Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2561
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
8 มิถุนายน 2561
 
All Blogs
 
วังนาคินทร์ ป่าคำชะโนด เข้าได้แล้วสบายๆ(ปี2561)



ป่าคำชะโนด หรือ วังนาคินทร์คำชะโนด ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล วังทอง บ้านม่วง บ้านจันทร์ ในอำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี
เป็นป่าที่มีลักษณะเหมือนเกาะขึ้นอยู่กลางทุ่งนา เต็มไปด้วยต้นชะโนดมีที่เดียวในโลกเป็นสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาคและสิ่งลี้ลับต่างๆ สถานที่ที่ปรากฏในตำนานพื้นบ้าน
บ่อยครั้งที่ชาวบ้านในละแวกนั้นจะพบเห็นชาวเมืองชะโนดไปเที่ยวงานบุญ


ปีที่แล้วไม่ได้เข้าคนเห่อละครนาคีมาเยอะมาก ไม่สามารถยืนรอต่อแถวไหวเลยอดเข้าไปข้างในเกาะ


มีคนเกิดใกล้ป่าคำชะโนดลูกหลานพญานาคปู่ศรีสุทโธ แนะนำว่า ที่คนมาขอปู่ฯแล้วไม่ได้ดังปราถนา เป็นเพราะไม่ไหว้พระแถววัดหน้าทางเข้าป่าคำชะโนดก่อน
ส่วนใหญ่มีแต่ตรงดิ่งเข้าเกาะป่าคำชะโนดเลย ไม่สนใจไปกราบไหว้พระ ปู่ฯเลยไม่ให้ เพราะปู่ฯรักพุทธศาสนามาก


ลิ้งค์ทริปปีที่แล้ว

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=23-01-2017&group=14&gblog=54

เส้นทางผ่านอ.กุมภวาปี
ปีที่แล้วมาฤดูบัวแดงบาน ตอนเช้าแวะไปดูทะเลบัวแดงก่อน

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=21-01-2017&group=4&gblog=226






อาหารเช้า ทางผ่านอ.เขาสวนกวาง แวะกินไก่ย่างยายแพง ก่อน

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=20-06-2018&group=11&gblog=177

ปีนี้มาบัวแดงหมดเลยดูบัวชมพูบาน บัวหลวงตามข้างทางแทน








สระบัวมีเยอะกว่านาอีกแน่ะ








ผลพลอยได้มาช่วงนี้ได้กินผลฝักบัวสดๆ อร่อยๆ จากกอต้นสระบัวข้างทาง 7 มัด 50 บาท








ป่าคำชะโนด เป็นเกาะโดดๆราว 20 ไร่ เพราะล้อมรอบไปด้วยน้ำ แต่ที่น่าแปลกใจคือ หากพ้นจากดงชะโนดแห่งนี้ไป ก็ไม่มีต้นชะโนดปรากฏให้เห็นแม้แต่ต้นเดียว


รถวิ่งสะดวกรถไม่ติด ได้เข้าไปจอดในวัดวัดศิริสุทโธ (วัดป่าคำชะโนด) ข้างเกาะป่าคำชะโนดเป็นเหมือนเกาะเบื้องหน้า เดินเข้าป่าชะโนดใกล้ๆ
แต่ตอนนี้ริมตลิ่งเป็นร้านค้าเหมือนตลาดนัดขายของที่ระลึกสารพัดไปแล้วจ้า ถ้ามีเวลาเดินรอบๆ หน้าเกาะก็มีร้านค้าจัดระเบียบใหม่เพียบหลายร้อยร้านเลยมั้ง









ส่วนเรื่องที่คนรู้จักป่าคำชะโนดมากเมื่อหลายสิบปีก่อน เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ นั่นคือเรื่องราวของ “ผีจ้างหนัง”








โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ เมื่อปี 2532 มีคณะหนังกลางแปลงได้รับว่าจ้างให้ไปจ้างหนังที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งด้วยเงิน 4 พันบาท โดยมีข้อแม้ว่าต้องฉายหนังให้จบก่อนตี 4 และให้ออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง โดยห้ามหันหลังกลับมามอง
ตอนฉายแรก ๆ ไม่มีคนเลย จนกระทั่ง 3 ทุ่มก็มีผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาวนั่งอยู่ด้านหน้า ส่วนผู้ชายใส่เสื้อผ้าสีดำนั่งอีกข้าง
และทั้งหมดก็นั่งกันสงบเรียบร้อยเหมือนไม่มีการเคลื่อนไหวตัวเลย ตลกแค่ไหนก็ไม่มีเสียง
ซึ่งพอคณะออกจากที่ฉายในตอนรุ่งเช้า ได้แวะซื้อของที่หมู่บ้านข้างทาง ชาวบ้านได้ถามว่าไปฉายที่ไหนมา จึงได้ตอบไปว่าที่หมู่บ้าน แต่ชาวบ้านยืนยันว่าตรงนั้นเป็นดงป่าไม่มีคนอยู่ คนฉายก็เพิ่งรู้ว่าบริเวณดังกล่าวคือป่าคำชะโนด
ธงชัย แสงชัย เจ้าของบริษัทหนังเร่ดังกล่าว ถ่ายทอดไว้ในปี 2532
คนอีสานเรียก ผีบังบด หรือเมืองลับแล ไม่สามารถมองเห็นได้ทั่วไป นอกเสียจากว่าจะมีอะไรดลใจให้เห็น

ณ ปัจจุบันนี้หนังเจ้านี้กลับมาฉายที่คำชะโนด








จอหนังที่รอฉายหนัง








ปีนี้เข้าสบายชิวๆ

หลังจากทหารมาจัดระเบียบสถานที่คำชะโนดใหม่
แทนมาเฟียหาผลประโยชน์กับคำชะโนด ดูสะอาดตาเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นเยอะ

เงียบสงบค่อยดูขลังสมกับเป็นแหล่งปฎิบัติธรรมหน่อย
มีคนเกิดใกล้ป่าคำชะโนดลูกหลานพญานาคปู่ศรีสุทโธ บอกว่า ปู่ฯชอบความสงบเงียบและธรรมชาติ ปู่เลยทำให้น้ำท่วมเพื่อให้อยู่กันไม่ได้ (ก่อนหน้าที่จัดระเบียบ) พอจัดระเบียบใหม่ต้องรื้อปูนออกปูใหม่เป็นไม้ ปิดทางเข้าหกโมงเย็น ไม่เปิดถึงกลางคืนอีก
ขยะสกปรกก็ไม่มีให้เห็น
ที่จอดรถก็ไม่เสียเงินฟรี ห้องน้ำก็ฟรี
รองเท้าก็ไม่ต้องถอดระเกะระกะไม่งามตาด้านหน้าทางเข้า
ทางเข้ามีวีลแชร์ให้คนแก่คนพิการใช้เข้าไปดูสะดวก








จะเข้าไปสัมผัสป่าคำชะโนดก็ต้องสำรวมและปฏิบัติตามข้อห้ามอื่นๆ เป็นต้นว่า ห้ามใส่รองเท้า หมวก ร่ม ห้ามพูดจาหยาบคาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่
เพราะสิ่งเหล่านี้คือการดูถูกดูหมิ่นต่อผู้ปกปักรักษาผืนดิน

แต่ก่อนห้ามใส่เสื้อสีแดงใส่เข้ามานี่เป็นเรื่อง อยู่ไม่ได้นานหรอก ต้องรีบออกไป ไม่รู้เพราะอะไร เหมือนท่านไม่ชอบ แต่พอหลวงปู่ (หลวงตาคำ สิริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดศรีสุทโธ วัดละแวกป่าคำชะโนด) ได้ทำพิธีขอยกเว้นตอนหลังก็ใส่ได้ ทองหล่อ ตลิ่งชัน
กำนันตำบลวังทอง บอก









เชื่อกันว่าเกาะแห่งนี้เป็นที่อยู่ของท่านพญานาคา คือมีจุดเชื่อมต่อระหว่างสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน
สะพานที่ใช้เป็นทางเข้าไปจะมีช่องเว้นไว้ไม่เชื่อมติดกัน เพราะถ้าเชื่อมติดกันมันจะพัง จนสร้างแยกออกเป็น 2 ส่วน เป็นการแบ่งแยกระหว่างแดนมนุษย์ และเมืองบาดาลแดนพญานาค
สามารถยกตัวลอยได้ตามสภาพของน้ำขึ้นน้ำลง
เมื่อก่อนยามน้ำขึ้นเกาะก็ลอยขึ้นด้วยน้ำท่วมไม่ถึง แต่ล่าสุด เกาะชะโนดน้ำท่วม
ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเพราะสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น

ทางเข้าเมืองคำชะโนด ชาวบ้านเล่าว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องการให้มนุษย์กับพญานาคเชื่อมต่อกันก็เลยทำให้สะพานแตกหัก
นายอุทัย ไพเราะ อายุ 59 ปี แต่งกายในชุดสีขาวซึ่งเป็นจ้ำปู่ศรีสุทโธ(ร่างทรงทางภาคอีสาน) เล่าว่า
กลางคืนเจ้าปู่ศรีสุทโธก็ได้มาเข้าฝันและบอกว่า ให้เว้นช่องขาดระหว่างสะพานไว้ เพราะว่าเส้นทางระหว่างโลกมนุษย์จะเชื่อมต่อเส้นทางเมืองบาดาลไม่ได้ และให้ถอดรองเท้าก่อนถอดหมวกด้วย เพราะใส่รองเท้าเข้ามานั้นบางคนเหยียบสิ่งสกปรกเข้าไปในเมืองหากไม่ทำตามแล้วจะทำให้ทุกคนที่เข้ามาได้เจ็บได้ไข้ เมื่อก่อนใครจะใส่เสื้อผ้าสีแดงเข้ามาคำชะโนดไม่ได้ต้องมีอันเป็นไปทุกราย ภายหลังปู่ศรีสุทโธจึงอนุโลมให้มีผ้าสีแดงเข้ามาได้ เปลี่ยนเป็นให้ถอดรองเท้ากับหมวกไม่ให้พูดจาหยาบคายและห้ามนำสิ่งใดออกไปจากป่าคำชะโนด เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ


นี่คือจุดที่แยกจากกันของสะพาน แบ่งเขตแดนเมืองมนุษย์กับเมืองพญานาค









พอผ่านจุดสะพานแยก มองเข้าไปจะเหมือนกำลังเดินทางไปอีกโลกหนึ่ง บรรยากาศเหมือนท่องแดนไดโนเสาร์ป่าดงดิบ จูลาสสิค พาร์ค
ต้นไม้ก็สูงใหญ่เหมือนหลุดเข้าไปในโลกอดีต







พอเดินเข้าไปในเกาะแล้วจะรู้สึกได้ถึงความเย็น เต็มไปด้วยต้นคำชะโนดสูงตระหง่าน


เป็นเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีต้นชะโนดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้นชะโนดนี้เป็นต้นไม้โบราณ
พืชประเภทเดียวกับปาล์ม ความสูงของต้นประมาณ 20 เมตร มีใบเหมือนใบตาล ลำต้นเหมือนต้นมะพร้าว ลูกเป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายหมาก
ต้นคำชะโนดอื่นไม่มีมีที่เกาะแห่งนี้ที่เดียวเท่านั้น









ชาวบ้านสร้างทางเดินที่เชื่อมจากโลกภายนอกกับผืนป่าอันศักดิ์สิทธิ์เข้าไว้ด้วยรูปปั้นพญานาค 2 ตัว 7 เศียร นอนเลื้อยยาวไปจนสุดทางเดินราว 300 เมตร เพื่อสะท้อนถึงพลังอำนาจและบารมีของพญานาครา









ปลายหางพญานาคคือสุดสะพานแล้ว














เห็นศาลาขนาดใหญ่อยู่ข้างใน








ศาลปู่ศรีสุทโธและ เจ้าย่าปทุมมาเอกอัครมเหสี

ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือในความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง
ตามเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า เป็นพญานาคราช ที่อาศัยอยู่ใน เมืองบาดาล และใช้เมืองคำชะโนดแห่งนี้
เป็นที่ขึ้นลงติดต่อระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์

ผู้คนนำบายศรีไปสักการะปู่ศรีสุทโธ และย่าปทุมมา
โดยจะมีพราหมณ์เป็นผู้ทำพิธีนำกล่าวบูชา สักการะ และขอขมา
ไม่ควรขอเรื่องความรัก เพราะมีตำนานเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวัง
และห้ามขอเรื่องที่เบียดเบียนผู้อื่น








วังนาคินทร์คำชะโนด มีเรื่องเล่ากันมาว่า เจ้าพ่อพญาศรีสุทโธเป็นพญานาค
ครองเมืองหนองกระแสครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งหนึ่งเป็นพญานาคชื่อว่าสุวรรณนาค ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกัน
วันหนึ่งเกิดทะเลาะกันด้วยเรื่องเข้าใจผิด รบรากันใหญ่โตจนเทวดาพลอยเดือดร้อนไปทั่ว
พระอินทร์จึงได้ลงไปห้ามทัพ โดยให้สร้างแม่น้ำแข่งกันคนละสาย
สรุปว่าพญานาคศรีสุทโธชนะ เพราะสร้างแม่น้ำโขงได้เสร็จก่อน
ได้รางวัลเป็นปลาบึกอยู่ในแม่น้ำโขงแห่งเดียวในโลก

ผู้ชนะแผลงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เหาะไปเฝ้าพระอินทร์ ณ ดาวดึงส์
ทูลถามพระอินทร์ว่า "ตัวข้าเป็นชาติเชื้อ
พญานาคถ้าจะอยู่บนโลกมนุษย์นานเกินไปก็ไม่ได้ จึงขอทางขึ้นลงระหว่างบาดาลและโลกมนุษย์เอาไว้ 3 แห่ง
จึงอนุญาตให้มีทางพญานาคเอาไว้ 3 แห่ง คือ

1 ที่ธาตุหลวงนครเวียงจันทน์(ทางขึ้นลงสู่เมืองบาดาลของพญานาคเท่านั้น)
2 ที่หนองคันแท(ทางขึ้นลงสู่เมืองบาดาลของพญานาคเท่านั้น)
3 ที่พรหมประกายโลก ที่คำชะโนด
คือที่พรหมได้กลิ่นไอดิน (ตามตำนานพรหมสร้างโลก พรหมเทวดาลงมากินดินจนหมดฤทธิ์ กลายเป็นมนุษย์ หรือผู้ให้กำเนิดมนุษย์ ) ให้สุทโธนาคไปตั้งบ้านเมืองครอบครองเฝ้าอยู่ที่นั้น
ซึ่งมีต้นชะโนดขึ้นเป็นสัญลักษณ์ ลักษณะต้นชะโนดให้เอาต้นมะพร้าว ต้นหมากและต้นตาลมาผสมกัน อย่างละเท่า ๆ กัน
และให้ถือเป็นต้นไม้บรรพกาลให้สุทโธนาค








เล่ากันว่าใน 1 เดือน พญาศรีสุทโธนาคา จะกลายร่างเป็นมนุษย์ใน 15 วันข้างขึ้น มีชื่อว่า เจ้าพ่อพญาศรีสุทโธ
พำนักอยู่ที่วังนาคิน คำชะโนดแห่งนี้
และจะกลายร่างเป็นพญานาคใน 15 วันข้างแรม
โดยใช้ทางขึ้นลงที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใจกลางป่าคำชะโนดเป็นทางขึ้นลงโดยในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้
บางครั้งที่มักจะเกิดฟองอากาศขึ้น คล้ายมีการหายใจอยู่ในน้ำ

และแม้ว่าป่าคำชะโนด จะไม่มีผู้อยู่อาศัย กลางคืนก็จะปิดเงียบ แต่ก็มีคำบอกเล่าจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นว่า ทุกคืนวันพระ
ชาวบ้านรอบๆ มักจะได้ยินเสียงดนตรีดังออกมาจากป่าคำชะโนด
พร้อมการปรากฏกายของบรรดาชาวคำชะโนดในชุดสีขาว ซึ่งต่างเชื่อกันว่า นี่คือเหล่าบรรดางูบริวารของพญาศรีสุทโธนาคา


รูปปั้น ปู่ศรีสุทโธกับย่าปทุมมา








ตั้งแต่บัดนั้นมาถึงกึ่งพุทธกาล นับแต่ปี พ.ศ. 2500
พี่น้องชาวบ้านม่วง บ้านเมืองไพร บ้านวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี จะไปพบเห็นชาวเมืองชะโนดไปเที่ยวงานบุญประจำปี หรือบุญมหาชาติที่ชาวบ้านเรียกว่าบุญพระเวท ทั้งผู้หญิงและผู้ชายอยู่บ่อยครั้ง
และบางทีจะเป็น ผู้หญิงไปยืมเครื่องมือทอหูก (ฟืม) ไปทอผ้าอยู่เป็นประจำ



























ด้านซ้ายมือติดของศาลาใหญ่จะมีศาลาเล็กที่มีรูปปั้นพระฤาษี









ความใฝ่ฝัน คืออยากมาจับเกล็ดต้นชะโนด ที่เขาว่าเหมือนเกล็ดพญานาคจะคมไหม ก็เหมือนเราจับต้นมะพร้าวในความรู้สึก
พอมาเจอต้นนี้เจอคนลูบหาหวย เกล็ดก็แทบไม่เหลือเกลี้ยง ฮ่าๆ








แต่ด้านบนต้นคำชะโนด ยังหลงเหลือความชอุ่มของมอส









เชื่อว่าคำชะโนดแต่ละต้นคือที่สิงสถิตของพญานาคแต่ละตน
ต้นชะโนดที่อยู่หน้าศาล มองขึ้นไปต้นเป็นเกล็ดทวนซ้ายเชื่อว่าต้นย่า อีกต้นอยู่หลังศาล เกล็ดทวนขวาคือต้นปู่














กระรอกในป่าคำชะโนดเชื่องน่ารัก คาบข้าวเหนียวชาวบ้านให้ พึ่งรู้กระรอกกินข้าวเหนียว แสดงว่าเป็นกระรอกอีสานของแท้ ฮ่าๆ









ป่าต้นคำชะโนด
คำชะโนดนับว่าเป็นป่าดึกดำบรรพ์ผืนสุดท้ายของประเทศไทยที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ ต้นชะโนดที่เห็นอยู่ในเกาะคำชะโนดนำไปพิสูจน์ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่า ต้นไม้ชนิดนี้อายุไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี

นายทองอินทร์ ปักเสติ ชาวบ้านโนนเมือง ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ ๆ กับป่าคำชะโนด เล่าว่า “เคยมีคนคิดเอาต้นชะโนดไปปลูกที่อื่นนะ
แต่ไม่นานก็ต้องเอากลับมาคืนที่เดิม เพราะชีวิตการงานไม่ก้าวหน้า ชีวิตครอบครัวมีแต่ความเดือดร้อน
ขนาดว่าแค่เอาเมล็ดหรือส่วนใดส่วนหนึ่ง อาจจะเป็นใบแห้ง ๆ ออกจากป่า สุดท้ายต้องเอามาคืนกันหมด”

มีพระภิกษุทำพิธี เพื่อนำมาปลูกดูภายในวัด ท่านกล่าวว่า โดยนำเอาตั้งแต่ยังเป็นผล
เมื่อนำมาปลูกดูนั้นก็เห็นจริงว่าต้นชะโนดเป็นต้นไม้ที่โตช้ามาก ปลูก 2 ปียังต้นเล็กเท่าต้นกล้า










เคยมีนักประดาน้ำลงไปสำรวจพบว่าใต้เกาะ มีรากไม้หนาแน่นเป็นจำนวนมาก แต่เข้าไปไม่ถึงใจกลางของเกาะเพราะถูกรากไม้เหนี่ยวรั้งตัวไว้ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าใจกลางใต้เกาะเป็นประตูสู่เมืองบาดาลนั่นเอง



ร.ศ.ฤดีมล ปรีดีสนิท นักวิชาการผู้ศึกษาวิจัยเกาะคำชะโนด กล่าวว่า “เกาะนี้เป็นเกาะที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
โดยการสะสมของซากพืชซากไม้ที่ทับถมกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปีในแอ่งแห่งนี้ จากเศษผง ซากพืชซากไม้จนกลายเป็นดินในที่สุด
ปัจจุบันมีความหนาอยู่ที่1-3 เมตร รากของต้นชะโนดที่แผ่ออกไปในแนวนอนทำหน้าที่เกาะเกี่ยวกันช่วยพยุงเกาะแห่งนี้ให้ลอยน้ำได้”
มันเหมือนเราเอาสวะมากองรวม ๆ กันแล้วมีอะไรดึงไว้ไม่ให้มันลอยไปตามน้ำ
จนรากที่มันยึดเกาะติดกัน แล้วมีบางส่วนที่มันเชื่อมจากดินที่ยื่นออกมาจากดินหมู่บ้าน แต่ตรงดินนี้เจาะออกนิดเดียวก็จะเป็นน้ำแล้ว”

“ข้างในเป็นโพรงเข้าไปเหมือนถ้ำลอยได้ เคลียร์สะดวกทางโล่ง
พอครั้งที่ 2 ปรากฏว่ามันตันเป็นรากหญ้ายาวติดพื้นเข้าไปไม่ได้ ไม่เหมือนรอบแรกมีกิ่งไม้หญ้าบ้าง
ผมพยายามเคลียร์ออกแล้วแต่ก็เข้าไปไม่ได้ เวลาแหวกหญ้าเข้าไปเหมือนกับคนมาดึงไว้ไม่ให้เข้าไป”


ลิ้งค์ ดำน้ำลงไป เพื่อดูป่าคำชะโนดใต้น้ำ


https://www.youtube.com/watch?v=1sHmTPRO_RU













เดินไปเส้นทางด้านขวาไปต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้อุดมสมบูรณ์มาก
รากต้นมะเดื่อยักษ์ขยายอาณาเขตใหญ่ยาวอลังการมาก ชอบๆ








ตรงโคนต้นมะเดื่อนี้มีศาลวางเต็มไปหมดละลานตา คนชอบมาหาหวยตามต้นไม้ และขอหวยที่นี่














ผู้หญิงใส่ชุดคลุมท้องสีเขียวสามีถูกรางวันที่ 1 งวดวันที่ 16 พค. 61 เอาไข่ต้มใส่ตะกร้าเอามาถวายปู่ฯ มีคนช่วยถือก็เอาเดินแจกให้คนที่มาหยิบไปกิน หลังจากที่เอาไหว้ปู่ฯแล้ว















ช่วงนี้คนมีท้องมาแรง
สาวอุดร ถูกลอตเตอรี่ 48 ล้านบาท งวดวันที่ 1 มิถุนายน 8 ใบ หมายเลข 988117
(เป็นคนชอบทำบุญ เดินทางไปไหว้ พระธาตุพนม และเต่างอยด้วย)












คาถาบูชาเจ้าปู่ศรีสุทโธ




















กิ่งใบต้นมะเดื่อ















ต้นไทรยักษ์ล้มตอนน้ำท่วมปีที่แล้ว








ต้นไทรยักษ์ขนาด 4 คนโอบและมีอายุกว่า 600 ปีที่เกาะคำชะโนดล้มแล้ว เจ้าหน้าที่คาดเกิดจากน้ำท่วมเซาะรากจนเน่า
ต้นไทรยักษ์ที่อยู่คู่กับต้นมะเดื่อยักษ์ที่อยู่ด้านหลังศาลปู่ศรีสุทโธภายในเกาะคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เกิดหักโค่นลงมาไปทางทิศเหนือ
ยาวทั้งต้นประมาณ 30 เมตรโดยต้นไทรดังกล่าวอยู่ติดกับต้นมะเดื่อยักษ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า คลังสมบัติปู่ศรีสุทโธ













ถือว่าเกือบสุดขอบป่าคำชะโนดมองเห็นที่โล่งข้างนอกได้





















เหมือนป่าดึกดำบรรพ์ในหนังไดโนเสาร์







พื้นดินเปียกชื้นตลอดเวลา มีเฟิร์นขึ้นปกคลุมหนาทึบ









ปิดท้ายไปเอาน้ำที่บ่อกรอกใส่ขวดกลับบ้าน จะเอาไปเทใส่น้ำอาบและบ่อน้ำที่บ้าน
เดินกลับทางไปบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ทางซ้าย ที่เขาเชื่อกันว่าเป็นทางขึ้นลงของพญานาค








หากใครลูบฆ้องมีเสียงดังถ้าลูบแล้วมีเสียงออกมาแสดงว่าอดีตชาติเคยเกิดเป็นนาคหรือมีความเกี่ยวข้องกับนาค
จะมีโชคลาภ มีชื่อเสียง ก่อนลูบอธิฐานถ้าคำอธิฐานของเราเป็นจริงให้มีเสียง








พื้นดินที่เกิดจากซากพืชทับถมกันเหมือนฟองน้ำอุ้มน้ำมีน้ำชุ่มชื้น







วังนาคินทร์คำชะโนด ที่มาก็คือมีบ่อน้ำอยู่กลางดงชะโนด ภายในป่าชะโนดยัง มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธ์อยู่ตรงกลางเกาะ เรียก ว่า บ่อคำชะโนด เป็นน้ำใต้ดินที่ พุ่งไหลซึมตลอดเวลา ทำให้ชาวบ้านเชื่อกันว่าบ่อน้ำประทานมาให้โดยพญานาคที่อาศัยอยู่ในบริเวณผืนป่า ศักดิ์สิทธิ์มาก หลายคนเคยลองอธิษฐานตรงหน้าบ่อน้ำก็ได้ตามประสงค์ บางคนเจ็บป่วยไปดื่มหรืออาบโรคร้ายก็หายเป็นปลิดทิ้ง ทางจังหวัดได้เลือกน้ำ จากบ่อนี้ไปร่วมในพิธีสำคัญเสมอ








บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ สองบ่อ บ่อแรกด้านหน้าก็คืออ่างน้ำที่เขาสูบน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านหลังมาให้สะดวกต่อการตัก ตักน้ำขึ้นมาล้างหน้าเพื่อเป็นสิริมงคล

บ่อน้ำขนาดเล็ก จะอยู่ด้านหน้าบ่อใหญ่ สามารถตักมาดื่ม หรือล้างหน้าได้
แต่ห้ามตักมาล้างเท้าเด็ดขาด คนไม่เชื่อแถมยังลบหลู่ ตักน้ำจากบ่อแล้วนำมาล้างเท้าแทนที่จะหายป่วยไข้กลับทุกข์ทรมานซ้ำหนักกว่าเดิม








หนุ่มเจอผึ้งนับร้อยรุมต่อยอยู่คนเดียว บาดเจ็บหนักต้องหามส่งโรงพยาบาล ชาวบ้านลือ ท้าทาย ลองดีนำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาล้างเท้า

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 มีรายงานว่า ที่วัดป่าคำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี จู่ ๆ กิ่งต้นคำชะโนดก็หักลงมายังพื้น และมีฝูงผึ้งบินลงมารุมต่อยชายคนหนึ่งที่กำลังไหว้ขอพรปู่ศรีสุทโธในคำชะโนดเพียงคนเดียว ท่ามกลางความตกตะลึงของประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยด่วน ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีผึ้งบินตามออกมาด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ได้นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช บ้านดุง













ชาวบ้านเชื่อว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คือทางขึ้นลงเชื่อมระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ในดงคำชะโนด น้ำในบ่อจะมีปริมาณเท่าเดิมอยู่อย่างนั้นและจะขังตลอดปี ไม่เคยแห้ง เคยมีชาวบ้านนำไม้ไผ่ยาว ๆ มาต่อกันยี่สิบกว่าลำไม่สามารถหยั่งถึงก้นบ่อน้ำได้ ชาวบ้านเชื่อว่าน้ำในบ่อนี้จะไปทะลุที่สะดือแม่น้ำโขงหรือบริเวณวัดอาฮงศิลาวาส จังหวัดหนองคาย



















แรกเดิมทีบ่อน้ำศักดิ์สิทธ์มีความกว้างประมาณหนึ่งเมตรเท่านั้น ต่อมาเกาะคำชะโนดได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจึงมีการขยายขอบบ่อออก ที่บ่อน้ำแห่งนี้บางเวลาจะมีฟองอากาศผุดขึ้นมาคล้ายกับว่ามีสิ่งมีชีวิตบางอย่างกำลังหายใจอยู่ใต้น้ำ ชึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการหายใจของพญานาคจึงทำให้เกิดเป็นฟองอากาศผุดขึ้นมาให้เห็น
เทศกาลออกพรรษาบางครั้งจะ มีลูกไฟประหลาดพุ่งขึ้นจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย

แต่ก่อนบ่อไม่ใหญ่มากเขาทำใหม่ ตรงมุมบ่อจะมีช่องรูเล็กๆ งูเคยเลื้อยเข้าออก








หากใครมีเวลาเหลือไปต่อแนะนำให้ไปไหว้ศาลเก่าตรงด้านนอกเลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลไม่ถึงกิโลเมตร และอีกที่เกาะนาคี

ตอนแรกทริปวางแผนว่า จะไปวัดป่าบารมีธรรม บ้าน นามั้ง ต.ถ่อนนาลับ อ.บ้างดุง จ.อุดรธานี พระอาจารณ์อลงกรณ์(เสด็จปู่ศรีสุทโธ) เส้นทางเลยคำชะโนดไปไม่ไกล ไปจนใกล้จะถึงบ้านหนองหอย ถามชาวบ้านเขาคิดว่าอยู่แถวนั้น แต่ด้วยเวลาไม่พอบ่ายโมงกว่าแล้ว ยังหาวัดไม่เจอ จะเดินทางกลับดึกมาก เลยเลี้ยวรถกลับไปคำชะโนด ถ้ามีโอกาสมีเวลาแนะนำให้ไป (เส้นทางแถวนี้เป็นทางไปอ.โพนพิสัย จ.หนองคายได้ ตอนไปโพนพิสัยกับเพื่อนเคยมาเส้นทางนี้ ถนนโล่งแทบไม่มีรถ บรรยากาศชนบทของแท้ ส่วนใหญ่มีแต่ทุ่งนา)





กลับถึงขอนแก่นแวะกินอาหารมื้อค่ำที่ร้าน ปะป๊า ราเมน

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=21-06-2018&group=11&gblog=178



อ้างอิง


https://www.tnews.co.th/contents/208074



https://www.facebook.com/notes/





Create Date : 08 มิถุนายน 2561
Last Update : 13 ธันวาคม 2561 22:16:10 น. 0 comments
Counter : 6281 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณKavanich96


ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.