สายตาจับจ้องที่ดวงดาว และเท้ายังคงติดดิน (Keep your eyes on the stars, and your feet on the ground.)
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
กินอย่างไรให้ยิ้มสวย

เราทุกคนทราบดีว่า สารอาหารที่เหมาะสมจะช่วยสร้างร่างกายที่แข็งแรงรวมไปถึงฟันและเหงือก แต่ไม่ใช่แค่น้ำตาล หรือของหวานที่ไม่ดีกับฟัน

     อาหารที่มีประโยชน์บางอย่างก็อาจทำให้ฟันผุกร่อนได้ ในขณะที่อาหารบางประเภทจะช่วยป้องกันโรคเหงือกและฟัน หรือแม้แต่ทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นได้ด้วยซ้ำ

1.กินคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารเท่านั้น

             ขนมปังโฮลวีตหรือมันฝรั่งทอดกรอบก็อาจไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าไหร่ อาหารจำพวกแป้งมักจะเกาะติดอยู่บริเวณช่องว่างระหว่างฟันหรือบริเวณเหงือก จากนั้น ก็จะแตกตัวเป็นน้ำตาล กลายเป็นสารอาหารให้แบคทีเรีย และทำให้เกิดคราบซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคเหงือกและอาการฟันผุ American Dietetic Association จึงแนะนำให้คุณกินคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารใหญ่ ๆ ดีกว่า เพราะในเวลานั้นเราจะหลั่งน้ำลายออกมามาก เศษอาหาร จึงถูกชะล้างไปโดยง่ายดาย

  2.กินวิตามินซีให้เพียงพอ

            วิตามินซีเปรียบเสมือนปูนที่เชื่อมเซลล์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน มันจำเป็นต่อผิวเช่นเดียวกับเนื้อเยื่อของเหงือก จากการศึกษาของ State University of New York University เปิดเผยว่า คนที่กินวิตามินซีน้อยกว่า 60 มิลลิกรัมต่อวัน จะมีโอกาสเป็นโรคเหงือกสูงกว่าคนที่กิน 180 มิลลิกรัม หรือมากกว่าถึง 25%

Try : พริกหวาน บร็อกโคลี่ สตรอวเบอร์รี่ มะละกอ กะหล่ำปลีต้ม ผักโขม ส้ม กีวี ผักคะน้า แคนตาลูป หน่อไม้ฝรั่ง

3.ดื่มชา

            ทั้งชาดำและชาขาวมีสารโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากพืชที่ช่วยป้องกันไม่ให้คราบหินปูนมาเกาะที่ฟัน จึงช่วยลดโอกาสเกิดฟันผุหรือโรคเหงือก นอกจากนี้ มันยังสามารถลดกลิ่นปากด้วยคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่น แถมชาส่วนใหญ่ยังมีฟลูออไรด์ที่ได้มาจากใบชา จึงช่วยปกป้องเคลือบฟันด้วยเหมือนกัน

4.กินแคลเซียม 800 มิลลิกรัมต่อวัน

            ประมาณ 99% ของแคลเซียมในร่างกายจะอยู่ในกระดูกและฟัน โดยแคลเซียมจะช่วยให้กระดูกอัลวีโอลาร์ในชากรรไกรแข็งแรง ซึ่งจะทำให้ฟันติดตรึงอยู่กับที่เป็นระดับและช่วยลดโอกาสเป็นโรคเหงือก ปริมาณที่แนะนำคือ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับผู้หญิงอายุต่ำกว่า 50 ปีและ 1,200 มิลลิกรัม สำหรับคนที่อายุมากกว่า 50 ปี

Try : โยเกิร์ต นม ชีส ปลาแชลมอน ข้าวโอ๊ต เต้าหู้ มัสตาร์ด อัลมอนด์ ขนมปังโฮลวีต

  5.สิ่งเล็ก ๆ ที่ช่วยคุณได้

         ไซลิทอล-สารแทนน้ำตาลที่พบได้ทั่วไปในหมากฝรั่ง มีการศึกษามากมายที่บ่งบอกว่ามันช่วยป้องกันฟันผุแครนเบอร์รี่และเห็ดหอม-อาหารทั้งสองอย่างมีสารเคมีที่ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเกาะติดกับฟัน ผัก อย่างเช่น แครอต-จะช่วยขจัดเศษอาหารและคราบหินปูนออกมา

Tip :

         ใช้หลอดกันฟันผุ น้ำหวานมากมายมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งอาจกัดกร่อนเคลือบฟัน การใช้หลอดจะช่วยให้น้ำเหล่านี้สัมผัสกับฟันน้อยที่สุด!

    Did You know?

         หากคุณมีแผลในปากหรืออาการร้อนในที่ไม่หายใน 1-2 สัปดาห์ ควรจะไปพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็งในช่องปาก ซึ่ง National Cancer Institute ชี้ว่ามีคนเป็นโรคนี้กว่า 30,000 คนต่อปี และมีอัตรารอดชีวิตเพียง 35% เองนะ





Create Date : 13 ตุลาคม 2555
Last Update : 13 ตุลาคม 2555 0:58:50 น. 0 comments
Counter : 911 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kanyong1
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]




เป็นคุณแม่ลูกสอง วัย42ปี สนใจการทำอาหาร และการท่องเที่ยวค่ะ ยินดีต้อนรับทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมบล็อคนะคะ หรือสามารถติดตามการทำอาหารได้ที่เฟสบุค Kannika Roddee

******************************
******************************

ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา…

จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว

ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร

แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ

ทำเท่าที่เราจะทำได้ และทำให้ดีที่สุด สักวันหนึ่ง ฝันของเราจะเป็นจริง :)

*****************************
*****************************
: จำนวนคนที่กำลังออนไลน์
online
Blackjack Online
free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add kanyong1's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.