Bloggang.com : finishline :

ความลับรถเร้ดบูลปี 2010

คราวก่อนคุณ fascinator อธิบายให้เราฟังถึงเรื่องไฮดาวน์ฟอร์ซ (High downforce) แล้ว สำหรับวันนี้ลองมาดูความลับของเร้ดบูลกันนะคะว่าทำไมรถของพวกเขาถึงสร้างดาวน์ฟอร์ซ (downforce) ได้มากกว่าทีมอื่นๆ

ไปติดตามกันได้เลยค่ะ

**************************************

Red Bull มีอุปกรณ์สิ่งหนึ่งที่ทีมอื่นไม่มีเมื่อครั้งเปิดฤดูกาลใหม่ ๆ ครับคือ Blown Diffuser แล้วเจ้านี่มันมหัศจรรย์อย่างไรล่ะ?

ก่อนอื่นต้องเท้าความไปถึงความหมายของ Diffuser ก่อนครับ

Diffuser เป็นอุปกรณ์ที่มีหลักการทำงานแบบเดียวกับปีก F1 ครับ คือมันจะช่วยไล่อากาศจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งให้เร็วขึ้น

หลักการทำงานของมันคือ มันจะเป็นแผ่นเรียบบางติดกับใต้ท้องรถ และมีแผ่นตั้งฉากกับแผ่นเรียบติดด้วยระยะห่างที่อาจจะเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้ ซึ่งมันจะทำให้เกิด ช่องแคบ หลายช่องที่ใต้ท้องรถครับ ลองสังเกตดูเวลาเราไปยืนอยู่บริเวณ ประตู หรือ หน้าต่าง หรือบริเวณช่องระหว่างตึกสูง ๆ 2 ตึกดูสิครับ ลมจะโกรกใส่ตัวเราแรงกว่าปกติ

นี่แหละครับหลักการทำงานของมัน เมื่ออากาศต้องไหลผ่านช่องแคบ ๆ จากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง เช่นเดียวกับอากาศไหลผ่านปีกครับ มันจะพยายามไปให้ถึงจุดหมายให้พร้อมกัน ฉะนั้นอากาศที่ไหลผ่านช่องแคบ ๆ จะต้องไหลเร็วขึ้นเพื่อให้ออกไปอีกด้านให้เร็วที่สุด Diffuser ที่เป็น "Floor" อยู่ใต้ท้องรถ F1 มีหน้าที่จัดระเบียบอากาศให้ไหลออกไปอย่างราบเรียบครับ

Diffuser ที่เรียกว่า "Double Diffuser" จะอยู่บริเวณใต้ท้องรถด้านหลังแถวปีกหลังช่วยให้อากาศไหลผ่านใต้ท้องรถออกไปได้อย่างรวดเร็วและราบเรียบครับ

จากรูปจะเป็น Double Diffuser ของ Ferrari ครับ จะเห็นว่าด้านล่างที่ติดกับพื้นจะเป็นช่องซี่เล็ก ๆ ตรงนี้เมื่อปี 2009 ทีมบิ๊ก 4 อันได้แก่ Ferrari , McLaren , BMW , Renault เขาจะมีแค่นี้แหละครับ แต่มี 3 ทีมเล็กที่เริ่มต้นฤดูกาลในปีนั้นใช้ Double Diffuser ซึ่งได้แก่ Brawn GP , Toyota , Williams จะมีบริเวณช่องสี่เหลี่ยมคางหมูในรูปเพิ่มครับ ตรงนั้นแหละครับคือ double หรือชั้นที่ 2 ที่ช่วยให้ Diffuser มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในปี 2009 เนื่องจากกฎใหม่ทำให้ aero part ต่าง ๆ บนตัวรถนั้นหายไป ทีมต่าง ๆ จึงต้องหันมาใส่ใจกับ diffuser ให้มากขึ้นครับเพราะ diffuser แตกต่างจากปีกรถตรงที่นอกจากมันจะช่วยเพิ่ม "แรงกด" บนตัวรถแล้ว มันยังจะช่วยลด "แรงลาก" หรือ "Drag force" อีกด้วย

รถ Red Bull มีการออกแบบทางด้าน Aerodynamic ที่ชาญฉลาดครับ

ตั้งแต่หน้ารถที่เราจะเห็น Flexible Front Wing หรือ ปีกหน้าแบบยืดหยุ่นได้ เจ้าปีกนี้เวลารถ Red Bull วิ่งในโค้งมันก็จะทำหน้าที่เพิ่มแรงกดของมันนั่นแหละครับ แต่หากออกมาวิ่งทางตรงความเร็วสูงเมื่อไหร่ตัวปีกมันจะถูกกดลงต่ำกว่าปกติ เมื่อมันต่ำลงอากาศที่เคยไหลผ่านบริเวณนั้นตามปกติไปใต้ท้องรถจะถูกไล่ขึ้นด้านบนทำให้ไม่ผ่านใต้ท้องรถครับ เป็นการลดแรงกด และเพิ่มความเร็วทางตรงไปโดยปริยาย Red Bull ใช้สิ่งนี้แหละครับชดเชยกำลังเครื่องยนต์ที่เป็นรองทีมอื่น ๆ

ต่อมาส่วนจมูกหน้้า เราจะเห็นว่ามันจะโก่ง ๆ กว่าทีมอื่นนิด ๆ และยังมี nose cone ที่เป็นส่วนนูน ๆ 2 ฝั่งบริเวณหน้าคนขับด้วย อันนี้เพื่อไล่อากาศที่ทำให้เกิด "แรงต้าน" บริเวณนั้นลงไปใต้ท้องรถส่วนหนึ่งและกระจายอากาศบริเวณนั้นออกไปที่ปีกหลังอีกส่วนหนึ่งครับ

ในส่วนใต้ท้องรถ Red Bull ตรงนี้แหละครับหัวใจสำคัญ Red Bull มี Blown Diffuser มันมีหลักการทำงานคล้ายกับ Double Diffuser ครับแต่จะมีการใช้ท่อไอเสียของรถเป่าอากาศร้อนเข้าไปที่ Double Diffuser ซึ่งมันมีผลทำให้อากาศบริเวณนั้นขยายตัวและไหลผ่านใต้ท้องรถออกไปได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีก และยิ่งอากาศไหลผ่านไปได้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่ แรงกดก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวครับ !!!!

ประสิทธิภาพของมันดีแค่ไหนลองดูสนาม Hungaroring ที่ Hungary สิครับ เฉพาะ Sector 2 ที่เป็นคอร์สโค้งความเร็วปานกลางสลับซ้ายขวา ๆ ตลอด Sector เดียว Red Bull เร็วกว่าทีมอื่นเฉพาะ Sector นั้นเป็นวินาทีแล้วครับ และความเร็วต่อรอบสนามนั้นเร็วกว่าทีมอื่นถึง 1 วินาทีครึ่ง !!

ทั้งหมดนี้คือที่มาที่ไปของความเร็วรถ Red Bull ในปีนี้ครับ

Create Date : 29 กันยายน 2553

0 comments

Last Update : 29 กันยายน 2553 16:07:07 น.

Counter : 2338 Pageviews.