<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
9 กรกฏาคม 2555

「Piano Concerto No. 2」: Montreal in My Memory and You

>ข้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
>หากจะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเรา
>มันอาจยาวนานหลายหน้ากระดาษ
>หรืออาจเป็นเพียงข้อความสั้นๆแค่ไม่กี่ตัวอักษร
>กระนั้น มันอาจไม่ใช่ประเด็นนัก
>เพราะข้าก็แค่อยากจะส่งผ่านอะไรบางอย่างไปถึงเอ็งก็เท่านั้น

>ข้าว่าข้าจะเริ่มจากการเดินรอยตามถนนความทรงจำทั้งหมด
>ยอมรับว่าข้านั้นไม่ใช่คนความจำดีเด่อะไร
>หลายเรื่องของเอ็งข้าทำตกหล่นแถมยังลืมเก็บ
>ปล่อยให้มันนิ่งแช่อยู่ ณ ที่เดิมราวกับข้าทำเหรียญห้าสิบสตางค์ตกพื้น
>แต่ว่าส่วนใหญ่นั้นนับว่าไม่พลาด
>เหมือนกับข้าหยอดมันลงกระปุกทุกวัน อดออมจนพอกพูน

>ข้าว่าข้ามีเพื่อนเยอะนะ
>เอ็งเคยถามอยู่เหมือนกันว่าตกลงแล้วข้ามีเพื่อนสักกี่คน
>เอาความหมายไหนดี? ข้ายังไม่เข้าใจคำว่าเพื่อนถ่องแท้เลย
>ทว่าหากนับ สิบมือคงยังไม่ครบจำนวนทั้งหมด
>ถึงอย่างนั้น ในวันที่ข้าต้องการใครสักคน
>ข้ากลับหาใครไม่ได้เลย

>ข้าไม่โทษคนพวกนั้นหรอก
>หากข้าร้องขอ ข้าว่าคงมีหลายคนที่ต้องการอยู่เคียงข้างข้า
>แต่เป็นความประสงค์ของข้าเอง
>ข้าหลงรักความโดดเดี่ยว หลงรักการกักขังตัวเองไว้ในที่แคบๆของข้า
>ไม่ต้องห่วง ความโดดเดี่ยวหาใช่สิ่งเลวร้ายไม่
>บางครั้งมันทำให้ข้าจดจำกลิ่นของตัวเองได้ — เอ็งพอจะตามทันมั้ย
>ช่างเถอะ ถือว่าข้าขอผ่านเรื่องนี้ไปแล้วกัน

>วันแรกที่เราเจอกัน
>เป็นวันที่ข้านั่งอยู่หน้าคณะ กำลังตรึกตรองสถานการณ์อารมณ์อย่างคร่ำเคร่ง
>ข้าอยากอยู่กับใครสักคน แต่ยากนักที่จะสรรหาคำอธิบายภาวะตอนนั้นของข้าได้
>หากมีเพื่อนจริง ตอนนั้นมันคงได้แต่นั่งมองข้าที่เงียบเป็นเป่าสาก
>ทำเพียงปลดปล่อยให้ลมขับขานเรื่องของมันไปตามครรลอง
>คิดไปคิดมา ข้าว่าข้าเป็นมนุษย์ที่น่าเบื่อที่สุดในโลก

>เอ็งเข้ามานั่งตรงม้านั่งเดียวกับข้า
>ถัดไปไม่กี่ฝ่ามือ นั่งแนบชิดเหมือนรู้จักกันมานานเนิ่น
>ข้าตกใจและประหม่า แต่มิได้ประกาศท่าทีอะไรไปนอกจากนิ่งเฉย
>เราพลัดเปลี่ยนการพ่นลมหายใจทะลุม่านอากาศ ปราศจากเสียงอื่น
>เวลาผ่านไป ข้ารู้สึกปลอดโปร่งและคิดหาทางออกกับคำถามของตัวเองได้ในที่สุด
>จนวันนี้ข้ามักหวนนึกถึงหนทางที่ข้าเลือกในวันนั้น
>ไม่แน่ นั่นอาจเป็นเพราะเอ็งโผล่มานั่งอยู่ตรงนั้นก็ได้

>เอ็งเคยนับไหมว่าชั่วเวลาที่ผ่านมาทั้งชีวิต เอ็งเคยประสบพบเจอใครมาบ้าง
>วันหนึ่งข้านั่งนับไล่เรียงถึงบุคคลเหล่านั้น
>พบว่ามีไม่น้อยเลยมีผ่านเข้ามา บางคนผ่านไปนิรันดร์ด้วยความไม่เต็มใจ
>ขณะที่บางคนหากไม่นึกย้อนก็คงไม่อยู่ในสารบบความจำอีก
>ข้าเชื่อว่ามันน่าจะมีมากกว่าที่ข้าค้นพบนะ
>ซึ่งหากป้ายโยนความผิด ความหลงลืมที่อยู่คู่กับมนุษย์เราคงเป็นตัวแปรสำคัญทีเดียว
>บางครั้ง ข้านึกสงสัยเลยเถิดไปไกลว่า
>จะมีสักกี่คนที่มีข้าอยู่ในความทรงจำ? เค้าจะจำข้าได้ในลักษณะไหน?
>ข้าชอบเก็บอะไรไร้สาระเทือกนี้มาขบคิด หาคำตอบไม่ได้แน่นอนจากคำถาม
>ช่างเหอะ ข้าเพียงแค่สงสัย ไม่เร่งรัดค้นหาความหมาย

>แล้วลักษณะความทรงจำที่ข้ามีต่อเองล่ะ?
>แบบไหนดี ข้าจำหน้าตาเอ็งได้ จำเสียงเอ็งได้ จำแม้กระทั่งกลิ่นเอ็งได้
>ถ้าจะเอาให้เจาะลึก ข้าจำได้แม้กระทั่งสัมผัสจากแผ่นมือนุ่มใหญ่และนิ้วเรียวยาวของเอ็ง
>ความทรงจำเหล่านี้ช่างบอบบาง ไม่มีแม้อะไรที่มาการันตีถึงความคงกระพันของมัน
>สักวันมันอาจเลือนหายไปตอนข้าหลับ หรืออาจมีใครมาฉีกทึ้งมันเป็นชิ้นๆตอนข้าพลั้งเผลอ

>ข้าหวาดหวั่นนักเมื่อคิดขึ้นได้
>ที่ทำได้จึงเป็นเพียงแค่ระลึกถึงความรู้สึกนี้ หลับตาและจดจำ
>ราวกับการใช้ลูกกลิ้งหมึกกดทับรูปทรงนูนยื่นจากแผ่นสลักที่ข้าบรรจงแกะ
>หาไม่ มันอาจไม่งดงามเท่าภาพของฮิโรชิเกะหรือฮ็อกกุไซ
>แต่ก็ก่อตัวเป็นรูปร่างชัดเจน หมึกเติมเต็มซ้อนย้ำเกี่ยวกระหวัดความจำในสมองซีกเซรีเบรัมให้ยึดติดคงทน

>วันนี้เอ็งไม่อยู่อีกแล้ว,ข้าไม่มีเอ็งอีกแล้ว
>ข้าจะทำอย่างไรได้เมื่อหวนคิดถึงสถานะภาพที่เป็นอยู่
>คงได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาเติมหมึกและกดแท่นพิมพ์ต่อไปเรื่อยๆอย่างศิลปินผู้บ้าคลั่ง
>เพื่อคงความดำรงอยู่ของเอ็งในทุกๆที่ไม่เว้นแม้ในตัวข้า
>นั่นคงพอทำให้เอ็งอุ่นใจได้บ้างใช่ไหมเพื่อน
>..ว่าข้าไม่มีวันทิ้งเอ็ง


.
.
.
.
.




Create Date : 09 กรกฎาคม 2555
Last Update : 9 กรกฎาคม 2555 11:44:38 น. 1 comments
Counter : 915 Pageviews.  

 

อืมม ยังคงอยู่ สำหรับบางคน ก็ยังดีกว่าหายไป


โดย: ภูติ วันที่: 12 กรกฎาคม 2555 เวลา:8:03:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

le temps
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add le temps's blog to your web]