"แรงลาก"
ได้ยินกันบ่อยๆ เรื่องแรงลาก ว่าแต่มันคืออะไร? คุณ fascinator "หมอรถฟอร์มูล่าวัน" ประจำบล็อกของเรามีคำตอบค่ะ
*************************************
แรงที่มีผลต่อรถนั้นนอกจาก แรงเสียดทาน แล้ว ยังมีอีก 3 แรงหลัก ๆ ครับ ได้แก่ แรงต้านอากาศ , แรงหน่วงในชิ้นส่วนรถ , แรงต้านทางชัน
แรงต้านทางชันก็คือ แรงที่เกิดขึ้นเวลาที่รถวิ่งขึ้นเนินครับ ถ้ารถกำลังวิ่งบนพื้นราบก็ตัดแรงนี้ออกไปก่อนครับ
แรงหน่วงในชิ้นส่วนรถ เกิดขึ้นจากข้อเหวี่ยง ลูกปืน หรืออะไรก็ตามที่มีการเสียดสีเกิดขึ้นอยู่ในรถ สำหรับรถ F1 ที่ทุกชิ้นส่วนถูกผลิตขึ้นมาอย่างดี แรงนี้เกิดขึ้นน้อยมากครับ ลองนึกภาพตอนที่คุณเข็นรถของคุณดูครับ ทั้งหนักทั้งหนืดเข็นไม่ค่อยไป รถ F1 นี่ลองดู marshall เวลามาเข็นรถดูสิครับ มือเดียวผลักเบา ๆ รถ F1 ก็ไหลแล้ว เพราะฉะนั้นแรงนี้เกิดขึ้นน้อยมากตัดออกไปอีกแรง
แรงต้านอากาศ แรงนี้แหละครับที่มีผลมากที่สุด แค่ความเร็วรถวิ่งเร็วขึ้นจากเดิม 1 km/h ก็มีผลให้แรงต้านนี้เพิ่มขึ้นมากครับ (จำสมการไม่ได้ report ผมก็โดนไวรัสกินหายไปซะแล้ว T^T) และจะยิ่งเกิดแรงต้านมหาศาลเลยถ้ารถวิ่งเร็วมาก
แรงต้านที่กระทำกับรถจะเกิดขึ้นทั้ง "ด้านหน้า" และ "ด้านหลัง" รถนะครับ ด้านหน้าจะเป็นแรงที่อากาศมาปะทะตัวรถ ในขณะที่ด้านหลังจะเป็น "แรงลาก" เนื่องจากอากาศที่ออกจากใต้ท้องรถเกิดการม้วนตัวปั่นป่วนขึ้น นี่แหละครับหน้้าที่ของ diffuser คือจัดระเบียบอากาศที่ออกจากใต้ท้องรถให้ราบเรียบที่สุด ลดการปั่นป่วนของอากาศอันจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแรงลากฉุดไม่ให้รถวิ่งเร็วไปกว่านี้ครับ
จากกฏใหม่ที่เริ่มใช้ปี 2009 ที่ห้ามมี aeropart อยู่บน body ตัวรถ ทำให้แรงต้านอากาศที่ปะทะหน้ารถมีความแรงเพิ่มขึ้น จึงต้องไล่อากาศข้ามรถและไล่ลงไปใต้ท้องรถแทนเหมือนที่รถ Red Bull ออกแบบมาครับเพื่อตัดแรงต้านออกไป ในขณะที่แรงลากก็จะถูกจัดการด้วย diffuser ต่อครับ
ทีมที่มีการออกแบบจัดการเรื่อง แรงลาก ได้ดีในปีนี้ก็คือ ทีม McLaren ที่มีการใช้ F-duct ก่อนใครเพื่อนครับ
*คลิปจากยูทูบโดย BBC
สังเกตจากในคลิปครับ เส้นลูกศรสีเหลืองคืออากาศไหลปกติครับ เจ้ารูเล็ก ๆ มหัศจรรย์นี้แหละครับดูดอากาศเข้าไปแล้วปล่อยให้ไหลไปตามลูกศร แต่เมื่อต้องการเร่งความเร็วทางตรงเมื่อไหร่นักขับจะกดสวิตซ์ที่อยู่ตรงหัวเข่าครับ แล้วอากาศจะไหลไปในทิศทางใหม่
*คลิปจากยูทูบโดยคุณ Alenaitalia
ดูคลิปนี้จะชัดกว่าครับ อากาศที่ไหลผ่านตัวห้องโดยสารไปทางด้านหลังรถจะถูกไล่ขึ้นไปอยู่ตรงส่วน cover engine fin ครับ โดย cover engine fin ของ McLaren นั้นเป็นทีมเดียวในตอนแรกที่เชื่อมต่อยาวไปถึงปีกหลังเลย อากาศที่วิ่งผ่าน fin นี้จึงวิ่งทะลุผ่านปีกหลังไปโดยที่ไม่ได้กดที่ปีกครับทำให้ลดแรงเสียดทานและแรงลากลงครับ
ทีม McLaren จึงมีความเร็วทางตรงเหนือกว่าคู่แข่งแทบทุกสนามราว ๆ 5-10 km/h เพราะเจ้าเทคโนโลยี F-duct ตัวนี้แหละครับ
Create Date : 06 ตุลาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 6 ตุลาคม 2553 17:21:25 น. |
Counter : 3936 Pageviews. |
|
|
|