|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ค่าโง่ของชีวิต
ค่าโง่ที่สาหัสที่สุด คือการต้องจ่ายหนี้บาป อันเกิดจากการทำบาปด้วยความไม่รู้ว่าบาปมีผล เหมือนเด็กที่ทำผิดโดยไม่รู้ว่าจะถูกครูตี เมื่อจะต้องถูกตีจึงรู้สึกถึงบรรยากาศอึมครึมน่ากลัว และถึงเวลานั้นก็สายเกินกว่าจะแก้ตัวเสียแล้ว
ส่วนค่าโง่ที่น่าเสียดายที่สุด คือการพบพระพุทธศาสนา แต่ไม่รู้ว่าพุทธศาสนา คือประตูไปสู่บรมสุขอันเป็นอมตะ มัวหลงเข้าใจว่าพุทธศาสนา เป็นแค่อีกศาสนาหนึ่งที่มีไว้ เพื่อให้เลือกเชื่อหรือไม่เชื่อกันตามอัธยาศัย
การพบพุทธศาสนาแบบไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง ก็เท่ากับหมดโอกาสรู้ตัว ว่ากำลังจ่ายค่าโง่กันเป็นภพเป็นชาติ ซึ่งก็นับไม่ถูกว่ากี่แสน กี่ล้าน กี่โกฏิชาติแล้ว
มูลค่าในการทำให้คนๆหนึ่งเข้าใจศาสนาพุทธ จึงตีเป็นจำนวนเงินเท่านั้นเท่านี้ไม่ได้ ถ้าจะคิดเป็นมูลค่ากันจริงๆ ต้องคำนวณกันเป็นอัตราความสว่าง เช่น ถ้าช่วยให้ใครสักคน เข้าใจพุทธศาสนาระดับทานและศีล ก็ได้เป็นอัตราความสว่าง ระดับเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นเทวดา ซึ่งก็นับว่ามีความจัดจ้ากว่าแสงอาทิตย์ได้ เพราะแสงอาทิตย์ไม่เคยช่วยให้คนๆหนึ่งเห็นสวรรค์ มีก็แต่บุญเท่านั้นที่เข็นไหว
แต่ถ้าช่วยให้ใครเข้าใจพุทธศาสนา ในระดับของการภาวนา ก็ได้มูลค่าเป็นอัตราความสว่าง ระดับเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นองค์อรหันต์ พ้นทุกข์พ้นภัยจากการเวียนว่ายตายเกิดถาวร ซึ่งแสงระดับนี้มีความจัดจ้าสูงสุด เทียบแล้วความสว่างระดับทานและศีลที่ยิ่งใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ กลับกลายเป็นของจ้อยไปเลย
เขียนมาทั้งหมดนั้น เกิดจากแรงบันดาลใจ ที่ช่วงหลังๆนี้เห็นคนรอบตัวหลายๆคน อิ่มเอมเปรมใจ ได้ดิบได้ดีจากการค้นพบทางธรรม แล้วมีแก่ใจให้ธรรมะกับผู้อื่นด้วยจิตคิดอนุเคราะห์
พระพุทธเจ้าตรัสว่าธรรมทาน ชนะการให้ทานอื่นใดทุกชนิด ความหมายคือผลของธรรมทานนั้น เจิดจรัสจัดจ้าเหนือความสว่างทั้งปวง คุณอย่าไปคิดว่าธรรมทาน จะแปรตัวเป็นกองทุนเลี้ยงชีพทันตา เพราะไม่แน่นอน ยังต้องบวกลบคูณหารกับกรรมเก่าอีก แต่ขอให้คิดว่าธรรมทานอันเกิดจากใจจริงคิดช่วย ได้แปรรูปเป็นความสว่างแห่งจิตทันใจเดี๋ยวนี้แหละ ไม่ต้องไปบวกลบคูณหารกับอะไรไกลตัว
ถ้าใครรู้สึกว่าตัวเองฉลาดกว่าเดิม หรือเฮงผิดปกติ ทั้งทำมาค้าขึ้น ทั้งได้ลาภ ทั้งได้รับความช่วยเหลืออย่างท่วมท้น ก็อย่าไปสรุปว่าผลของธรรมทานคือประมาณนี้ ผลดีของธรรมทานที่ได้รับในปัจจุบัน มันเป็นแค่เศษๆเสี้ยวๆของตัวอย่างเท่านั้น ของจริงที่จะให้ผลถึงที่สุดแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย มันต้องว่ากันเป็นภพเป็นชาติที่เจริญรุ่งเรืองกว่านี้ อย่างไม่อาจเอามาเทียบกัน
และเวลาที่ธรรมทานเปล่งอานุภาพขั้นสุดท้าย ก็จะไปกระทำกับจิตใจเจ้าของทานโดยตรง นั่นคือปรุงให้จิตเห็นตามจริงว่า ภพชาติทั้งหลายเป็นทุกข์ เป็นของควรรู้ว่าน่าทิ้ง ไม่ใช่ของควรคิดว่าน่าเอา กระทั่งมีกำลังที่จะทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อเหลือใย
ถ้าคุณทำให้คนแม้แต่คนเดียวรู้จัก เข้าใจ ตลอดจนเข้าถึงพระพุทธศาสนาได้ ตามแบบที่พระพุทธเจ้าทรงประสงค์จะให้พบจริงๆ ก็ให้ชื่นใจเถอะครับ บอกตัวเองเถอะครับว่า ได้สร้างขุมทรัพย์บันลือโลกไว้ให้ตัวเองแล้ว
ดังตฤณ พฤษภาคม ๕๒
|
| ขอบคุณบทความจากพลังจิตดอทคอม
|
|
Free TextEditor
Create Date : 29 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 23:59:59 น. |
|
1 comments
|
Counter : 790 Pageviews. |
|
|
|
โดย: kekzo IP: 202.29.51.2 วันที่: 30 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:40:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
Color Codes ป้ามด
เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย ดูอย่างต้นไม้ซิ มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี อดทนและอดทน เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข
|
|
|
|
|
|
|
|