ขนมปังโฮลวีตหรือมันฝรั่งทอดกรอบก็อาจไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าไหร่ อาหารจำพวกแป้งมักจะเกาะติดอยู่บริเวณช่องว่างระหว่างฟันหรือบริเวณเหงือก จากนั้น ก็จะแตกตัวเป็นน้ำตาล กลายเป็นสารอาหารให้แบคทีเรีย และทำให้เกิดคราบซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคเหงือกและอาการฟันผุ American Dietetic Association จึงแนะนำให้คุณกินคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารใหญ่ ๆ ดีกว่า เพราะในเวลานั้นเราจะหลั่งน้ำลายออกมามาก เศษอาหาร จึงถูกชะล้างไปโดยง่ายดาย
2.กินวิตามินซีให้เพียงพอ
วิตามินซีเปรียบเสมือนปูนที่เชื่อมเซลล์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน มันจำเป็นต่อผิวเช่นเดียวกับเนื้อเยื่อของเหงือก จากการศึกษาของ State University of New York University เปิดเผยว่า คนที่กินวิตามินซีน้อยกว่า 60 มิลลิกรัมต่อวัน จะมีโอกาสเป็นโรคเหงือกสูงกว่าคนที่กิน 180 มิลลิกรัม หรือมากกว่าถึง 25%
หากคุณมีแผลในปากหรืออาการร้อนในที่ไม่หายใน 1-2 สัปดาห์ ควรจะไปพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็งในช่องปาก ซึ่ง National Cancer Institute ชี้ว่ามีคนเป็นโรคนี้กว่า 30,000 คนต่อปี และมีอัตรารอดชีวิตเพียง 35% เองนะ