<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
12 มิถุนายน 2555

「TIME GOES BY」



>หัวลำโพงเป็นเหมือนอย่างที่มันเคยเป็น
>ผู้คนพลุกพล่านไม่เคยเงียบงันหลับไหล
>กลิ่นชีพจรดิ้นรนชนหาเช้ากินค่ำเจือปนเข้มข้นหลอมรวมกับอากาศใต้โดมใหญ่
>ไม่เหมือนกลิ่นที่สุวรรณภูมิ, ไม่เหมือนกลิ่นบนบีทีเอส, ไม่เหมือนกลิ่นที่หมอชิต
>ไม่หอม ไม่เหม็น – กลิ่นของชีวิต
>
>
>16.13 น. ก่อนเวลารถออก
>ตู้โดยสารแทบทุกตู้ในขบวนร้างไร้ผู้คน
>มีเพียงผู้โดยสารหยิบมือนั่งทอดถอนหายใจทิ้งขว้างกลางอากาศเพื่อฆ่าเวลาให้ผ่านพ้น
>แดดตอนบ่ายแก่จัดทแยงองศาความร้อนมุดช่องหน้าต่างทางด้านซ้าย
>ก่อเกิดรูปทรงสี่เหลี่ยมบิดเบี้ยวเป็นระยะตลอดแนวทางเดิน
>ไม่สนใจว่าผู้คนจะร้อนเพียงใด
>
>
>16.30 รถไฟเคลื่อนตัวเชื่องช้าออกจากจุดสตาร์ท
>ส่งเสียร้องครวญครางคล้ายแมวเฒ่าบิดขี้เกียจลุกตื่น
>ตรงเวลาเหลือเชื่อ..
>
>
>ผู้คนเริ่มแน่นขนัดในสถานีถัดไป
>กลิ่นเหงื่อไคลคละคลุ้งปะปนลมเย็นที่เหวี่ยงตัวเข้ามาจากภายนอก
>เสียงสนทนาดังแข่งกับเสียงฉึกฉักของรถไฟ
>ณ ขณะหนึ่ง อาจเทียบที่นี่ได้กับชุมชนเล็กๆ
>หมู่บ้านชั่วคราว,รวมกลุ่มก่อนแยกย้ายสลายวง มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านที่แท้จริง
>อีกหนึ่งหมู่บ้านไปสู่อีกหนึ่งหมู่บ้าน
>
>
>หันมองรอบข้าง –
>ชายวัยทำงานอายุใกล้เคียงพ่อ สถาปนาตัวเองให้หลุดอยู่ในโลกของหนังสือพิมพ์เต็มขั้น
>สายตาเพ่งจ้องหน้าหนังสือ ลำคอไม่เคลื่อนย้ายถ่ายเทไปทางอื่น
>
>หญิงวัยกลางคนอวบอ้วนใส่กางเกงรัดรูปสกรีนคำว่า Dior ตรงขากางเกง กำลังหลับคอพันคออ่อน
>ศีรษะปลกย้อยตกหล่นอยู่บนบ่าของเพื่อนร่วมทางเป็นระยะ คล้ายหุ่นเชิดของนักเชิดหุ่นฝีมืออ่อนหัด
>
>กลิ่นน้ำหอมจากนักศึกษา
>กลิ่นไก่ย่างจากชายผิวแทนท่าทางเหงาๆ
>กลิ่นเหงื่อจากเด็กนักเรียน
>กลิ่นคุกกี้จากคุณป้าท่าทางเข้มงวด
>กลิ่นน้ำอัดลม
>กลิ่นน้ำส้ม
>ฯลฯ
>ท้องร้องโครกคราก — หิวสุดกู่
>
>
>มองออกไปนอกหน้าต่าง
>เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ขบวนรถเริ่มทิ้งห่างความเจริญและเคลื่อนผ่านชนบท
>จากตึกแถวเรียงรายเปลี่ยนเป็นทุ่งข้าวเขียวสดยาวสุดหล้า
>กลิ่นโคลนดินแทรกตัวฝ่าเข้ามาในขบวนอย่างเงียบงัน
>ขับกล่อมจิตใจให้ค่อยๆชุ่มเย็น
>
>
>ชะโงกหน้าออกไปภายนอก
>ลมเย็นปนฝุ่นจู่โจมใบหน้าอย่างบ้าคลั่ง
>สถานีที่เพิ่งผ่านมาค่อยๆเล็กลง
>ต้นจามจุรีข้างทางค่อยๆเล็กลง
>ต้นหญ้า,คลอง,ท้องนา ค่อยๆหดสั้นลดทอนขนาดหลงเหลือเพียงไซส์เล็กจิ๋ว
>ก่อนที่ในที่สุดทุกๆอย่างจะเลือนหายลาลับ
>สิ่งใหม่แทนที่,ลดทอนขนาดตามระยะที่วิ่งผ่าน
>หากยื่นมือหยิบฉวยต้องจับ คงทำได้แค่เพียงรูปแบบนึกคิดในความฝัน
>ไม่ต่างอะไรจากปัจจุบันเคลื่อนตัวทอดทิ้งอดีตสู่อนาคต
>สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเบ่งตัวพองโต ขณะที่ถ้าทิ้งมันไปสักระยะ อาจเพียงแค่เสี้ยวเวลาน้อยนิด
>ก็กลับกลายเป็นวัตถุรูปทรงหดสั้น หรือแม้แต่สูญหายไปจากระยะสายตาในที่สุด
>
>– ชีวิต?
>
>
>กระเพาะยังคงร่ำร้องเรียกหาอาหารยัดใส่ให้ดับซุ่มเสียง
>40 นาทีกว่าจะถึงจุดหมาย
>ก้มหน้าควานหาหนังสือในกระเป๋าเป้ข้างกาย,เปิดอ่านตอนที่คั่งค้าง
>The Body ของ Stephen King เริ่มทำงานตามกระบวนจินตนาการ
>
>"So what’s this all about, Vern? Teddy asked. He and Chris were still playing cards;
>I was reaching for a detective magazine.
>Vern Tessio said : "You guys want to go and see a dead body?"
>Everybody stopped.


Create Date : 12 มิถุนายน 2555
Last Update : 12 มิถุนายน 2555 15:13:40 น. 1 comments
Counter : 793 Pageviews.  

 
บ้างออกล่าตามหาฝัน
บ้างมุ่งมั่นตามทางเขา
บ้างล้มลงเหม่อมองจ้องเพียงเงา
บ้างผละทิ้งชานชราเก่า หัวลำโพง ...

รู้สึกตามทุกตัวอักษรถึงหัวลำโพงครับ


โดย: i.am.Victor วันที่: 12 มิถุนายน 2555 เวลา:16:24:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

le temps
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add le temps's blog to your web]