|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
Color Codes ป้ามด
เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย ดูอย่างต้นไม้ซิ มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี อดทนและอดทน เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข
|
|
|
|
|
|
|
|
สละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต สุดท้ายสละชีวิตเพื่อรักษาธรรม การที่เรามีวิธีการ
มีโอกาส มีภาระ มีหน้าที่ และก็รู้จักสละทรัพย์ได้ตามกาลตามสมัยนั้น ถือว่า เราเป็นผู้มีธรรมะ
คนที่ไม่มีความเอื้ออาทร ไม่มีใจเมตตา ไม่คิดจะช่วยเหลือสรรพสัตว์ อย่าว่าแต่ทรัพย์นิดหน่อยเลย
แค่น้ำข้าวที่เราเทออกมาจากก้นหม้อที่เราเททิ้งแล้ว ก็ไม่อยากให้ใครกิน แต่คนที่มีจิตใจเอื้ออาทร
การุญต่อสรรพสัตว์ อย่าว่าแต่น้ำข้าวเลย เขาให้ได้มากกว่าน้ำข้าวอีก สุดท้ายแม้กระทั่งน้ำใจและ
เลือดเนื้อชีวิตของเขา แสดงว่าผู้ที่ให้ได้ก็ถือว่า ผู้มีธรรมอันเจริญแล้ว ผู้ที่ไม่มีความตระหนี่
ไม่มีความเห็นแก่ตัว ไม่ทำตนให้เป็นคนที่มีจิตใจคับแคบ
เมื่อเราคิดจะให้คนอื่นได้อย่างนี้ ผู้อื่นก็คิดจะให้เราได้มากกว่านั้น การที่เราเกิดมาเป็นคนมีทรัพย์
พระศาสดาทรงสอนให้เราได้รู้ว่า เพราะอดีตชาติเคยได้สะสมอบรม และแบ่งปัน ให้แก่คนอื่น
การที่เราเกิดมาเป็นคนมีปัญญา พระพุทธเจ้าสอนให้เรารู้ว่า เพราะอดีตชาติเรา เคยฟังธรรม
ปฏิบัติธรรมและเรียนรู้ธรรม ปัจจุบันจึงเกิดมาเป็นคนทีปัญญา ไม่โดนใครเขาโกหก หลอกลวง ชักจูง
ไปในทางที่เสียหายได้ การที่เราเกิดมาเป็นคนมีรูปสวย เพราะอดีตชาติเราเป็น คนที่เมตตา
การที่เราเกิดมาเป็นคนที่มีอวัยวะครบ 32 ไม่ขาดตกบกพร่อง ก็เพราะอดีตชาติเรา รักษาศีลบริสุทธิ์
การที่เรากลายเป็นบุคคลที่พูดจาให้คนเคารพยอมรับ และเชื่อฟังในคำพูด เชื่อถือ ในสิ่งที่พูด
เพราะเราเป็นคนมีสัจจะ มีธรรมะในวาจา คนอื่นฟังเราจึงเชื่อเรา คนอื่นฟังเราจึงยอมรับเรา
คนอื่นฟังเราจึงเคารพศรัทธาเรา
เพราะฉะนั้น ถ้าเรายังเชื่อว่า ปลูกมะม่วง ต้นมะม่วงย่อมให้ผลมาเป็นลูกมะม่วง พวกเราทั้งหลาย
ก็ต้องเชื่อว่าทำดี สักวันหนึ่ง เราต้องรับผลดีตอบแทน ยกเว้นเสียแต่ว่า พวกเรา ทั้งหลายปลูกมะม่วง
แล้วมันทะลึ่งออกมาเป็นลูกมะพร้าว แสดงว่าผลแห่งความดีไม่มีแล้วอย่าทำ แต่เวลานี้มะม่วงที่ไหน ๆ
มันก็ยังออกมาเป็นมะม่วงอยู่ดีนั่นแหละ ก็เป็นการยืนยันในสัจจะธรรมของพระพุทธเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
ของเราว่า ทำดีย่อมได้ดี คนทำชั่วย่อมมีผลชั่วตอบสนอง เหมือนอย่าง เรื่องของทางเข้าวัด
หลวงปู่ขอร้องให้เขาช่วยไปติดต่อ เพื่อจะซื้อทางด้านขวามือ ออกไปทาง หมู่บ้าน ซึ่งหลังจากที่เขา
ไปติดต่อแล้ว หลวงปู่ก็ได้ทราบมาว่า คนที่เป็นคนที่เช่าที่ เขาพูดว่า ถ้ามีปัญญาก็ให้ไปซื้อเอา
ถ้าเจ้าของที่ไม่ขายจะเอาทางที่ไหนออก หลวงปู่ได้พูดออกไปว่า แล้ว คอยดู กูจะเอาทางโดยที่
กูไม่ต้องเสียเงินสักบาท ซึ่ง ถ้าถามว่าทำไมหลวงปู่จึงมีความมั่นใจว่าสิ่ง ที่เราพูดนั้นต้องได้
ก็เพราะว่าสิ่งที่หลวงปู่ทำมาชั่วชีวิต ไม่เคยเป็นผู้รับ มีแต่จะเป็นผู้ให้ แต่ถ้า เมื่อใดที่คิดจะได้
หรือคิดจะรับบ้าง ไม่เคยมีอะไรที่หลวงปู่คิดแล้วจะไม่ได้
ถ้าเรารู้จักที่จะให้คนอื่นบ้าง และเมื่อใดที่เราต้องการบ้าง จำไว้ว่า บุญบารมีและผลบุญที่เราทำมา
ย่อมตอบสนองเราให้สมความปรารถนา การที่เราได้รู้จักให้ผู้อื่น อนุเคราะห์ผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น
เราอาจไม่มุ่งหวังอะไรตอบแทน แต่ถ้าสักวันหนึ่ง เราเกิดตกอับ ตกระกำลำบาก ถ้าเราต้องการอะไร
ตอบแทน แม้แต่น้ำที่อยู่บนหิน มันก็มีสิทธิที่จะหยดลงมาใส่ปากเราได้ เหมือน ดั่งที่พระมารดา
ของพระมหาโพธิสัตว์คือเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านเป็นผู้มีพรอัน 10 ประการ นั่นก็คือ เมื่อใดที่ท่าน
ปรารถนาจะกินน้ำ ถึงแม้จะอยู่ในถ้ำ น้ำก็จะไหลออกจากถ้ำ เมื่อใดที่ท่านปรารถนา จะได้ธัญญาชาติ
และอาหาร ถึงแม้จะอยู่ในป่า ก็จะได้ธัญญาชาติและอาหารที่สมบูรณ์ เปรียบ ประดุจอาหารทิพย์
ถามว่า ทำไมพระมารดาของพระมหาโพธิสัตว์ ถึงมีพรอันประเสริฐ และ สามารถได้รับผลตอบสนอง
ได้ขนาดนั้น ก็เพราะว่าอดีตชาติและทุกๆชาติ ท่านเป็นผู้ที่รู้จักให้ ตลอดเวลา จึงได้มีโอกาสได้เกิด
เป็นแม่ของพระพุทธเจ้า และเป็นมารดาของพระมหาโพธิสัตว์ อาหารและน้ำทรัพย์สมบัติ
และธัญญาชาติทั้งปวงที่ท่านต้องการไม่ขัดสน