เที่ยวไป งงไป กับยัยเป๋อ 17 (ออสเตรเลีย)~
14 เมษายน 2550~โบกมือลา Sydney สวัสดี Blue Mountains
ดูเหมือนสองสามวันที่พวกเรามาย่ำต๊อกอยู่ที่นี่ จะทำให้พวกเราเคยชินกับการตื่นเช้าไปซะแย้วอ่ะนะคะ
เพราะแค่ 6 โมงครึ่ง ทุกคนก็จัดการธุระส่วนตัว แพ็คของลงกระเป๋า แล้วก็ออกมานั่งหน้าแป้นแล้นรวมกัน...(...เราอยู่..แยกหมู่กรูตาย T_T)...อยู่ที่โต๊ะกินข้าวในห้องโถงกันเป็นที่เรียบร้อยละ
อาหารเช้าวันนี้ พี่ชุลงมือทำไข่เจียวใส่กุ้งที่เหลือมาจากเมื่อคืนค่ะ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ที่น้องดาสำแดงฝีมือหุงด้วยไมโครเวฟ แล้วก็ตบท้ายกันคนละแก้วด้วยกาแฟร้อนหอมกรุ่น
พวกเราลากกระเป๋า ลงมาเช็คเอาท์ออกจากอพาร์ทเม้นท์กันตอน 8 โมงเช้า แต่กว่าจะไปรับรถที่เช่าไว้มาขับ..เหวี่ยงสัมภาระทั้งหลายแหล่ขึ้นรถ บรรจุตัวพอง ๆ ครบส่วนเข้าในที่นั่ง ก็ปาเข้าไป 9 โมงเศษ
แต่ก็ช่างเถอะนะค้า..ฟ้าใส ใจสบาย ขับเรื่อย ๆ ไปเรียง ๆ ก็ละกันเนาะ~
เดี่ยวมือหนึ่ง..กำลังเล็งหาทิศทางที่จะพารถออกจากเมืองฮ่ะ
รถของที่นี่ขับชิดซ้ายเหมือนรถเมืองไทย แถมยังพวงมาลัยขวาเหมือนกันด้วยอีกตะหาก
ให้ดูบรรยากาศยามสายของเมืองนิดนึง อิชั้นชอบอากาศกลางร้อนกลางหนาวของที่นี่แฮะ..ถึงแดดจะแรง แต่ลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านผิว ก็ช่วยให้รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวอย่างบอกมิถูก
พี่ชุขับรถเรื่อย ๆ ออกมายังทางหลวงหมายเลข 4 ค่ะ..มีน้องดาและน้องวา เป็น เนวิเกเตอร์ คอยอ่านแผนที่..แต่อาจจะเป็นเพราะพวกเราเป็นมือใหม่ และยังไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบิติและข้อบังคับของการขับรถบนทางหลวงของที่นี่ดีนัก..แทนที่พวกเราจะขับไปในเส้นทางที่เสียค่าผ่านทางด่วนด้วยเงิน..กลับตรงดิ่งเข้าไปในเส้นทางที่มีการจ่ายค่าผ่านทางแบบอัตโนมัติ ซะงั้น..
แล้วก็ไม่ได้หมายความว่า..ขับผ่านเลยไปแล้ว จะสามารถทำเนียน ๆ มิรู้มิชี้ได้นะค้า..ที่นี่เค้ามี "กล้องวงจรปิด" อ่ะ..มันจะตรวจจับเอาทะเบียนรถยัดใส่เทป แล้วก็ส่งผ่านไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทำการคิด "เบี้ยปรับ" แก่เจ้าของรถ หรือผู้ขับขี่ที่ทะเล่อทะล่า ขับเข้าไปในช่องทางการจราจรมิถูก หรือขับรถเกินความเร็วที่แต่ละรัฐกำหนด (โดยทั่วไป ความเร็วสูงสุดที่สามารถใช้ได้ในการขับรถระหว่างรัฐคือ 100 กม/ชม. และ 60 กม./ชม. ในเขตเมือง..เพราะฉะนั้นเวลาขับรถที่นี่ เราจึงควรดูป้ายกำกับข้างถนนเป็นหลัก)
พวกอิชั้นมิได้ตั้งใจนะเค๊อะคุงน้อง T_T (เออ..รู้แล้ว) แต่ถึงมิได้ตั้งใจก็ต้องโดนปรับอยู่ดีนั่นแหละ..ทุกคนเริ่มจะกังวลค่ะ พี่ชุก็เลยต้องขับรถหาทางลงจากทางด่วนมาแวะถามพนักงานขายของในมินิมาร์ท แถวนั้น ว่า ไอทำผิดแบบเนี้ยะ..ไอจะโดนค่าปรับสักเท่าไหร่จ๊ะ
พี่พนักงานขาย มิค่อยแน่ใจอ่ะนะคะ แต่ประมาณคร่าว ๆ ว่าถ้าเป็นความผิดครั้งแรก คงโดนสักประมาณ A$ 12 (มั๊ง) แต่ถ้ามีการทำผิดซ้ำซาก หรือเพิกเฉยมิไปชำระเบี้ยปรับแต่อย่างใด ค่าปรับจะทวีมูลค่าขึ้นไปตามลำดับ
เรื่องมันยุ่งอิ่ตรงที่ว่า..ไอ้รถทะเบียนที่เราขับมาเนี่ย..มันเป็นรถเช่าน่ะค่ะ แล้วเราก็ไม่รู้ว่า ไอ้รถเช่าคันเนี้ยะ มันทำผิดมาแล้วกี่หน เกิดทะเบียนนี้เคยทำผิดมาบ้างแย้ว พวกเรามิต้องเสียค่าปรับกันหน้ามืดเร๊อะ..
อย่ากระนั้นเลย ว่าแล้วพวกเราก็ควักแป้งตลับมาโบ๊ะหน้าให้ขาว ๆ กันอีกหน่อยดีกว่า
(เอ่อ มันจะใช่วิธีแก้หน้ามืดเหรอคะคุงพี้ ??!! )
พวกเราตกลงกันว่า จะหาวิธีติดต่อกลับไปยัง บริษัทรถเช่าให้ได้เร็วที่สุด เพื่อสอบถามรายละเอียดและช่องทางการเสียค่าปรับอ่ะนะคะ แต่ในเมื่อทุกคนมีโทรศัพย์ที่ไม่สามารถโทร.ภายในประเทศของที่นี่ได้ พวกเราก็เลยต้องหาที่ซื้อ "ซิม" ที่สามารถเปิดใช้โทร.ได้ในประเทศกันก่อน
เราซื้อซิมการ์ดของโทรศัพย์ยี่ห้อ "ว้อทเดอ โฟน"ได้ในมาร์ทใกล้ ๆ กันนั่นแหละค่ะ ซื้อแล้ว..เติมเงินแล้ว..วิบากกรรม มั๊นนน...ก็ยังห้อตามบั้นท้ายเรามาติด ๆ
เรื่องของเรื่องก็คือ น้องดากับพี่ชุ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาปะกิตเป็นพิเศษ พยายามโทร.ไปเปิดเบอร์กับทางศูนย์ว้อทเดอ โฟน แต่ด้วยความที่ต้องทำรายการกับ เครื่องตอบรับอัตโนมัติ (ฮ่วย !!??..เหมือนประเทศสารขัณฑ์แถวนี้ยังไงก็ไม่รู้)..การสื่อสารสำเนียงออสซี่ กับพวกคุงพี่กระเหรี่ยงไทยที่จบจากอเมริกาก็เลยคุยกันมิค่อยยู้เยื่อง..
เอ้า..สรุปว่าซื้อซิมแล้ว ก็ยังใช้งานโทรศัพย์มิได้อยู่ดีแหละ
เพียรพยายามกันอยู่ร่วม ๆ 20 นาทีค่ะ หมดแรงข้าวต้มกันพอประมาณแล้ว น้องดาก็เลยถอดใจ ยอมใช้โทรศัพย์ตัวเองโทร.ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรุ่นน้องที่มาทำงานอยู่ที่นี่ในที่สุด
"โจ๊ก..พี่มีเรื่องรบกวนหน่อยอ่ะ...บลา บลา บลา บลา"
คร่าว ๆ ว่าน้องดาจะให้เพื่อนที่ชื่อโจ๊ก หาวิธีเปิดเบอร์ให้อ่ะนะคะ..แต่ระหว่างนั้น สาวมั่นทั้งหลาย ก็คงต้องเซิ้งกระติ๊บ รอกันไปก่อน
โอเค.ค่า..ในเมื่อทำอะไรไม่ได้แล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อเถอะนะคะ
เส้นทางที่จะมุ่งตรงไปยัง บลู เม้าท์เท่น (Blue mountains) หรือหุบเขาสีน้ำเงินนี้ เป็นเส้นทางที่มุ่งไปทางตะวันตกของซิดนี่ย์ โดยจะอยู่ห่างจากตัวเมืองไปราว ๆ 2 ชม.ค่ะ
บลู เม้าท์เท่น มีชื่อเสียงในฐานะ แนวเทือกเขาที่กั้นที่ราบติดทะเลอันมีประชากรหนาแน่น ออกจากดินแดนตอนในที่แห้งแล้ง และราบเรียบของออสเตรเลีย ผาหินทรายขรุขระนี้ จัดว่าเป็นแนวกั้นที่มีประสิทธิภาพ ที่ขัดขวางมิให้นักสำรวจอาณานิคมยุคแรก ข้ามผ่านมันไปได้ แต่ในที่สุด ในปี ค.ศ 1813 ก็ได้มีผู้บุกเบิกสามคนค้นพบทางเดินแคบ ๆ การค้นพบครั้งนั้นเอง ที่ทำให้เกิด เกรท เวสเทิร์น ไฮเวย์ อันเป็นถนนสายหลัก ที่ออกจากซิดนี่ย์ไปทางตะวันตกในปัจจุบัน
แล้วทำไมถึงได้ชื่อว่า บลู เม้าท์เท่น ??
สงสัยเหมือนอิชั้นเยย(ฮี่ ๆ)
เหตุที่ได้ชื่อว่า บลู เม้าท์เท่น ก็เนื่องจากว่า วนอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ ถูกปกคลุมไปด้วยต้นกัม(แถวบ้านเราเรียก ต้นยูคาลิปตัส) ซึ่งมีใบสีเขียวเข้มอมน้ำเงิน ไอ้เจ้าต้นกัมนี้มันจะมีไอระเหยของน้ำมันออกจากใบ ซึ่งจะปกคลุมไปทั่วหุบเขา จนทำให้เมื่อมองจากระยะไกล ทิวเขา ก็จะกลายเป็นสีน้ำเงินทั้งหมด
พี่ชุขับแบบสบาย ๆ มาตามเส้นทาง ที่จะมุ่งตรงไปยังเมือง คาทูมบ้า(เมืองนี้เป็นศูนย์กลางรีสอร์ทสำคัญ มีรถไฟวิ่งจากสถานีเซ็นทรัลในซิดนี่ย์ มายังที่นี่เป็นประจำค่ะ) ลัดเลาะเข้ามายังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เคยเป็นเมืองรถไฟงดงามเก่าแก่
ไหน ๆ ก็มาละ แวะทำน้ำลายหกกันนิดนึงละกันเนาะ..ที่นี่ หมู่บ้าน ลูร่า (Lura) ค่ะ
เดินชมร้านค้าเล็ก ๆ ที่เรียงขนานไปกับแนวถนน อิชั้นติดใจงานปะผุ เคาะ พ่นสี !!?? เอ๊ย..งานตัดสังกะสีแสนน่ารักพวกนี้..จนต้องแวะดูอยู่บ่อยครั้ง
แอร๊ยย..อย่างน่ารักเลยนิ....อิช้านจาอาว อิช้านจาอาววววอ่ะ
(อย่างอแงเฟ้ย..แหกตาดูราคาซะก่อง..329 เหรียญเจียวนะยะ)
....................
ยาวละเน้อ..เดี๋ยวมาเล่าต่อละกันค่ะ ..
...............................................
แล้วพบกันนะคะ
i'm not superman
Create Date : 06 มิถุนายน 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 11 มีนาคม 2554 21:25:44 น. |
Counter : 691 Pageviews. |
|
|
|