ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

สิ่งเล็กน้อยที่ผู้คนมองข้าม...คนเจียมตนและเป็นคนดี

เกี้ย..
เป็นเด็กนักเรียนที่กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่โรงเรียนประจำอำเภอที่ใกล้หมู่บ้านที่เขาอยู่มากที่สุด

ที่ว่าใกล้ที่สุดก็ประมาณ 11 กิโลเมตรได้

นอกจากการเรียนแล้วภาระกิจหลักของเขาก็คือ การช่วยเหลือทางบ้านทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ เพราะเขารู้ตัวดีว่า ทางบ้านมีฐานะยากจน พ่อไม่ได้มีเงินเดือนเหมือนกับพ่อของเพื่อนหลายคนที่เรียนร่วมชั้นกับเขา แม่เองก็ไม่ได้มีอาชีพที่เป็นหลักแหล่งที่แน่นอน

ทั้งพ่อและแม่ของเขาทำงานรับจ้างทั่วไป ทำทุกอย่างที่มีคนมาวานมาจ้างขอเพียงได้ค่าแรงมาจุนเจือครอบครัว แม้ว่าค่าแรงขั้นต่ำจะไม่ได้ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เงินมาเลย

ด้วยเหตุนี้เกี้ยจึงไม่เคยปริปากที่จะขอให้พ่อแม่ซื้อรองเท้าให้ใหม่ เขาจำต้องใช้รองเท้าผ้าใบคู่เก่าที่แม่ซื้อให้มาตั้งแต่เข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แล้ว ตอนนี้ส้นรองเท้ามันแตกแยกออกจากนั้นเพราะเชือกด้ายที่เย็บนั้นเริ่มเปือ่ยประกอบกับเท้าของเขาก็โตขึ้นตามการเติบโตของร่างกาย แต่เขาก็ใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่อยู่ชั้น ม. 1 ในการเย็บแต่แทนที่เขาจะเย็บด้วยเชือกซึ่งมันไม่ทนทานต่อการสวมใส่เขาก็หันมาเย็บด้วยลวด แต่เป็นลักษณะคล้องเป็นวงให้ปลายของส้นรองเท้ามันไม่แยกออกจากกันก็พอ เอาไว้ได้ทุนการศึกษาเมื่อไรค่อยซื้อรองเท้าใหม่ ตอนนี้ทนแบบนี้ไปก่อนเขาคิด

ในแต่ละวันเขาจะได้ค่าอาหารและค่าโดยสารไปโรงเรียนวันละ 7 - 11 บาท เงินจำนวนนี้ไม่แน่นอน เพราะบางวันมีมากเขาจะเป็นคนบอกแม่เองว่าจะเอาเงินไปเท่าไรโดยคิดจากค่าโดยสารจากบ้านไปถึงตัวอำเภอด้วยการนั่งรถบัสประจำทางเที่ยวละ 2 บาท รวมไปกลับก็ 4 บาท ค่านั่งรถสามล้อไปถึงโรงเรียนอีกก็เที่ยวละ 2 บาทรวมเป็น 4 บาทเหลือเป็นอาหารกลางวันอีก 3 บาทก็รวมทั้งหมด 11 บาทพอดี ไม่ได้คิดเผื่อไว้ว่าต้องกินขนมหรือน้ำอัดลมที่เพื่อนคนอื่นเขาทำ เพราะเขาเห็นว่าเพียงแค่กินข้าวให้อิ่มก็พอแล้วสำหรับเขา สิ่งอื่นนอกจากนี้เป็นเพียงสิ่งฟุ่มเฟือยทำให้เงินที่หามาด้วยความยากลำบากนั้นสิ้นเปลืองไปเปล่าๆ และสงสารพ่อแม่ที่ต้องทำงานหาเงินมาให้เราเรียนด้วย บางครั้งพ่อแม่ก็ต้องไปหยิบยืมจากชาวบ้านมาให้เราไปใช้ในการเรียน แต่การตั้งใจเรียนจนสามารถติดอันดับต้นๆของโรงเรียนก็เป็นสิ่งที่เขาตอบแทนพ่อและแม่ที่อุตารส่าห์ส่งให้เขาเรียนมา

เมื่อเขาสวมรองเท้าขาดๆปะด้วยลวดแล้ว แม้ว่าถุงเท้าจะไม่มีพื้นให้เหยียบเต็มเท้าเหมือนตอนซื้อใหม่แต่ก็พอกลบเกลื่อนสายตาว่าเขามีรองเท้าและถุงเท้าใส่เหมือนกัน เสื้อผ้าแม้ว่าจะไม่เคยได้รีดเลย แต่เขาก็ไม่อายที่จะสวมไป เครื่องแต่งกายเขาถูกระเบียบทุกอย่าง เขามีครบเพียงแต่มันไม่ได้ใหม่และน่าดูเหมือนคนอื่นเท่านั้นเอง

เกี้ยมานั่งรอรถโดยสารประจำทางที่ศาลารอรถริมถนนซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร ที่ศาลาแห่งนี้จะมีเพื่อนบ้านที่มารอรถไปด้วยกันกับเขาหลายคน มีทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นพี่ และรุ่นน้อง เขาก็จะเงียบๆ ไม่ค่อยไปพูดคุยอะไรกับใครเท่าไรนัก จะมีก็เพียงแค่ตอบคำถามเล็กน้อยๆ ตามที่ใครจะถาม
รถโดยสารมาแล้ว เขาเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งที่จะขึ้นทีหลังคนอื่น เมื่อมีรถมาจอดเขาจะรอให้เพื่อนบ้านผู้หญิงขึ้นรถไปก่อนแล้วเขาจะขึ้นปิดท้าย ถ้าไม่มีที่นั่งก็ยืนโหนท้ายรถไปด้วยความเคยชิน ส่วนตอนกลับถ้ากลับเร็วและมีที่ว่างเขาก็จะได้นั่งเบาะนุ่มๆ ให้หายเมื่อย แต่ถ้าเมื่อไหร่มีคนขึ้นรถมาเป็นผู้หญิง ผู้ใหญ่ ตนแก่ เขาก็จะลุกให้และตนเองก็จะต้องไปยืนอยู่ท้ายรถเช่นเคย และมีหลายครั้งที่เขาชอบที่จะขึ้นไปนั่งบนหลังคาของรถบัสประจำทางเพราะมันได้นั่งและตื่นเต้นไปอีกแบบ คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่ามันน่ากลัว แต่สำหรับเขามันไม่น่ากลัว ถ้าหากเรารู้จักระวัง

เมื่อไปถึงสถานีรอรถในอำเภอ เขาก็ลงจากรถบัสแล้วขึ้นนั่งบนรถสามล้อทันที่ เมื่อสามล้อเต็มคนขับก็จะขับออกไป แต่ถ้าไม่มีคนเขาก็จะให้นั่งรอหรือไม่ก็ไม่ขึ้นคนอื่นที่มีคนเกือบเต็มแล้ว จากนั้นรถสามล้อจะพานักเรียนที่นั่งเต็มคนจากหลายท้องที่มาลงจอดที่จุดหมายเดียวกันนั่นคือประตูโรงเรียน ส่วนใหญ่นักเรียนจะเป็นคนสั่งเองว่าจะให้จอดประตูหลังหรือประตูหน้าโรงเรียน ก็มีกฏเล็กน้อยสำหรับคนที่มาด้วยกันเป็นที่รู้กันว่า ถ้ามาเช้าก็เข้าประตูหน้า มาช้าเข้าประตูหลังโรงเรียน

เมื่อมาถึงโรงเรียนเขาก็จะขึ้นไปที่ห้องเรียนโดยถอดรองเท้าแล้วก็ถือขึ้นไปด้วย เอากระเป๋าสะพาย(ย่าม)ไปเก็บใต้โต๊ะเรียนของคตนเองและเอาการบ้านที่ทำเสร็จแล้วมาส่ง มีบ้างที่เพื่อนในห้องเรียนเขามาขอลอก เมื่อนั่งเล่นและคุยกับเพื่อนได้สักพัก สัญญาณเพลงเข้าแถวก็ดังขึ้น เพื่อน ๆและตัวเขาก็จะต้องรีบเดินลงมาเข้าแถวก่อนสัญญาณเพลงเข้าแถวจะจบก่อน เพราะนั่นหมายถึง ไม้เรียวที่จะต้องสัมผัสก้นของผู้ที่เข้าแถวช้า อีกอย่างเวรนำหน้าเสาธงบางวันก็ต้องเป็นเขา ชักธงขาติ เป็นต้น

หลังจากร้องเพลงชาติจบ ต่อด้วยสวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตาและยืนสงบนิ่ง สุดท้ายครูฝ่ายปกครองก็จะขึ้นมาอบอรมกฎระเบียบหน้าเสาธงและการลงโทษให้รางวัลความดีก็ทำในช่วงนี้ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้นักเรียนเดินแยกย้ายกันขึ้นห้องเรียน รอเรียนแต่ละวิชาจนกระทั่งเที่ยง

พักกลางวัน

ในช่วงเวลาพักกลางวันที่มีเงินให้ใช้อยู่ 3 บาทนั้น เขาและเพื่อนๆ ในห้องและต่างห้องจะรวมตังค์กันคนละ 2 บาทถ้ามีคนจำนวน 5 คนขึ้นไป หรือ3 บาทถ้ามีคนน้อยกว่านั้น ทั้งกลุ่มต่างก็ห่อข้าวเหนียวมาเรียบร้อย บางคนก็ห่อมาเผื่อเพื่อน บางคนก็ลืมห่อข้าวมาก็แบ่งปันกันไป เงินที่ได้จากการรวมกันก็จะถูกจัดสรรปันส่วนว่าจะไปซื้ออะไร เมนูหลักที่ซื้อเป็นประจำก็คือส้มตำที่ใส่ขนมจีน และไก่ปิ้งที่มีแต่กระดูกและหนังไก่ทาสีส้มๆ ที่แม่ค้านำมาขายในโณงอาหาร หลังจากแบ่งหน้าที่กันไปซื้อกับข้าวมาแล้วก็มานั่งล้อมวงกันกินในบริเวณม้าหินอ่อนบ้าง พื้นซีเมนต์บ้างตามแต่ว่าวันนั้นจะว่างหรือเปล่าเพราะบริเวณโรงอาหารมักไม่มีที่เพียงพอสำหรับนักเรียนทั้งหมด

หลังจากกินอิ่มก็ไปดื่มน้ำที่ตู้น้ำเย็นที่ทางโรงเรียนมีไว้บริการ 2 จุด แต่ไม่ถือว่าลำบากลำบนอะไร แต่กลับดีใจที่โรงเรียนมีให้บริการฟรี จากนั้นเกี้ยและเพื่อนจะแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมที่ตนเองชอบบางคนไปเล่นกีฬา บางคนเข้าห้องทำงานต่อ แต่สำหรับเขาชอบไปห้องสมุดเพราะมีหนังสือให้เขาอ่านมากกมายเป็นหนังสือที่เขาไม่มีเงินซื้อ เขาสนใจหนังสือในแนววิทยาศาสตร์เพราะมันท้าทายและให้ความกระจ่างแก่หลายๆ อย่างมที่เขาสงสัย
เมื่อถึงเวลาเข้าเรียนภาคบ่ายก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้ดีที่สุดเพราะเขาคิดไว้เสทอว่า ถ้าเรียนเต็มที่แล้วก็ไม่ต้องไปเรียนพิเศษอะไรที่ไหน ทำให้ตลอดชีวิตของเขาไม่ไเคยได้สัมผัสกับการเรียนพิเศษเลย เขาเลยมองภาพไม่ออกมาการเรียนพิเศษนั้น มันพิเศษอย่างไร แต่เขาก็พอใจที่ได้เรีบยนเท่าที่มี แค่นี้ก็ดีพอแล้วเพราะครูต่างก็ทุ่มเทการสอนอย่างดี ทดลองก็บ่อยๆ

เป็นธรรมดาที่เข้าสู่วัยรุ่นแล้วก็ต้องการที่จะอยากได้สิ่งที่วัยรุ่นต้องการนั่นคิอเสียงเพลง เขามีวิทยุเก่าๆ เครื่องหนึ่งที่น้าให้เขามาตั้งนานแล้ว แม้ว่ามันจะไม่มีฝาหน้าปิดแต่มันก็ยังสามรารถเล่นเทปเพลงได้ แต่ราคาเทปเพลงไม่ใช่น้อยๆ จะขอพ่อแม่ก็ไม่ดีแน่ เขาจึงตัดสินใจที่จะออมเงินเองโดยการนำเงินที่เหลือจากการซื้อกับข้าวในแต่ละวันแม้จะเป็นเพียงวันละบาทก็ยังดี บางวันเขาก็เก็บเพิ่มได้จากการเดินกลับบ้านแทนการขึ้นรถสามล้อ ทำให้ประหยัดเงินได้อีก 2 บาท เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาจะเก็บเงินเหล่านี้ไว้ที่รองเท้าเก่าๆ ท้ายมุ้งนอนบ้าง แต่ซ่อนอย่างมิดชิด

เมื่อมีเงินครบตารมจำนวน เขาก็จะนำเงินไปซื้อเทปเพลงมาฟัง ครั้งสองครั้งไม่เป็นไร แตาบ่อยเข้าแม่ชักเริ่มเอะใจ คราวนี้เงินที่เขาออมไว้หายไปหมดเลย ถามแม่ก็บอกไม่ทราบ ถามใครก็ไม่รู้ไม่เห็นทั้งนั้น แล้วมันหายไปได้อย่างไรกันล่ะ
....




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2552
1 comments
Last Update : 9 ตุลาคม 2552 17:32:11 น.
Counter : 768 Pageviews.

 

แวะมาทักทายครับ...

สบายดีเปล่าครับ....

ช่วงนี้เด็กสอบเสร็จแล้วสิครับ...

 

โดย: nay2k 10 ตุลาคม 2552 9:17:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.