งานสัปดาห์หนังสือและสื่อการศึกษาภาคใต้ ครั้งที่ 7 การอ่านคือหัวใจของการพัฒนาชาติ นี่คือ สโลแกน ของงานสัปดาห์หนังสือและสื่อการศึกษาภาคใต้ ครั้งที่ 7 ค่ะ วันนี้ได้รับใบปลิวเป็น โฆษณา ของงานนี้ ได้มาแล้วก็มาคิดว่าเอ๊ะ งานนี้ มีมา 6 ครั้งแล้วหรือนี่ แล้วก็มานึกได้ว่า อ้อ ครั้งก่อนๆ นี้ฉันก็ไป แต่รู้สึกว่ามันจะเงียบเชียบกว่านี้ หนังสือที่มาลด ก็ ไม่น่าซิ้อ แต่คราวนี้ ดูจาก รายชื่อ สำนักพิมพ์ที่ ร่วมรายการแล้วคิดว่า น่าสนใจ ไม่แพ้ งานที่ศูนย์สิริกิต์ แน่ๆเลยค่ะ เพราะในงานครั้งนี้ มีกิจกรรมบนเวทีที่น่าสนใจเยอะทีเดียว งานครั้งนี้จะจัดในวันที่ 5 - 9 กรกฎาคม 2551 ณ ลานจอดรถ ศูนย์ OTOP นครศรีธรรมราช (เรือนจำเก่า) รายการกิจกรรม บนเวที วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม 2551 10.00 น. เปิดการจำหน่าย 17.30 น.เสวนากับนักเขียน กานติ ณ ศรัทธา ในหัวข้อ "การอ่านคือหัวใจของการพัฒนาชาติ" ขอบันทึกเพิ่มเติมไว้ในนี้เล้วกันค่ะ ฉันได้ไปในวันเสาร์ที่ 5 ค่ะ ก็ไปแล้วรอฟัง คุณกานติ พูด ความจริง ฉัน แค่รู้จักชื่อ ของกานติ ณ ศรัทธา รู้มาว่าเป็นนักเขียนที่เขียนเรื่องสั้น และเป็นกวี ที่ได้รางวัล มาหลายเวที และปัจจุบัน เป็นบรรณาธิการ ของจุลสาร คลื่นวรรณกรรม เมื่อได้เห็น ตัวจริง เป็นๆ ของคุณกานติ ก็รู้สึกว่าอืม ดูไม่เหมือนคนทุ่งสงเลยแฮะ แต่ก็คุยเก่งดีค่ะ ฉันก็เลยไปหาเรื่องสั้นเรื่อง รถไฟชั้นที่ห้า มาอ่าน แต่เมื่ออ่านแล้วก็รู้สึกกลัวนะคะ วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม 2551 17.30 น น้กเขียนหนุ่ม เมืองตรัง วิสุทธิ์ ขาวเนียม เจ้าของ กวีนิพนธ์ "วิหารใบไม้ 18.00 น. เปิดตัวโครงการ YOUNG BLOOD WHRITER วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม 2551 17.00 น. จำลอง ฝั่งชลจิตร "วิถีคิดของเด็กรุ่นใหม่ กับวิกฤตการอ่าน" วันอังคาร ที่ 8 กรกฎาคม 2551 17.00 น. พบกับกวีซีไรท์ ปี 2550 รางวัลยอดเยี่ยม แห่งอาเซียน "มนตรี ศรียงค์" (โลกในดวงตาของข้าพเจ้า) เสวนาเรื่อง "การอ่านคือหัวใจของการพัฒนาชาติ" วันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม 2551 17.00 น. หนังสั้น HOT SHOT FILM 18.00 น. กวีเด่น ดวงแก้ว กัลยา นักเขียนหญิง กับจุดเริ่มต้น ในเส้นทางนักเขียน "ร่วมเลือกซื้อหนังสือคุณภาพดี นับล้านเล่ม ลดพลีชีพ 20 -90 %" แล้วพบกันค่ะ Free TextEditor   Create Date : 02 กรกฎาคม 2551 13 comments Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 13:10:12 น. Counter : 780 Pageviews. Share Tweet

ดีจัง คนภูมิภาคจะได้มีงานพบปะสังสรรค์   โดย: Boyne Byron 2 กรกฎาคม 2551 18:52:39 น.

ชักจะอิจฉาคุณเพ็ญแล้วซีคะ ปีนี้ ได้ไปงานหนังสือสองครั้งแล้วเนี่ย แถวนี้ไม่มีมาจัดบ้างเลย   โดย: BUATALAY IP: 203.156.39.175 4 กรกฎาคม 2551 16:32:00 น.

มาอ่านค่ะ แต่ไปไม่ได้ อิจฉาๆ   โดย: แม่น้องนิก IP: 216.244.8.235 4 กรกฎาคม 2551 23:10:58 น.

โอ้ย ทำไมรูปถึงโตเชียว พยายามลดขนาดแล้วไม่ได้ผล สวัสดีค่ะ ก็ถือว่าเป็นงานที่ดีนะคะ แต่ความจริง ในจังหวัดนครศรีฯ มีนักคิดนักเขียน เยอะมากทีเดียว แต่เวลาจัดงานก็จัดในกลุ่มเล็กๆ และจัดในเวลาราชการทำให้มีผู้ร่วมงานน้อย ครั้งนี้ก็ถือว่าดีมาก เพ็ญไปมา เมื่อวันเสาร์ ที่ 5 คุณบัวถ้า ร้านหนังสือที่มาลด ก็กลุ่มเดียวกับเมื่อตอนเดือนกุมภา ที่เพ็ญ เจอหนังสือพี่ปะการัง ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี แต่คราวนี้ เสียเงินไม่เยอะ เพราะ ไม่ค่อยเจอหนังสือที่ถูกใจ ได้พวกสารคดี มา 3 เล่ม รวม 216 บาทเอง แม่น้องนิกค่ะ เพ็ญเคยอ่านสารคดีที่แนะนำงานหนังสือ ที่อเมริกา แต่จำไม่ได้ว่ารัฐไหน เขาจัดได้ยิ่งใหญ่มากเลย กลางแจ้ง ดูแล้ว น่าจะใหญ่กว่า สนามหลวงอีกค่ะ   โดย: เพ็ญ (PenKa ) 8 กรกฎาคม 2551 15:14:20 น.

คุณเพ็ญคะ เรื่องหนังสือของอเมริกาอ่ะ เป็นเรื่องปกติของเค้าล่ะค่ะที่จะสนับสนุนให้เด็กรักการอ่าน ที่โรงเรียน บริษัทจำหน่ายหนังสือ เค้าจะมีคอนแท๊คกับโรงเรียนด้วยการที่ ถ้าเด็กสั่งซื้อหนังสือของบริษัทนี้ ก็จะมีส่วนลดตามราคาที่แปะไว้ และไม่เสียภาษี ส่วนครูก็จะได้เปอร์เซ็นต์จากการสั่งซื้อของเด็กในห้อง ด้วยการสั่งหนังสือฟรีเช่นกันค่ะ ก็เท่ากับว่า ห้องเรียนนั้นจะได้หนังสือฟรีให้เด็กอ่าน ที่เมืองไทยคงไม่มีการบริการแบบนี้ น่าเสียดายค่ะ มันเป็นการส่งเสริมให้เด็กรักการอ่านและบริษัทขายหนังสือก็อยู่ได้ รวมถึงโรงเรียนก็มีหนังสือให้เด็กอ่านฟรี   โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.79.152 9 กรกฎาคม 2551 22:38:18 น.

ถ้ามีเวลา อยากให้แวะมาที่บล๊อกร้านหนังสือมือสองของเรามั่งจ้า มีหนังสือนิยายต่างประเทศเยอะมากๆจ้า ที่สำคัญเราขายหนังสือนิยายปกแข็งถูกมากๆ ร้านเค้าอยู่ที่ชั้น 3 โซนดีเดย์มาเก็ตของห้างเสรีเซ็นเตอร์ค่ะ หนังสือดีๆเยอะมาก ส่งต่างจังหวัดด้วยค่ะ สนใจติดต่อที่เว็บได้จ้า   โดย: หนังสือมือสอง (AngelTomorrow ) 13 กรกฎาคม 2551 6:09:43 น.

สวัสดีค่ะ แม่น้องนิก เพ็ญ พยายามนึกค่ะ รู้สึกว่าที่โรงเรียนมีร้านหนังสือ ที่มาติดต่อกับโรงเรียนมาขายหนังสือแต่ก็ลดราคาไม่มากและอย่างที่แม่น้องนิกพอจะรู้ว่าหนังสือ ในเมืองไทยแพงนะคะ เปิดเทอมครั้งนึง ค่าหนังสือก็เป็นรายจ่ายที่สูงมากยิ่งโรงเรียน ใช้เป็นแบบฝึกหัด ก็ต้องซื้อของใหม่ตลอด   โดย: PenKa 14 กรกฎาคม 2551 12:49:20 น.

สวัสดีครับครูเพ็ญ นักอ่านคนขยัน ดรงเรียนนั้นถือว่าเป็นจุดที่เริ่มต้นให้รักการอ่านเป็นอย่างดี ครูที่รักการอ่านย่อมทำให้เด็กนักเรียนรักการอ่านไปด้วย ครูเพ็ญคงทำให้เด็กรักการอ่านไม่ใช่น้อย   โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.18.43 16 กรกฎาคม 2551 6:13:41 น.

เห็นด้วยกับพ่อพเยียจ๊ะ ดีใจจังที่มีครูเช่นครูเพ็ญ   โดย: แพรจารุ 16 กรกฎาคม 2551 20:40:51 น.

สวัสดีค่ะน้องเพ็ญ พี่แวะมาหา น้องเพนสบายดีรึเปล่าค่ะ   โดย: แม่น้องKevin and Jasmin 18 กรกฎาคม 2551 14:22:00 น.

ไม่อยากจะเปรียบเทียบเลยจริงๆครูเพ็ญ ที่เมืองนอกเราเสียภาษีแพงแต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาก็คือ ลูกเรียนฟรี จนเกรด 12 หนังสือ สมุด ดินสอ ทุกอย่างฟรีทุกรายการ อ้อ เว้นแต่เด็กมัธยมคงต้องซื้อสมุดเองค่ะ แต่หนังสือฟรี เขาใช้แบบเรียนเดิมส่งผ่านกันทุกรุ่น เมืองไทยเรา เสียภาษีแล้วก็ยังต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์ทุกอย่าง น่าเห็นใจผู้ปกครองค่ะ ข้อดีของฝรั่งอีกอย่างคือเขาก็ใส่ยูนิฟอร์ม แต่ไม่เจาะจงว่าต้องเป็นแบบไหน ขอเพียงแค่เสื้อสีขาวหรือสีฟ้า กางเกงน้ำเงินหรือดำ จะสั้นหรือยาวมันก็แล้วแต่ฤดูค่ะ ยิ่งฤดูหนาวนี่ สีสรรของเสื้อกันหนาวบาดตาเลย   โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.105.34 19 กรกฎาคม 2551 10:19:29 น.

ขอบคุณพี่โดม และพี่แพรค่ะ ที่เป็นคนเขียนให้คนอ่านได้รับรู้ในสิ่งทีดี เป็นประโยชน์ เพ็ญก็เป็นส่วนเล็กๆ ที่รู้ตัวว่า มีความสุขกับอ่านและที่มีทุกวันนี้ก็เพราะมีหนังสือเป็นเพื่อน ก็พยายามนะคะ ให้นักเรียน รักการอ่าน ที่จะได้ช่วยกันพัฒนาชาติ ไม่ให้ใครมาจูงจมูกได้ แม่น้องนิกค่ะ เมืองไทย การศึกษาเป็นการลงทุนที่แพงมากสำหรับชาวบ้าน เพราะคำว่าเรียนฟรีไม่เคยเป็นจริงได้เลยในเมืองไทย อย่างเงินอุดหนุน ที่รัฐ จัดให้ ม.ปลายคนละ 3800 บาทต่อคนต่อปี จนป่านนี้ เรียนมาครึ่งเทอมแล้วโรงเรียนยังไม่ได้งบประมาณมาเลยค่ะ แต่โรงเรียนก็เก็บเงินส่วนที่เก็บเพิ่มได้มาแล้วนะคะ เก็บเงินแต่ละที สงสารผู้ปกครองค่ะ พี่หยีค่ะ ขอบคุณค่ะไว้จะตามไปดูดอกไม้ที่บล็อกนะคะ   โดย: เพ็ญ IP: 202.129.48.36 19 กรกฎาคม 2551 13:39:26 น.

นั่นสินะคะ คุณเพ็ญ เมื่อไหร่ๆ บทหนักเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนของเมืองไทยเราก็ตกหนักอยุ่ที่ผู้ปกครอง แล้วตำราเรียนก็เปลี่ยนได้เปลี่ยนดี (รึเปล่าก็ไม่รู้) เกือบทุกปีเลยมังคะ วันๆ ก็ให้ขนหนังสือมหาศาลไปโรงเรียน หลานสาวตอนนี้แทบจะแบกกระเป๋าหนังสือไม่ไหวแล้วค่ะ แค่ ป. 4 เองนะนี่   โดย: BUATALAY IP: 203.156.38.21 21 กรกฎาคม 2551 11:20:10 น.