ถึงจะลดน้ำหนักขนาดไหน ก็ยังต้องกินข้าวอยู่ดี

พูดถึงการลดน้ำหนักที่ถูกต้องในที่นี้ อ.เนตรนภิส ธนนิเวศน์กุล นักโภชนาการที่มีคนไข้มาขอคำปรึกษาซึ่งมีตั้งแต่เด็กอายุ 9 ขวบ วัยรุ่น วัยทำงาน และวัยกลางคน 30-40 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มาขอคำปรึกษามากที่สุด ได้ให้ทัศนะที่อิงทางด้านโภชนาการว่า คงต้องยึดหลักพื้นฐานการกินที่ถูกต้องคือ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ในปริมาณที่เหมาะสม คงต้องเทียบxxxส่วนการกินอาหารกับธงโภชนาการของ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เป็นหลักในการบริโภคอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสม




ส่วนความเข้าใจผิดที่ว่า ห้ามกินข้าวหรือของจำพวกแป้ง หรือถ้าจะกินก็ต้องเป็นปริมาณที่น้อยๆและหันมาบริโภคเนื้อสัตว์แทนนั้น เป็นความเข้าใจผิดเพราะการบริโภคเนื้อสัตว์ล้วนทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโปรตีนมากเกินความจำเป็น ทำให้ร่างกายจำเป็นต้องขับออก นั่นหมายถึง ไตทำงานมากขึ้น

ผลเสียจากการที่ไม่กินข้าวและแป้ง ทำให้ร่างกายไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตเลย หรือถูกจำกัดในปริมาณน้อยมาก จะเกิดผลเสียในระยะยาว เนื่องจากกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายจะดึงมาใช้นั้นมีไม่พอต่อความต้องการ ทำให้ร่างกายจำเป็นต้องดึงไขมันส่วนที่สะสมออกมาใช้ แต่การเปลี่ยนไขมันมาแปรรูปเป็นกลูโคสทำให้เกิดสารที่เรียกว่า คีโตน ซึ่งหากมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเวลานานๆ ทำให้เจ้าสารตัวนี้ไปทำลายเซลล์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผลเสียอีกประการหนึ่งคือ ถ้างดคาร์โบไฮเดรตมาก จะมีผลทำให้น้ำตาลกลูโคสในสมองไม่เพียงพอ ผลที่ตามมาคือ ความรู้สึกหิวจะเกิดขึ้นบ่อย

ผลไม้ที่หวานจัดเป็นแหล่งน้ำตาลฟรุ้ตโตสขนาดใหญ่ เมื่อถูกร่างกายย่อยสลายแล้วจะเปลี่ยนรูปเป็นกลูโคส ถ้าเรารับประทานในปริมาณที่มากเกินไป ร่างกายจะสะสมอยู่ในรูปของไขมันแทนได้ ถ้าคิดจะลดก็ต้องชอบเจ้าผักโทนสีเขียวเสียก่อน ผักจำพวกที่เป็นกลุ่มใบจะเป็นสีอะไรก็ได้ ถึงแม้จะรับประทานในปริมาณที่มาก ตามหลักโภชนาการได้คิดเป็นอัตราส่วน ผัก 1/2 ถ้วยตวง จะให้พลังงานเพียงแค่ 25 แคลอรีเท่านั้นเอง

การออกกำลังกาย ออกตรงไหนก็ได้ เป็นสถานที่เราสะดวก มีคำถามว่า เวลาออกกำลังกายแล้วไม่มีเหงื่อหรือเข้าใจกันง่ายๆ การออกกำลังกายในห้องแอร์หรือการเล่นฟิตเนสนั่นเอง จะมีผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่ แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ดี เพราะในห้องแอร์มีความชื้นสัมพัทธ์น้อย เพราะฉะนั้นเหงื่อที่ร่างกายขับออกมานั้นจะมีการระเหยไปอย่างรวดเร็ว

เวลาในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพประมาณ 20-30 นาทีอย่างต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องเป็นท่าเดียวตลอด จะแตกย่อยออกเป็นหลายกระบวนท่าก็ได้ ในด้านวิชาการระบุไว้ว่า การที่เราออกกำลังกาย ร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันในนาทีที่ 6 เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องระบุไว้ว่า "อย่างต่อเนื่อง" และ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ประโยชน์ที่ได้รับคือ การเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและช่วยดึงพลังงานจากไขมันออกมาให้ได้มากที่สุดและสม่ำเสมอ หลังจากออกกำลังกายแล้ว คุณแค่ดื่มน้ำเปล่าตาม เพียงแค่นี้ร่างกายคุณก็สดชื่น และกระปรี้กระเปร่า ไม่แพ้เวลาตื่นนอนใหม่ๆ

การเรียนรู้และเข้าใจกลไกการทำงานของร่างกายอย่างถ่องแท้นั้น ทำให้เราสบายใจขึ้นได้ เพราะฉะนั้นเลิกกลัวข้าวกันได้แล้ว


ที่มา บทความ จาก //www.pooyingnaka.com
ที่มา รูปภาพ จาก Easy Thai Recipes by Ucancookthai.Com






Create Date : 19 มกราคม 2551
Last Update : 19 มกราคม 2551 20:13:23 น. 7 comments
Counter : 810 Pageviews.

 
ขอเก็บไว้เป็นความรู้ใหม่เลยนะคะ

เพราะเป็นคนหนึ่งที่กำลังลดน้ำหนักแล้วไปเน้นพวกเนื้อสัตว์

สู้ๆ นะคะ


โดย: ~Baan_Ohana~ วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:20:29:18 น.  

 


มาอ่านเป็นความรู้น๊า
ดี.ไม่กลัวข้าว
แต่ไม่ค่อยชอบทานข้าวอ่ะค่ะ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:20:48:25 น.  

 


โดย: ไก่ IP: 124.157.161.250 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:20:52:21 น.  

 
ใช่แล้วค่ะจะได้มีแรงขำ เพราะขำต้องใช้พลังงานแยะมาก


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:21:11:53 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ


โดย: zaesun วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:21:21:51 น.  

 
ข้อมูล ดี ก้าบบบบ


โดย: dogamania วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:23:14:12 น.  

 
มาขอเก็บข้อมูลด้วยค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:23:21:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กุ้งกลม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Kanlayarat Laoimjan

สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง
Google


Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
19 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ้งกลม's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.