Singapore GP 2013 ในความทรงจำ...โดยคุณ Puakpiak ตอนที่ 1

ในการแข่งขันรายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2013 เมื่อวันที่ 20-22 กันยายนที่ผ่านมา คุณ Puakpiak เพื่อนของเราท่านหนึ่งได้เดินทางไปร่วมชมสดๆ ถึงขอบสนามมารีน่าเบย์สตรีทเซอร์กิต และหลังจากคุณ Puakpiak เดินทางกลับมาแล้ว จขบ. ได้ติดต่อขอให้ช่วยกรุณารีวิวประสบการณ์สุดประทับใจครั้งนี้ให้กับพวกเรา เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกคนที่จะเดินทางในปีต่อๆ ไป ซึ่งถึงแม้ภารกิจจะรัดตัวมากแค่ไหน แต่คุณ Puakpiak ก็ได้สละเวลาร้อยเรียงเรื่องราวรวมทั้งภาพประกอบมาให้เราได้รับทราบและรับชมอย่างเต็มที่ ต้องขอขอบคุณคุณ Puakpiak เป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ

สำหรับเรื่องราวจากสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2013 ของคุณ Puakpiak จขบ. ขออนุญาตแบ่งออกเป็น 3 ตอนนะคะ ตอนแรกอยู่ด้านล่างนี้แล้ว ไปติดตามกันเลยค่ะ

*************************************************************


การซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน

สำหรับบัตรเข้าชมการแข่งขัน ถ้าหากคุณตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะไปขอแนะนำว่าให้เข้าไปซื้อบัตรที่เว็บไซต์ singaporegp.sg ซึ่งเป็นเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Singapore GP ซึ่งในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคมถึง 31 พฤษภาคมจะมีช่วงโปรโมชั่นที่เรียกว่า Early Bird Ticket ซึ่งราคาบัตรในแต่ละโซนจะถูกกว่าช่วงเดือนมิถุนายนไปแล้วถึง 100 SGD เพราะฉะนั้นรีบตัดสินใจก่อนสิ้นเดือนพฤษภาคมนะครับ และข้อดีอีกอย่างถ้าซื้อบัตรกับที่นี่คือจะมี event ต่างๆ ให้เราได้ร่วมสนุกเพื่ออัพเกรดตลอด เฉพาะของผมปีที่แล้วก็มีประมาณ 5 event ทั้งการส่งรูปเข้าร่วมสนุกเพื่ออัพเกรดเป็นบัตร Fan Stand ซึ่งคุณ Beckkaew เพื่อนของเราในนี้เคยได้มาแล้วเมื่อปี 2012 และตัวผมเองก็โชคดีได้ Pit Walk ในวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นประสบการณ์ที่จะไม่มีวันลืมจริงๆ สำหรับคนที่คลั่งไคล้ F1 การเข้าร่วมสนุกก็เพียงแต่เราส่ง Transaction Number ไปทางอีเมล์ ซึ่งทางสิงคโปร์จะส่งอีเมล์มาหาเราในกรณีมี event ให้เราร่วมสนุกเพียงเท่านี้ก็รอลุ้นได้เลยครับ สำหรับรายละเอียดของบัตรเข้าชมการแข่งขันจะมีหลายประเภท ทั้งบัตรแบบ 3 วัน (ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์) ซึ่งก็จะมีแบบที่เดียวกันทั้งสามวันหรือแบบสามวันไม่ซ้ำที่กันเลย หรือจะเป็นตั๋วเดินที่เรียกกันว่า walk about โดยราคาจะแบ่งไปตามโซน แต่ละโซนราคาก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งบัตรที่ผมเลือกคือบัตร Bay Combination มีรายละเอียดดังนี้

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน

ผมเดินทางไปถึงสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ 9:00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน โดยแอร์เอเชียของผม ตามกำหนดการเครื่องออกเวลา 10:55 น. โดยไปถึงปลายทางที่สนามบิน Changi ประมาณ 14:00 น. หลังจากผ่านขั้นตอนตม.ที่ดอนเมืองเรียบร้อยก็มารอขึ้นเครื่อง เที่ยวบินที่ผมไปคนเยอะพอสมควรและเท่าที่สังเกตมีหลายคนที่ไปดูฟอร์มูล่าวันโดยสังเกตจากเสื้อผ้าที่ใส่ บางคนก็หยิบแผนที่ของสนามมาดู ส่วนผมพอเครื่องไต่ระดับปุ๊บก็หยิบมือถือขึ้นมาฟังเพลงไม่สนใจใคร เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน Changi โดยแอร์เอเชียจะมาเทียบที่ Terminal 1 ซึ่งเมื่อผ่านขั้นตอนของตม.เรียบร้อยผมก็หาซื้อซิมการ์ดก่อนเลย เท่าที่หาข้อมูลจากเว็บ pantip ก็มีคนบอกว่าให้ซื้อได้ที่สนามบินได้เลย ซึ่งจะมีอยู่ 2 เจ้าที่นิยมกันคือ Singtel กับ Starhub แต่เท่าที่หาดูในสนามบินจะมีอยู่หลายเจ้าแต่ราคาค่อนข้างแพงคือเริ่มต้นที่ 30 SGD ซึ่งเกินความจำเป็นสำหรับผมเลยตัดสินใจไปซื้อที่เซเว่นด้านนอกสนามบินดีกว่า (และก็หาได้ที่เซเว่นในราคา 15 SGD เท่านั้น)หลังจากนั้นผมเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าไม่มีคนขับที่เชื่อมต่อระหว่าง Terminal 1 ไปยัง Terminal 2 เพื่อต่อรถไฟฟ้าเข้าตัวเมืองสิงคโปร์ โดยขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Changi Airport จริงๆ แล้วการเดินทางเข้าตัวเมืองสิงคโปร์ไปได้ 3 วิธี ทั้งรถแท็กซี่ รถประจำทาง และรถไฟฟ้า การมาสิงคโปร์ครั้งนี้ผมใช้บริการของรถไฟฟ้ากับ ”เดิน” เป็นหลัก เพราะรถไฟฟ้าเป็นอะไรที่สะดวกที่สุดแล้วเนื่องจากเส้นทางครอบคลุมเกือบทั้งหมด ที่สำคัญราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับแท็กซี่และสะดวกกว่าเมื่อเทียบกับรถประจำทาง เพราะฉะนั้นจะไม่พูดถึงการเดินทางด้วยวิธีอื่นนะครับ

การเดินทางเข้าเมืองโดยรถไฟฟ้าเริ่มจาก Changi Airport ไปลงที่สถานี Tanah Merah ต่อไปยังสถานี Bugis เพื่อเดินทางไปยังโรงแรม Hotel 81 Dickson (เดินจริงๆ เพราะห่างจากสถานี Bugis เพียง 800 เมตร) ซึ่งเป็นโรงแรมที่จองทีหลังหลังจากทราบว่าเราได้ Pit Walk วันพฤหัสฯ ราคาจึงแพงหน่อยคือตกราคาคืนละประมาณ 2,300 บาท เป็นห้องไม่มีหน้าต่างและห้องค่อนข้างแคบ แต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัด ก็ถือว่าโอเค ความสะอาดนับว่าใช้ได้และไม่ไกลจากสนามแข่งมากนัก โดยโรงแรมนี้ถ้าจองล่วงหน้าสัก 3-4 เดือน ราคาจะตกคืนละประมาณ 1,500 บาทเท่านั้น แต่โรงแรมนี้ไกลจากสนามมากเดินคงไม่ไหว โรงแรมแห่งนี้อยู่ในย่านที่เรียกว่า Little India จึงมีคนอินเดียและร้านอาหารอินเดียหลายร้าน ผมไม่ค่อยประทับใจที่นี่เท่าไหร่เพราะที่นี่คนอินเดียเข้าออกตลอดคืน แถมเสียงดังไม่มีความเกรงใจแขกห้องอื่น มีการยกของกันเสียงดังกลางดึกอีกด้วย

เมื่อเก็บสัมภาระที่ห้องพักที่โรงแรม Dickson เรียบร้อยก็ออกเดินทางไปสนามกัน แต่ขอแวะทานอะไรก่อนเพราะตั้งแต่ 9 โมงเช้ายังไม่ได้ทานอะไรอีกเลย เดินมานิดเดียวก็ไปเจอร้านขายบะหมี่เป็นตึกแถวสองคูหา ดูจากรูปอาหารที่ติดอยู่ในร้านก็ดูน่ากินดีเลยแวะกินกันคนละชาม ราคาชามละ 3.5 SGD ต้องบอกว่าอร่อยมาก เส้นบะหมี่ของที่นี่ทั้งนุ่มทั้งหอม เทียบกับชายสี่บ้านเราคนละเรื่องเลยครับ กินไปคนละชามอิ่มแปร้ ทีนี้ก็ออกเดินทางต่อโดยจุดหมายวันนี้อยู่ที่ Gate 1 ซึ่งเราจะเดินทางโดยรถไฟฟ้า โดยต้องไปขึ้นรถที่สถานี Bugis และไปต่อ Circle Line สายสีเหลืองที่สถานี Paya Lebar เพื่อไปลงที่สถานี Nicoll Highway เมื่อไปถึง Nicoll Highway ก็เดินมาประมาณ 500 เมตรก็ถึง Gate 1 ความเข้าใจทีแรกคิดว่าผู้ที่ได้มาเดิน Pit Walk คนคงไม่เยอะ ที่ไหนได้หลายร้อยอยู่เหมือนกัน ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาอีก

พอถึงเวลา 19:00 น. ประตูก็เปิด หลังจากผ่าน Gate 1 มาได้ของที่ระลึกติดมาคนละถุง มีสมุดโน้ตพร้อมปากกา น้ำ 1 ขวด wristband ขนม 1 กระป๋อง และพัด 1 อัน พอเข้ามาด้านในก็พบกับสิ่งที่ต้องการนั่นก็คือบู๊ทขายของที่ระลึก

สำหรับราคาสินค้าต่างๆ ที่ขายในบู๊ทไม่ถูกนะครับ เท่ากับราคาที่ขายใน F1 Store เลยทีเดียว แต่ของมีให้เลือกเยอะกว่าในเว็บไซต์ อย่างเช่นหมวก เสื้อลายต่างๆ แก้ว สายคล้องคอ ที่นี่จะมีหลายแบบมากๆ เรียกว่าถ้าได้แหย่เท้าเข้ามาแล้วล่ะก็เสียตังค์แน่นอน (ผมกับแฟนโดนไปเกือบร้อยเหรียญกับของตามรูป) หลังจากได้ของติดไม้ติดมือมาแล้วก็เดินเข้าไปใน F1 Village ซึ่งจะมีร้านขายอาหารเครื่องดื่มอยู่หลายร้าน ส่วนใหญ่เป็นอาหารฝรั่งประเภทฮอทด็อก เฟรนช์ฟราย มันบด อะไรประมาณนี้ เครื่องดื่มเป็นพวกน้ำอัดลมแล้วก็เบียร์ โดยมีทั้งเบียร์สดและเบียร์ขวด เมื่อเดินเข้ามาถึงทางเข้าพิตบริเวณ Turn 1 Grandstand ปรากฏว่าเขาปิดไม่ให้เข้า บอกว่าต้องรอประมาณ 21:00 น. อ้าว...เอาไงล่ะทีนี้เพราะตอนแรกเราก็เข้าใจว่าพอผ่านเกตมาแล้วก็เดินไปที่ Pit Lane ได้เลย ผมจึงจำเป็นต้องมานั่งบู๊ทที่ขายอาหารเพราะไม่รู้จะไปนั่งที่ไหน โดยสั่งอาหาร 1 อย่าง เบียร์ 1 แก้ว เป๊ปซี่แม็กซ์อีก 1 กระป๋อง หมดไปประมาณ 40 SGD

หลังจากนั้นพอถึงเวลา 21:00 น. ก็เดินไปที่เดิมและก็มีคนจากหลายชาติ ทั้งไทย จีน ฝรั่ง ไปยืนออกันเพราะหวังว่าจะได้เดิน Pit Walk เสียทีแต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ให้เข้า ทำให้หลายๆ คนชักไม่พอใจเพราะตามที่แจ้งเวลามา เวลาของ Pit Walk คือ 19:00-22:30 น. ผมโดนเบียร์สดไปอีก 1 แก้วราคา 12 SGD หรือประมาณ 300 บาท ซึ่งขนาดแก้วไม่ได้ใหญ่โตเลยครับ เป็นแก้วพลาสติกขนาดที่ขายตามงานคอนเสิร์ตต่างๆ ปริมาณก็ประมาณกระป๋องกว่าๆ เท่านั้น ผมกินไปแก้วเดียวเลิกเลยกินไม่ลง แพงเกิน

นั่งอยู่นานพอสมควรจนถึงเวลาประมาณ 22:00 น. ผมเริ่มรู้สึกว่าอะไรกันจะให้เรา Pit Walk กันตอนไหนกันแน่ จึงเดินจะไปถามเจ้าหน้าที่และก็มีหลายคนเดินมาถามเหมือนเราแล้วก็ได้คำตอบว่าเขาให้ Pit Walk ตั้งแต่ประมาณ 21:30 น. แล้ว เพียงแต่ให้เราอ้อมเข้าไปอีกทางหนึ่ง (บริเวณโค้ง 3) อ้าว....รีบเลยทีนี้ รีบเดินไปตามทางที่เจ้าหน้าที่บอก โอ้แม่เจ้า! ในที่สุดก็ได้เข้ามาในสนามสักที โดยเดินเข้ามาบริเวณโค้ง 3 แล้วเดินเข้า Pit Lane ตรงทางออกพิต (งงมั้ยเนี่ย?) เข้ามาก็เห็นคนเยอะแยะไปหมด ก็แหงล่ะ เขาเข้ามากันตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง นี่มันสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว ส่วนบรรยากาศเป็นอย่างไรก็ดูตามคลิปและรูปเลยแล้วกันครับ ^^

คลิปบรรยากาศ

https://www.youtube.com/watch?v=ZArkEob5FMo

https://www.youtube.com/watch?v=kn0PYCiHfX0

นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นวันแรกเท่านั้น ติดตามการผจญภัยของผมกับสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ได้ในตอนที่ 2 ครับ

Create Date : 07 ธันวาคม 2556		7 comments
Last Update : 7 ธันวาคม 2556 23:09:12 น.
Counter : 2497 Pageviews.
Share Tweet