|
แสงส่องใจ
Glitter Graphics - GlitterLive.com
เพื่อนๆ คงเคยมีความรู้สึกท้อแท้และสับสนกับผลของการทำความดี เพราะดูเหมือนคนในสังคมส่วนหนึ่งที่รู้ๆ กันว่าไม่ใช่คนที่ประพฤติปฎิบัติตนเป็นคนดี และอาจจะถูกมองว่าทำชั่วเสียด้วยซ้ำแต่กลับได้รับการยกย่องจากคนรอบข้าง มีอำนาจ มีเงินทอง ในทางกลับกันคนส่วนหนึ่งที่ทำแต่ความดี กลับต้องประสบเคราะห์กรรมต่าง ๆ นานา ถูกดูถูก ไร้ซึ่งอำนาจและเงินทอง จนกลายเป็นว่า คนทำดีได้ดีมีที่ไหน คนทำชั่วได้ดีมีถมไป จริงไหมครับ แม้แต่บรรดาลูกๆ ของผมก็เคยเอ่ยปากถามว่า คุณพ่อที่ว่าทำดีได้ดีนั้นจริงหรือ? เล่นเอาผมอึ้งไปนานเพราะไม่ทราบว่าจะหาตัวอย่างคนทำดีได้ดีจากที่ไหน ครั้นเวลาพวกเขาดูหนังสารคดีชีวิตทางโทรทัศน์ เช่น คนค้นคน หรือ วงเวียนชีวิต เป็นต้น ก็มักจะเห็นแต่คนดี คนกตัญญู ที่ยากจน ลำบาก แล้วอะไรคือการทำดีได้ดี?
ผมมาได้รับความกระจ่างก็จากหนังสือ แสงส่องใจ ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ทรงอธิบายไว้ทำให้เข้าใจได้ทันที เลยอยากจะนำมาให้อ่านกัน เพื่อที่ว่าเราทั้งหลายจะได้ไม่ท้อแท้และสิ้นหวังที่จะทำความดี ต่อไปจนถึงที่สุด
เราแต่ละคนนั้นเปรียบเสมือนหนึ่งเทียนเล่มน้อย คนส่วนใหญ่คิดว่าเทียนเล่มน้อนนั้นคงไม่มีคุณค่าอะไรแสงสว่างที่ให้นั้นก็เพียงน้อยนิด แต่หากเทียนเล่มน้อยนั้นถูกนำไปต่อให้กับเทียนเล่มน้อยอีกหลายๆ เล่ม ก็คงไม่มีใครปฏิเสธว่าสามารถส่องสว่างให้กับโลกที่มืดมิดได้ แต่สิ่งที่เราต้องจำไว้คือ เรามีหน้าที่ทำความดี เพราะความดีนั้นเปรียบเสมือนแสงสว่างของเทียนเล่มน้อยนั้น และความสุขที่แท้จริงของชีวิตนั้นคือการเป็นผู้ให้ เพราะทุกสิ่งที่ยินดีมอบให้ผู้อื่นด้วยความเอื้อเพื้อ จะหวนกลับมาช่วยให้ชีวิตคุณอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างไม่ได้คาดคิด สุดท้ายผมขอฝากไว้ว่า ขอให้เรามองดูอดีตและสิ่งที่ผ่านมาด้วยความเข้าใจ มองเบื้องหน้าด้วยศรัทธาและความหวัง และมองคนรอบข้างด้วยความรักและการให้อภัย เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับคือความสำเร็จและความสุขในชีวิตไม่ว่าจะเป็นด้านการงานหรือครอบครัว ผมหวังและเชื่อว่าด้วยบทความนี้คงช่วยจุดแสงสว่างของเทียนเล่มน้อยได้บ้างนะครับ
แสงส่องใจ (อันดับ ๓) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระชนมายุ ๘๐ พรรษา วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๓๖
ความดีหรือบุญกุศลเปรียบเหมือนแสงไฟ ผู้ที่ทำบุญกุศลอยู่อย่างสม่ำเสมอเพียงพอ แม้จะเหมือนไม่ได้รับผลของความดี และบางครั้งก็เหมือนทำดีไม่ได้ดี ทำดีได้ชั่วเสียด้วยซ้ำ เช่นนี้ก็เหมือนจุดไฟในท่ามกลางแสงสว่างยามกลางวัน ย่อมไม่ได้ประโยชน์ จากแสงสว่างนั้น แต่ถ้าตกค่ำมีความมืดมาบดบังแสงสว่างนั้นย่อมปรากฏขจัดความมืดให้สิ้นไป สามารถแลเห็นอะไรๆ ได้ เห็นอันตรายที่อาจมีอยู่ได้ จึงย่อมสามารถหลีกพ้นอันตรายเสียได้ ส่วนผู้ไม่มีแสงสว่างอยู่กับตน เช่นไม่มีเทียนจุดอยู่ เมื่อถึงยามกลางคืนมีความมืดมิด ย่อมไม่อาจขจัดความมืดได้ ไม่อาจเห็นอันตรายได้ ไม่อาจหลีกพ้นอันตรายได้
ผู้ทำความดีเหมือนผู้มีแสงสว่างอยู่กับตัว ไปถึงที่มืดคับขัน ย่อมสามารถดำรงตนอยู่ได้ด้วยดีพอสมควรกับความดีที่ทำอยู่ ตรงกันข้ามกับผู้ไม่ได้ทำความดีซึ่งเหมือนกับผู้ไม่มีแสงสว่างอยู่กับตัว ขณะยังอยู่ในที่สว่าง อยู่ในความสว่างก็ไม่ได้รับความเดือดร้อน แต่เมื่อใดตกไปอยู่ในที่มืดคือที่คับขันย่อมไม่สามารถดำรงตนอยู่ได้อย่างสวัสดี ภัยอันตรายมาถึงก็ไม่รู้ไม่เห็น ไม่อาจหลีกพ้น คนทำดีไว้เสมอกับคนไม่ทำดีแตกต่างกันเช่นนี้ประการหนึ่ง
การทำดีต้องไม่มีพอ ต้องทำให้ยิ่งขึ้นอยู่เสมอเพราะไม่มีใครอาจประมาณได้ว่าเมื่อใดจะตกไปในที่มืดมิดขนาดไหน ต้องการแสงสว่างจัดเพียงใด ถ้าไม่ตกเข้าไปในที่มืดมิดมากมายนัก มีแสงสว่างมากไว้ก่อน ก็ไม่ขาดทุน ไม่เสียหาย แต่ถ้าตกเข้าไปในที่มืดมิดมากมาย แสงสว่างน้อย ก็จะไม่เพียงพอจะเห็นอะไรๆ ได้ถนัดชัดเจน การมีแสงสว่างมากจะช่วยให้รอดพ้นจากการสะดุดหกล้มลงเหวลงคู หรือ ตกเป็นเหยื่อของสัตว์ร้ายจนถึงตายถึงเป็น
อานุภาพของความดีหรือบุญกุศลนั้นเป็นอัศจรรย์จริง เชื่อไว้ดีกว่าไม่เชื่อ และเมื่อเชื่อแล้วก็ให้พากันแสวงหาอานุภาพของความดีหรือบุญกุศลให้เห็นความอัศจรรย์ด้วยตนเองเถิด
By: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2551 1:02:57 น. |
Counter : 969 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: kulchot61 11 กุมภาพันธ์ 2551 15:22:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดุ๊ค IP: 125.24.2.254 13 กุมภาพันธ์ 2551 0:17:16 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
Color Codes ป้ามด
เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย ดูอย่างต้นไม้ซิ มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี อดทนและอดทน เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข
|
|
|
|
|
|
|
|
สาธุค่ะ
แสงสว่างเพียงเล็กน้อยดีกว่ามืดสนิทนะคะ
มีแต่ความสุขค่ะ