เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
22 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
ธรรมะจากหลวงปู่ คำสอนอันเป็นคุณประโยชน์ในการดำเนินชีวิตสำหรับทุกคน

ธรรมะเกิดขึ้นจากใจ

เคยสงสัยไหมว่าอะไรคือพระธรรม พระธรรมมีเอาไว้ทำอะไร พระพุทธเจ้าทำไมต้องแสดงพระธรรม

เราก็ต้องย้อนกลับไปในอดีตเมื่อ 2000 กว่าปีก่อน เริ่มต้นจากการมีชีวิตอยู่ของสรรพสัตว์ยุคนั้น

จะพิจารณาได้จาก การเมืองการปกครอง การแบ่งแยกชั้นวรรณะ ชนเผ่าและสี กลิ่นของบุคคล

แบ่งแยกออกเป็น 4 ประเภทคือ

- กษัตริย์ วรรณะ 1 มีหน้าที่ปกครองแผ่นดิน

- พราหมณ์ มีหน้าที่อบรมสั่งสอนไตรเพท และคัมภีร์คำสั่งสอนของศาสนา รวมทั้งจารีต ประเพณี

และบางทีบางครั้งก็ทำการปกครองบ้านเมืองด้วย

- แพศย์ มีหน้าที่ทำการติดต่อค้าขายกับธุระเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับเกษตรกรรม

- ศูทร มีหน้าที่รับจ้างเป็นแรงงานเป็นจับกัง

และมีอีกชนชั้นที่เหลือเดนเรียกว่า จัณฑาล ที่พ่อกับแม่ต่างวรรณะกัน สมสู่กัน ออกลูกมาถือว่า

เป็นคนที่ไม่เอาไหน ไม่เอาถ่าน ไม่เอาประเทศ

เมื่อพระศาสดาทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศพระศาสนาอันดับแรก พระองค์เพียงเพื่อ

จะได้แก้การปกครองและความเชื่อกันมาผิด ๆ ในเรื่องของการแบ่งชนชั้นวรรณะ

ตัวอย่างเช่น ถ้าหากพวกกษัตริย์และพราหมณ์เดินมา พวกศูทรและพวกแพศย์ จะไปมองหน้าไม่ได้

ถ้ามองหน้า ก็จะโอนควักลูกตาทิ้ง เพราะถือว่าลบหลู่เบื้องสูง สุนัขของพราหมณ์ พวก กษัตริย์ พวกแพศย์

พวกศูทรเดินผ่านมา พวกจัณฑาล จะเดินสวนกับสัตว์เลี้ยงของชนชั้นสูงต่าง วรรณะไม่ได้

ต้องลงไปแอบข้างทางแล้วทำความเคารพกับสัตว์เลี้ยงเหล่านั้น เราจะเห็นว่ามีการ แบ่งแยกชนชั้นวรรณะ

อย่างชนิดเหยียดหยามความเป็นคน

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนา อันดับแรก พระองค์เพียงมุ่งหวังให้สรรพ สัตว์อยู่ร่วมกัน

อย่างสันติ อยู่ร่วมกันอย่างชนิดที่ เกื้อกูลการุณย์ อนุเคราะห์อุปถัมภ์ค้ำชู ต่อกันและกัน โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

เมื่อเป็นดังนั้นพระองค์มุ่งหวังจะแก้กฎเกณฑ์ของสังคม ที่เขานิยมยกย่องกันว่า เหยียดย้ำคนต่ำ ยกย่องคนสูง

ชมชอบคนขาว ปฏิเสธคนดำ เมื่อพระองค์ทรงประกาศพระศาสนาของพระองค์ ทรงประกาศอุดมการณ์

และความเชื่อ ความอยู่ร่วมเป็นนโยบายแห่งศาสนาอันดับแรกเลยก็คือ ผู้ที่มาจากต่างที่ต่างถิ่น ต่างชั้น

ต่างวรรณะ ไม่ว่าจะเป็นมาจากกษัตริย์ มาจากพราหมณ์ มาจากแพศย์ มาจากศูทรหรือมาจากจัณฑาล

เมื่อเข้ามาอยู่ในศาสนานี้ มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ มาด้วยพระธรรม มีธรรมเป็นเครื่องอาศัย

ถือว่าเสมอภาคกันโดยดุษฎี

จะเห็นว่าพระองค์ทรงแสดงประกาศพระศาสนา เพื่อจะปลดเปลื้องความเดือดร้อน และทุกข์ภัย

ของสรรพสัตว์ในยุคนั้นอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใด เมื่อเข้ามาอยู่ในศาสนา นี้แล้วไซร้ จะไม่มี

การแบ่งแยกสี เผ่า และวรรณะ ซึ่งต่างจากลัทธิและศาสนาอื่นๆ ซึ่งมีถึง 600 กว่าลัทธิ ก็ยังยึดถือ

วรรณะเป็นเกณฑ์ แต่มีศาสนาเดียวในยุคนั้น ที่ไม่ยึดถือวรรณะ แต่ยึดถือ ความเข้าใจในวิญญาณและชีวิต

ของพระศาสดาที่พระองค์ทรงประกาศพระศาสนา เพื่อให้ศาสน ธรรมซึมสิงเข้าไปในหัวใจของสรรพสัตว์

เพื่อจะให้สรรพสัตว์อยู่ร่วมกันโดยสันติ สามัคคีเป็น หนึ่งเดียว และต้องเคารพในธรรมซึ่งกันและกัน

ไม่ใช่ด้วยวรรณะและการยกย่อง และด้วยเกียรติ

เพราะฉะนั้น ถ้าจะมาถามกันในจุดยืนว่า ธรรมะคืออะไร ก็คือธรรมะที่สามารถ ทำให้เราอยู่ร่วมรวมกัน

ได้โดยสันติวิธี มีความนำมาซึ่งความสะอาด สว่าง สงบ มีการนำมาซึ่ง ความประหยัด และได้ประโยชน์แม้แต่

การใช้ชีวิต และโดยการนำมาซึ่งการพัฒนา ตั้งแต่หัวจรด ปลายตีน ให้เป็นที่ยอมรับของกันและกัน ไม่ว่าจะมา

จากวรรณะใดๆ ให้ยอมรับของกันและกัน ไม่ใช่ด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ใช่ให้ยอมรับโดยวัยวุฒิ ไม่ใช่ให้ยอมรับ

โดยชาติวุฒิ ไม่ใช่ให้ยอม รับโดยคุณวุฒิ แต่ให้ยอมรับกันโดยธรรมวุฒิ คือมีพระธรรมเป็นเครื่องอยู่อาศัย

และยอมรับกัน เคารพกันในฐานะที่มีพระธรรม เป็นความเสมอภาค ที่พระองค์ทรงปลดเปลื้องความเป็นทาสของ

สรรพสัตว์ พวกแพศย์ พวกศูทร พวกจัณฑาล ที่เคยตกเป็นทาสของกษัตริย์และพราหมณ์ เมื่อเข้ามาบวชแล้ว

ก็ไม่ต้องเป็นทาสใคร กษัตริย์และพราหมณ์ที่เคยใช้แพศย์ ศูทร และจัณฑาลเป็น ขี้ข้าต่างวัวต่างควาย

ถ้าจะเหยียบจะย้ำก็ทำได้ เมื่อเข้ามาบวชแล้วอยู่ในศาสนธรรมนี้ ก็ทำเช่น นั้นไม่ได้ ต้องยอมกันโดยเหตุปัจจัย

ดูตัวอย่างพระมหานามะที่เป็นสุขุมาลชาติ เป็นชาติกษัตริย์ โดยโคตรฝ่ายแม่สมบูรณ์ ฝ่ายพ่อก็บริสุทธิ์

เมื่อถึงตนเข้ามาบวช ความที่มีใจคิดที่จะปลดเปลื้อง ความหยิ่งผยอง ทรนง ยโสโอหัง นายภูษามาลาการ

คือผู้จัดชุดผ้าผ่อน เครื่องทรง ที่ตามเสด็จ มาส่ง เพื่อจะให้พระมหานามะกับพระราชบุตรทั้งหลาย ให้เข้ามาบวช

ในศาสนาพระสมณโคดม ราชกุมารทั้ง 6 กลับปฏิเสธที่จะบวชก่อน กลับให้นายภูษามาลาการที่เป็นขี้ข้า

ต่ำกว่าตนบวชก่อน ท่านผู้นั้นมีนามว่าอุบาลี แล้วเมื่อบวชแล้วเป็นผู้ทรงจำพระวินัยอย่างยอดเยี่ยม

ได้รับการเคารพ กราบไหว้กับชนทั้งหลาย ท่านอุบาลีจริงๆแล้วเป็นคนรับใช้ของพระมหานามะ

แต่เมื่อบวชมา แล้วพระมหานามะต้องมากราบไหว้ในฐานะที่ท่านเป็นผู้เฒ่า เป็นผู้อาวุโสโดยธรรม

เพราะมีอายุ ในพระศาสนาก่อนตน เพราะฉะนั้นผู้ที่บวชเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น ไพร่ฟ้า ข้าราชแผ่นดิน คหบดี

เศรษฐี ยาจกหรือพระเจ้าจักรพรรดิ์จอมราชัน เมื่อบวชเข้ามาแล้ว ก็มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ มีความ

เสมอกันด้วยธรรมาวุฒิ คือมีคุณวิเศษในเรื่องของพระธรรม

ซึ่งจากวันนี้ หลวงปู่ได้สังเกตุทั้งผู้แก่ผู้เฒ่า ผู้ปานกลางและหนุ่มสาว เมื่ออยู่ร่วม กันก็เคารพ

ยอมรับกันโดยธรรม ต่างช่วยกันทำ ปฏิบัติพระธรรมโดยการกระทำ ถือว่าเป็นสิ่งที่ มันตรงจุดบริสุทธิ์ถูกต้อง

ต่อคำสอนที่พระศาสดาต้องการจะแสดงพระธรรม เพียงเพื่อจะปลด มานะ ความถือตัวถือตน ทิฐิ

ความเห็นที่บวกกับมิจฉา คือเห็นผิดว่า ต้องหยิ่งทรนง จองหอง อวดดี วางก้ามถือตัวว่าข้าเป็นผู้ใหญ่มีอายุมาก

มีพรรษามาก หรือมีความรู้ทางโลกมากเป็นที่ยอม รับของสรรพชนทั้งหลาย แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในศาสนธรรม

นี้แล้วต้องถือว่า ต้องถอดหน้ากากของ ตนออก และเมื่อพวกเราร่วมใจร่วมแรงช่วยกันทำสิ่งนั้นสิ่งนี้

นั่นคือกิริยาที่วิเศษสุด มันเป็นกิริยาที่ทำลงไปแล้ว ความระยำตำบอน ความไม่เอาไหน ไม่เอาถ่าน

มันก็หมดลงไปด้วยความรู้สึกว่า เรายอมรับนิยม ที่ได้จากการกระทำของตัวเรา

เราจะรู้สึกถึงรสชาติ และกลิ่นไอของความหอมหวานตลบอบอวน ต่อสิ่งที่ เราลงมือกระทำ

มันด้วยชีวิตวิญญาณ แม้แต่การกวาดขยะ ถูกุฏิ ปัดหยากเยื่อหยากไย่ ล้างห้องน้ำ ถ้าเราทำมันด้วยจิตใจ

ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี และเสียสละ ตั้งมั่นที่จะฝึกปรืออบรมตนนั้นแหละ คือสุดยอดของพระธรรม

ก็กิริยาอาการเช่นนั้น การที่เราจะลงมือทำงานสักอย่างหนึ่ง อย่าง น้อยๆ มันก็จะเป็นผลสะท้อนย้อน

เรามาให้รู้ว่า ปกติเราเป็นคนเกียจคร้านสันดานหยาบ หลังยาวไม่เอาไหน แต่ถ้าเมื่อใดที่เรากล้าที่จะทำ

และทำมันอย่างเฉียบขาด ต่อการกระทำที่จะทำให้ความระยำให้ลดลงไปละก็ แม้แต่การเก็บขยะขึ้น

มาหนึ่งชิ้นด้วยความเอื้ออาทรและอารี นั่นแหละคือวิธีการทำลายความอัปรีย์ได้อย่างเยี่ยมยอดทีเดียว

แต่ถ้าเมื่อใดที่เราเห็นกองขยะ แล้วเรายังเดินผ่านไปไม่ใส่ใจ แสดงว่าไม่มี พระธรรมอยู่ในใจ

เราไม่ได้ปฏิบัติพระธรรม พระธรรมในที่นี้ไม่ได้มีเอาไว้ให้คุยอวดกัน พระ ธรรมในที่นี้ไม่ได้มี

เอาไว้ให้ทำลายกฎระเบียบของสังคม พระธรรมในที่นี้มีเอาไว้สนับสนุนให้ทำ อะไรที่อยู่รอบข้างให้

เต็มไปด้วยความมีประโยชน์และประหยัดที่สุด นั่นแหละคือ คุณสมบัติของ พระธรรม แล้วถ้าตราบใดที่เรา

คุยกับคนอื่นว่าเรามีพระธรรม แต่ยังทำอะไรที่ระยำอยู่ตลอดกาล ยังเป็นคนเกียจคร้าน สันหลังยาว

ยังทำตัวเองเป็นคนทรนง จองหอง อวดดี ไม่ยอมรับเหตุและผล ของใครละก็ แสดงว่าเรายัง

ไม่มีพระธรรม ไม่เข้าใจพระธรรม แล้วถ้าเราใช้อะไรที่มันสุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้ให้มันอย่างคุ้มค่า

และเต็มไปด้วยความประหยัด แสดงว่าเราไม่เข้าใจพระธรรม รวมความ แล้วถ้าจะถามว่า

พระธรรมคืออะไร พระธรรมก็คือ สิ่งที่ทำลายความระยำทั้งปวงนั่นแหละ

เพราะฉะนั้นท่านที่รักทั้งหลาย อยากจะเตือนในฐานะญาติสนิทว่า พระ ธรรมนั้น

ไม่สามารถจะมาแสดงแจกแจง และจำหน่ายออกมาเป็นข้อเป็นเรื่องเป็นราวได้ เหตุผล

ก็เพราะ พระธรรมนั้น มันคือชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ มากไปด้วยสรรพประโยชน์

สำหรับ หลวงปู่แล้ว ไม่สามารถจะบอกได้อย่างชนิดเด็ดขาดว่า อะไรคือพระธรรม เพราะพระธรรมนี้มัน

สอนให้เรามีชีวิตอย่างมีศิลปะ เกิดขึ้นก็ด้วยศิลปะ สุดท้ายก็ตายอย่างมีศิลปะด้วย

รวมความแล้วถ้าที่ไหนยังมีความคิดแตกแยก มีความเห็นไม่ลงรอย มีความ เข้าใจไม่ถูกต้อง

จงรู้เถิดว่าคนเหล่านั้นไม่เข้าใจพระธรรม ไม่รู้จักพระธรรม และถ้าบ้านเมืองใด ประเทศใด วัดใด

ยังมีความเห็นเป็นนานาความเห็นอยู่ คือความเห็นที่ไม่กลมเกลียวสมัครสมาน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้

ก็ถือว่าบ้านนั้น เมืองนั้น ประเทศนั้น วัดนั้น ยังไม่มีพระธรรม ที่ ผ่านมานี้ก็เป็นการแสดงออกให้เราได้รู้ว่า

มันอยู่กันอย่างไม่มีพระธรรม มันถึงระยำกันอยู่ตลอด เวลา

ได้นำมาจากธรรมะ


Create Date : 22 พฤษภาคม 2550
Last Update : 22 พฤษภาคม 2550 21:44:49 น. 0 comments
Counter : 549 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.