Group ตัวอย่าง
ธันวาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
20 ธันวาคม 2554
3 Times 1 : The past is something you could see but not touch..
The Unbearable Lightness of Being (", )
「Even if the door is open, the person youre looking for may not be there.」
「Piano Concerto No. 2」: Montreal in My Memory and You
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่6】: อุบัติซ้ำชั่วนิรันดร์
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่4】: จากลาและเริ่มต้น
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่1】: First Time
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่2】: Awake
【No Country For Old Men】
「TIME GOES BY」
「Before Sunrise」
【奇迹】 : When the lights are down and there's no one there
「夏の思い出」 : Summer Memories
"Someday.. "
3 Times 1 : The past is something you could see but not touch..
:: Time Will Pass You By :: [Nostalgia]
ลักษณะของ artist
3 Times 1 : The past is something you could see but not touch..
1. รถติด.
หลังของคุณแนบนิ่งอยู่กับเบาะหนังสีครีม
เท้ายังคงค้างเติ่งอยู่บนแป้นเบรกและคันเร่ง
หน้าปัดดิจิตอลแสดงผลว่าเป็นเกียร์ว่าง
และเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงแล้วที่คุณติดอยู่บนท้องถนน
คุณทอดสายตามองไปเบื้องหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ
รถยนต์หลายคันทอดตัวเรียงรายเหยียดยาวจนดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
ทุกคันต่างหยุดนิ่งให้กับอะไรสักอย่างที่ไม่มีแม้โอกาสให้ล่วงรู้
ร่วมชะตากรรมแห่งการรอคอยอันหาจุดจบไม่ได้อยู่บนถนนเส้นเดียวกัน
เสียงเพลงเดิมๆ ดังวนเวียนไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันเปล่งร้องต่อเนื่องอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
Moonlight ขอบเบโธเฟ่นคลืบคลานเนิบช้าครอบคลุมไปทั่วทั้งรถ
คล้ายเพลงบรรเลงประกอบความไม่ไหวติงของท้องถนนอย่างน่าเย้ยหยัน
2. ฝนตก.
ฝนเม็ดแรกร่วงลงบนส่วนหนึ่งส่วนใดของรถ
เกิดเสียงกระทบเล็กๆขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นเสียงระรัวจากกองทัพฝนกลุ่มก้อนใหญ่
มันดึงความคิดคุณให้ออกจากท้องถนน ผู้คน
และเชฟโรเล็ตรุ่นล่าสุดที่จอดนิ่งสนิทอยู่ตรงหน้า
ลากห้วงคิดอันกระจัดกระจายของคุณให้กลับมามีระเบียบอยู่ภายใต้หลังคารถสีเทา
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว
แสงไฟสีส้มสาดส่องแทนที่แสงอาทิตย์ที่ถูกเฆมบังจนกลายเป็นสีดำสลัว
กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ดูเหมือนท้องถนนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจัดการกับตัวเองได้
คุณจึงใช้มือซ้ายสอดซีดีแผ่นใหม่เข้าไปในช่องเล่นเครื่องเสียง
เพลงบทใหม่เริ่มขับขานพร้อมไปกับรถที่ค่อยๆเคลื่อน
นั่นเป็นครั้งแรกที่คุณรู้สึกว่าฝนตกไม่ใช่เรื่องที่น่าขัดใจนัก
เสียงฝนสอดรับท่วงทำนองทุ้มต่ำของเพลงในรถ
กลายเป็นทำนองที่เสนาะหูแสนประหลาด
คุณเคลิ้บเคลิ้มและปลดปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับแสงไฟ เสียงเพลงและสายฝน
แล้วจู่ๆคุณก็คิดถึงการเล่นเปียนโน โน้ตเพลงบางเพลง และใครบางคน..
3. ลืมเลือน.
นานมาแล้วที่ใครคนนึงเคยยืนรอคุณอยู่ตรงหน้าประตูยามที่คุณมาถึง
ใครคนนั้นแย้มยิ้มขณะที่คุณเดินเข้ามากอด พร้อมกับเ่อ่ยคำต้อนรับกลับบ้าน
คุณวูบไหวกับอิริยาบถที่่ทำให้คุณหลงไหล และพร่ำบอกคำว่ารัก
คุณรู้สึกว่าอยากจะจับมือกันและกันไว้อย่างนี้ เอ่ยคำสัญญา ว่าจะมีกันจากนี้และตลอดไป
แล้วคุณก็ถอนหายใจ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านมาเนิ่นนานเพียงใดที่วันเช่นนั้นไม่ได้หวนกลับมาอีก
เนิ่นนานเท่าไรที่ความวาบหวาม ร้อนรุ่ม ตื้นตัน
กลายเป็นเพียงความเฉยเมยเยียบเย็น
คุณไม่รู้หรืออาจลืมไปแล้วว่าแท้ที่จริงความรักเป็นสิ่งที่มีไว้ใช้
ไว้สื่้อให้ผู้รับได้เห็น ไว้แสดงออกกับใครคนหนึ่ง คนนั้น
คุณค่อยๆถอดรองเท้าเปื้อนคราบฝน วางไว้ที่เดิมอย่างคุ้นชิน
ไฟทุกดวงในบ้านต่างขดตัวหลับสบายอยู่ภายใต้ความมืดมิด
คุณไล่กดเปิดมันทีละดวง ปลุกให้มันตื่นอย่างไม่ใยดี
ก่อนทิ้งตัวไร้เรี่ยวแรงลงบนโซฟาหนานุ่ม
ทุกๆอย่างเงียบงัน
ความว่างเปล่าอ้าแขนต้อนรับคุณ
และคุณก็โอบรัดมันกลับด้วยความเดียวดาย
Create Date : 20 ธันวาคม 2554
Last Update : 20 ธันวาคม 2554 11:23:55 น.
3 comments
Counter : 684 Pageviews.
Share
Tweet
ความว่างเปล่าไม่เคย ห่างจากเราเกินระยะแขนนึงของเรา
จริงๆความว่างเปล่าอาจเป็นเพื่อนที่เราคุ้นเคย
อยู่กับเราตลอดเวลา ยามที่เราอยู่กับตัวเองมากแค่ไหน
ความว่างเปล่าจะเข้ามาแทนที่
เป็นเพื่อนให้เราได้เห็นสิ่งรอบข้างชัดขึ้น
ได้ยินเสียงอะไรที่ชัดขึ้น สังเกตอะไรได้ละเอียดขึ้น
และเขาอาจจะเป็นเพื่อนกับเราคนแรกตั้งแต่เราจำความได้ก็ได้
วันนึงคุณจะมีใครสักคนที่อย่างน้อยก็ไม่ได้กอดความว่างเปล่าคนเดียว
มีคนที่จะเข้ามากอดความว่างเปล่าเหล่านั้นเป็นเพื่อนคุณ
ลองจินตนาการความว่างเปล่าเป็นบอลลูนกลมๆ
ข้างในใส มองไม่เห็นอะไร (ก็ความว่างเปล่านิเนอะ ^^)
หากคุณกอดแบกรับมันไว้คนเดียว คุณจะรู้สึกอึดอัด
แต่ถ้าคุณมีคนที่กอดแบกรับไว้เป็นเพื่อนคุณ
อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้เดียวดายจริงมั้ยครับ..
โดย: sodasa4 (
ปาท่องโก๋ร้อนกับโอวัลตินเย็น
) วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:23:50:14 น.
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ
อ่านแล้วอบอุ่นและรู้สึกดียังไงไม่รู้ค่ะ ^ ^
โดย:
le temps
วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:14:48:47 น.
สายลมหนาวคราวก่อน
พัดพาเอาอากาศเย็นเยียบ และบรรยากาศเดียวดายติดมา
แต่บางคน เพียงบางคนเท่านั้น
ที่จะพบว่าสายลมนั้น
ได้พัดเอาอดีตที่ถูกทับถม ให้ฟุ้งกระจาย
เร่งปฏิกิริยาความเย็นเยียบของอากาศที่ควบรวมกับความเดียวดาย ให้ออกฤทธิ์ร้ายทารุณมากขึ้น
อดีตเป็นสิ่งที่มิอาจลืมเลือน
กลายหายไปของอดีตหาใช่การลืมเลือน
หากแต่เป็นเพียงการทับถม กองก่อ อยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของการเวลา
รอวันใดสายลมแห่งนั้น สายลมหนาว พัดมา
อดีตใต้ซากเหล่านั้นก็จะตลบฟุ้งกระจายขึ้น
แต่มิอาจสลายไปในสายลม
เมื่อการกรรโชกสงบลม
อดีตเหล่านั้นก็ทิ้งตัวลงใต้ซากหักพังของกาลเวลาเช่นเดิม ...
โดย:
i.am.Victor
วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:9:58:50 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
le temps
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add le temps's blog to your web]
>> My shots on Flickr
Bloggang.com
จริงๆความว่างเปล่าอาจเป็นเพื่อนที่เราคุ้นเคย
อยู่กับเราตลอดเวลา ยามที่เราอยู่กับตัวเองมากแค่ไหน
ความว่างเปล่าจะเข้ามาแทนที่
เป็นเพื่อนให้เราได้เห็นสิ่งรอบข้างชัดขึ้น
ได้ยินเสียงอะไรที่ชัดขึ้น สังเกตอะไรได้ละเอียดขึ้น
และเขาอาจจะเป็นเพื่อนกับเราคนแรกตั้งแต่เราจำความได้ก็ได้
วันนึงคุณจะมีใครสักคนที่อย่างน้อยก็ไม่ได้กอดความว่างเปล่าคนเดียว
มีคนที่จะเข้ามากอดความว่างเปล่าเหล่านั้นเป็นเพื่อนคุณ
ลองจินตนาการความว่างเปล่าเป็นบอลลูนกลมๆ
ข้างในใส มองไม่เห็นอะไร (ก็ความว่างเปล่านิเนอะ ^^)
หากคุณกอดแบกรับมันไว้คนเดียว คุณจะรู้สึกอึดอัด
แต่ถ้าคุณมีคนที่กอดแบกรับไว้เป็นเพื่อนคุณ
อย่างน้อยคุณก็ไม่ได้เดียวดายจริงมั้ยครับ..