ่งนั้นๆ มากขึ้นได้เหมือนกัน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:0:08:59 น.  

 
วัดแห่งแรกในพุทธศาสนาและเป็นสถานที่แสดงโอวาทปาติโมกข์
แก่พระภิกษุ 1250 รูปในวันมาฆบูชา
คุณเย็นได้ชมสถานที่จริงน่าปลื้มปิติมากค่ะ

เพราะการบูรณะของกองโบราณคดีอินเดีย
ทำให้วัดเวฬุวันคงสภาพในปัจจุบันไม่ถูกทอดทิ้งนะคะ

ขอบคุณคุณเย็นที่พาชมค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:0:31:24 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับุคณเย็น

ดูจากในรูปที่บล็อกคุณเย็น
ที่นี่ดูสะอาดขึ้นมาก
ตอนที่ผมไปเหมือนเป็นลานดิน
ไม่มีทางเดินที่เป็นปูน
บรรยากาศเงียบสงบดีครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:6:47:52 น.  

 
วัดเวฬุวัน ... ชื่อนี้บ้านเราก็มีหลายวัดเหมือนกันนะคะ
ดูเงียบ สงบ ร่มเย็น สมกับเป็นศาสนสถานที่สำคัญ
มีประวัติยาวนาน ได้ทบทวนพุทธประวัติที่ลางเลือนของเราไปด้วย แหะ ๆ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:9:29:11 น.  

 
ตอนที่ผมไป
เงียบสงบมาก
หลวงพ่อท่านนั่งสมาธิกัน
ผมไม่ได้เดินไปไหนไกลครับ
กลัวเหมือนกันเพราะดูเปลี่ยวๆ 555

ถ้านับสถานที่ที่นั่งแล้วได้สมาธิเร็วและสงบ
ผมชอบอยู่สองสามที่ครับ
แต่ที่นี่ผมไม่ได้นั่งครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:10:43:22 น.  

 
mcayenne94 Travel Blog ดู Blog
มีธงฉัพพรรณรังสีที่วัด และยังมีป่าไผ่ถึงปัจจุบันเลยค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:11:08:08 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

คนไทยได้ไปทะนุบำรุงสถานที่ด้วย
คุณเย็นเป็นพุทธบริษัทที่มีโอกาสดีมากค่ะ
ที่ได้ไปแสวงบุญถึงดินแดนของพุทธศาสดา


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:12:28:18 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ
กาลเวลาเปลี่ยนไปตั้งสองพันห้าร้อยกว่าปี


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 มีนาคม 2562 เวลา:20:16:09 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับคุณเย็น



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มีนาคม 2562 เวลา:6:23:39 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 30 มีนาคม 2562 เวลา:9:17:21 น.  

 
สงบร่มรื่นมากเลยนะคะ.. ขอบคุณมากค่ะ
แบ่งปันภาพให้ได้เห็นสถานที่ที่มีความสำคัญในพระพุทธศาสนา..


โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 30 มีนาคม 2562 เวลา:13:26:47 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับคุณฌย็น

กิ่วแม่ปานเป็นเส้นทางธรรมชาติที่น่าเดินมากๆครับ
แต่ตอนนี้ไม่สามารถไปได้
หมอกควันพิษเยอะเกินมาตราฐานไปไกลลิบเลยครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มีนาคม 2562 เวลา:16:43:56 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะที่แวะที่บล็อก


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 30 มีนาคม 2562 เวลา:23:00:38 น.  

 
ขอบคุณคุณเย็นสำหรับกำลังใจนะคะ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณเย็น



โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มีนาคม 2562 เวลา:23:42:00 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณเย็น



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มีนาคม 2562 เวลา:6:28:00 น.  

 
รอฝนเช่นกันครับ
แต่ที่ได้มาเป็นไฟป่า 555
ที่เชียงดาววันนี้ดูเหมือนจะหนักหนาสาหัสเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มีนาคม 2562 เวลา:21:01:59 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 1 เมษายน 2562 เวลา:1:58:01 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับคุณเย็น




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 เมษายน 2562 เวลา:6:18:20 น.  

 
วิหารพระนอนถ่ายรูปยากค่ะ เพราะแคบ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 1 เมษายน 2562 เวลา:9:35:02 น.  

 
ตรงนี้เองที่เป็นสวนไผ่ เวฬุวรารามแห่งแรกของพุทธศาสนา..

พื้นที่ และบริเวณมีต้นไม้ให้ร่ม คงเหมาะในการให้โอวาทแก่
ภิกษุ 1250 คน..

นั่งอ่านนั่งดูทำให้ผม นึกถึงภิกษูนั่งบนก้อนหิน พืนดินสูงต่ำ
คงจะกระจายไป..ทั้งป่า คงต้องใช้ความสงบมาก จึงจะได้ยิน
พระโอวาทของพระพุทธเจ้า..

....

ผมเคยไปสอบภาคสนาม เดินธุดงค์บนดอยพร้อมกับเพื่อน
อีกเยอะ ลำบากมิใช่น้อยเพราะเจอทั้ง ร้อน ฝน หนาว..
ขณะเดินขึ้นดอยไปตามจุดต่าง ๆ ของดอยอินทนนท์นึกถึง
สมัยพระพุทธเจ้าต้องลำบากมิใช่น้อย

การนั่งสมาธิบนดอยไม่ง่ายเลย ที่นั่งเอียง แข็ง ร้อน กับ
หนาวสลับกันแต่ละวันไม่เหมือนกัน

คุณหมอคงทราบแล้วว่า ที่เหมาะในการเดินจงกรมนั่งสมาธิ
ควรจะเงียบ ไม่ร้อนไม่หนาว ผมว่าเหมาะที่สุดคือ ไทย
ครับ..

ต่างประเทศยังไม่เคยนั่งสมาธิ มัวแต่ไปช๊อบกับหาของกินครับ
555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 เมษายน 2562 เวลา:10:55:29 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับคุณเย็น

อย่างข่าวบันเทิง
เป็นข่าวที่ไม่เกี่ยวกับตัวเรา
แต่คนส่วนใหญ่ก็อยากรู้ที่สุดเลยนะครับ
ผมเองก็ไปรับรู้
จนบางทีมาดามยังแซว
ว่าผมรู้เรื่องดาราบันเทิงมากกว่าเธออีกครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 เมษายน 2562 เวลา:11:37:40 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

เกิดและโตมากับคลองและบ้านริมคลองค่ะ
แต่ไปทำงานและใช้ชีวิตที่อื่น
พอแก่ๆก็หวนกลับมาที่เดิม
คิดถึงคลองค่ะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 1 เมษายน 2562 เวลา:15:25:24 น.  

 
มาเดินเล่นที่นี่บ่อยๆ
ชักอยากจะไปแถวนี้บ้างแล้ว
ก่อนจะเดินเองไม่ไหว แต่ก็คงต้อง
อาศัยปัจจัยอีกหลายอย่าง

เมื่อเช้าเพิ่งบอกน้องต่อว่า
ถ้าจะต้องไปซื้อปัตตาเลี่ยนมาไถขนไอ้นุ้ง
น่าจะง่ายขึ้น ได้แนวร่วมอีกคน
คงสำเร็จการครั้งนี้ละ



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 1 เมษายน 2562 เวลา:17:21:07 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับคุณเย็น



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 เมษายน 2562 เวลา:6:53:43 น.  

 
ขอบคุณค่ะ แวะมาอนุโมทนาบุญอีกรอบ



โดย: หอมกร วันที่: 2 เมษายน 2562 เวลา:9:27:56 น.  

 
ถึงจะไม่มีข้อสรุปแน่ชัด ไม่ได้ทำให้แรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนน้อยลงเลยนะคะ

สาธุ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 2 เมษายน 2562 เวลา:18:56:30 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับคุณเย็น

คำพูดเป็นสิ่งสำคัญจริงๆครับ
บางคำพูดไปไม่คิดอะไร
คนฟังคิดมากก็มี
ผมเคยประสบกับตัวเองมาแล้วครับ
ต้องตามขอโทษกันวุ่นวายเลย 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 เมษายน 2562 เวลา:20:47:05 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณเย็น




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2562 เวลา:6:34:28 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับคุณเย็น



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2562 เวลา:19:05:17 น.  

 
น่าไปมากเลยค่ะ สล็อต


โดย: Losa (สมาชิกหมายเลข 5474569 ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2562 เวลา:17:07:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mcayenne94
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]




Bangkok

Kyoto

Sydney

Mcayenne94's Diary มีวัตถุประสงค์เพื่อบันทึกเรื่องราวของเจ้าของบ้านและสิ่งแวดล้อม ไม่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการ จัดจำหน่าย ต้นไม้ดอกไม้ หรือสิ่งใด อนุญาตให้นำภาพถ่าย พร้อมชื่อMcayenneผู้ถ่ายภาพไปใช้ประโยชน์ได้ และสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้นำภาพถ่าย Mcayenne ไปใช้ โดยการดัดแปลงตัดต่อหรือลบชื่อภายในภาพ
Friends' blogs
[Add mcayenne94's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.