Nobody it's all good Don't be sure Nobody it's all bad Don't be sure

Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
21 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
* * เค้ก ชาเย็น * *



จริงๆแล้วเค้กอันนี้ดองไว้นานแล้วเหมือนกันค่ะ ไม่ค่อยได้ลงบล็อคเลยถ้าปล่อยนานกว่านี้กลัวมัันจะบูดซะก่อน อิอิ วันนี้เลยจับมาลงบล็อคซะเลย

มีช่วงนึงที่ห้องก้นครัวฮิตทำกันจัง เค้ก ชาไทย แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วอินแอบสงสัยว่า เค้ก ชาเย็น กับ เค้ก ชาไทย

มันแตกต่างกันตรงไหนทั้งๆที่ทำออกมาแล้วก็หน้าตาจะคล้ายๆกัน เพราะ เค้ก ชาไทย ใช้ วิปปิ้งครีม แต่ เค้ก ชาเย็น ไม่ใช้ คือแค่สงสัยค่ะว่าทำไมเรียกคนละแบบ อิอิ ขี้สงสัยจริงเรา^_^

มาดูส่วนผสมกันค่ะ
ส่วนผสม (1)
แป้งเค้ก 1+1/3 ถ้วย
ผงฟู 1+1/2 ช.ช
นมผง 1+1/2 ช.ต
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช.ช
น้ำมันพืช 1/3 ถ้วย
ไข่แดง 4 ฟอง
น้ำชาไทยชงแบบเข้มข้น 90 กรัม หรือ 1/3 ถ้วย + 2 ช.ต

ส่วนผสม (2)
ไข่ขาว 4 ฟอง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ครีมออฟทาร์ทาร์ หรือ น้ำมะนาว 1/2 ช.ช



วิธีทำ
- เตรียมพิมพ์ ทาไขมัน ปูกระดาษไข วอร์มเตาอบที่ 180 องศา ไฟ บน-ล่าง
- ร่อนแป่ง+ผงฟู+นมผง 2 ครั้ง ลงในอ่างผสม เติมน้ำตาล+เกลือ คนให้เข้ากัน
- เติมน้ำมันพืช+ไข่แดง+น้ำชาไทย ลงในแป้ง ใช้ตระกร้อมือคนให้เข้ากันแป้งไม่เป็นเม็ด พักไว้

ส่วนผสมที่ (2)

-ตีไข่ขาวให้ตั้งยอด
- นำส่วนผสมของไข่ขาว ไปตล่อมในไข่แดงโดยแบ่งใส่สามครั้ง
- ตล่อมอย่างเบามือ ให้ส่วนผสมเข้ากัน ระวังไข่จะยุบตัว



-เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่ทาไขมันปูกระดาษไข
-ก่อนเข้าอบเคาะก้นพิมพ์เบาๆเพื่อไล่ฟองอากาศ
-ใช้เวลาในการอบ 40-45 นาที หรือจนขนมสุกดี แล้วแต่เตาใครเตามันนะคะ


พอตัวเค้กสุกนำออกจากเตากระแทกพิมพ์ลงบนโต๊ะ 1 ครั้งเพื่อให้โคลงสร้างอยู่ตัว แล้วเอาเค้กออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็น แล้วค่อยสไลด์เค้กเป็นชั้นตามต้องการ



แล้วหันมาทำหน้าเค้กกันต่อค่ะ (ขอยกจากบล็อคพี่ จุ๋ม มาเลยนะค่ะ)

(ส่วนที่ 1)
ผงวุ้น 3/4 ช้อนชา วิธีการตวงคือ 1/2 ช้อนชา + 1/4 ช้อนชา
ผงชาไทยที่เหลือจากชงสำหรับทำตัวเค้กเมื่อกี้ และใส่เพิ่มไปอีก 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวงของเหลว
นมสด 100 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
วิปปิ้งครีม 150 กรัม

(ส่วนที่ 2)
แป้งข้าวโพด 30 กรัม
นมข้นจืด 110 กรัม

(ส่วนที่ 3)
เนยสด (รสจืด) 100 กรัม

แยกเป็นส่วน ๆ ให้เห็นชัด ๆ นะคะ (พี่ จุ๋ม ว่าไว้แบบนั้นค่ะ)

-เริ่มด้วย ต้มน้ำร้อนจัด 1 ถ้วยตวงของเหลว แล้วเอาผงชาไทยที่เหลือจากการทำตัวเค้กเมื่อกี้ใส่ชามหรือภาชนะอะไรก็ได้ ตามด้วยผงชาไทยเพิ่มไปอีก 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำร้อนจัดลงไป คน ๆ ให้ผงชาออกสีและกลิ่นจัด ๆ กรองเหมือนกันกับตอนแรกค่ะ ชั่งให้ได้ 150 กรัม ตัวผงชาจะดูดน้ำนะคะ ไม่ต้องกลัวน้ำจะเยอะเกินไป กรองแล้วจะได้เกิน 150 กรัมไม่มากค่ะ แล้วเทใส่หม้อใบย่อมๆ

- ตามด้วยส่วนผสมที่เหลือของส่วนที่ 1 นะคะ ผงวุ้น นมสด น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม คนรวมให้เข้ากัน

ส่วนที่ 2 นมข้นจืดและแป้งข้าวโพดใส่ถ้วยคนรวมกัน หรือจะใช้วิธีใส่ถุงพลาสติก รัดยางและเขย่าให้เข้ากันก็ได้ค่ะ ยังไงก็ได้ แต่อย่าให้แป้งเป็นก้อน

เนยสดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆไว้



นำหม้อชาไทยและส่วนผสมที่เราเทรวมกันไว้เมื่อกี้ตั้งไฟค่ะ ไม่ใช่ไฟอ่อน และไม่ใช่ไฟแรง กลาง ๆ ค่ะ ใช้ตะกร้อมือคน ๆ ตลอดให้มันเดือดสักพัก
หากว่าเดือดแรงไป ปิดเตาไปสัก 5 นาที จึงค่อยเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดไว้ แล้วคนให้เข้ากัน

ค่อยเปิดไฟต่อนะคะ เพราะหากว่าเดือดจัดจนความร้อนในหม้อสูงมาก เทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดลงไปเลยมันจะข้นเร็วมาก เรียกว่าทันทีทันใดเลยก็ได้ แป้งอาจเป็นก้อนและไม่สุกได้

ลดไฟลงอ่อนแล้วเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดไว้ลงไป

ตอนนี้ให้ใช้ไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ
ส่วนผสมจะเริ่มข้นขึ้นอย่าใช้ไฟแรงมันจะไหม้ง่ายมากค่ะ
คนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมข้นหนืด ยกตะกร้อมือขึ้นมามียาง ๆ ติดปลายตะกร้อ และเริ่มเห็นรอยตะกร้อมือในหม้อ ยกลงจากเตา

ใส่เนยสดลงไป แล้วคนให้เนยละลาย

คน ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมเย็นลง รอยตะกร้อมือจะชัดขึ้น ส่วนผสมจะข้นขึ้น



แล้วก็นำไปราดบนตัวเค้กได้เลยค่ะ



พยายามแล้วค่ะที่จะทำให้หน้าเด้งแต่ทำมิสำเร็จเลย ก็เลยกลบเกลื่อนด้วยการทำเป็นลายบนหน้าเค้กซะเลย ฮ่า ฮ่า พอไหวมั้ยนี่เรา แหะ แหะ



รอให้เค้กเซตตัวซะหน่อย แล้วก็ได้เวลาตัดๆๆๆๆแว้วววว



ลาไปด้วยภาพนี้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่แวะมาเยี่ยมค่ะ มีความสุข ฝันดีทุๆคนค่ะ
ง่วงมากๆเยยยยยย




Create Date : 21 เมษายน 2551
Last Update : 21 เมษายน 2551 1:49:54 น. 18 comments
Counter : 2369 Pageviews.

 
มาขอเค้กชาเย็นหม่ำหลังข้าวเย็นค่ะ น่าทานจังเลยค่ะ


โดย: vanillaorchid วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:1:21:02 น.  

 
ตามคุณอุ้มคนสวยมาติดๆขอชิมด้วยคนนะเจ้า


โดย: แม่เฮือน วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:1:25:33 น.  

 
ทำได้สวยงามน่าทานมาก ๆ เลยคะ
เก่งจังเลยคะ


โดย: pumorg วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:3:26:19 น.  

 
สีสันสดใสน่ากินมากๆเลยอ่ะ


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:9:38:30 น.  

 
อยากกินๆๆจังเลย สูตรนี้อร่อยเนอะ....


โดย: dew_monamoji วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:10:57:25 น.  

 
น่าทานๆๆๆๆมากๆๆ
ชอบชาไทยอยู่แล้วอย่างงี้รสชาติต้องอร่อยแน่เลย


โดย: dailydelicious วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:12:02:05 น.  

 
น่ากินจังค่ะ สีน่ากินมากๆค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:14:40:39 น.  

 
น่าทานจังค่ะ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมชมบลอกนะคะ สูตรของโอ๋ทำง่ายๆทั้งนั้นค่ะ เพราะว่าขี้เกียจ หุหุ


โดย: Orayanee วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:17:00:20 น.  

 
น่ากินจังเลยค่ะ


โดย: Picike วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:19:24:42 น.  

 
น่าทานมากๆเลยคะ


โดย: sawkitty วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:21:07:54 น.  

 
โยก็สงสัยเหมือนกันอ่ะ ว่าทำไมเรียกต่างกันหว่า ....

น่ากินจังเลย อยากกินเค้กมากๆ น่าอร่อยอ่าา แบ่งมาให้ิชิมหน่อยจิ


โดย: FreakGirL IP: 124.120.49.83 วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:0:31:20 น.  

 
ขอสองชิ้นค่ะ


โดย: jjbd วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:4:24:57 น.  

 
หน้าขนมดูเเล้วมีเสน่ห์จริงๆค่ะ น่ากินจัง


โดย: schneegloeckchen วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:18:16:41 น.  

 
ทำขนมอีกเมื่อไหร่ค้ะ
จะได้มาขอชิมทางสายตาบ่อย ๆ


โดย: pumorg วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:1:05:04 น.  

 
Woww.. เค้กเนื้อเนี๊ยนๆค่ะ นึกรสชาติออกเลยค่ะ ทานคู่กับชาอีก โอ้วววว...สักชิ้นสิจ๊ะ


โดย: C_J_love2007 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:10:49:19 น.  

 
น่ากินจัง ฝ้ายก็เคยทำไปครั้งนึงค่ะ เค้กชาไทยสูตรแม่สลิ่มเนี่ย แต่ฝ้ายสไลซ์เค้กเอียงหง่ะ เละเลย


โดย: - Porfai - IP: 203.144.220.241 วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:10:46:10 น.  

 
แหล่มมากเพื่อน อยากกินซักชิ้นจังเลย ท่าทางจะหอมหวลรัญจวนใจเนอะ


โดย: บ้านหวานเย็น วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:38:41 น.  

 
สีสวยมากมายค่ะ บัวชอบเค้กชาที่ซู้ดดดด


โดย: bebuaza วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:46:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อ้อมกอดของความเหงา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]











New Comments
Friends' blogs
[Add อ้อมกอดของความเหงา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.