กุมภาพันธ์ 2553

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
All Blog
(◕‿◕✿) My Wedding Jingel bell @ลาสเวกัสจ้า
วันนี้อีป้าขอเกริ่นไว้ก่อนว่า งดฮาหนึ่งวันนะ ไม่ใช่เพราะว่าต่อมฮาอักเสบหรื
ออะไร แต่เพราะว่าวันนี้อีป้าจะเล่าเรื่องสุขสันต์วันวิวาห์ที่อีป้ารอคอยมานานแสน นานนนน คนคิดว่าจะขึ้นคานซะแล้ว ในที่สุดก็ได้แต่งกับเค้าซะที เฮ้อ !!!


ก่อนจะเล่าแล้วก็โชว์รูป ก็ขอเกริ่นเล็กน้อยนะ ว่าไปไงมาไง อีป้าถึงได้มาแต่งงานเป็นผัวเมียกับลุง เดี๋ยวแฟนบล๊อกอีป้าหน้าใหม่ๆ เค้าจะไม่เข้าใจกันว่าเอ๊ะทำไมอีนี่จู่ๆ ก็มาแต่งงานได้ยังไง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีผู้ชายญี่ปุ่นคนหนึ่งเคยบอกกับอีป้าว่า "สักวันหนึ่งเราจะไปแต่งงานที่ลาสเวกัส โรงแรมเบลาจิโอนะ" ทำให้อีป้าฝังหัวเรื่อยมา ว่าสักวันหนึ่งอีป้าจะต้องได้ไปแต่งงานที่ลาสเวกัสแหงมๆ แต่จนบัดนี้ ก็ไม่มีวี่แววของไอ้หนุ่มญี่ปุ่นคนนั้น ที่จะพาอีป้าไปแต่งงานที่ลาสเวกัสเลย อีป้าเองก็ไม่เคยคิดเคยฝันด้วยซ้ำไป ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต อีป้าจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาแห่งนี้ มันก็จริงที่อีป้าชอบไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ส่วนมากก็แถบเอเซีย เพราะว่ามีกำลังทรัพย์แค่นั้นจริงๆ เรียกได้ว่าไม่เคยออกนอกทวีปเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยาก แต่ไม่มีปัญญาจริงๆ 555 จนเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา อีป้าก็ได้ออกนอกทวีปไปเยือนกาฬทวีป หรือที่เขาเรียกกันว่า "แอฟริกา" ไปพบกับลุง (-_-") (ฟังแล้วไม่โรแมนติคเลย) อือ...เปลี่ยนใหม่ ไปพบกับหนุ่มใหญ่ ใหญ่ทั้งตัว อิๆๆๆ สมาร์ท มาดแมน แสนเทห์ ตรงกับคอนเซ็ปผู้ชายในฝันของอีป้าเรย นั่นก็คือ ต้องล่ำบึ้ก ถึก ควาย (-_-") 55555 (นั่นฟังแล้วยิ่งไม่โรแมนติคเข้าไปใหญ่เลยเนอะ)

หลังจากการพบกันครั้งนั้น กลับมาไทย อีป้าก็ได้เริ่มอาชีพล่ามฟรีแลนซ์ โดยชีวิตประจำวันของอีป้า วันไหนไปทำงานก็คือ ทำงานครึ่งวัน (แต่ได้ตังค์เต็มวันนะ วันละ 6,500 บาท ) บางวันไปทำบ. อื่นๆ ก็จะได้ 3,000 บ้าง 4,000 บ้าง 5,000 บ้าง ต่ำสุดก็ 1,500 (ทำชั่วโมงนึง) จะกี่บาทอีป้าก็เอาหมด คิดเงินตามเวลา อาทิตย์นึงก็ทำงานประมาณ 2 - 3 วัน โดยเฉลี่ย สูงสุด 5 วัน ต่อสัปดาห์ วันไหนไม่ทำงานกิจกรรมของอีป้าก็คือ ตื่นเช้ามาแชทกับลุง กลางคืนก่อนนอนแชทกับลุง แชทกันแบบนี้วันละประมาณ 6 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ผลที่ตามมาก็คือ การเดินเรื่องวีซ่าคู่หมั้น และเดือนพค. ลุงมาหมั้นอีป้าที่ไทย แล้วหลังจากที่อีป้าได้วีซ่าคู่หมั้นแล้ว อีป้าก็ไปหาลุงที่แทนซาเนีย ใช้ชีวิตกับลุงในโรงแรมประมาณ เดือนกว่าๆ อีก 2 สัปดาห์อยู่ในป่า ในแค้มป์ล่าสัตว์ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีมีคุณค่<า อย่างที่ชีวิตนี้อีป้าไม่รู้จะหาที่ไหนได้อีกแล้ว

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าคนที่เป็นเมียฝรั่งก็จะมีชีวิตหรูหรา อลังการดาวล้านดวงกันทุกคน แต่ไม่ใช่หรอก อีป้าไม่ได้อยากจะมีชีวิตหะรูหะราอะไรมากมาย สิ่งหนึ่งนอกเหนือจากความรักแล้ว ก็คือ ชีวิตที่สนุกสนาน และได้ผจญภัย ได้ไปในหลาย ๆ ประเทศ นั่นแหละที่เป็นจุดขายของลุงที่โดนใจอีป้าอย่างแรง อีป้าไม่ได้อยากจะเป็นแค่แม่บ้าน ที่สามีร่ำรวย วันๆ เอาแต่เดินห้างช้อปปิ้งของแบรนด์เนมหรอก นั่นมันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงนะ ที่วันๆ ผัวเอาแต่ทำงานงกๆ เมียเดินเล่นห้างช้อปปิ้งคนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจ แต่อีป้าดีใจที่ได้แต่งงานกับลุงก็เพราะว่า ในหนึ่งปีมี 365 วันนั้น ลุงจะทำงานเต็มที่ประมาณ 2 - 3 เดือนตอนไปแอฟริกาเท่านั้น ที่เหลือก็คือ อยู่บ้าน เป็นเพื่อนเล่นกับอีป้า หุงหาอาหารให้อีป้ากิน พาอีป้าเที่ยวไปวันๆ เรียกว่าตลอด 24 ชม. ได้เห็นหน้ากันเกือบตลอดเวลา ยกเว้นเวลาอีป้าไปขรี้ (-_-") เท่านั้น ที่ลุงจะไม่ตามเข้าไป 5555 (ขอโทษๆ กะว่าจะจะไม่อุบาทว์แล้วเชียว แต่อ่านบล๊อกนี้ต้องทำใจนิดนุงนะ เพราะคนเขียนมันบร้า

หลังจากอีป้าเข้าเมกามาตั้งแต่เดือนพย. ตอนแรกอีป้าก็ไม่ได้ทำไรเลย เที่ยวเล่น กินนอนไปวันๆ จนใกล้เดือนมค. ลุงสั่งให้อีป้าเซิจหาแพ๊คเกจแต่งงาน อีป้าก็เซิจหาแพ๊คเกจแต่งงาน ได้โบสถ์ La bella (ภาษาอิตาเลียนแปลว่า งามแต๊ๆ (ช่างเหมาะกับอีป้าจริงๆ เรย กร๊าก)) ตั้งอยู่ที่รร. ฮิลตั้น เมืองลาสเวกัส โดยราคาแพ๊คเกจคิดเป็นเงินไทยคือ 9000 บาท โบสถ์นี้มีไฮไลต์ที่ว่า ไมค์ ไทสัน (นักมวย) เคยมาแต่งงานที่นี่ คนทำพิธีก็เป็นคนเดียวกับที่ทำให้ไมค์ ไทสันเลยนะจะบอกให้ อีป้าเลือกแพ๊คเกจนี้ก็เพราะมันถูกและมีครบทุกอย่าง (ไม่ได้เลือกเพราะไมค์ ไทสันหรอก) แพ๊คเกจถูกกว่านี้ก็มีแต่มันไม่ให้รูปถ่ายในโบสถ์ทั้งหมด ต้องมาซื้อรูปเพิ่มทีหลัง และไม่มีลิมูซีน หลังจากได้วันเรียบร้อย ลุงก็โทรไปจองตั๋วเครื่องบิน หมดไปสองหมื่นกว่าบาท ค่าตั๋วไปกลับ และที่พักรร. มิราจ

อีป้าออกเดินทางด้วยเครื่องบินตอนเช้า ถึงลาสเวกัสตอนเที่ยง บินตรงจากเมืองด่วนถึงลาสเวกัส และนั่งรถ shuttle bus ไปเช็คอินที่โรงแรมมิราจ หลังจากพักผ่อนสักครู่ อีป้าก็รีบโทรไปหาร้านเช่าชุดแต่งงาน ตามที่คนขายแพ๊คเกจแต่งงานแนะนำมา ชีก็เอาชุดมาให้ลองที่ห้อง ลองชุดและะตกลงจ่ายเงินเรียบร้อย หมดค่าเสียหายไปราวๆ 15,000 บาท (จริงๆ แล้วซื้อชุดไปเลยจะถูกกว่านี้มากมาย แต่ไอ้ลุงบร้าบอกว่า หลังจากนั้นเราจะเอาชุดไปทำอะไรกันล่ะ? อีป้าก็เห็นด้วย เพราะที่อีป้าร่ำเรียนมาจากวงการอุตสาหกรรม ที่อีป้าไปทำงานเป็นกรรมกร ใช้ปาก (เป็นล่าม) หากิน เขาสอนไว้ว่า การเก็บสต๊อกของที่ไม่ได้ใช้นั้นมันเป็นต้นทุนอย่างนึง อีป้าก็เลยเลิกเสียดายที่ไม่ได้ ซื้อชุดแต่งงานมาเก็บให้มันเก่าเล่นๆ หลังแต่งงาน) หลังจากนั้นอีป้าก็ให้ลุงโทรไปที่สำนักงานทะเบียนสมรส เพื่อขอใบอนุญาตแต่งงาน แล้วก็นั่งแท๊กซี่ไป ใช้เวลาขอใบอนุญาตแต่งงาน 15 นาที ก็ได้ใบอนุญาตมา มีเสียค่าธรรมเนียมด้วยนะ แต่อีป้าจำไม่ได้ ว่ากี่เหรียญ แต่ไม่แพงหรอก

หลังจากนั้นแท๊กซี่ก็พาอีป้ากับลุงไปกินอาหารไทยที่ร้านกรุงสยาม ใกล้ๆ กับไชน่าทาวน์ อาหารอร่อยมาก พนักงานเสริฟ ตลอดจนเจ้าของร้านเป็นคนไทยหมดเลย อีป้าละดีใจ๊ดีใจ แต่อีป้าเบื่อลุงเล็กน้อย ที่ชอบยุยงให้อีป้าไปคุยกับเด็กเสริฟท์อยู่นั่นแหละ อีป้าไม่ได้รังเกียจเด็กเสริฟท์นะ เด็กเสริฟท์ที่นี่ก็เป็นนักเรียนทุนบ้าง เป็นลูกคนรวยที่ไทยที่พ่อแม่ส่งมาเรียนนั่นแหละ แต่ที่อีป้าเบื่อลุงก็คือ ทีคนที่เพื่อนอีป้าแนะนำให้รู้จัก จะมาเจออีป้าลุงก็ทำยึกยัก ทีน้องที่เค้าอ่านบล๊อกอีป้าแล้วอยู่เมืองเดียวกะอีป้า อีป้าอยากไปเจอเค้าไปผูกมิตรกะเค้า ลุงก็ทำยึกยัก ไม่ยอมพาอีป้าไปอยู่นั่นแหละ ไม่เข้าใจจริงๆ เลยเว้ย เหตุผลของลุงก็คือ ถ้าลุงพาอีป้าไปเจอเพื่อนคนไทยแล้วอีป้าจะเอาแต่เม้าท์แตกภาษาไทย แล้วไม่มีใครพูดกับลุงนั่นเอง แหม ! ทีอีป้าไปเจอเพื่อนฝรั่งของลุง ส่วนมากอีป้าก็ได้แต่นั่งฟังแล้วก็ พยักเพยิดว่า oh good ! oh no ! oh yes! (อย่าคิดว่าเมียฝรั่งทุกคนเค้าจะพูดได้แค่นี้เหมือนอีป้าล่ะ) อีป้าน่ะทำเป็นตั้งใจฟังไปงั้นแหละ แท้จริงสุดเซ็ง แกล้งทำเป็นเอ็นจอยมากมาย เวลาลุงเม้าท์แตกกับเพื่อนเรื่องล่าสัตว์ เรื่องธุรกิจ ธุรการน่ะ แท้จริงเซ็งโคดดด

ต่อด้วยเรื่องแต่งงานกันดีกว่านะ วันรุ่งขึ้นด้วยความที่ลุงติดกาแฟ เช้าตรู่ลุงลากอีป้าเดินลงไปข้างล่าง ข้ามถนนไปกินกาแฟกับมัฟฟินที่แมคโดนัลด์ พอตอนเที่ยงกินข้าวกลางวันเสร็จก็แต่งตัว อีป้าแต่งหน้าทำผมเองเสร็จก่อนลุงซะอีก ขนาดว่าชุดอีป้าต้องมีคนช่วยใส่นะนั่น อีป้าก็ยังสามารถใส่เองได้อย่างชำนาญ (ดีที่ลุงไม่คิดว่าอีป้าผ่านการแต่งงานมาแร้วนะเนี่ย เพราะดูจะคล่องซะเหลือเกิน) อีป้าแต่งตัวเสร็จก่อนที่ลุงจะทำผม ถอนหนวด ถอนขนคิ้ว ทำไรอีกสารพัด กว่าจะเสร็จ ลุงเห็นอีป้าแต่งตัวเสร็จก็บ่นอีป้าอีกว่า "เธอน่าจะช่วยชั้นแต่งตัวให้เสร็จก่อนนะ" (-_-") อะไรฟระเนี่ย ตรูมีแฟนเป็นนายแบบตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ลุงใส่เสื้อกั๊กเองก็ไม่เป็น ปรับเอวกางเกงเองก็ไม่ได้วุ้ย อีป้าเลยต้องมาช่วยลุงใส่ ประมาณ 4 โมงเย็น คนขับรถลิมูซีนก็โทรมา บอกให้เราลงไปประมาณสี่โมงครึ่ง (พิธีเริ่มห้าโมงเย็น)

ตอนอีป้ากับลุงเดินลงมาในชุดเจ้าสาวกับทักซิโด้ พอขึ้นลิฟท์ก็มีคนบอก congratulation ตลอด เดินผ่านคาสิโนก็มีคนตะโกน Congratulation ตลอดทาง น่าประทับใจจัง หลังจากขึ้นลิมูซีนไปถึงรร. ฮิลตั้น คนขับพาเราไปส่งที่โบสถ์เล็ก สำหรับทำพิธี มีคู่แต่งงานอีกคู่ยังไม่เสร็จพิธี เพราะเขามีแขกมาเยอะ ก็เลยต้องถ่ายรูปกันนาน อีป้ากับลุงเดินไปรอที่ห้องแต่งตัว ลุงไปจ่ายค่าคนทำพิธีอีก พันกว่าบาท (ไม่เข้าใจเหมือนกัน ในเอกสารเขาระบุว่าเป็นค่าทิป แต่ระบุราคามาเสร็จเลยนะ) พิธีใช้เวลาประมาณสิบห้านาที คนทำพิธีพูดอะไรยืดยาวมาก เป็นข้อคิด คำสอนจากคัมภีร์ไบเบิ้ลน่ะ (ลุงบอก) แล้วก็ให้ลุงพูดตาม ให้อีป้าพูดตาม อีป้าพูดผิดๆ ถูก ๆ เพราะฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ตอนท้ายๆ ก็เหมือนพิธีแต่งงานในหนังฝรั่งทั่วไป ที่เขาจะบอกว่า จะรักและซื่อสัตย์กับสามี ไม่ว่าจะรวย หรือ จน แข็งแรง หรือเจ็บไข้ ดี หรือร้าย และต่อจากนี้ ขอประกาศให้คุณเป็นสามีภรรยากัน.. อีป้าฟังออกเท่านี้แหละ พอประกาศว่า and now pronouced you husband and wife แค่นี้ก็เสร็จแร้วพิธี อิๆๆๆ แล้วก็จุ๊บๆ กัน ถ่ายรูปอีกเล็กน้อย เสร็จเร็วมากมาย เพราะว่าไปแต่งกันสองคน

หลังงานแต่งงาน รถลิมูซีนขับพามาส่งที่มิราจ ตอนหกโมง ลุงให้อีป้าโทรไปจองดินเนอร์ที่ร้าน Stack เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ บรรยากาศโรแมนคิค ตอนทุ่มนึง ลุงพาอีป้าไปถึงที่ร้าน กินอาหารเย็นเป็นล๊อบสเตอร์กับอาธีโชค (อาธีโชคเป็นผักน่ะ ถ้าใครไม่รู้จักก็จงไปเล่นเกมส์ Farmville ใน Facebook นะ แล้วจะรู้ แต่อีป้ารู้จักจากการอ่านหนังสือการ์ตูนเรื่อง "พ่อครัวสูตรชุลมุน" ของสนพ. วิบูลกิจย์น่ะ เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับร้านอาหารอิตาเลี่ยน) อาหารอร่อยมากกกกกก !!! ได้แชมเปญฟรีด้วยแหละ อย่างที่ลุงบอกจริงๆ ว่าถ้าใส่ชุดแต่งงานไปกินข้าวหรือเดินเข้าร้านไหน ก็จะได้สิทธิพิเศษ ไม่ใช่แค่นั้นนะ หลังจากกินข้าวเรียบร้อย ลุงพาอีป้าไปเดินเล่นถ่ายรูปหน้าโรงแรม ก็มีคนเอาบัตรดูโชว์ฟรีมาให้ แล้วก็บอกว่าจะถ่ายรูปให้ เดินไปไหนก็มีแต่คนเอาใจง่ะ เขิลล จริงๆ เว้ย ตอนอีป้าเดินออกจากร้านอาหารหลังดินเนอร์ ยังมีคุณยายคนนึงเดินตามหลังมา มาคุยกับลุง อีป้าก็คิดว่าเค้ารู้จักลุงอีกแน่ะ แต่เปล่าหรอก คุณยายบอกถามลุงว่า "อีป้าคนนั้นชื่ออะไรเหรอลุง?" (-_-") แล้วคุณยายก็เดินมาหาอีป้า จับมืออีป้าสองมือ แล้วบอกอีป้าว่า "Congratulation!" แหม น่ารักจริงๆ เลยง่ะ ช่างเป็นคืนวันที่มีความสุข มันคงจะไม่ได้มีกันบ่อยๆ หรอกเนอะ วันที่เรารู้สึกว่าวันนั้นเป็นวันของเรา

การแต่งงานเงียบๆ แบบนี้ก็ดีนะ ถ้าถามว่าอีป้าอยากมีแขกไปไหม ก็ไม่ได้อยากหรอก แล้วอีป้าก็เป็นคนที่คิดอะไรไม่เหมือนใคร ชอบอะไรไม่เหมือนใครอยู่แล้วด้วย อีป้าบอกตามตรงว่าชอบ ที่ได้มาแต่งงานที่ลาสเวกัสแบบนี้ มากกว่าจัดงานแต่งงานใหญ่โตในโรงแรมที่ไทย แล้วก็เชิญแขกที่รู้จักทุกคนมาซะอีกนะ มันถูกกับนิสัยขี้งกของอีป้าจริงๆ เล๊ย ! อิๆ ลุงก็มีนิสัยแบบเดียวกัน คือ ว่าถ้าต้องจัดงานแล้วเสียเงินค่ากินเลี้ยงเลี้ยงคนอื่นเยอะๆ สู้เอาเงินมากินมาเที่ยวกันสองคนจะดีกว่า (ถึงคนอื่นจะบอกอีป้าว่าจัดแบบนั้นจะเก็บซองได้เยอะทีหลังก็เหอะ) แล้วก็มีคนบอกอีป้าอีกนะ ว่าแต่งกัน 2 คนแล้วจะแต่งไปทำไม การแต่งงานเขาทำไปเพื่อให้มีสักขีพยาน ประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าสองคนนี้เป็นผัวเมียกันแร้วนะ อีป้าก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่เคยอ่านในหนังสือง่ะ เขาว่ากันว่าสมัยก่อนแค่คนเป็นแฟนกัน (ในยุโรปมั้ง) เค้าก็ต้องไปโบสถ์ ไปบอกบาทหลวง บอกกับพระเจ้าว่า เป็นแฟนกันแล้วนะ ในหนังสือนั้นยังบอกอีกแน่ะว่า สมัยนี้คนให้ความสำคัญกับพิธีการแบบนั้นน้อยลง อีป้าก็ดีใจนะ ที่จริงตอนลุงไปหมั้นที่ไทยไปเจอพ่อแม่และญาติๆ อีป้า อีป้าก็ดีใจ และถือว่าลุงได้ทำตามพิธีแบบไทยๆ เพื่อให้เห็นแก่หน้าพ่อแม่อีป้าแล้ว จริงๆ ไม่ต้องพาอีป้ามาแต่งงานที่นี่อีกก็ได้ พาไปจดทะเบียนที่ Court house เฉยๆ เหมือนคนอื่นเค้าก็ได้นะ แต่ลุงกลับบอกว่าที่พาไปแต่งงานที่ลาสเวกัส ก็เพราะรู้ว่าอีป้าไม่เคยแต่งงานมาก่อน และรู้ดีว่าการแต่งงานและการได้ใส่ชุดเจ้าสาวเป็นความฝันของผู้หญิงทุกคน ลุงก็เลยพาอีป้ามาแต่งงานที่นี่ ยิ่งพออีป้าเล่าว่าแฟนเก่าคนญี่ปุ่นเคยบอกว่าจะพามาแต่งงานที่เบลาจิโอ (รร. ที่ลาสเวกัสนั่นแหละ) ลุงก็เลยของขึ้น บร้าพลัง ยอมไม่ด๊ายยย ต้องพาอีป้ามาแต่งงานที่นี่ให้ได้ อีป้าก็ดีใจนะ ที่ลุงเข้าใจในความฝันของผู้หญิงเหมือนกัน

ต่อไปเป็นภาพงานแต่งงานจ้ะ (มีรูปเยอะก็เลยรวมเป็นสไลด์เล็กๆ แล้วกันนะ) แอบบ่นนิดนุง ว่าในบรรดาเพื่อนๆ อีป้าดูรูปแต่งงานอีป้าแล้วก็เอาแต่ชมอีลุงอยู่นั่นแหละ บอกว่า ลุง หล่อ สมาร์ท มาดแมน ไม่ค่อยจะมีใครชมอีป้าบ้างเล๊ย ! ทำให้อีป้ารู้สึกว่าพักนี้ความสวยไปพักร้อนรึเปล่านะ บางคนก็บอกว่าผมดำ ไปย้อมผมทำไม ไอ้บร้าเอ๊ย นั่นมันผมจริงของกรูเฟร้ยยยย (-_-") อีป้าง่ะ เบื่อผมดำมาก มันทำให้ดูเหมือนเมียฝรั่งมากเกินไป (แล้วมันไม่ใช่รึไงฟระ 555) ตอนนี้อีป้าเลยแอบไปซื้อสีมาย้อมผมเป็นสีน้ำตาลเรียบร้อยแล้ว (ลุงไม่ให้ย้อม เลยต้องแอบสังยาย้อมผมทางเน็ทมาแอบย้อม กรรมจริง ๆ เว้ยกรู อยู่เป็นโสดจะทำอะไรก็ได้ แต่พอมีผัวแล้วผัวควบคุมตั้งแต่หัวจรดตรีน) เชื่อป่าวว่าแม้แต่ พ่อ แม่ ญาติ โยม เห็นรูปแต่งงานอีป้าก็ยังพร่ำเพ้อ ละเมอหา ชมแต่ลุง อีป้าละงงจริงๆ ว่านี่มันญาติใครหรือพ่อแม่ใครกันแน่ฟระ ไม่เข้าใจจริงจริ๊ง จะมีคนชมอีป้าบ้างก็เป็นเพื่อนๆ ที่รู้จักกันทางเน็ท ที่บอกว่าอีป้าน่ารัก พี่วุฒิ (พี่ที่เคยทำงานที่ Sony ด้วยกัน) เข้ามาเม้นต์ใน Hi5 ว่า อีป้าช่างงาม น่ารัก เหมือนตุ๊กตา อือ นึกได้แล้ว ส่วนมากคนที่ชมอีป้าจริงๆ จังๆ มักจะเป็นเพื่อนผู้ชายแหละ นึกออกแระ ต่อไปนี้คบเพื่อนผู้ชายดีฝ่าเนอะ อีป้าไม่ได้อิจฉาลุงนะ ที่ลุงดูดีเยี่ยงนี้ก็เพราะอีป้าจับลุงมาย้อมผม ย้อมเคราว แต่งหล่ออย่างดีหรอกน่า คนอื่นถึงได้กรี๊ดกันนัก ถ้าเกิดมาเห็นตอนลุงผมหงอก เคราหงอก พุงย้วยละก็คงไม่กรี๊ดแบบนี้หรอก 5555









ไม่รู้ว่าการแต่งงานมันมีมนต์ขลังอะไรรึเปล่านะ แต่นับตั้งแต่ผ่านพิธีแต่งงานมา อีป้ากับลุงก็ไม่เคยทะเลาะหรือเถียงกันเลย เวลามีอะไรขัดใจกันนิดหน่อย ทั้งลุงกับอีป้า ต่างฝ่ายต่างขอโทษกัน จนไม่รู้ว่าความผิดนั้นมันเป็นของใคร มีวันนึงที่อีป้าอบขนมปังข้าวโพด แล้วล้างเตาอบไว้ (เตาอบนั้นลุงไม่เคยล้างเลยเป็นสิบปีแล้วมั้ง) มีกลิ่นไหม้ๆ ออกมา ลุงตะโกนบ่นดังลั่น อีป้าวิ่งขึ้นไปดูแล้วปิดเตา บอกลุงว่า แค่ล้างเตาอบเฉยๆ เอง ลุงบอกว่าเห็นควันออกมาแล้วก็เหม็นไหม้ (เห็นไหม้จากเศษผงนานนับสิบปีที่ลุงไม่เคยล้างนั่นแหละ) ก็เลยตกใจนึกว่าไฟไหม้ พอลุงเห็นไม่มีอะไรก็วิ่งไปเล่นเกมส์ต่อ ส่วนอีป้ายืนอึ้งอยู่พักนึง งง ! ว่าทำไมลุงไม่ปิดสวิทต์ซะก็สิ้นเรื่อง สักพักลุงก็เดินมากอดอีป้า เพราะลุงจะรู้ว่าเวลาอีป้าเงียบๆ อึ้งๆ ไม่พูด จะต้องมีอะไรแน่ๆ ลุงก็เลยมากอดแล้วหอมแก้ม ถามว่า "มีอะไรเหรอ? เกิดอะไรขึ้น" อีป้าบอกลุงว่า "ป่าว แค่งงเฉยๆ ว่าทำไมคุณไม่ปิดเตาล่ะ ทำไมต้องตะโกนด้วย ปิดเตาเองไม่เป็นรึไง" ลุงก็ยังมาเถียงอีกว่า "ปิดแล้วนะ ผมปิดแล้ว" แต่เปล่าเลย ลุงแหกปากตะโกนเรียก "อีป้าาาาาาาาาา" จนอีป้าขึ้นมาปิดเตาเอง บร้าแท้ๆ แล้วลุงก็เวียนขอโทษๆๆๆ ที่ตะโกนเสียงดัง อีป้าก็ขอโทษลุง ที่ทำให้ลุงตกใจ ตอนนี้ตกลงกันแล้วละว่า ถ้าทะเลาะกัน หรือ เวลาอยากให้อีกฝ่ายทำอะไร จะพูดกันดีๆ จะเดินมาจับมือกัน แล้วก็พูดกันดีๆ ไม่ใช่จิกกัดกันเหมือนหมาแมว 555

จริงๆ อีป้าอยากเอารูปที่ถ่ายเล่นๆ กันตอนไปเดินเล่นที่ลาสเวกัสมาลงด้วย มันงามจริงๆ (ลาสเวกัสนะ ไม่ใช่อีป้า) (-_-") แต่ไว้ลงคราวหน้าแล้วกัน เพราะว่าเดี๋ยวรูปเยอะจะทำให้โหลดช้าเปล่าๆ เนอะ

บล๊อกหน้าลงรูปลาสเวกัส กับบ่นเรื่องไป Reno ไปทำงานกับลุง หลังจากนั้นก็เป็นบล๊อกโชว์รูปสัตว์ ที่ไปถ่ายมาที่ custer state park อีกแร้ว เพราะลุงซื้อเลนส์ Teleconverter ซูมแรง....มาใช้กับกล้อง Sony HX1 ของอีป้าง่ะ ลุงบอกซื้อให้เป็นของขวัญแต่งงาน ซื้อมาจากอีเบย์ $170 เอง ตอนแรกไปดูร้านกล้องแถวบ้านตั้ง $290 แน่ะ แพ๊งแพงแถมต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ของ สั่งอีเบย์อาทิตย์เดียวก็ได้แร้ว (บ่นอะไรอีกแร้วเนี่ย) ไว้รอชมบล๊อกต่อไปแล้วกันนะ อีป้าจะพยายามเล่นเกมส์ให้น้อยลง เอาเวลามาเขียนบล๊อกให้มากขึ้น ไม่ดองบล๊อกนานอีกแร้วจ้า



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 13:17:15 น.
Counter : 1090 Pageviews.

23 comments
  

emoemo

เจิม ....

มาลงชื่อไว้ก่อน เห็นว่าเนื้อเรื่องยาว แล้วเป็นเรื่งโรแมนติค เดี๋ยวเก็บไว้อ่านตอนกลางคืนดีกว่า

ว่าแต่สไลด์มันไม่ขึ้นนะ ... มันบอกว่าซอรี่ซอด้วงอะไรก็ไม่ทราบครับ

we are soory , this sideshow is empty

เลยอดดูภาพเลยอ่ะ

อิอิ
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:22:09 น.
  

ยินดีด้วยนะคะ เจ้าบ่าวดูดีเจ้าสาวน่ารัก โรแม้นน สุด ๆ มีความสุขมาก ๆ นะคะ

ปอลอ อ่านไปขำ ไป พี่เขียนบลอค ฮา ดีค่ะ
โดย: Sweetiepinkberrie วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:30:18 น.
  
เจ้าสาวยังไม่แก่เลย น่ารักจัง ตอนแรกอ่านไปๆมาๆ คาดว่าคงแก่มาก พอได้เห็นรูปแล้ว ไม่ใช่อย่างที่คิดเนาะ เก่งภาษาอีกต่างหาก ขอให้มีชีวิตที่สุขสบายกับลุงแล้วกัน แวะมาอ่านเรื่องราว สนุกดี ว่างๆไว้จะมาเยี่ยมใหม่ ถ้าไม่รังเกียจ
โดย: แม่น้องกุ๊ก (แม่น้องกุ๊ก ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:55:30 น.
  
เข้ามาแสดงความยินดีด้วยค่ะ ดูรูปไปแล้วยิ้มไปด้วยเลย ว้าว ดูอบอุ่นมากมาย ขอให้รักกันชั่วนิรันดรค่ะ
โดย: corallie วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:58:15 น.
  
น่ารักมาก ๆๆๆๆ อ่านแล้วประทับใจมาก...(สาวๆๆแอบอิฉาตาร้อน) ส่งมาให้อ่านอีกนะ....รออ่านอยู่นะ
โดย: น้อง OIA IP: 58.147.25.22 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:14:56 น.
  
ก็แกแต่งน้อยไปหน่อยนี่นา ใครๆก็เลยไม่ชมแก มันไม่ค่อยต่างจากตัวจริงๆไง ส่วนใหญ่เขาโบ๊ะกันเว่อร์ๆคนก้อเลยชมว่าสวยผิดตัวจริงไง อิๆ
โดย: จ๊ะเอ๋เบบี้ IP: 110.49.110.84 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:03:19 น.
  
อ่านแล้วซาบซึ้งเจงๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนอีป้าบร้าบอจะเขียนอะไรโรแมนติคได้ เห็นหายไปนานชั้นก็นึกว่าแกหายไปขายทัวร์กับตาลุงซะอีก ที่ไหนได้ติดเกมส์นี่เอง
โดย: กุล IP: 180.180.84.63 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:22:36 น.
  
ไม่จริงง เค้าจะบอกว่า เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวสวยหล่อสมกันมากเลย =)
โดย: ป.ปลา IP: 201.58.193.55 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:23:31 น.
  
น่ารักมากเลยค่ะ อยากมีเจ้าบ่าวบ้างจัง
โดย: bam IP: 110.164.240.74 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:16:02 น.
  
สุดยอด..คุณแน่มากๆๆ...

ถ้า..เป็นคนอื่นที่ไม่รู้จัก พอมาอ่านแล้ว..
ต้อง..อุทานคำนี้แน่นอนเลย..

แต่..พี่ดูแล้ว..ประทับใจมากจริงๆ..
สมกับที่เป็นน้องเติ้ลเลยหล่ะน่ะ..

คนที่จะทำได้แบบนี้..คงหาไม่ได้อย่างนี้ง่ายๆ..หรอกน่ะ..

ขอให้มีความสุขตลอดไป..อย่าได้มีสิ่งใดมาแผ้วพานได้..ชั่วนิจนิรันดรจ๊ะ..
โดย: พี่โอ๋.. IP: 203.144.144.164 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:25:27 น.
  
อีเจ๊รูปงามว่ะ บรรยากาศดีเนอะ
มีเรื่องอยากเม้าท์มากมายอ่ะ
โดย: บัว IP: 203.144.144.165 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:58:13 น.
  
หูย...แต่งงาน sweet มากมายเลยค่ะ ยินดีด้วยนะคะ แต่งงานที่ลาสเวกัสเท่ห์ดีออกค่ะ เคยไปเที่่ยวที่นั่นยังเล็ง ๆ ไว้เลยว่าถ้าได้แต่งในโบสถ์ที่นี่ก็ดีนะ แต่สุดท้ายก็จะแต่งที่ไทยก่อนค่ะ จะรอดูรูปอีกนะคะ
โดย: ่ี่jujastar IP: 125.25.101.23 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:35:55 น.
  
โดย: ARROWBAMBOO วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:15:37 น.
  
ยินดีด้วยค่ะคุณเติ้ล

ตาม blog ตอนแรกเพราะอยากฝึกภาษาญี่ปุ่น
มาสักพักก็กลายเป็น blog มาดาม

หวังว่าอีกไม่นานจะได้ติดตาม blog คุณเติ้ลในแบบฉบับ คุณแม่ลูกครึ่งกับชีวิตต่างแดนเร็วๆๆนี้นะคะ
โดย: Pookie-NSE วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:40:59 น.
  
โอ้ววว คุณมารุ แพ๊คเ้กจแต่งงานน่าสนใจมั่กๆ
ราคาน่าคบแถมดูไฮโซ๊ ไฮโซ เนอะ อิอิ
ยินดีด้วยนะคะ อ่านแล้วฮาปนน่ารัก ฮี่ๆๆ
ถือว่าวันนั้นคุณมารุเป็นนางเอกไปเลย
ไปไหนก็มีคนแสดงความยินดี ว่าไปคนอเมริกันก็อัธยาศัยดีเนอะ

ขอให้รักกันนานๆนะคะ
โดย: Complicatedgirl วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:2:40:24 น.
  
โรแมนติกจังอะ ป้า เรื่อง
ป้าน่ารักดี
ลุงก็หล่อดีเนอะ ในชุดสูท

สุขสันต์วันแต่งงานน๊ะครับ

โดย: เสรี IP: 202.149.25.235 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:25:23 น.
  

ขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับ Rapid city SD อะคับ ผมเมล์ไปที่ epa4hokutoda@gmail.com แล้วคับ ขอบคุณมากคับ
โดย: ต่อคับ IP: 202.12.74.254 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:33:03 น.
  
เออ ลงรุปเป็น Slide ค่อยเห็นหน่อย ไม่งั้นดูไม่ได้อ่ะ แหม แหม ลุงหนุ่มมากขอบอก
โดย: Ying IP: 116.68.159.61 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:19:39 น.
  
เจ๊คับ อยากคุยกับเจ๊มากมาย
เมล์ไปแล้ว ติดต่อกลับด้วยนะคับT^T
โดย: ต่อคับ IP: 202.12.74.254 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:00:07 น.
  
ยินดีด้วยนะคะ
น่ารักทั้งคู่เลย
อิจฉา
ขอให้มีความสุขมากๆ
และมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปนะคะ
Both of u are really matched.
So Great!
โดย: n IP: 203.144.144.165 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:5:44:14 น.
  
มาแว้ววววววววววววว มาช้าไปหน่อย แต่ไงก็ต้องมา 555

จริงๆ นะ การแต่งงานจัดให้ครอบครัวคนที่เราสนิดแค่นี้ก็อบอุ่นมากๆ เลยเน้อ ดีใจที่ป้าเติ้ลมีความสุขกับลุงใจดี

ขอให้รักกันยืนยงตลอดไปนะจ๊ะ ดีใจด้วยอีหน ปลื้มๆๆๆๆ
โดย: ชฎาแหลม วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:48:35 น.
  
ยินดีด้วยจ้าาาาาาาาาาาา
โดย: loveTRAVEL1977 วันที่: 23 เมษายน 2554 เวลา:18:32:49 น.
  
ยินดีด้วยนะคะ คุณป้าที่รักค่ะหนูแพลนว่าจะไปแต่งงานวันที่22นี้ที่ลาสเวกัสและคิดว่าจะเจริญรอยตามคุณป้าค่าแต่ว่าหนูอยากทราบว่าเราไม่ต้องพาพยานไปสองคนเพื่อเซ็นในใบทะเบียนสมรสหรือค่ะ
โดย: วิษณี IP: 75.170.125.190 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:23:28:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

littlebitlittlemore
Location :
Sweet Home Alabama  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



สวัสดีจากอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา
Subscibe ช่อง Home of the brave

เพื่อคนไทยในอเมริกา

MY VIP Friend