Top 5 รวมอาหารขึ้นชื่อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอก บรรยากาศชิวๆ สายต่อนยอน ต้องมาเช็คอิน

1 ) ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน กินไปเสียวไป กินหลักร้อย ชมวิวหลักล้าน

 

 

ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวราคาหลักสิบ แต่ได้ชมวิวหลักล้าน นับว่าคุ้มค่ามากเมื่อได้ขึ้นมาบนยอดดอยสูง ทางร้านก๋วยเตี๋ยวจ่าโบ มีให้เลือกทั้งน้ำใส น้ำต้มยำ และยังมีเส้นให้เลือกหลากหลาย จะกินมาม่าก็ยังมี จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสมญานามว่า เมืองสามหมอก เนื่องจากมีหมอกและควัน ดั่งเพลงพี่เบิร์ดเคยร้องไว้ ปกคลุมอยู่เกือบทั้งปี หน้าร้อนก็จะเจอควันไฟที่ชาวบ้านเผาป่ากันเอง ส่วนหน้าฝนก็จะเจอละอองเมฆฝน ในฤดูหนาวจะพบหมอกไอเย็นหนาวแบบสะท้าน เข้ามาครอบครองดินแดนภูเขาแห่งนี้ ...เมืองแม่ฮ่องสอน มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย เจ้าถิ่นคือไทใหญ่ ถือว่าเป็นพลเมืองหลักของจังหวัดนี้
 

ชาวไทใหญ่จำนวนมาก ได้เข้ามาตั้งรกรากในแม่ฮ่องสอน และหัวเมืองต่างๆในล้านนา ยุคแรกในสมัยอยู่ภายใต้การปกครองของพม่ายุคพระเจ้าบุเรงนอง เป็นระยะเวลาเกือบ200ปี จนวัฒนธรรมความเป็นอยู่ และอาหารการกินของชาวไทใหญ่ กลมกลืนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนล้านนาไปแล้ว จนถึงยุคที่สองของการอพยพชาวไทใหญ่ โดยเข้ามาเป็นแรงงานทำไม้ โดยบริษัทค้าไม้จากอังกฤษเป็นผู้นำเข้ามา แรงงานทำไม้เหล่านี้เชี่ยวชาญ ในเรื่องเจาะรูไม้สักให้ยืนต้นแห้งตาย จะได้ไม้สักที่มีเนื้อแห้งและแข็งมาก อังกฤษจึงขาดแรงงานชาวไทใหญ่ ผู้มีทักษะฝีมือทำไม้อย่างไม่ได้เด็ดขาด

ประวัติแม่ฮ่องสอนเดิมทีเป็นป่าดิบชื้น มีแต่ชาวยาง ชาวคะยา และชาวลัวะ อาศัยอยู่ ได้มีเชื้อพระวงศ์เจ้าเมืองเชียงใหม่ท่านหนึ่ง ได้มาคล้องช้างป่าในดินแดนลุ่มลำน้ำปาย ได้เจอดินแดนผืนสวยงาม มีร่องน้ำขนาดใหญ่ อยู่ละแวกภูเขาล้อมรอบสวยงามดั่งสวิสเซอร์แลนด์ เหมาะสมแก่การตั้งบ้านพักตากอากาศอย่างยิ่ง จึงตั้งชื่อบริเวณนี้ว่า ร่องน้ำสอนช้าง ก่อนจะเพี้ยนมาเป็นแม่ฮ่องสอน อย่างทุกวันนี้

 

2 ) ถั่วเน่าเมอะ อาหารเอกลักษณ์ของชาวไทใหญ่ นัตโตะแห่งเมืองแม่ฮ่องสอน

 

 

ถั่วเน่า เป็นส่วนผสมในอาหารไทใหญ่แทบทุกชนิด จนขาดกันไม่ได้เหมือนดั่งปลาร้าในอาหารอีสานเลยทีเดียว คนไทใหญ่รับสืบทอดการทำถั่วเน่ามาตั้งแต่บรรพบุรุษ เชื่อว่าถิ่นที่อยู่เดิมของกลุ่มไทต่างๆอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน ติดลาวและเวียดนาม เรียกว่าสิบสองจุไท หรือ เดียนเบียนฟู ...คนแถบนี้จึงมีวัฒนธรรม ในการกินถั่วเหลืองมาอย่างยาวนาน ถั่วเหลืองเป็นพืชที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน มีปลูกกันมา 5,000ปีแล้ว  ชาวไทใหญ่เป็นกลุ่มที่อพยพย้ายถิ่นฐานออกมาทางทิศตะวันตก  เข้ามาอยู่ในเขตรัฐฉานปัจจุบัน

การทำถั่วเน่ามีขั้นตอนการทำไม่ต่างกับเต้าเจี้ยวของชาวจีน มีการนำถั่วเหลืองมานึ่งให้สุก แล้วนำไปหมักเกลือให้เกิดปฏิกิริยากับเชื้อรา เกิดการบ่มจนเน่าได้ที่ใช้ระยะเวลาสัก3วัน  ถ้านำไปรับประทานเลยก็เรียกว่าถั่วเน่าเมอะ วิธีการปรุงก็คั่วใส่ใข่ใส่พริก กระเทียม พร้อมโรยผักชีลาว หรือ ถ้านำไปตากแห้งทำเป็นแผ่นบางๆ เรียกว่าถั่วเน่าแข็บ หรือ ถั่วเน่าแผ่น ใช้ย่างไฟพอให้เกรียมนิดๆ ตำผสมลงไปในแกงผักกาดจอก็ได้

จีนเองการมีหมักบ่มซีอิ้วกันแทบทุกหลังคาเรือน หลังจากบ่มจนเชื้อราขึ้น เป็นระยะเวลา3วันจนเน่าได้ที่ ก็นำมาผสมน้ำเกลือบรรจุลงในโอ่งปิดฝาดองไว้ 6เดือนเป็นอย่างน้อยก็จะได้ซีอิ้วสีดำ ใช้จิ้ม ใช้เหยาะในอาหารจีนกันแล้ว  ...ในญี่ปุ่นเองก็มีถั่วเน่าเหมือนคนไทใหญ่ เรียกว่านัตโตะ หรือ ถั่วเน่าญี่ปุ่น มีวิธีการทำเหมือนกันเปี้ยบ เรียกว่าก็อปเกรดเอ แบบเซิ่นเจิ้นเลยดีกว่า เพราะได้สูตรการทำมาจากจีนเหมือนกัน  ถั่วเน่าสไตล์ญี่ปุ่น เวลาทานก็จะเทคลุกลงไปกับข้าวสวย  ตอกไข่ไก่สดลงไปด้วยถ้ามี กินแบบนี้เป็นอาหารเช้าของชาวอาทิตย์อุทัย และถูกใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในซุปมิโซะด้วย

วัฒนธรรมการหมักดองของชาวจีน ยังพัฒนาจากถั่วเหลืองมาเป็นใช้ปลาตัวเล็กแทน อย่างการทำน้ำปลาของชาวจีนแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นต้นกำเนิดน้ำปลาแห่งแรก ก่อนที่สูตรการทำน้ำปลาจะแพร่หลายเข้าในเวียดนามและไทย  จนป่านนี้ใครหลายคน ก็คิดว่าน้ำปลาเป็นของไทย เพราะกินกันมาเกิน 5-6 ชั่วอายุคนแล้ว อารมณ์ก็ประมาณผัดกะเพรานั่นล่ะ บางคนถึงกับให้เป็นอาหารประจำชาติไปแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะมีมาไม่เกิน 50ปีนี่เอง

 

3 ) ผักกาดจอ ร้านใบเฟิร์น เมนูฮิตสุดคลีน พี่หม่ำยังชอบ กลางเมืองแม่ฮ่องสอน

 

 

ผักกาดจอ ร้านใบเฟิร์น เป็นเมนูยอดนิยมที่ทุกโต๊ะต้องออเดอร์สั่งมาลองลิ้มชิมรส คำว่าจอ ในภาษาเหนือแปลว่า ต้มผักที่มีรสเปรี้ยว ไม่ใส่เครื่องเทศหรือพริกแกงใดๆ เพียงแค่เติมฝักมะขามเปียกลงไป แล้วโรยหน้าด้วยพริกแห้งคั่วและต้นหอมผักชีเท่านั้น เป็นอันเสร็จพิธี ปัจจุบันผักกาดจอ กลายเป็นเมนูยอดนิยมของคนไทยทุกภาคไปแล้ว ด้วยความเป็นอาหารคลีน ไม่มีไขมัน ไม่มีรสชาติเผ็ดจัดจ้าน จึงสามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย

ไม้สักทอง เป็นสินค้า ที่ทำรายได้มหาศาลให้กับบรรดาเจ้าผู้ครองนครล้านนา ด้วยความเป็นไม้เนื้อแข็งทนทานอยู่ได้หลายร้อยปี ไม้สักทองจึงเป็นที่นิยมและมีความต้องการสูง ไม้เหล่านี้ได้ถูกบรรทุกขนส่งลงเรือไปถึงเกาะอังกฤษ เพื่อใช้ก่อสร้างบ้านเรือนและโบสถ์ในขณะนั้น  ...เนื่องด้วยอุตสาหกรรมการทำไม้ในเขตพม่า มีการทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนไม้สักทองเริ่มหมดและหายากมากขึ้น บริษัทบอมเบย์เบอร์มา เป็นตัวแทนจากรัฐบาลอังกฤษได้เจรจาตกลงทำสัญญาขอเปิดป่า เข้ามาทำสัมปทานป่าไม้ในฝั่งดินแดนล้านนา แม่ฮ่องสอนขณะนั้นยังเป็นป่าดงดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยไม้สักทอง

 

 

ตำนานนายห้างป่าไม้ชาวฝรั่งจึงเกิดขึ้น นายหลุยส์ เลียว โนเว่น ชาวอังกฤษ (เป็นลูกชายของแหม่มแอนนา นักเขียนผู้โด่งดังนั่นเอง)  หลุยส์มาในตำแหน่งผู้แทนจากบริษัทบอมเบย์เบอร์มา ได้เข้าดูแลกิจการทำไม้ทั้งหมดของบริษัทในเขตดินแดนล้านนา นายห้างฝรั่งในสมัยนั้น มีกฏของบริษัทห้ามนำภรรยาติดตามมาด้วย ด้วยเหตุต้องเข้าไปในป่าดิบชื้นที่อันตราย และมีแต่แรงงานเพศชายทั้งนั้น อาจจะเกิดเหตุอันตรายขึ้นได้

นายห้างฝรั่งจึงมีสถานภาพเหมือนกันหมดคือ โสดแต่ไม่สด  นายหลุยส์ จึงขึ้นชื่อเรื่องลือความเป็นเพลย์บอย ทั้งในเรื่องการดื่มและความเจ้าชู้ ว่ากันว่าหลังจากเสร็จภารกิจดูแลกิจการในป่า พอตกเย็นก็จะมีงานกินเลี้ยงปาร์ตี้ในบรรดานายห้างฝรั่งด้วยกัน และเหล่าลูกน้องคนสนิท ในเขตบ้านพักสุดหรูใจกลางเมือง ถึงเวลาเหมาะสมก็จะมีหญิงนายหน้าจูงมือสาวน้อยชาวล้านนาเข้ามาให้เลือกหน้าคร่าตากัน ถูกใจกันแล้วจึงนัดแนะเวลาเพื่อมารับหญิงสาวกลับไป เป็นอย่างนี้จนเป็นกิจวัตรประจำ สมัยนั้นมีการเปรียบเปรยว่านายหลุยส์  อยู่สุขสบายดีราวกับเป็นเจ้าแห่งล้านนาไปอีกคนนึง

 

4 ) ถั่วพูอุ่น ตลาดสายหยุด แม่ฮ่องสอน  เมนูแปลกแหวกแนว หาที่ร้าน 7-11 ไม่เจอแน่นอน

 

ถั่วพูอุ่น ในตลาดสายหยุด อำเภอเมือง แม่ฮ่องสอน เป็นเมนูอาหารเช้ามื้อพิเศษ จะพบเห็นได้ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนนี้เท่านั้น เป็นซุปข้นๆจากถั่วลูกไก่ นำมาบดเคี่ยวจนได้น้ำเหนียวข้น ใส่ผงขมิ้นให้ออกสีเหลือง เวลารับประทานก็จะมีการโรยหน้าด้วยถั่วพูแบบทอดลงไปอีกที คำว่าพูในภาษาไทใหญ่ แปลว่าพองโตขึ้น ไม่ใช่ถั่วพูลที่เรามักนำมากินกับน้ำพริกกะปิ ชื่อจะคล้ายๆกันทำให้หลายคนเข้าใจผิดมาโดยตลอด

ขอกลับมาพูดเรื่องแม่หญิงของนายหลุยส์กันต่อ  อาชีพโสเภณีมีมาตั้งแต่ยุคโบราณทุกแห่งทั่วโลก ในไทยกว่าจะมีการตรากฏหมายลักษณะผัวเมีย ก็ปาเข้าไปสมัยอยุธยาแล้ว จึงสันนิษฐานได้ว่ายุคก่อนหน้านั้นคงจะมีการมั่วไปหมดอย่างแน่นอน ไม่รู้ผัวใครเมียใคร  เป็นลักษณะซื้อขายกันเอง ไม่มีรูปแบบธุรกิจชัดเจน  จนมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เริ่มมีการตั้งสถานรับชำเราบุรุษ และ สำนักโคมเขียว เกิดขึ้น ด้วยเหตุไว้รองรับแขกต่างชาติผู้เดินทางติดต่องานในสยาม ซึ่งมีการจัดเก็บภาษีเข้ารัฐอย่างถูกกฏหมาย ก่อนจะมายกเลิกในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้มีการออกกฏหมายให้การค้าประเวณีเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ด้วยเหตุผลขัดต่อศีลธรรมอันดีของประเทศ

การค้าประเวณีในไทยยังคงดำเนินต่อไปในรูปแบบแอบแฝง ตั้งแต่ยุคเมียเช่าจีไอ ไว้บริการทหารหนุ่มอเมริกันกลัดมันทั้งหลาย จนเกิดแหล่งค้าสำคัญเป็นเมืองพัทยาในปัจจุบัน  รูปแบบเริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆเป็นร้านนวดน้ำมัน อาบอบนวด คาราโอเกะ ไนท์คลับ  สาวเอนเตอร์เทน พริตตี้รับจ้างกินข้าวเป็นเพื่อน รวมไปถึงบาร์โฮส สำหรับสายโหม่งเหลืองก็มีด้วยนะเออ 555

ธุรกิจค้าประเวณีในไทยเป็นธุรกิจสีเทาขนาดใหญ่ เงินสะพัดนับแสนล้าน เงินก้อนนี้เข้ากระเป๋ามาเฟียและผู้มีอิทธิพลไปแบบเต็มๆ ไม่มีเสียภาษีให้รัฐสักกะบาท ถึงเวลาแล้วควรจัดให้มีการค้าประเวณีแบบถูกกฏหมายเหมือนในต่างประเทศเค้า ตัวอย่างเช่น ถนนเรดไลท์ของประเทศเนเธอร์แลนด์อันโด่งดัง เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่เหล่านักท่องเที่ยว(ชาย)ทุกคน อยากไปเช็คอิน

 

 

มะละแหม่ง เป็นเมืองท่าสำคัญของพม่าในอดีต เป็นหัวใจสำคัญของการบรรทุกสินค้าทางเรือ ซึ่งหัวเมืองรัฐกะเหรี่ยง รัฐฉานไทใหญ่ อาณาจักรล้านนา ต้องหวังอาศัยพึ่งพามาโดยตลอด ยุคนั้นไม้สักทองของล้านนาที่ตัดในเขตแม่ฮ่องสอน เมื่อตีตราเสร็จแล้วจะให้ถูกล่องลงมาในแม่น้ำสาละวิน ลำเลียงซุงมาตามสายน้ำ จนถึงปากแม่น้ำของเมืองมะละแหม่ง  ในอดีตเมืองธุรกิจแห่งนี้เคยถูกเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ ตั้งให้เป็นศูนย์กลางปกครองแห่งพม่าฝั่งตะวันออก จึงมีความเจริญด้านการค้า สิ่งก่อสร้าง การศึกษาต่อ ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารเป็นหลัก นับว่ามีความโกอินเตอร์เป็นอย่างยิ่ง
 

มะละแหล่ง เป็นเมืองหลวงแห่งรัฐมอญ  มีความเจริญด้านแทบทุกด้าน มีโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่าง รร.เซนต์ แพตทริคส์ ที่เจ้าน้อย ศุขเกษม เจ้าชายหนุ่มแห่งเชียงใหม่ ยังต้องมาศึกษาต่อที่นี้ ด้วยความที่เจ้าแก้ว นวรัฐ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ผู้เป็นบิดา รู้สึกเป็นห่วงและอยากให้เจ้าน้อยได้เรียนรู้เกี่ยวการค้า การลงทุน การบริหารธุรกิจ ในดินแดนภายใต้ปกครองของอังกฤษอย่างพม่า ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเกิด มากกว่าการเดินทางไปไกลอย่างในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา ที่บรรดาเหล่าเจ้าฟ้าแห่งเชียงตุง และ กลุ่มรัชยาทของล้านช้าง เค้านิยมไปศึกษาต่อในระดับสูงกัน ทั้งที่ฐานะของเจ้าแก้ว นวรัฐ ก็ถือว่าอยู่ในขั้นร่ำรวยมหาศาล มีเงินส่งเสียให้เจ้าน้อยไปเรียนในประเทศที่เจริญแล้วได้แน่นอน
 


การเลือกมาศึกษาต่อที่เมืองมะละแหม่ง จึงทำให้ เจ้าชายหนุ่มแห่งล้านนา ได้มาพบเจอ แม่ค้าสาวชาวมอญ วัยกระเตาะน่ารัก นามว่า มะเมี้ยะ ... เจ้าน้อยศุขเกษมกับมะเมี้ยะ ได้สร้างตำนานรักอันโด่งดัง จนเป็นตำนานแห่งล้านนา  เมื่อเจ้าน้อยสำเร็จจบการศึกษา ได้เดินทางกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองเชียงใหม่ พร้อมสาวมอญร่างเล็ก ซึ่งไม่อาจเป็นที่ยอมรับของเหล่าวงศาคณาญาติได้ เนื่องจากฐานันดรและยศฐานบรรศักดิ์มีความห่างไกลกันมาก ถ้าเป็นคนสมัยนี้ก็เรียกได้ว่าได้คู่ครองแบบศีลไม่เสมอกัน ไม่เหมาะสมด้วยเหตุประการทั้งปวง

มะเมี้ยะจึงถูกไล่ส่งกลับไปมะละแหม่งทั้งน้ำตา ความรักเสพสมบ่มิสมจึงจบลงด้วยความเศร้า มะเมี้ยะตัดสินลาบวชชีไปตลอดชีวิต ส่วนทางเจ้าน้อยศุขเกษม ก็แอลกอฮอลิซึ่มหนัก ดื่มเหล้าหนักจนตับแข็งเสียชีวิต คนเหนือมักเรียกอาการนี้ว่า เป็นปิ ... อุปสรรคความรักของทั้งสอง มิได้มีสาเหตุจากการเมืองช่วงยุคล่าอาณานิคมอย่างที่นักประวัติศาสตร์บางท่านเขียนไว้ เพราะเจ้าทางล้านนามักมีการแต่งงานระหว่างกันกับเจ้าทางฝ่ายเชียงตุง เจ้าฝ่ายล้านช้าง เป็นเรื่องปกติที่สืบทอดมายาวนาน จนดองกันเป็นปึกแผ่น
 

5 ) โต๊ะสะเบื้อก เป็นเมนูระดับฮ่องเต้ของชาวลัวะ หากินในภัตตาคารเยาวราชไม่ได้แน่



โต๊ะสะเบื้อก เป็นเมนูระดับฮ่องเต้เลยก็ว่าได้ สำหรับชาวลัวะในจังหวัดแม่ฮ่องสอน นิยมทำในวันพิเศษที่มีการเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษ โดยนำเนื้อหมูต้ม เครื่องในหมูต้ม ที่ไหว้ผีเสร็จพิธีแล้ว ก็นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เกลือ ผงชูรส หอมแดง ผักไผ่หอมด่วน ตะไคร้ซอย พริกขี้หนูตำ แล้วคลุกเคล้าให้ส่วนผสมต่างๆเข้าเนื้อ รสชาติออกเผ็ดๆ เค็มๆ เหมือนพวกยำหูหมูในบ้านเรา ออกแนวเป็นกับแกล้มเสียมากกว่า ชาวลัวะจะได้รับประทานกันในวาระพิเศษจริงๆเท่านั้น เนื่องจากเนื้อสัตว์ใหญ่บนดอยภูเขาสูงนั้นหาได้ยาก ไม่มีตลาดสดเหมือนในเมืองของคนพื้นราบ โปรตีนส่วนใหญ่จะได้มาจากปลาในอ่างเก็บน้ำ แมลง กบ เขียด สัตว์เลื้อยคลาน ที่พอจะหาได้ในพื้นที่
 


มะละแหม่ง เป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินของพม่าในขณะนั้น เงินรูปีของอินเดีย ถูกนำมาใช้เป็นเงินสกุลหลักในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า กับทางล้านนา รัฐฉานเชียงตุง รัฐคะยากะเหรี่ยง เนื่องจากพม่าถูกจัดการปกครองให้เป็นมณฑลหนึ่งในบริติชอินเดีย ... เงินรูปีในดินแดนล้านนา ถูกนำมาใช้แทนเงินผักชีของชาวไทใหญ่ และ เงินเจียงของชาวไทยวน เมื่อบริษัทค้าไม้จากอังกฤษได้ติดต่อเจ้าเมืองล้านนาขอเข้ามาเปิดป่าทำไม้  ดังนั้นการชำระเงินค่าสัมปทานไม้สัก และ การจ่ายเงินเดือนค่าแรงงาน  ล้วนถูกจ่ายชำระเป็นเงินรูปีทั้งสิ้น

ล้านนาจึงจำเป็นใช้เงินสกุลจากอินเดีย ในการแลกเปลี่ยนซื้อขายกับรัฐอื่นๆ  รวมทั้งจ่ายเป็นเงินเดือนข้าราชการของล้านนาเอง ... ความนิยมใช้เงินรูปี เริ่มลดน้อยถอยลงไป มีการนำเงินพดด้วงเข้ามาใช้แทน  เมื่อล้านนาตัดสินใจเข้าร่วมผนึกเป็นประเทศราชของสยาม ด้วยเหตุการเมืองในพม่ามีความผันผวนไม่แน่นอน

 


การเข้ามารวมกับสยามนั้น มีมติไม่เป็นเอกฉันท์เท่าไหร่ กลุ่มทายาทเจ้าเจ็ดตน อย่างเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตัดสินใจเข้าร่วมเหตุเพราะมีเจ้าดารารัศมีเป็นผู้ชี้นำ ส่วนเจ้าทางเชียงราย พะเยา พาน แพร่ น่าน  ยังคงสงวนท่าที  ยังไม่เร่งรีบตัดสินใจ เพราะเจ้าเมืองแต่ละคนต่างก็มีเอกภาพและความคิดเป็นของตัวเอง รวมทั้งไม่อยากสูญเสียผลประโยชน์และสิทธิ์ในการปกครอง ... เจ้าเมืองผู้ครองนครต่างๆในสมัยนั้นล้วนจบการศึกษาระดับสูงจากต่างประเทศกันทั้งนั้น จึงไม่มีใครเชื่อฟังใคร ยังรอดูเชิง เจรจาอยู่ร่วมกับกลุ่มเจ้าฟ้าเชียงตุงในรัฐฉาน ซึ่งขณะนั้นกำลังต่อรองกับอังกฤษเพื่อขอปกครองตนเอง โดยขอแยกตัวออกจากพม่า

แต่เกิดเหตุราชวงศ์คองบองซึ่งมีอำนาจเต็มสุดในพม่า มีข้อพิพาทต้องรบกับอังกฤษเรื่องตัดไม้เกินจำนวนที่ตกลงกันไว้ จนสุดท้ายพระเจ้าธีบอได้ยอมพ่ายแพ้สงครามให้กับอังกฤษ ต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนมาก  ในเวลาต่อมา กษัตริย์แห่งพม่าองค์สุดท้ายถูกอังกฤษใช้บทโหด  เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู สั่งปลดพระเจ้าธีบอจากการครองราชบัติ และควบคุมตัวส่งเนรเทศไปอยู่ที่อินเดีย  สถานการณ์ในพม่าจึงไม่สู้ดีนัก จึงเป็นเหตุให้ล้านนาส่วนที่เหลือตัดสินใจผนึกเข้ากับสยามในท้ายที่สุด
 




Create Date : 04 ตุลาคม 2562
Last Update : 10 ตุลาคม 2562 22:23:28 น.
Counter : 982 Pageviews.

0 comments

Lampang Eat and Trip
Location :
ลำปาง  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กินลำ กินม่วน ลำปางหนา บ้านเฮาเน้อ
Group Blog
ตุลาคม 2562

 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog