|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
รักแห่งสยาม ...Love will keep us alive.
หวัดดีคับ ห่างหายกับการรีวิวหนังไทยไปซะนาน วันนี้ขอตามกระแสนิดนึงนะคับเพราะเชื่อว่า ณ ตอนนี้คงจะไม่มีใครในสยามประเทศที่ไม่รู้จักหนังเรื่องรักแห่งสยามกันใช่มั๊ยคับ คือว่าเมื่อวานเพิ่งไปดูกับเพื่อนมาล่ะ อืงง์... จะเริ่มเขียนยังไงดีล่ะ เอาล่ะๆ ต้องเริ่มที่เรื่องย่อก่อนสิเนอะ...
เรื่องเกิดที่สักแห่งในกรุงเทพ เด็กชายสองคน มิวกับโต้ง อยู่บ้านใกล้กัน พ่อกับแม่ให้มิวมาอาศัยอยู่กับอาม่า ส่วนโต้งก็อยู่ในครอบครัวอันพร้อมหน้าพร้อมตาที่มี พ่อ แม่ พี่สาว และโต้ง มิวกับโต้งเป็นเพื่อนรักกัน แต่อยู่มาวันหนึ่ง ครอบครัวของโต้งเดินทางไปเที่ยวที่เชียงใหม่ กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อแตง พี่สาวของโต้งหายสาบสูญไปในป่า นับตั้งแต่วันนั้นทุกๆ สิ่งก็เปลี่ยนไป ครอบครัวของโต้งย้ายไปอยู่ที่อื่น พ่อผู้เสียใจอย่างหนักจากที่เคยหาเลี้ยงครอบครัวก็ไม่ทำงานทำการ วันๆ เอาแต่กินเหล้า ปล่อยให้แม่ผู้ดูเหมือนจะรับมือกับสถานการณ์ได้ดีกว่าต้องจัดการกับปัญหาในบ้านเพียงลำพัง แต่ก็เหมือนฟ้าเล่นตลกที่นำพาให้โต้งมาพบกับมิวโดยบังเอิญอีกครั้ง ตอนนี้มิวตั้งวงกับเพื่อนๆ ออกผลงานเพลงภายใต้สังกัดเพลงสังกัดหนึ่ง ซึ่งมีจูน หญิงสาวผู้มีใบหน้าเหมือนกับแตง ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลวงของมิว แผนลับๆ เพื่อช่วยให้พ่อของเขาดีขึ้นก็เกิดขึ้นเมื่อโต้งพาแม่มาพบกับจูน จูนตกลงทำงานนี้โดยยอมแสดงเป็นแตงผู้กลับมาหาครอบครัวตัวเองอีกครั้งหลังการหายตัวไปหลายปี ...แล้วทุกคนก็ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ด้วยคำว่ารัก อันนำไปสู่บทสรุปสุดท้ายในคืนวันคริสต์มาสที่แต่ละคนได้ก้าวผ่านไปยังอีกระดับหนึ่งของชีวิต ...เล่ามาดีๆ จบซะเน่าเชียวกรู
ประเด็นที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับหนังเรื่องนี้คงจะหนีไม่พ้น ...Y หรือไม่ Y กันหนอ งุงิๆ ทำหยั่งงี้ได้งายล่ะตะเอง ก้อม่ายเหงโปรโมตว่าเปนหนังเกย์เรยอ่า... เอาเป็นว่าโดยส่วนตัวเรื่องนี้ผมไม่สนคับ ตราบใดที่ไม่ใช่ว่าเข้าไปดูในโรงจริงๆ หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นลาบเลือด วัยรุ่นหน้าใส 4 คนในโปสเตอร์ถือเลื่อยมาวิ่งไล่เชือด คว้านท้อง ควักลูกตากันเองแบบนั้นล่ะก็ ผมรับได้หมดแหละ และก็คงจะน่าเสียดายสำหรับคนที่ตอนแรกกะว่าจะไปดู แต่ตัดสินใจว่าจะไม่ไปเพราะว่าการโปรโมตแบบคนละเรื่องเดียวกันแบบนี้นะคับที่ต้องพลาดหนังไทยดีๆ เรื่องหนึ่งไป เพราะผมว่าบทภาพยนตร์เรื่องนี้เจ๋งมากๆ เลยอะ นึกออกปะ อารมณ์ประมาณว่า Love Actually ของเมืองไทยอะไรเงี้ย แต่ว่าไม่กิงก่องแก้วเท่า แล้วตัวละครบางตัวก็ไม่ตอแหลจนเกินงามแบบเรื่องนั้นอะ (ขออภัยแฟนๆ Love Actually ด้วยความสัตย์จริง) แต่ว่าอันที่จริงก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ดูสมจริง และใกล้ตัวเท่า Seasons Change ...นี่ผมก็ยังงงๆ ตัวเองเลยว่าทำไมถึงชอบได้ อาจจะเพราะว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังไทยไม่กี่เรื่องที่มี aftershock นานพอดู คือแบบดูจบแล้วมันไม่จบตามน่ะ ตัวละครทุกๆ ตัวยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผมอยู่เลย อาจจะเป็นเพราะว่าเค้าปูเบื้องหลังให้กับตัวละครแต่ละตัว (ที่มากมายอยู่) ให้มีความลึก จนเราเข้าใจ (หรืออย่างน้อยก็พยายามจะเข้าใจ) ในการกระทำของตัวละครตัวนั้นๆ นอกจากนี้แม้ว่าในหนังจะไม่มีฉากไหนที่กระชากอารมณ์คนดูสุดๆ จะมีก็แต่กระแทกกระทั้นไปทีละน้อยๆ แต่เมื่อดูจบแล้วถามตัวเองว่าชอบฉากไหน ผมกลับมีคำตอบมากมายเช่น ฉากจากเด็กสู่วัยรุ่นตอนเปิดเรื่อง (เพลงประกอบเพราะและเข้ากันมาก) ฉากสวดมนต์ก่อนกินข้าวอันแสนจะน่ารัก ฉากพ่อกับแม่โต้งทะเลาะกัน ฉากท้าพิสูจน์ของโต้งกับหญิง ฉากเฉลยว่าทำไมแม่โต้งลืมของบ่อยจัง ฉากจัดต้นคริสต์มาสของโต้งกับแม่ และที่สำคัญคือฉากคืนวันคริสต์มาสในตอนจบที่บรรเลงด้วยเพลงประกอบสุดไพเราะ ที่ซึ่งปมปัญหาทุกอย่างได้รับการคลี่คลายลง ชิ้นส่วนที่หายไปได้กลับมาเติมเต็มอย่างสมบูรณ์
ในเรื่องของนักแสดงนี้ต้องขอบอกว่ามีทั้งที่ปลื้มและไม่ปลื้ม แต่ส่วนมากจะเป็นปลื้มซะมากกว่า คนแรกที่ขาดเสียไม่ได้คือคุณสินจัย เปล่งพานิช ที่รับบทสุนีย์ แม่ของโต้งผู้เปี่ยมไปด้วยรักให้กับคนในครอบครัว พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของคนที่เธอรัก ทว่านั่นกลับทำให้หลายๆ สิ่งเลวร้ายลง และเธอต้องเป็นฝ่ายที่เจ็บปวดเสียเอง กับตัวคุณสินจัยนี้ผมเคยได้สัมผัสกับความสุดยอดของเธอแบบสดๆ มาแล้วจากบัลลังก์เมฆ ในบทนี้ผมก็เสียน้ำตาให้เธออีกแล้ว และก็เป็นอีกครั้งที่ ...ว้าว! น่าจะพอนึกออกนะคับ คือไม่ว่าจะดูผลงานของเธอในรูปแบบไหน สำหรับผมมันจะไม่ใช่แค่ ...เออ ดี แต่มันจะเป็นแบบ ...โห แมร่ง เล่นได้ไงเนี่ย ...อะไรแบบนั้นอะคับ กบ ทรงสิทธ์ ในบทพ่อของโต้ง ก็ถือว่าโอเคนะคับ เพียงแต่ว่าบทอาจจะไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ อีกคนที่ยกนิ้วให้ก็พลอย เฌอมาลย์คับ บทของเธอก็เป็นทั้งแตง แล้วก็จูนเลย ดูเค้าเล่นเป็นธรรมชาติดี อาจจะเพราะว่าได้บทที่มีบุคลิกใกล้เคียงกับตัวจริงมั้งคับ แบบว่าสดใส ร่าเริง มีชีวิตชีวา อัธยาศัยดี (อย่าลืมฉากสวดมนต์ น่ารักมาก ไม่ไหวแล้ว) คือดูแล้วเชื่อล่ะคับว่าเธอคนนี้เพียงพอที่จะเป็นแสงสว่างให้กับชีวิตของใครสักคนได้ หรือบางทีบทของจูนเนี่ยก็จะต้องดูลึกลับ ไม่รู้ที่มาที่ไป อะไรประมาณนี้ ก็ยังดูสวยดีไม่มีปัญหาขัดลูกกะตาใดๆ เอาเป็นว่าเล่นดีไม่ดีไม่รู้ล่ะ แต่ให้คะแนนความน่ารักไปเลย 667 เต็ม 10!
นักแสดงรุ่นเล็กอย่างมาริโอ้ ในบทโต้ง ก็เล่นได้ดีนะคับ คือดูเป็นตัวต้นแบบของวัยรุ่นสมัยนี้น่ะ อยากรู้อยากลอง อยากมีแฟน ติดเพื่อน ไม่ค่อยสนใจเรื่องครอบครัวเท่าไหร่ เสียงพูดดูจะเนิบๆ เรียบร้อยไปหน่อยนะ ฉากระเบิดอารมณ์ก็เล่นได้ผ่านฉลุย แถมหน้าตายังดีขั้นเทพ มีเรอะจะไม่ผ่าน 555+ ผู้ชายอีกคนชื่ออะไรไม่รู้ที่เล่นเป็นมิวก็โอเคนะ ตอนปกติก็นิ่งๆ แต่ตอนกำลังอินเลิฟนี่ คือดูแล้ว ...Y มากกก เสียงงี้หยอดเชียว (ผู้ชายเรื่องนี้นี่เสียงเนิบกันหมดเลยเนาะ) หน้าเน่อนี่ก็เคลิ้มสุดๆ แล้วก็ขอชมเชยฉากสุดท้ายที่น้ำตาแห่งความปลื้มปิติไหลพรั่งพรู ร้องได้เผาเต่าดีมาก อาหมวยที่เล่นเป็นหญิงน่ารักมากเลย ชอบๆ มักจะโผล่มาพร้อมกับดนตรีประกอบตลกๆ แล้วสักพักก็จะฮาตรึมกันทั้งโรง ส่วนที่ต้องดรามากันสุดฤทธิ์ก็ผ่าน แต่ตอนร้องไห้นี่เหมือนกำลังหัวเราะอยู่ยังไงไม่รู้ (หรือว่าตั้งใจอะ) ฉากที่ชอบมากของน้องหนูคนนี้คือตอนที่เข้าไปวิงวอนเจ้าของร้านขายตุ๊กตาอะ ตล๊กตลก ส่วนอีกคน... เอ่อ... ใครวะ อ๋อ! น้องโดนัท นั่นแหละ สิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ สะบัดหน้าเดินหนีไปจากโต้ง โผล่มากี่ทีแม่ทำท่านี้ตลอด ช่างน่าเศร้า อ้อ! แถมเสียงแมนกว่าไอ้หนุ่มเหน้าสองตัวข้างบนอีก ขอบอกใครที่ตั้งหน้าตั้งตามาดูแม่หนูผมดำเรียบแปล้คนนี้ก็เตรียมตัวผิดหวังได้เลย เพราะว่ามีเวลาบนจอน้อยมาก เพื่อนสก๊อยสุดสวยของหญิงยังเสนอหน้ามานานกว่าอีก
สรุปละกันว่าเป็นหนังไทยที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่งเลย ทุกชีวิตบนฟิล์มม้วนนี้ล้วนขับเคลื่อนไปด้วยความรัก ดูจบแล้วเหมือนได้เติมพลังในการใช้ชีวิต เพราะเพียงแค่เรามองหารักรอบกาย แล้วใช้มันเป็นพลังในการก้าวเดินไปข้างหน้า เพียงเท่านี้ก็ไม่มีวันที่ความหวังจะหมดลงไปได้หรอกเนอะ จริงมะ จริงม้า...
ป.ล.1. สุดท้ายนี้ เพื่อเพิ่มความเฝือให้กับ blog นี้ ขอแปะเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ชื่อว่ากันและกัน ร้องโดยนายคิว วง Flure ซึ่งเพราะม้ากมาก แล้วก็เข้ากับหนังม้ากมากด้วย โดยเฉพาะคีย์บอร์ดตรงกลางเพลงเนี่ย ติดอยู่ในหัวแบบแกะไม่ออกเลยล่ะคู้ณ
ป.ล.2. ลืมบอกๆ สปอยล์นิด ตอนดูเรื่องนี้นี่บรรยากาศแบบ interactive สุดๆ ตอนประกบปากของไม้ป่าเดียวกันนี่ก็กรี๊ดกร๊าด อย่านะแก๊! อะไรกันมากมาย แล้วตอนแม่โต้งมาเห็นก็ฮากระจายกันใหญ่ ทำให้นึกถึงตอนดู Brokeback Mountain กับเพื่อนเลย แบบว่าตอนจูบก็กรี๊ด ตอนเมียมาเห็นก็ขำกระจุย เหมือนกันเดี๊ยะ!
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2550 |
|
23 comments |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2550 18:27:26 น. |
Counter : 733 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Zantha 24 พฤศจิกายน 2550 15:42:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday IP: 124.120.63.192 25 พฤศจิกายน 2550 11:59:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: darksky 25 พฤศจิกายน 2550 23:44:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday IP: 124.120.62.70 26 พฤศจิกายน 2550 21:58:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: สองเต้ IP: 125.27.227.72 27 พฤศจิกายน 2550 0:00:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนขับช้า 28 พฤศจิกายน 2550 15:39:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: Mesia_82 6 ธันวาคม 2550 19:54:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday IP: 124.120.64.185 21 ธันวาคม 2550 19:13:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: Unravel 3 มกราคม 2551 19:34:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนขับช้า IP: 203.130.145.99 16 กุมภาพันธ์ 2552 20:30:36 น. |
|
|
|
|
|
|
|