Bloggang.com : finishline :

Singapore GP 2013 ในความทรงจำ...โดยคุณ Puakpiak ตอนที่ 3

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน

วันนี้ตื่นมาเร็วกว่าทุกวันเพราะต้องเตรียมตัวเก็บสัมภาระเพื่อกลับกรุงเทพฯ หลังแข่งจบ โดยคืนนี้ตั้งใจว่าจะไปนอนที่สนามบินเพื่อรอขึ้นเครื่องในเช้าวันรุ่งขึ้นเลย รู้สึกว่า 3 วันที่มาอยู่ที่นี่เร็วจริงๆ วันนี้ต้องกลับเสียแล้ว หลังจากเก็บข้าวของแล้วต้องบอกว่าพะรุงพะรังมาก ตัวผมมีเป้ใบใหญ่ 1 ใบกับถุงโลตัสใส่ของฝากเต็มพิกัด เรียกว่าถุงแทบปริ ส่วนแฟนผมมีเป้ขนาดกลางอีก 1 ใบใส่ของอีกเต็ม แล้วเราก็ออกเดินทางกัน โดยวันนี้มีโปรแกรมดังนี้ครับ

16:10 – 17:00 GP2 Race 2
17:25 – 18:00 Porsche Carrera Cup
17:30 – 18:45 Drivers Parade
20:00 – 22:00 F1 RACE

เรารีบออกมาจากโรงแรมประมาณ 13:00 น. มุ่งหน้าสู่ห้าง City Mall (อีกแล้ว) เพื่อหาอาหารมื้อเที่ยง ไหนๆ มาแล้วก็เดินสำรวจของในห้างเสียหน่อย ในส่วนของสนามแข่งขันวันนี้ผมอยู่โซน 3 ต้องเข้าสนามที่ Gate 3 และ 7 เท่านั้น ผมตั้งใจจะไปเข้าที่ Gate 7 เพราะ Gate 3 เคยเข้ามาแล้ว และจากห้าง City Mall ก็ไม่ไกลกับ Gate 7 สักเท่าไหร่ วันนี้อยากกินอะไรที่มันอร่อยๆ บ้างซึ่งในห้างนี้ก็มีร้านอาหารให้เลือกเยอะแยะมากมาย สุดท้ายก็มาจอดที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ดูจากเมนูแล้วอาหารเข้าท่าดีและที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย หลังจากอิ่มแล้วก็เดินมุ่งหน้าสู่ Gate 7 ทันทีแต่ปรากฏว่ามีป้ายบอกว่า Gate เปิดเวลา 15:00 น. ซึ่งตอนนั้นเพิ่งจะเวลา 14:00 น. เท่านั้น ผมจึงเดินย้อนกลับเข้าไปเดินเล่นในห้างรอเวลาอีกพักใหญ่

เมื่อถึงเวลา 15:00 น. เราก็รีบพากันเดินมุ่งหน้าไป Gate 7 ทันทีเพราะวันนี้ไม่อยากพลาดรายการใดๆ อีกแล้ว และเมื่อมาถึง Gate 7 ก็มีเจ้าหน้าที่ยืนแจกธงตราหมากรุกอยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าก็ได้มาคนละอัน แล้วเราก็ผ่านขั้นตอนการสแกนบัตรและมาถึงขั้นตอนการตรวจเช็คกระเป๋า ซึ่งก็เกิดปัญหากับเราจนได้เนื่องจากกระเป๋าสัมภาระที่ใส่ของมาเต็มไปด้วยขนมทั้ง 2 ใบ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เรานำขนมพวกนี้เข้าสนาม ผมได้ถามไปว่ามีวิธีไหนพอจะช่วยเราได้บ้าง หมายถึงมีที่ไหนที่รับฝากของพวกนี้ใกล้ๆ บ้าง ก็ได้คำตอบมาว่าคุณก็ไปเปิดโรงแรมแล้วเอาของไปเก็บสิ(อืม....ตอบได้ดี) สุดท้ายเราต้องเดินกลับออกมาพร้อมกับความกังวลว่าจะทำอย่างไรกับขนมในกระเป๋าของเราดี จะเดินกลับไปโรงแรมที่เราเพิ่งเช็คเอาท์ออกมาก็ไกลพอควรและไม่รู้ว่าเขาจะรับฝากหรือไม่ หรือจะเปิดโรงแรมใกล้ๆ เพื่อเอาของไปเก็บก็คงสู้ราคาไม่ไหวเพราะโรงแรมที่อยู่ใกล้ที่นี่ดูแล้วคงเกรดไม่ต่ำกว่าสี่ดาว ค่าห้องคงจะแพงกว่าค่าขนมเป็นแน่ แฟนผมจึงตัดสินใจขอลองจัดกระเป๋าใหม่เอาขนมยัดใส่ด้านล่างกระเป๋า เอาเสื้อผ้าปิดไว้ด้านบน และเปลี่ยนไปเข้าที่ Gate 3 แทน

ณ เวลานั้นเกือบสี่โมงเย็นแล้ว GP2 กำลังจะเริ่มการแข่งขัน (เราจะพลาดช่วงสตาร์ทอีกแล้วหรือนี่?) หลังจากคิดแผนได้แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้าง City Mall อีกครั้งเพื่อจัดการกับสัมภาระ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็เรียบร้อย ขนมถูกยัดลงไปอยู่ด้านล่างของเป้ทั้งสองใบกับถุงทีมโลตัสอีกหนึ่งถุง ซึ่งถุงใบนี้แหละน่าห่วงมากเพราะมีเพียงผ้าพันคอเพียงผืนเดียวที่ปิดอยู่ด้านบนแต่เอาเทปใสปิดปากถุงไว้นิดหนึ่ง เสร็จแล้วเราก็มุ่งไปที่ Gate 3 ด้วยใจที่เต้นระทึกว่าจะสามารถผ่านเข้าไปได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดมากน้อยแค่ไหน บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นถึงกับเครียดเลยเพราะถ้าผ่านไม่ได้คงต้องเปิดโรงแรมจริงๆ คงหมดเงินอีกหลายพัน หลังจากผ่านขั้นตอนการสแกนบัตรก็เดินไปจุดตรวจกระเป๋า เจ้าหน้าที่เปิดซิปเป้ของผมและตบๆ คลำๆ แล้วก็ปิดซิป ผ่านไปหนึ่งใบทีนี้มาถึงถุงโลตัส เจ้าหน้าที่เพียงแค่ดูปากถุงไม่ได้แกะเทปใสออกและก็ให้ผ่านเข้าไปได้ โอ้...โล่งอก หันไปดูแฟนซึ่งอยู่ช่องข้างๆ กันเป็นเจ้าหน้าที่หญิงก็ให้เธอผ่านเข้ามาได้เช่นกัน ตอนนั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ละ Gate ความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เราสามารถเข้ามาได้ และเมื่อเราเข้ามาแล้วจะต้องเดินผ่าน Gate 7 (หมายถึงด้านในที่ผ่านเข้ามาแล้วนะครับ) เราก็รีบเดินหลบๆ เพราะกลัวเจ้าหน้าที่จะจำเราได้ ตอนนั้น GP2 กำลังแข่งขันกันอยู่ซึ่งก็ใกล้จะจบแล้ว ผมจึงรีบเดินไปที่ Bay Grandstand ทันที เมื่อมาถึงก็รีบจัดของในเป้เสียใหม่ ไม่อย่างนั้นขนมข้างในเละแน่ๆ แฟนผมก็เลยเสียเวลานั่งจัดเป้อยู่ใต้อัฒจันทร์อยู่คนเดียวและให้ผมเดินไปช้อปร้านขายของที่ระลึกบริเวณนั้น ซึ่งก็โดนเสื้อ แก้วกาแฟ และกระเป๋าผ้าร่มมาอีก อิอิ เมื่อแฟนผมจัดสัมภาระเสร็จ GP2 ก็แข่งจบพอดี สรุปทริปนี้ผมพลาดการแข่งขัน GP2 ทั้ง 2 Race เลย น่าเสียดายเป็นที่สุด

แต่ไม่เป็นไร ยังมีรายการ Porsche Carrera Cup เวลา 17:25 น. อีก และเราก็เดินขึ้นไปประจำที่นั่งของตัวเองโดยอยู่โซนเก้าอี้สีเหลืองแถวที่ 30 ซึ่งสูงพอควรเลย เมื่อขึ้นมาอยู่ที่ Grandstand แล้วต้องบอกว่าแดดที่นี่ห้าโมงเย็นอย่างกับแดดตอนบ่ายสามเลยร้อนมากๆ แฟนผมถึงกับบ่นเลยว่าเดี๋ยวหน้าดำ 5555 เมื่อขึ้นไปประจำที่ได้สักพัก Porsche Carrera Cup ก็เริ่มแข่งขัน ซึ่งระหว่างการแข่งขันคงจะมีการชนกันบ่อยเพราะเซฟตี้คาร์ออกมาหลายรอบอยู่เหมือนกัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอข้ามไปนะครับ เมื่อจบรายการ Porsche Carrera Cup ก็มาถึงรายการที่รอคอย โดยเวลา 17:30 น. จะเป็นการโชว์ตัวนักแข่งหรือ Drivers Parade ซึ่งเราได้เตรียมลงไปยึดพื้นที่ด้านล่างติดขอบรั้วเพื่อถ่ายภาพไว้เรียบร้อย แต่ถ่ายไว้ได้เท่านี้เพราะแบตเตอรี่เจ้ากรรมดันหมด ขบวนของนักแข่งที่วิ่งผ่านนั้นขับช้าพอสมควรทำให้เห็นนักแข่งได้ชัดเจน คนที่ผมอยากเห็นมากที่สุดก็คือ Felipe Massa กับ Fernando Alonso (อิอิ) แล้วก็ได้เห็นสมใจ แต่ตะโกนเรียกจนคอเจ็บก็ไม่หันมาทั้งคู่เลย

จบจาก Drivers Parade ทีนี้ก็ถึงการแข่งขันของ F1 กันล่ะ และเมื่อถึงเวลา 20:00 น. การแข่งขันก็เริ่มขึ้นโดย Sebastian Vettel ออกมานำตั้งแต่รอบแรกและยิ่งวิ่งก็ยิ่งห่าง ถึงแม้จะมีเซฟตี้คาร์ออกมาในช่วงที่ Daniel Ricciardo แหกโค้งในรอบที่ 23 แต่ก็ไม่ได้ทำให้ระยะห่างของเขากับอันดับที่สองน้อยลงแต่อย่างใด ในช่วงท้ายการแข่งขันผมลงไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ด้านล่างของอัฒจันทร์ เดินเลาะตามทางเดินมาก็ต้องตกใจเพราะคนดูที่นี่เยอะจริงๆ เท่าที่ดูน่าจะเต็มทุกที่นั่ง (ที่เห็นในภาพมีเก้าอี้สีเหลืองที่ว่างๆ นั้นเขากันไว้ไม่ให้นั่ง) และเมื่อผมเดินลงไปด้านล่าง เสียงเครื่องยนต์ข้างล่างดังมากๆๆๆ ทั้งดังทั้งก้อง เรียกว่าถ้าไม่อุดหูนี่หูดับแน่ๆ

เมื่อเสร็จธุระก็เดินสำรวจพื้นที่ด้านล่างเสียหน่อย ด้านล่างนี้ยังคงมีอาหารเครื่องดื่มจำหน่ายอยู่และก็มีคนมาซื้อค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะซื้อเบียร์ขึ้นไปกินบนที่นั่งของตัวเอง ผมอยู่ที่ด้านล่างนี้จนจบการแข่งขัน หลังจากนั้นก็เดินลงไปในสนามไล่เก็บเศษยางกลับไปเป็นที่ระลึก ซึ่งหายากพอสมควรเพราะมีแต่คนเก็บทั้งนั้น แต่ก็พอหาได้มาสองสามชิ้น ผมเดินมาจนถึงด้านข้างห้าง City Mall ซึ่งผมกับแฟนต้องมุดรั้วออกมาเพราะหาทางออกไม่เจอ มีคนเข้าแถวมุดรั้วกันเยอะและผมก็ตรงดิ่งไปที่สถานีรถไฟฟ้า Esplanade เพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบิน Changi ทันที ซึ่งเวลานั้นก็ห้าทุ่มครึ่งเข้าไปแล้ว

เราได้ก็มาถึงสนามบิน Changi ตอนเที่ยงคืนพอดีและเราก็ตรงดิ่งไปที่เคาน์เตอร์ของ Airasia เพื่อหวังที่จะเช็คอินและผ่านเข้าไปด้านใน ซึ่งเวลาขึ้นเครื่องของผมคือ 10:30 น. มีคนแนะนำว่าด้านในนอนได้สบาย แต่ก็ผิดหวังเพราะเคาน์เตอร์ปิด จะเปิดอีกทีคือตอนเช้าเวลา 06:00 น. ทำไงล่ะทีนี้เพราะดูจากสถานที่แล้วที่นอนที่เป็นโซฟานุ่มๆ ไม่มีเลย มีแต่เก้าอี้นั่งธรรมดาซึ่งตอนนี้ก็มีหลายคนจับจองเป็นที่นอนกันไปเยอะแล้ว และตอนนี้ก็หิวแล้วด้วย โชคดีที่ในสนามบินมีร้านอาหารที่เปิดอยู่ 2-3 ร้าน (น่าจะเปิด 24 ชม.) ก็เลยจัดบะหมี่ชุดเล็กมา 1 ชุด เมื่ออิ่มแล้วก็หาที่นอน ผมเดินไปที่ด้านท้ายๆ อาคารเป็นที่ซึ่งคนไม่พลุกพล่านและดูปลอดภัยดีก็เลยจับจองเป็นที่นอน ดูเวลาตอนนั้นก็ 01:30 น. เข้าไปแล้ว ด้วยความเพลียแฟนผมลงนอนได้แป๊บเดียวเธอก็หลับ ส่วนผมหลับไม่ได้เพราะต้องคอยเฝ้าสัมภาระ แอร์ในนี้ขอบอกว่าหนาวมาก อาจเป็นเพราะตอนกลางคืนไม่ค่อยมีคนก็เป็นได้ การรักษาความปลอดภัยที่นี่เยี่ยมยอดมาก มีทหารถือปืนเดินตลอดคืน ดูแล้วรู้สึกปลอดภัยดีครับ และเมื่อถึงเวลา 06:30 น. ที่เคาน์เตอร์ Airasia เปิดก็รีบจัดการเช็คอินเพื่อที่จะเข้าไปหาที่เอนนอนด้านใน เช็คอินเสร็จก็หาอาหารเช้าทาน ได้เป็นชุดชาร้อนขนมปังและไข่ลวกราคา 6 SGD ไม่ถึงกับอิ่มแต่พอรองท้องได้อยู่ เมื่อเข้ามาด้านในก็พบกับเก้าอี้โซฟาสำหรับนอนได้สบายบวกกับมีปลั๊กไฟพร้อม wifi ฟรีให้ใช้เสร็จสรรพ (แหม...ถ้าเข้ามาในนี้ได้ตั้งแต่เมื่อคืนคงสุขมาก) และเมื่อถึงเวลา 10:00 น. ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับบ้าน ซึ่งพอขึ้นเครื่องปุ๊บผมก็หลับยาวจนถึงกรุงเทพฯ เลย

Singapore GP ครั้งนี้สนุกมากจริงๆ ผมกะว่าอีกสัก 5 ปีเราจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน

Create Date : 09 ธันวาคม 2556

1 comments

Last Update : 9 ธันวาคม 2556 22:11:56 น.

Counter : 1856 Pageviews.

ขอบคุณรีวิวเจ๋งๆครับ

โดย: ตั้ว IP: 27.55.170.3 10 ธันวาคม 2556 11:25:21 น.