Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
อย่ามาเอานิยายอะไรกับอิชั้นเล้ย~

ก็มันว่างง่ะ..

..................

แหะ ๆ..

...........................................


ตอนที่ 1

ถนนราดยางสายเดี่ยวที่ทอดตัวผึ่งไอแดดอย่างเงียบเชียบ อยู่กลางทุ่งนาที่ผ่านการเก็บเกี่ยวแล้วทั้งสองฟากนั้น..เหมือนจะดันทุรังตัดผ่านเข้ามาในสถานที่อโคจรในความรู้สึกของ"คนต่างถิ่น"ที่บังอิญรั้งตำแหน่งผู้สัญจรผ่านมา (เพียงเพื่อจะผ่านไป) ในยามนี้ยังไงก็ไม่รู้

หญิงสาววัยกลางยี่สิบ ในชุดเสื้อยืดเข้ารูปสีขาว กับกางเกงยีนส์สีซีด เงยหน้าขึ้นหยีตามองเปลวแดด ที่แผดเผาจากดวงตะวันดวงโตเหนือหัว ด้วยอาการอยากจะตะโกนบ่นกับลม กับแล้งรอบตัวเต็มแก่ นาทีนี้..หล่อนอยากจะย้อนเวลากลับไปเมื่อห้าชั่วโมงก่อน ตอนที่ตัวเองยังนั่งผึ่งลมเย็นจากแอร์คอนดิชั่นในคอนโดตัวเองนัก แต่ก็รู้ตัวดี ว่ามานึกได้เอาตอนนี้ มันก็สายเกินไปซะแล้ว

เฮ้อ..แล้วนี่ไอ้การ "สู้ว้อย"ที่พร่ำบอกตัวเองเป็นสิบ ๆ ครั้งนับตั้งแต่ตัดสินใจเก็บข้าวของส่วนตัวใส่กระเป๋าออกมาจากกรุงเทพมันหายไปไหนหมดหนอ ทำม๊ายย..ทำไม..นาทีนี้ มันถึงเหลือแต่ความห่อเหี่ยว ที่แม้แต่ตัวเองยังประหลาดใจว่ามันแทรกซึมเข้ามาในหัวใจหล่อนได้ยังไง(ฟระ)

พิรดา หลุบหน้าลงต่ำ เอื้อมมือขึ้นกดปีกหมวกแก๊ปใบเก่งที่ปกปิดผมเผ้าอันยุ่งเหยิงของตัวเองไว้ให้ร่มเงาของมันให้ไอเย็นกับดวงหน้าแดงระเรื่ออีกนิดนึง..เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าไอ้อาการร้อนปานนรกแตกเนี่ย..มันเป็นเยี่ยงไร

แล้วนี่หล่อนจะต้องยืนแกร่วรอ ไอ้เจ้ารถประจำทางเฮงซวยนี่(ขอโทษที่หยาบคาย..แต่มันทนไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ ท่านผู้ชม) อีกนานแค่ไหนกันล่ะเนี่ย ตอนที่ลงมาจากรถประจำทางคันก่อน เห็นลุงท้ายรถบอกคร่าว ๆ ให้หล่อนฟังด้วยความปราณีว่า ปกติจะมีรถสายที่หล่อนจะต้องมารอขึ้น ผ่านเส้นทางนี้ประมาณ ชั่วโมงละคันนี่นา..แล้วนี่..มันอีกกี่นาทีหล่อนถึงจะได้เห็นเงาของมันหนอ..

"..นี่แกตัดสินใจแน่แล้วเหรอดา..คิดผิดคิดใหม่ได้นะยะ ชั้นไม่เห็นว่า ไอ้การที่แกแค่..อกหักจากตาหมอนั่นน่ะ มันจะทำให้แกทิ้งทุกอย่างที่แกกำลังมีอยู่ในมือได้ลงคอเลยนะ"

นึกถึงคำที่ยัยกมลชนก หรือยัยนก เพื่อนสนิทตั้งแต่ครั้งเรียนมหาวิทยาลัยของหล่อนพร่ำบ่นพร่ำเตือน ก่อนที่หล่อนจะตัดสินใจลาออกจากงานประจำอันแสนมั่นคง (นึกเอาเองว่ามั่นคง 555) และค่าตอบแทนสูงใช้ได้ของตัวเองแล้ว พิรดาก็ให้นึกก่นด่าตัวเองมากขึ้นไปใหญ่

..ทำไมตอนนั้นเราถึงไม่ฟังยัยนกมันมั่งฟระ..

เออ..

ทำไมหล่อนถึงไม่ฟัง ไม่ยับยั้งชั่งใจคิด

แต่ก็..ช่างเถอะ..ถึงฟัง ประเดี๋ยวพออารมณ์เศร้าสร้อยมันจู่โจมเข้ามาเกาะกุมหัวใจอีก หล่อนก็ต้องตัดสินใจแบบที่เป็นอยู่นี่อยู่ดีนั่นแหละ

..ความรักนี่มันร้ายกาจเยี่ยงนี้นี่เองหนอ..

มันมีอานุภาพร้ายแรง ถึงขนาดที่ทำให้ผู้หญิงซึ่งเคยมั่นใจ ภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเองคนนึง ต้องเสียศูนย์จนแทบจะโยนทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งได้ในชั่วพริบตา ทั้ง ๆ ที่ไอ้ทุกอย่างที่ว่านั่นน่ะ หล่อนพยายามสร้างมันมากับมือเกือบหกปีแล้วด้วยซ้ำ หล่อนตัดสินใจทำลงไปโดยไม่..แม้แต่จะคิดให้รอบคอบอีกสักครั้ง

"..ก็ชั้นบอกแล้วไง ว่าชั้นอยากจะหาที่เงียบ ๆ พักผ่อนสักพัก อยากจะลองเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ดูบ้างน่ะ..แกอย่าพูดมากเลยน่า ชั้นยิ่ง..รู้สึกแย่ ๆ อยู่"

"เริ่มอะไรใหม่ ๆ มันไม่ได้หมายความว่า แกต้องทิ้งทุกอย่างที่เป็นของเก่านี่หว่า" ยัยนกตบท้ายคำพูดด้วยสายตาเป็นห่วง "แล้วนี่แกจะไปอยู่ยังไงคิดบ้างรึเปล่า ญาติโยมที่โน่นก็ใช่ว่าจะมี แกจะไปทำอะไรกินยะยัยดา.."

เขียนหนังสือ

พิรดาตอบตัวเองเช่นนั้น..แต่หล่อนไม่ได้ขยายความอะไรให้เพื่อนรักฟังหรอกนะ ขืนพูดมากไป ประเดี๋ยวยัยนกนี่ก็จะพลอยวิตกจริตไปกับหล่อนไปกันใหญ่

ก็ไอ้เรื่องความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักเขียนไส้แห้ง ทั้ง ๆ ที่ทำได้เพียงเขียนงานลงนิตยสารหัวเล็ก ๆ ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ มาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย โดยไม่มีทีท่าว่าจะเป็นอาชีพทำเงินให้หล่อนเนี่ย..ยัยนกมันรู้ไส้รู้พุงหล่อนหมดแล้ว

..แต่พิรดาก็ยัง..รัก..ที่จะมุ่งหน้าเข้าหาเส้นทางน้ำหมึกอยู่ดี

นี่กี่ปีหนอ..ที่หล่อนทิ้งความฝัน ทิ้งทุกอย่างมาจากเส้นทางสายนั้น..

"เอาเถอะ..ช่างแก ชั้นจะปล่อยแกไปสักพักละกัน เอาเป็นว่า ถ้าแกรู้สึกดีขึ้นเมื่อไหร่ แกก็กลับมาละกัน ชั้นรู้ว่าคนอย่างแกน่ะ ล้มไม่นานหรอก..ใช่มั้ยดา..."

พิรดาอยากจะพยักหน้ารับคำเพื่อนใจจะขาด..แต่ท้ายที่สุดแล้ว หล่อนก็ทำได้แต่เพียงส่งยิ้มจาง ๆ ให้เพื่อน ก็หล่อนจะตกปากรับคำยัยนกได้อย่างไรเล่า ในเมื่อแม้แต่ตัวหล่อนเอง ก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ

"..แล้วเอ้า..นี่..ที่อยู่เพื่อนเก่าชั้น เค้าทำบ้านให้เช่าอยู่แถว ๆ ที่แกจะไปนั่นแหละ ถ้าแกอยากจะหาที่พัก หรืออยากได้ความช่วยเหลือ ก็โทร.ไปหาเค้าละกัน ชั้นโทร.ไปบอกเค้าล่วงหน้าละ ว่าจะมีเพื่อนไปเที่ยวที่โน่นสักเดือนสองเดือน..อ้อ..พอไปถึงที่โน่นแล้ว แกก็โทร.บอกชั้นด้วยล่ะ อย่าทำให้เป็นห่วงมากนัก เข้าใจมั้ย.."

"อืออ.." หล่อนพยักหน้าส่ง ๆ ไปงั้นแหละ..ยัยนกนี่ก็เหลือเกิน นอกจาก พ่อหล่อน กับพี่ชายทั้งสี่ ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวที่หล่อนมีแล้ว ก็มียัยนี่แหละ ที่ดูเหมือนจะวิตกจริตเป็นห่วงหล่อนไปซะทุกเรื่อง..

"ก็หล่อนมันโก๊ะ..แถมชอบหาเรื่องใส่ตัวอีก จะไม่ให้ชั้นเป็นห่วงแกได้ไงวะ.."

..เออน่า..ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก..ช้านนนนดูแลตัวเองได้..

ดูแลตัวเองได้งั้นเหรอ ??? ไงล่ะ..ตอนนนี้ก็ได้ดูแลตัวเองสมใจแล้วนี่นะ

พิรดาปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามข้างแก้มออกด้วยสีหน้ารันทด..

ไอ้ข้างเป้ที่แบกอยู่ข้างหลังนี่ก็..ช่างหนักเสียนี่กระไร ทำไมอิ่ตอนหล่อนแพ็คของ มันถึงไม่รู้สึกว่าหนักขนาดนี้นะ..นี่หล่อนหอบอะไรติดตัวมาบ้างล่ะ..บ้านกับที่ดินอีกสามแปลงรึไง..

พิรดาฟึดฟัดกับตัวเอง..ขณะพยายามเขม้นสายตามองหา "เงา" ของรถโดยสารประจำทางที่น่าจะโผล่มาให้เห็นในไม่อีกกี่นาทีข้างหน้านี่..

เหมือนพระเจ้าทรงโปรด..

พิรดาแทบจะกระโดดตบสามสิบที(อันนี้เว่อร์ไปหน่อย แค่ยกมือขึ้นโบก หล่อนก็ยังไม่รู้ว่าจะยกไหวรึเปล่าเลยด้วยซ้ำ ) เมื่อรถโดยสารประจำทางสีส้มปุโรทั่งคันนึง แล่นมาให้เห็นอยู่ลิบ ๆ..

รอดตายล่ะว้อยย..

พิรดากระตุกยิ้มละเหี่ย พลางกระชับเป้หลังอันแสนหนักนั้นไว้ให้เข้าที่ ขณะยกมือโบกไหว ๆ ให้คนขับรถโดยสารเห็นแต่ไกล

"ขึ้นมาเลยเพ่.." พิรดายิ้มแห้ง ๆ แหย ๆ ให้กับเด็กรถ ที่ดูท่าจะมี "หัวใจลูกทุ่ง" เต็มพิกัด รถโดยสารประจำทางของที่นี่ดีกว่ารถเมล์กรุงเทพฯ อยู่อย่างนึง..คืออย่างน้อย คนขับก็ยังใจเย็นจอดรอให้หล่อนได้ยุรยาตร พาร่างกายอันเมื่อยล้าขึ้นมายืนทำตาปรอยมองหาที่นั่งบนรถได้สุดตัวล่ะ

..เต็ม เต้ม เต็ม....ทุกที่นั่งดูเหมือนจะเต็มหมด..

แต่..โอ้ว..โชคดียังคงเป็นของหล่อนบ้างกระมัง..จู่ ๆ สายตาของพิรดาก็กวาดไปเจอที่นั่งตรงเบาะหลังสุดที่มีคนนั่งอยู่แค่เพียงคนเดียว..เอาน่า อย่างน้อยเบื้องบนก็ไม่ได้ใจร้ายกับหล่อนไปซะทุกอย่างหรอกนิ

พิรดาเดินอุ้ยอ้ายเตาะแตะไปยังเบาะรถที่ว่างอยู่ (เหมือนคนท้องแก่ชอบก๊ล ผิดกันแต่ตรงที่ว่า นาทีนี้ ไอ้ที่หล่อนกระเตงมันไว้น่ะ ไม่ใช่ เบบี๋ แต่เป็น เป้หนักแอ้ก..ต่างหาก) ..กำลังจะถอนหายใจโล่งอกอยู่แล้วเจียว ถ้าไม่เผอิญว่า..ที่นั่ง..ที่หล่อนคิดว่ามันจะว่างอยู่หนึ่งที่..มันกลับมีกระเป๋าใบเขื่อง(อย่างน้อยก็เขื่องกว่าของหล่อนแหละน่า) อีกใบหนึ่ง วางสถิตย์อยู่อย่างเด่นเป็นสง่า

คง..เป็นของอิ่ตานี่แน่เลย..

พิรดาตวัดสายตามองชายหนุ่มที่นอนหลังเค้เก้ เอาหัวพิงกระจกหน้าต่างแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่เบาะข้าง ๆ หล่อนไม่รู้ว่าเค้าหลับจริงรึเปล่า เพราะดวงตาคู่นั้นซ่อนอยู่หลังแว่นกันแดดเรย์แบนอันเขื่อง..แต่ก็คงจะหลับแหละ ไม่งั้นน้ำลายไม่ไหลยืดขนาดนี้หรอก (แอบฮาเฮ่าะ..อันนี้พิรดาจินตนาการไปเอง ก็หมอนี่เล่นหลับสนิทเหมือนวิญญาณถูกดูดออกจากร่างไปแล้วยังไงยังงั้นนี่นะ)

"คุณ..." พิรดาตัดสินใจเรียก "หมอนี่" ค่อย ๆ

ไม่ได้ผลแฮะ..อิ่ตานี่ ยังคงหลับลึกเหมือน "ศพ"

"คุณณณ.." ลากเสียงยาวอีกหน่อย..ดังอีกนี๊ด..ป้าที่อยู่เบาะรถใกล้ ๆ เริ่มเอียงหน้ามามองหล่อนแล้ว

"นี่..คุณ..คู๊ณณณ.." เมื่อเห็นว่าหมอนี่ไม่ตื่นแน่ พิรดาก็เลยถือวิสาสะสะกิดเค้าด้วยไม้หน้าสาม..ง่า..ล้อเล่น..หล่อนสะกิดเค้าด้วยมือที่ว่างอยู่นั่นล่ะ

"หือ.." ชายหนุ่มผงกหัวขึ้นมานิดหนึ่ง เป็นทำนองว่ารู้สึกตัวแล้ว

"ขอนั่งด้วยสิ ช่วยเอากระเป๋าของคุณไว้บนตักได้มั้ยล่ะ"

ชายหนุ่มหันมามองหล่อน ผ่านแว่นกันแดดสีเข้ม..นิ่งไปนานเป็นชาติ ก่อนจะยอมเอื้อมมือมาหยิบสัมภาระใบเขื่องของตัวเองขึ้นไปซ้อนไว้บนตัก

พิรดาแทบจะรอให้เค้ายกกระเป๋าให้พ้นจากเก้าอี้ไม่ไหว..นาทีนี้ น่องของหล่อนตึงเปรี๊ยะไปหมด..เซ็ง เมื่อย เหนื่อย หิว..(อันสุดท้ายนี่มากกว่าทุกอย่างเลย ฮืออ) พอกระเป๋าใบนั้นพ้นจากเบาะรถปุ้บ หล่อนก็ทิ้งตัวลงนั่งแบบหมดแรงปั๊บ

หล่อนถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก หันหน้าไปทำท่าจะขอบคุณหมอนั่นสักคำนึง แต่ผลกลับกลายเป็นว่า..หมอนี่..กลับไปกลายเป็น "ศพ" เรียบร้อยโรงเรียนจีนไปซะละ

เออ..ช่างปะไร..อยากหลับเองนี่นา..อย่ามาหาว่าหล่อนไม่มีมรรยาท ไม่..แม้แต่จะเอ่ยปากขอบคุณก็ละกัน

พิรดาตัดสินใจที่จะเลิกสนใจอิ่ตานี่..ถอนหายใจยาว ๆ แล้วหันกลับมาสนใจ"อย่างอื่น"รอบตัวเองต่อ

การติดอยู่ในเมืองหลวงนาน ๆ โดยมิได้เยี่ยมหน้าออกมาดูโลกภายนอกสักเท่าไหร่ ทำให้ทุกอย่างเหมือนจะ "ใหม่" อย่างที่หล่อนแสวงหาไปซะทั้งหมด

แต่ก็..ดีละ..ขืนหล่อนยังจมอยู่กับสภาพเดิม ๆ หล่อนก็คงหนีไม่พ้นสถานการณ์ที่ทำให้เสียน้ำตาไม่เว้นแต่ละวันเป็นแน่

"ทำไมต้องลาออกด้วย....เรามาหาทางออกดี ๆ ด้วยกันไม่ได้หรือดา.."

หญิงสาวหลับตากลืนก้อนขื่น ๆ ลงไปในอก..เสียงและภาพของใครคนนึง..เหมือนจะตามมาไกลจนถึงที่นี่จนได้

"ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะเทน..คุณก็รู้..ว่ามันไม่มีทางออก"

"มีสิ อยู่ที่คุณจะฟังผมบ้างรึเปล่าเท่านั้นเอง"

พิรดาสบสายตาของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม..นี่เค้าจะเห็นความเจ็บปวดร้าวรานใจมากมายในแววตาของหล่อนบ้างหรือเปล่าหนอ

"แล้วเท่าที่ดาฟังคุณมาตลอดเกือบปีนี่ไม่ใช่หรือคะ ที่ทำให้ดาต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้..ทำไมคะเทน ทำไมคุณถึงไม่พูดความจริงกับดาตั้งแต่แรก"

ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าสะอาดสะอ้านเป็นฝ่ายทำสีหน้ายุ่งยากใจเสียเอง เมื่อได้ยินคำถามของหล่อน

"..ผมก็..ก็บอกความจริงกับคุณทุกอย่างแล้วนี่นา"

พิรดาฉวยกระเป๋าสะพายขึ้นมาคล้องบ่า ตัดสินใจที่จะเดินจากเขามาในนาทีนั้น..

เขาไม่ตามมา

..แต่หล่อนไม่โทษเขาหรอก..หล่อนโทษตัวเองมากกว่า..ที่บังอาจฟัง"หัวใจ"ตัวเอง มากกว่า "สมอง"

"..เค้ามีแฟนแล้วนะดา..ไม่สิ..ต้องเรียกว่าเค้ามีเมียแล้วมากกว่า นี่แกกำลังดันทุรังคบกับคนที่เค้ามีเจ้าของแล้วนะว้อยย.."

ยัยนกอีกนั่นแหละ ที่เป็นเหมือนเรือที่ลอยลำมาขวางหล่อน แต่ถึงตอนนั้น ความรักก็ทำให้พิรดากลายเป็น "น้ำเชี่ยว" ไปซะแล้ว

"ก็เค้าบอกว่าเค้าแยกกันอยู่นานแล้วนี่ คนเรามันต้องมีอดีตนะนก ถ้าเป็นไปได้เป็นใครก็อยากกลับไปแก้ไขสิ่งที่เราทำผิดพลาดกันไว้ทั้งนั้นแหละ"

ยัยนกค้อนขวับ.."ย่ะ..แม่คนจิตใจดีงาม แม่ผู้เจริญ แม่โคถึกรักลึกล้ำ..ชั้นเตือนแกแล้วนะ เพราะเพื่อนเค้าที่เคยไปเดทกับชั้นน่ะเค้าพูดให้ฟังมา ส่วนแกจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจแกละกัน สักวันเหอะ น้ำตาแกจะเช็ดหัวเข่า.."

พิรดากัดริมฝีปากเบา ๆ ไม่นึกเลยว่า "สักวัน" ที่เพื่อนว่า จะมาถึงเร็วขนาดนั้น

"ผมจะไปเชียงใหม่อาทิตย์หน้านะดา..."

พิรดาช้อนสายตาขึ้นมองเขา..แปลกใจนิดหน่อยตรงที่ครั้งนี้เขาแค่มา "บอก" ไม่ได้ส่งสัญญาณของการ "ชวน" หล่อนไปด้วยกันเหมือนที่เคยเป็น

"ไปทำไมคะเทน..ฮั่นแน่หรือจะแอบดาไปเที่ยวงานพืชสวนโลก"

ชายหนุ่มยิ้มจาง ๆ ท่าทางเหมือนลำบากใจเล็กน้อย "..เปล่าหรอก..ผมไปเรื่องงานน่ะ แต่ก็ไปแค่..สามสี่วันนะ ดาอยู่ทางนี้ก็ดูแลตัวเองดี ๆ ละกัน"

"แหม..ทำยังกะดาขยันหาเรื่องใส่ตัวเลยนะเทน ไม่ต้องห่วงค่า ดาอยู่ได้ เทนไปทำงานของเทนเถอะ.."

นี่ถ้าหล่อนแอบระแวงสักนิด..ว่าเค้าจะไปทำอะไรที่เชียงใหม่นั่นกันแน่ ถึงจะเจ็บปวด หล่อนก็คงไม่เจ็บปวดเท่าเมื่อมารู้ความจริงในภายหลังหรอกนะ

"..เอ้า..คราวนี้เบิ่งตาเปิดหูฟังชั้นซะ..อิ่ตาเทพบุตรของแกน่ะ เค้าไปเชียงใหม่กับใครรู้มั้ย..เค้าหอบลูกกับเมียเค้าไปเที่ยวด้วย..ได้ยินมั้ยดา..แกน่ะตาสว่างได้แล้ว เลิกหลงลมปากอิ่ตานั่นได้แล้ว .."

พิรดาอึ้งไปกับคำบอกกล่าวของยัยนก..หล่อนพยายามแล้วพยายามอีกที่จะโทรศัพย์เข้ามือถือของเขา..และถึงแม้เครื่องจะไม่ปิด..เค้าก็ไม่ยอมรับสายหล่อนแม้เพียงสักครั้ง

"....จะให้ชั้นลากเพื่อนตาเทนมายืนยันด้วยมั้ย แกถึงจะเชื่อว่าชั้นพูดความจริงกับแกทุกคำ...ผู้ชายคนนี้ไม่ควรค่าให้แกรักหรอกดา แกจะเอาอะไรกับลมปากเค้า ในเมื่อแม้แต่ความจริงที่เค้าควรจะพูดได้ง่าย ๆ เค้ากลับไม่พูด กลับสรรหาแต่เรื่องโกหกมาบอกแก..ดาเอ๊ย..ชั้นล่ะอยากจะตามไปบีบคอหมอนั่นแทนแกซะจริง ๆ.."

พิรดาเหมือนถูกไฟช้อตเข้าที่กลางอก..หล่อนไม่รู้สึกรู้สมอะไรกับอาการแค้นเคืองแทนของเพื่อนหรอก เพราะวินาทีนั้น หัวใจของหล่อนมันก็ชาไปหมดแล้ว

"..ผมทำตามหน้าที่นะ ผมเป็นพ่อจะให้ผมทิ้งหน้าที่พ่อได้ไงล่ะดา..."

พิรดาน้ำตาซึม "แล้วกับภรรยาคุณล่ะคะ คุณยังอ้างหน้าที่ของความเป็นสามีอยู่ด้วยหรือเปล่า"

เขาไม่พูด..แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หล่อนรู้คำตอบ..

"ช่างเถอะค่ะ คุณก็กลับไปหาครอบครัวของคุณละกัน ดามันผิดเองที่หลงคิดว่าคุณจริงใจ เชื่อทุกอย่างที่คุณบอก ดามัน...โง่ไปเองใช่มั้ยคะเทน...ภูมิใจไว้เถอะค่ะ ว่าคุณทำร้ายผู้หญิงโง่ ๆ แบบดาได้ถึงขนาดนี้..."

หล่อนผลุนผลันจากมาจากเขา..เพียงเพื่อจะกลับมาจมอยู่กับน้ำตาอยู่ที่ห้องพัก ไม่รับโทรศัพย์ ไม่ติดต่อเพื่อนฝูง ไม่..แม้แต่จะออกไปทำงานที่บริษัท

สามวันผ่านไป..ยัยนกเสียอีกที่ถ่อมาลากหล่อนให้ลุกขึ้นมาจากกองน้ำตาด้วยความเป็นห่วง

"ชั้นรู้ว่าแกเศร้า แกผิดหวัง แต่แกจะมานั่งร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้ตลอดไปไม่ได้นะดา..ล้มแล้วแกต้องลุก แกจะให้ใคร ๆ เค้าตราหน้าว่าเป็นคนขี้แพ้เหรอ"

พิรดาสบสายตาเพื่อนด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตาเต็มหน่วย

"..นก.........ชั้นจะลาออก...."

"หา ??!!!"

....................

แปะไว้ก่อนเน้อ มีเวลานิดหน่อยจะมาอัพต่อ แต่ก็อย่างที่บอกแหละค่ะ อย่ามาเอานิยายอะไรกับอิชั้นเลย เขียน ๆ แก้เบื่อแก้เซ็ง แก้ "ช้ำใน" ไปงั้นแหละ..

ช่วงนี้เริ่มว่างอ่ะนะคะ

ไม่ได้โม่งานหนักเหมือนเก่า..อิชั้นก้าวเท้าช้าลง ใส่ใจความรู้สึกและความเป็นไปของตัวเองมากขึ้น

หวังว่าจะเห็นทุกคนเดิน "ช้าลง" ในวันที่เร่งรีบของชีวิตบ้างนะคะ..

อื้มม~




Create Date : 08 มกราคม 2550
Last Update : 9 มีนาคม 2554 8:27:33 น. 12 comments
Counter : 595 Pageviews.

 
ยาวจาง..

เจิมก่องเดี๋ยวกลับไปอ่านนะ เย้ๆๆ คิดถึงอะ


โดย: Love U forever. วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:8:49:25 น.  

 
อ่านจบแย้ว .. จามาตามตอนที่ 2 นะคะ

ทำอะไรแย้วซาบายใจก็ทำเน้อ..


โดย: Love U forever. วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:8:57:38 น.  

 
ขยันพิมพ์จริงๆ


โดย: lustful วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:9:47:42 น.  

 
ตกลง เจ้าของบล็กเป็นเด็ก..สำหรับความคิดลุงไม้

แหม เข้ามาดูว่า เคยไปเที่ยวไหนบ้าง


กลับมาเจอนิยายซะอีก..กรงเล็บนรสิงห์....ฮ่า ฮ่า


โดย: ลุงไม้ IP: 58.136.132.104 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:11:10:47 น.  

 
อ่านแร้ววว รอตอนต่อไปอยู่น๊า


โดย: ~คุณมู๋ตุ๋น วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:14:19:55 น.  

 
ถ้าพระเอกไม่ได้ชื่อประกอบหละก็ ไม่ยอมจริงๆ ด้วย จะมาป่วน blog ทุกวัน วันละสามเวลาหลังอาหารเลยนะ คอยดู๊ คอยดู





โดย: ประกอบ IP: 58.64.89.197 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:19:31:38 น.  

 
โหว ยาวอะ ไว้มาอ่านอีกทีได้ป่าว


โดย: Ta Pling วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:17:44:37 น.  

 
มาอ่าน.......อิอิ

พี่แหม่มเขียนได้ดีนะคะ
.....ที่จริงใช้ภาษาเหมือนที่เขียนลงบลอกตามปกติเลยนี่

แกร้กๆๆๆๆ.......
เรื่องของตัวเองหรือเปล่าคะพี่
หรือว่าเรื่องที่เจอตอนนอนกลางวัน.....อิอิ


โดย: อมยิ้มสีฟ้า วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:18:56:13 น.  

 
ฮ่าๆๆๆ 555 ชอบๆๆ คนติดกันงอมแงมเลยครับ ควรเอาปายลง หนังสือ อาชญากรรม เอ้ย ...สุดสัปดาห์นะคับคุณพิรดา อุ้ย มะช่ายๆๆ คุณแหม่มตะหาก อิออิ..เอิ้กๆๆๆ


โดย: pooktoon วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:16:35:38 น.  

 


ที่รัก..อิอิ


โดย: pooktoon วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:23:32 น.  

 
ปี 50 ปีนี้ ปี 54
คุณแหม่มเขียนได้ดีครับ
ขออ่านติดตามไปเรื่อยๆครับ
ผมเพิ่งหัดเขียน งาน โครงการตะพาบ ของ คุณเป็ดสวรรค์บล็อกแกงค์


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:12:26:48 น.  

 
ไม่น่าเชื้อ่ เขียนมาตั้งแต่ตอนต้นปี 50

ลงชื่อว่าอ่านได้หนึ่งตอนแว้ววว


โดย: ปันฝัน วันที่: 14 มีนาคม 2554 เวลา:11:35:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

i'm not superman
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ผู้ใหญ่ไซส์ S ที่พยายามจะทำให้ชีวิตมีความสุขไซส์ L
เสมอ~

...................

สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๘ ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และโดยอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด

..................................

ถ้าอยากมีความสุขหนึ่งปี ก็แค่ถูกหวย แต่ถ้าอยากมีความสุขตลอดชีวิต ก็จงรักงานที่ทำ~













Friends' blogs
[Add i'm not superman's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.