Group ตัวอย่าง
ธันวาคม 2554
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
14 ธันวาคม 2554
:: Time Will Pass You By :: [Nostalgia]
The Unbearable Lightness of Being (", )
「Even if the door is open, the person youre looking for may not be there.」
「Piano Concerto No. 2」: Montreal in My Memory and You
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่6】: อุบัติซ้ำชั่วนิรันดร์
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่4】: จากลาและเริ่มต้น
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่1】: First Time
【เรื่องสั้นขนาดทดลอง ตอนที่2】: Awake
【No Country For Old Men】
「TIME GOES BY」
「Before Sunrise」
【奇迹】 : When the lights are down and there's no one there
「夏の思い出」 : Summer Memories
"Someday.. "
3 Times 1 : The past is something you could see but not touch..
:: Time Will Pass You By :: [Nostalgia]
ลักษณะของ artist
:: Time Will Pass You By :: [Nostalgia]
..
...
มันเป็นช่วงเย็นของฤดูหนาว
พ่อพูดขึ้นหลังจากจัดการกับอาหารมื้อเย็นว่า
ถ้าหากถนนเส้นนี้สร้างเสร็จ ความเจริญจะครอบคลุมที่นี่
จนทำให้อะไรหลายอย่างไม่เหมือนเดิมอีก
ตอนนั้นเราไ่ม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของพ่อมากนัก
เป็นไปได้ว่าเรายังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจถึงเรื่องของการเปลี่ยนแปลง
และหนทางข้างหน้าของเราในตอนนั้นก็มีเพียงแค่การตื่นเ้ช้า
และได้ไปโรงเรียน
จนเมื่อกระทั่งเย็นวันหนึ่งของช่วงต้นฤดูร้อน
ป่าอีกด้านของถนนลาดยางสีเทาแคบๆเส้นเดิม
ถูกไล่ต้นด้วยรถคันใหญ่เท่าไดโนเสาร์
เจ้าเครื่องจักรแสนมหัศจรรย์ใช้กำลังกวาดเกณฑ์ประชากรต้นไม้
ให้ไปอยู่รวมกันอย่างไม่เต็มใจ
ดินเดิมสีเทาถูกแทนที่ด้วยดินลูกรังสีแดงซึ่งถูกกดไถเรียบราบ
ด้วยรถที่หน้าตาคล้ายมีแยมโรลเหล็กยักษ์ใหญ่อยู่ด้านหน้า
ในเวลาไม่นาน.. ถนนเส้นใหม่ก็เกิดขึ้น
เราขี่จักรยานบนถนนเส้นใหม่กันอย่างสนุกสนาน
พื้นผิวที่เรียบไร้ร่องรอยของมันทำให้เราเพิ่มความเร็วของจักรยานได้มากเท่าที่จะมากได้
จนในที่สุด ..ถนนเส้นใหม่ก็กลายเป็นสนามแข่งย่อยของเด็กอย่างพวกเรา
เดือดร้อนถึงครูที่โรงเรียนซึ่งกลัวนักเรียนจะโดนรถชน
เลยออกกฎว่าใครขี่จักรยานแข่งกันอีกจะถูกตีหน้าเสาธง
กิจกรรมนี้เลยงดไปชั่วคราว
ถัดจากนั้นไปอีกหลายเดือน
คนในหมู่บ้านเริ่มพูดถึงเรื่องน้ำป่าที่จะไหลมาจากปราจีนบุรี
บางคนให้ความเห็นว่าเป็นเพราะป่าได้ถูกถางออกไปเพื่อทำถนน
จึงไม่มีที่ไว้กักกั้นน้ำอีก
หลายครอบครัวเตรียมจัดเก็บของทุกอย่างเท่าที่จะเก็บได้ขึ้นไปไว้บนที่สูง
บ้านสวนของเราเป็นบ้านชั้นเดียว
แม่และคนงานอีกจำนวนหนึ่ง
จึงดัดแปลงนั่งร้านขึ้นมาชั่วคราวเพื่อเป็นที่เก็บของและใช้นอนหลับ
เป็นครั้งแรกที่ได้นอนติดหลังคาขนาดนั้น..
เราอดคิดเล่นๆไม่ได้ว่า เราคงได้ยินเสียงจิ้งจกร้องดังกว่าทุกคืนเป็นแน่
น้ำได้พัดพาหลายสิ่งหลายอย่างให้จากไป
ไม่ว่าจะเป็นปลาที่เลี้ยงอยู่ในสวนของลุงชุ
กุ้งกุลาดำของอาฟ้า แตงโมในสวนของที่บ้าน
คอกม้าที่ทำขึ้นจากไม้สนท้ายสวน
และแม้กระทั่งวิญญาณของย่าใหญ่
ที่ถูกสายน้ำพัดพาไปอย่างไม่มีวันกลับ
เข้าสู่สัปดาห์ที่สองที่น้ำป่าได้เข้ามายึดพื้นที่ในหมู่บ้าน
และบริเวณรอบๆให้ดูคล้ายกับทะเลสาปผืนใหญ่
เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พวกเราเอาร่างของย่าใหญ่ใส่โรงไม้สีขาวครีม
ยกขึ้นบ่า และเดินฝ่ากระแสน้ำเพื่อเอาร่างของบ่าไปไว้ที่วัด
ถึงอย่างนั้น น้ำท่วมก็เป็นอะไรที่สนุกที่สุด
เราได้เล่นน้ำกันแทบจะตลอดเวลาที่มีโอกาส
ได้เอาลูกมะพร้าวแห้งมาทำเป็นห่วงยาง
ได้ค้นคิดเกมใหม่ๆที่จะเอาไว้เล่นกันในน้ำ
และที่สำคัญ มันทำให้เราไม่ต้องไปโรงเรียนในช่วงที่น้ำยังคงเอ่อล้นเหนือพื้นดิน
สองเดือนให้ลัง น้ำค่อยๆเหือดแห้งลงในที่สุด
ถนนกลับมาเป็นถนนอีกครั้ง แต่หลายอย่างก็ไม่ได้กลับมา
นั่นหมายรวมถึงจิตวิญญาณบางอย่างด้วย
หลายครอบครัวอยู่ในอาการซึมเศร้า
หากแต่เรากลับไม่ค่อยรู้สึกร่วมไปกับเหตุการณ์นี้เท่าไรนัก
อาจเป็นไปได้ว่าเด็กจะมีภูิมิคุ้มกันบางอย่าง
ที่คอยให้สมองไม่สามารถประมวลความเจ็บปวดแบบที่ผู้ใหญ่รับรู้ได้
ถนนเส้นใหม่เริ่มกลับมามีบทบาทอีกครั้ง
คราวนี้มันนำพารถบรรทุกคันใหญ่เข้ามาในหมู่บ้าน
คนงานนับสิบลงมาจากรถบรรทุกคันนั้น
และจัดการกับทุ่งหญ้าอันเตียนโล่งที่อยู่ติดกับบ้านเรา
ด้วยจอบ เสียม และเครื่องตัดหญ้า
ผ่านไปสองเดือน สิ่งก่อสร้างที่เรียกว่าโรงงานค่อยๆก่อตัวขึ้น
ทีละเล็กทีละน้อยจนเป็นรูปร่าง
พ่อบอกว่ามันจะกลายเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้
หน้าฝนคลืบคลานเข้ามาอีกหน
เราชอบเสียงฝนเม็ดแรกๆ เริ่มร่วงหล่นลงสู่พื้น
ย่าเล็กเตรียมชุดกันฝนให้เรากับน้องคนละชุด
เพื่อเตรียมปฎิบัติการล่า "ปลาแถก" ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกๆฤดูฝน
ส่วนใหญ่จะเป็นปลาหมอตามท้องไร่ท้องนาที่ต้องการย้ายถิ่นเพื่อผสมพันธุ์
ฤดูหนาวและฤดูร้อนเคลื่อนตัวเข้ามาทักทาย
คราวนี้มันพาเอาทั้งฝุ่นและรำข้าวที่ได้จากการผสมอาหารไก่ของฟาร์มไก่
และแมลงพาหะเข้ามาถึงในบ้านด้วย
ฝุ่นผงทั้งหลายพร้อมใจทิ้งตัวลงบนทุกที่เท่าที่มันจะทำได้
ไม่ว่าจะเป็นตู้โชว์เก่าแก่ของย่าเล็ก หลังโทรทัศน์หรือแม้แต่กล่องไว้โอลินของพ่อ
ส่วนแมลงพาหะก็พากันทิ้งมูลและไข่ของมันลงบนผิวมันวาวของใบไม้
ราวกับศัตรูที่คอยทิ้งระเบิดอย่างเกมในเครื่องเล่นแฟมมิลี่
ลุงชุดูจะเป็นคนที่หงุดหงิดมากที่สุด
เขาถึงกับตะโกนอย่างอารมณ์เสียเมื่อเหล่าแมลงวันทองและแมลงหวี่
กัดกินมะม่วงน้ำดอกไม้ที่เขาปลูกไว้
ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคงใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมกันอย่างคุ้มค่าเหมือนเดิม
ทั้งเล่นว่าว แข่งกระโดดโคลนลึก เล่นน้ำในคลอง
เล่นซ่อนหา ไล่จับบนต้นไม้ หรือเดินสำรวจป่าสน
กระทั่งเพื่อนเล่นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเริ่มลดน้อยลง จนเหลือเพียงเรากับน้องชาย
สำหรับบางคน
สิ่งละอันพันละน้อยที่ค่อยๆเข้ามาในชีวิตของพวกเขา
อาจเลือนรางและเล็กจ้อยราวกับฝุ่นละอองที่มองไม่เห็น
และอนุมานเอาว่าชีวิตที่ผ่านไปหาได้เจอกันความเปลี่ยนแปลงอันใดไม่
กระนั้น สิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้เองที่กลับเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่าง
ได้มากมายเกินกว่าที่จะจินตนาการ
ครั้งสุดท้ายที่มีโอกาสได้ขี่เจ้าหมอกวิ่งรอบหมู่บ้าน
ดูเหมือนกับพื้นเที่เขียวขจีโดยรอบที่เคยเป็นเหมือนเส้นขอบโลก
ที่โอบล้อมเราทั้งหมด ได้ผิดแผกไปราวกับเป็นโลกใบใหม่เสียแล้ว
ดินสีจางถูกทดแทนด้วยพื้นปูนสีซีด
ป่าถูกทดแทนด้วยบ้านเรือนของผู้คนแปลกหน้า
ที่ที่วัว ควาย หรือแม้แต่เจ้าหมอกเคยวิ่งเล่น
เปลี่ยนเป็นถนนลาดยางเทาทะมึน
สิ่งใหม่ๆกำลังเดินหน้าเข้ามา
ครอบครัวเรากลายเป็นครอบครัวท้ายๆที่ย้ายออกจากที่นี่
ในทีแรก ทุกคนต่างกลัวที่จะเยื้องย่างออกไปสู่ถนนชีวิตเส้นใหม่
ทว่าเมื่อทำใจได้ ทุกคนต่างก็หาช่องทางให้ชีวิตของตัวเองได้ในที่สุด
ทุกชีวิตต่างมีหนทางที่จะเดินเป็นของตนเอง
ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางชีวิตของพ่อ เส้นทางของแม่
เส้นทางของคนงานที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน
เส้นทางของเจ้าหมอก หรือแม้กระทั่งเส้นทางชีวิตของตัวเรา
"ไปเหอะ แม่ให้คนขับรถที่บ้านใหญ่มารับแล้ว"
เราบอกน้องที่ยังคงนั่งกอดเข่าเงียบๆอยู่หลังบ้าน
"ไปก่อนเลย เดี๋ยวเค้าโทรให้พ่อมารับเอง"
น้องบอกก่อนใช้มือกวาดดินสีเทาจางๆใส่ขวดแก้ว
"อ้าวจะไปค้างกับพ่อหรอกเหรอ งั้นเค้าไปก่อนนะ
พรุ่งนี้ต้องเดินทางอีกยังไม่ได้เก็บอะไรเลย"
"อื้อ.. เดินทางดีๆ"
"อื้อ.."
เราเดินไปที่รถก่อนหันกลับมามองที่แห่งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
ที่ที่ครั้งนึงพวกเราเคยได้ใช้เวลาร่วมกัน..
Create Date : 14 ธันวาคม 2554
Last Update : 14 ธันวาคม 2554 9:49:31 น.
3 comments
Counter : 599 Pageviews.
Share
Tweet
เวลาเปลี่ยน...อะไรๆก็เปลี่ยนไปตามเวลา ^^
ชอบอ่านบทความนี้จังเลยค่ะ
โดย:
givengift
วันที่: 15 ธันวาคม 2554 เวลา:9:17:17 น.
หวังว่าจะเขียนต่อในบริบทที่เติบใหญ่
รอติดตามความเติบใหญ่ของคุณ ผ่านตัวหนังสือ
"อดีตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจบไป แต่มีผลต่อปัจจุบัน ปัจจุบันเป็นสิ่งที่กำลังเกิด ยังไม่จบ ไม่มีผลต่ออดีต แต่ส่งผลต่ออนาคต
อนาคต ยังไม่เกิด แต่เป็นผลมาจาก อดีตควบรวมกับปัจจุบัน"
อย่าทิ้งเวลาให้รอ(อ่าน)นานนะครับ
โดย:
i.am.Victor
วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:10:30:07 น.
ขอบคุณทั้งสองคอมเม้นท์นะคะ
แวะเข้ามาอ่านแล้วรู้่สึกดีจัง
กำลังตาลายกับงานอยู่พอดี ก็หายเลยค่ะ
โดย:
le temps
วันที่: 17 ธันวาคม 2554 เวลา:17:01:00 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
le temps
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add le temps's blog to your web]
>> My shots on Flickr
Bloggang.com
ชอบอ่านบทความนี้จังเลยค่ะ