ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
มงคลชีวิตข้อที่ 26 ถึง 31

มงคลข้อที่ ๒๖ ความฟังธรรมตามกาล



แม้ว่าชีวิตประจำวัน จะสับสนว้าวุ่นเพียงใด แต่เมื่อถึงกาลสมัยที่ฟังธรรมก็ต้องให้เวลากับกาลนั้นด้วย อย่างน้อยธรรมนั้นก็อาจจะช่วยชำระล้างมลทินภายในใจ และช่วยผ่อนความตึงเครียด สับสนของชีวิตให้ลดลง ทั้งนี้ท่านต้องฟังด้วยความตั้งใจ จดจ่อใคร่ควรพิจารณาในธรรมที่ฟังนั้นๆ ท่านก็จะได้ประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย เพราะธรรมแปลว่า ธรรมชาติเครื่องฟอกจิต ชำระจิต ถ้าท่านคิดว่าอาหารและน้ำ จำเป็นต่อร่างกายฉันใด ธรรมะก็จำเป็นต่อจิตใจฉันนั้น ร่างกายที่ขาดน้ำและอาหารเป็นร่างกายที่อยู่ไม่ได้ฉันใด ใจนี้ขาดธรรมก็อยู่ดีไม่ได้ฉันนั้น สำหรับประโยชน์ของการฟังธรรมนั้นมีมากมาย ตัวอย่างเช่น

๑. ธรรมอันใดที่ตนยังไม่เคยฟังก็จะได้ฟัง
๒. ธรรมที่ตนได้เคยฟังแล้ว มาได้ฟังเข้าอีกก็มีปัญญารู้แจ้ง รู้ชัดในธรรมนั้นมากขึ้น
๓. มีความสงสัยครั้งมาฟังธรรมก็สิ้นความสงสัยเสียได้
๔. จะทำความเห็นให้ตรงถูกต้องต่อพระศาสนา
๕. จิตของผู้ฟังย่อมผ่องใส เบิกบาน

ยังอานิสงส์ในการฟังธรรมมีอีก ๕ ประการคือ
๑. ยังพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองเจริญไปภายหน้า
๒. ตายแล้วจะไปสู่สุคติคือมนุษย์และสวรรค์
๓. จะได้ตรัสรู้ซึ่งมรรคและผล
๔. จะทำให้เกิดเป็นนิสัยแก่ผู้ฟังทั้งมนุษย์และเทวดาและสัตว์เดรัจฉาน
๕. ฟังแล้วทำให้เกิดปัญญา รู้ตื่นและเบิกบาน

----------------------------------------------------------------------------

มงคลข้อที่ ๒๗ ความอดทน



พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงสรรเสริญคุณแห่งความอดทนว่า ความอดทนอดใจ เป็นความเพียรยังกิเลสให้เร่าร้อน ความอดทนให้ถึงซึ่งพระนิพพานดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์ให้สิ้น

ความอดทนมี ๓ ประเภทคือ
๑. ทนกรากกรำ ความอดทนทำการงาน ไม่หวั่นแม้ความหนาว ร้อน ลม แดด
๒. ทนลำบาก ความอดทนต่อทุกขเวทนาอันเกิดเพราะความเจ็บไข้ มีประการต่างๆ แม้อย่างแรงกล้าก็ไม่แสดงอาการกระสับกระส่าย
๓. ทนเจ็บใจ ความอดทนต่อความหมิ่นประมาทที่ผู้อื่นกระทำ มีกล่างคำเสียดสีเป็นความอดทนอย่างยิ่งเป็นขันติโดยแท้ เรียกว่า อธิวาสนขันติ

ความอดทนยังเป็นเครื่องบ่งบอกถึง คุณภาพของความเป็นมนุษย์ที่เลิศอีกด้วย

-----------------------------------------------------------------------------

มงคลข้อที่ ๒๘ ความเป็นผู้ว่าง่าย



บุคคลผู้ว่าง่าย คงจักเปรียบได้กับดิน ที่ช่างปั้นจัดสรรคัดเลือกมาอย่างดี แค่นี้คงยังไม่พอ ช่างปั้นต้องนำดินนั้นมาทุบให้ละเอียด แล้วจึงใส่ตะแกรงกรองเอาเมล็ดกรวด เมล็ดทรายออกจากดินนั้นให้เหลือแต่เนื้อดินร่วนๆ เมื่อนำดินนั้นมาผสมน้ำนวดจะได้นิ่มมือ ไม่บาดระคายมือ เมื่อนวดดินนั้นจนเหนียวได้ที่แล้ว จึงนำมาปั้นเป็นแจกัน เป็นหม้อเป็นภาชนะที่ต้องการเนื้อดินที่ละเอียดอ่อนเหนียว ยิ่งทำดินละเอียดเหนียวมากเท่าไรก็ ยิ่งทำให้ภาชนะที่ช่างผู้มีฝีมือปั้นขึ้นนั้น ยิ่งคงทน ปราณีต สวยงามมากเท่านั้น บุคคลผู้ว่าง่ายเมื่อได้ผ่านการชี้แนะ ดัดกาย วาจาใจ จากครูผู้รู้ใจอารีมีปัญญา แล้วถ่ายทอดธรรมวิทยาทั้งปวงให้บุคคลผู้นั้น ย่อมจักสามารถซึมซับรับรู้ สรรพวิทยานั้นๆ ได้อย่างละเอียดหมดจด จนเป็นผู้เจริญในที่สุด

ซึ่งต่างจากคนผู้ว่ายากสอนยาก เปรียบเหมือนหินกรวดทราย ต่อให้พบช่างปั้นผู้วิเศษเขาก้ต้องคัดดิน กรวด ทราย นั้นทิ้งในที่สุด คนดื้อว่ายากสอนยาก ดูช่างเป็นคนโง่ที่น่าสงสารเสียจริงๆ เพราะเขาจักไม่มีค่าในสายตาของคนรอบข้างเลย เมื่อไปเรียนรู้กับครูวิเศษท่านใด ไม่ว่าครูผู้ใจอารีนั้นจักเพียรพยายามอบรมสั่งสอนต่อเขาสักปานใด เขาก็จักไม่รับอะไรนอกจากความเห็นของตนเอง แถมยังเสียเวลาเปล่าอีก บุคคลประเภทนี้มักจักเป็นผู้สร้างภาระและปัญหาให้แก่สังคม เหตุเพราะตัวเขาเองเป็นปัญหาแก่ตัวเองแล้วแก้ไขไม่ได้ สุดท้ายก็จักมีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะโดนทอดทิ้งจากสังคมรอบข้าง

----------------------------------------------------------------------------

มงคลข้อที่ ๒๙ ความได้เห็นสมณะ



เมื่อครั้งพระศาสดาได้ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เป็นพระสาวก แล้วส่งไปประกาศพระศาสนานั้น พระอัสสชิก็เป็นพระอรหันต์สาวกรูปหนึ่ง ได้จาริกไปตามคามนิคมชนบท แล้วออกบิณฑบาตโปรดสัตว์อยู่นั้น พระสารีบุตรซึ่งยังครองเพศเป็นพราหมณ์อยู่ ได้เห็นกิริยาอันละเมียดละไม สง่างามดังกวางทองเยื้องย่างปานนั้น ก็ทำให้เกิดศรัทธา เข้าไปน้อมกราบแล้วถามขึ้นว่า ท่านเป็นสาวกของใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน แล้วศาสดาของท่านสอนว่าอย่างไร

ท่านจะเห็นได้ว่า พระสารีบุตรซึ่งยังไม่ได้นับถือศาสนาพุทธเลย แค่เพียงเห็นพระอัสสชิออกเดินบิณฑบาตโปรดสัตว์เท่านั้นเอง ทำให้เกิดความเลื่อมใส ยอมตนก้มลงน้อมกราบแทบเท้าของพระอัสสชิ เพียงเพื่อต้องการรู้ว่าใครเป็นผู้สั่งสอน จึงทำให้พระอัสสชิช่างมีกิริยาอาการละเมียดละไม สง่างาม มั่นคง เสียเหลือเกิน

ประโยชน์ของการได้เห็นสมณะผู้สงบ ทำให้จิตของผู้พบเห็นมีจิตสงบ
- เกิดศรัทธาที่บริสุทธิ์
- กิเลสไม่กำเริบ
- เกิดวิชาความรู้

----------------------------------------------------------------------------

มงคลข้อที่ ๓๐ ความเจรจาธรรมตามกาล



การพูดถึงธรรม ดูน่าจะดีทุกกาล ในข้อนี้ท่านหมายถึงผู้พูดและผู้ฟัง จะต้องมีใจเห็นพ้องกันว่าควรจะพูดและควรจะฟังในเวลานี้ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องธรรมในเวลาที่ผัวเมียกำลังเสพกาม เสพเครื่องดองของเมา หรือบริโภคอาหาร เช่นนี้ผู้พูดและผู้ฟังอาจจะต้องเกิดทะเลาะกันก็ได้ เพราะพูดไม่ถูกกาลเทศะ

บริษัททั้ง ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ทั้ง ๔ นี้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้เล่าเรียนศึกษาพระธรรมและพระวินัยที่พระศาสดาทรงบัญญัติไว้ เมื่อเล่าเรียนศึกษาได้แล้ว มีข้อข้องใจสงสัย ก็จำข้อสงสัยนั้นมานั่งสนทนากัน สอบถามกันในเวลาประชุมหรือในเวลาพบปะท่านผู้รู้ เพื่อช่วยแก่ข้อสงสัยนั้นให้กระจ่าง ในส่วนที่รู้แล้วก็จะยิ่งทำให้รู้ชัดไม่หลงลืม เรียกว่าทำให้มั่นยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่รู้เลย เมื่อได้มาร่วมรับฟังการเจรจาธรรมนั้น ผู้ที่ไม่รู้นั้นก็จะได้รู้ตาม ถือได้ว่าเป็นการเผยแผ่ธรรม กระจายธรรมไปในตัวด้วย

----------------------------------------------------------------------------

มงคลข้อที่ ๓๑ ความเพียรเผากิเลส



บุคคลใดมีความเพียรสำรวมระวังรักษาซึ่งอินทรีย์เป็นต้น กำจัดเสียซึ่งอกุศล คือ ราคะ โทสะ โมหะ อวิชชา ตัณหา มานะ ทิฏฐิ อุปาทาน ให้หมดน้อยถอยจากสันดานจัดเป็นมงคลอันประเสริฐ

ความเพียรที่จะละกิเลสดังต่อไปนี้
๑. สำรวมรักษาอินทรีย์ทั้ง ๖ ให้บริบูรณ์
๒. การรักษาศีล ๕ ไม่โหดร้าย ไม่มือไว ไม่ใจเร็ว ไม่พูดปด ไม่หมดสติ
๓. การรักษาศีลในวันโกน วันพระ
๔. ขันติความอดใจที่จะไม่โกรธไม่พยาบาทอาฆาตจองเวรแก่สัตว์ ยังกิเลสให้เร่าร้อน
๕. ปาติโมกข์สังวร สำรวมระวังในพระปาติโมกข์
๖. ความเห็นซึ่งมรรคด้วยอำนาจแห่งปัญญา ความรู้อริยสัจ ๔
๗. มีความยินดีรักษาซึ่งธุดงควัตร เป็นข้อปฏิบัติของบรรพชิต
๘. มีความยินดีเจริญพระกัมมัฏฐานสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา
๙. ความทำนิพพานให้แจ้ง


----------------------------------------------------------------------------

ที่มา :

- //www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=4554266335367
- //www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=4537786843180
- //www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=2000000004189
- //www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=4550412880777
- //www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=2000000004191
- //www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=2000000004192


Create Date : 12 ตุลาคม 2552
Last Update : 12 ตุลาคม 2552 15:56:15 น. 0 comments
Counter : 1224 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.