Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
[AF Story] Friendship: เพื่อน << รัก >> เพื่อน === ตอนที่ 16

======


“ซาร่า ทำไมมานอนตรงนี้คะลูก” เสียงแหลมของพัดพุ่งเข้าสู่โสตประสาทของคนที่หลับคาหนังสือได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ก่อนจะคนถูกปลุกจะงัวเงียตื่นขึ้นมา พร้อมกับหยีตามองนาฬิกาที่ผนังอีกครั้ง แต่ด้วยความสะลึมสะลือ มองไม่ถนัด เธอจึงถามพัดแทน


“กี่โมงแล้วคะน้าพัด”


“เก้าโมงเช้าแล้วจ้ะ” พัดว่าแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ “นี่หนูนอนตรงนี้ทั้งคืนเลยเหรอ”


ซาร่าใช้ข้อศอกพยุงใบหน้าตัวเองให้ตั้งตรง แต่แล้วมันก็กลับไหลลงไปแปะบนโต๊ะตามเดิม เลยปล่อยเลยตามเลย ตอบพัดไปในสภาพอย่างนั้น


“ค่ะ หนูคิดว่างั้น”


พัดขมวดคิ้ว ก่อนบอกว่า


“น้าคิดว่าซาร่าหักโหมไปแล้วนะ พักผ่อนมั่งก็ได้”


เมื่อเพื่อนแม่แนะนำมาอย่างนี้ ซาร่าก็พาลไปนึงถึงข้อความที่คนไปเข้าค่ายส่งมาให้ “ค่ะ มิ้นก็บอกหนูแบบนี้เหมือนกัน” แล้วก็ยิ้มออกมา


“มิ้นโทรมาหาซาร่าเหรอ”


“เมสเซจมาน่ะค่ะ”


พัดเบ้ปาก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงโมโหติดจะงอนนิดหน่อยท้ายประโยค “หนอย...ลูกคนนี้ ทีพ่อแม่ไม่เคยจะมีมาหา” ซาร่ามองตามแล้วก็ต้องหัวเราะ


“อ้าว แม่ มายืนกวนซาร่าอ่านหนังสือทำไม”


กฤตโผล่หน้าออกมาจากในครัวพร้อมกับกาแฟในมือที่ส่งกลิ่นหอมมา ดูเหมือนว่าวันนี้สองสามีภรรยาจะเข้าบริษัทช้ากว่าทุกวัน เพราะตอนนี้นั้นเลยเวลาเข้างานมาชั่วโมงแล้วก็ยังคงอยู่ที่บ้าน สงสัยว่าภารกิจสำคัญได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว เลยสามารถมีเวลาพักผ่อนอยู่กับบ้านได้


“กวนบ้าอะไร ชั้นมาปลุกซาร่าไปอาบน้ำต่างหาก” พัดแหวกลับไป เล่นเอาคนเป็นสามีแทบจะเอาแก้วกาแฟอุดหูกันเลยทีเดียว “ไม่รู้อะไรอย่ามาพูดได้เปล่า ขอร้อง”


พอพัดพูดจบ กฤตก็ส่งยิ้มตอบกลับมาอย่างมีเลศนัย ก่อนจะขยับปากออกมาว่า


“ขอร้อง...งั้นเอาเพลงอะไรดีครับ”


มุขโบราณมาก...พัดคิดในใจ


“คิดนานมั้ยพ่อ...”


“ไม่นาน แบบ...มันอยู่ในเซลล์สมองไง” กฤตยังคงไว้ซึ่งใบหน้ากวนบาทา ราวกับว่าภาคภูมิใจกับมุขตลกที่แสนจะไม่ขำเอาเสียเลยของตัวเอง


“อ๋อ ถึงว่าสิ” พัดยิ้มเย็น... “มันถึงได้แป้กแถมยังเรียกหาอาวุธได้ถาวรแบบนี้ไง”
ว่าแล้วยางลบของซาร่าซึ่งใกล้มือเธอที่สุดก็ถูกปาออกไป และคราวนี้ดูท่ากฤตจะไม่ทันตั้งตัว เลยโดนหน้าเข้าอย่างจัง เรียกเสียงหัวเราะจากปากของคนปาได้อย่างสะใจเป็นที่สุด


ซาร่ามองภาพนั้นแล้วต้องยิ้มกว้าง และเมื่อนึกไปถึงความใจดีของคนเป็นลูกชาย ความเอาใจใส่ของคนเป็นลูกสาว รอยยิ้มนั้นก็แทบลากขึ้นไปถึงใบหู


ครอบครัวนี้ น่ารักทั้งบ้านเลย...


======


หลังจากอาบน้ำเสร็จ ซาร่าก็เดินออกมาเพื่อจะปลุกบรูน่าซึ่งนอนคุดคู้อยู่ที่พื้นไปอาบต่อ


ถึงแม้ว่าเจ้าของเตียงจะไปเข้าค่าย แต่จนแล้วจนรอด บรูน่าก็ไม่ยอมขึ้นมานอนสบายๆ บนเตียงสักที


“บรูน่า ตื่นได้แล้ว” ไม่พูดเปล่า พลางเดินเข้าไปเขย่าร่างที่ซุกอยู่กับผ้าห่ม “ต้องเตรียมตัวไปเรียนไม่ใช่เหรอ ตื่น...” แต่คนที่นอนอยู่ก็ยังคงนิ่ง ซาร่าเลยจำเป็นต้องกระชากผ้าห่มออก แล้วปลุกอีกครั้ง “บรูน่า อย่าขี้เซาสิ...” ตอนนั้นเอง มือเธอก็ไปแตะโดนแขนของบรูน่า ซาร่าสะดุ้งรีบกระชากมือออกทันที เพราะตัวบรูน่านั้นร้อนเหมือนกับใครเอาไฟมาเผาไม่มีผิด


“บรูน่า บรูน่า” เธอเอามือลูบหน้าลูบตาบรูน่า หวังจะให้รู้สึกตัวตื่น แต่อย่างไรก็ตาม ดวงตาคู่ใหญ่ก็ยังคงปิดอยู่


ไม่ได้การแล้ว...ซาร่าคิด ก่อนจะผุดลุกทันที แล้ววิ่งออกไปจากห้องอย่างเร็ว


ในใจเธอคิดแต่เพียงว่า ตอนนี้ต้องไปตามคนมาช่วยให้เร็วที่สุด!


“น้ากฤตคะ” คนแรกที่ซาร่านึกถึงคือ กฤต เพราะเป็นผู้ชายตัวใหญ่ น่าจะอุ้มบรูน่าได้ไหว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เธอเพิ่งเจอเขาก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำ ดังนั้นน่าจะยังอยู่ข้างล่าง


แต่สภาพห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำชั้นล่าง ก็รวมหัวกันพังความคิดของเธอไปหมดสิ้น


คนที่เคยอยู่คงออกไปทำงานแล้ว...


เพราะทุกห้องว่างเปล่า...


“แล้วจะทำยังไงดีเนี่ย” ซาร่าพูดกับตัวเองออกมาดังๆ ก่อนจะไปทรุดตัวที่โซฟา ตอนนี้เธอกุมขมับอย่างสุดกลุ้ม เพราะไม่รู้จะไปหาใครที่ไหนมาช่วยบรูน่าดี


แต่เสียงหนึ่งก็ต้องเรียกเธอให้ลุกพรวดทันที


“ซาร่าเครียดอะไร”


บรูน่านั่นเอง...


“บรูน่า เดินลงมาทำไม” ก่อนจะถลาไปยังจุดที่บรูน่ายืนอยู่ “เดี๋ยวก็ตกบันไดหรอก”


คนตัวเล็กเครียดแทบเป็นแทบตาย แต่บรูน่ากลับพยายามยิ้มกว้าง ราวกับว่าจะช่วยดึงสติของซาร่าให้กลับมา แล้วบอก “เราไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่า...”


“ตัวร้อนจี๋ขนาดนี้” ซาร่าเอื้อมมือไปจับแขนบรูน่า ขมวดคิ้ว “จะบอกว่าไม่เป็นอะไรได้ไง”


“เอาน่า ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก” เธอเบี่ยงตัวหลบซาร่า แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยตัวเอง เมื่อถึงที่หมายแล้ว ก็หันมายิ้มให้ซาร่า “เห็นมั้ย เราเดินมาเองได้ ไม่เป็นไรซักหน่อย”


ซาร่ารู้ดีว่าการที่จะเดินได้ไกลขนาดนี้ ด้วยอาการที่หนักอย่างนั้น บรูน่าคงฝืนตัวเองอย่างสุดกำลัง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังคงยิ้มได้อยู่ เธอก็ต้องระบายลมหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งอกอยู่ดี ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว จัดแจงเปิดเตาแก๊ส แล้วร้องตะโกนถามบรูน่าว่า


“บรูน่าจะเอาโจ๊กหรือข้าวต้ม”


“อะไรก็ได้ เดี๋ยวเราไปช่วยนะ”


ซาร่าไม่ได้เอ่ยปากห้ามอะไร แต่ถึงจะห้าม คนป่วยก็คงไม่ยอมทำตามอยู่ดี


เวลาผ่านไปพอสมควร บรูน่าก็ไม่เห็นเข้ามาในครัวสักที เมื่อทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซาร่าเลยถือชามโจ๊กเดินเข้าห้องนั่งเล่นไป


แต่ภาพตรงหน้าก็ทำให้ชามเซรามิกในมือของเธอแทบร่วงแตก...


ก็คนที่บอกว่าจะมาช่วย เกิดล้มกลางทาง แล้วนอนคุดคู้อยู่กับพื้นน่ะสิ!


======


ซาร่าวางชามเซรามิกที่อยู่ในมืออันสั่นเทาลงบนโต๊ะ พลางหันซ้ายหันขวาใหญ่เพราะทำอะไรไม่ถูก อีกทั้งแววตาก็เลิ่กลั่ก... บ้านไม่มีใครอยู่ แล้วจะไปตามใครที่ไหนมาช่วยล่ะเนี่ย...


ก่อนจะคิดได้ว่า ควรจะไปที่โทรศัพท์ และโทรตามรถของโรงพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด


“สวัสดีค่ะ สมิติเวชใช่มั้ยคะ ช่วยมาที่...” แล้วเธอก็บอกชื่อหมู่บ้าน พร้อมทั้งบ้านเลขที่ไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูร้อนรนและรีบเร่ง “ด่วนนะคะ เพื่อนหนูจะแย่แล้ว”


แล้ววางหูโทรศัพท์ด้วยมือที่ยังคงสั่นอยู่


ซาร่าหันกลับมามองบรูน่าที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น ก่อนจะเดินไปกึ่งลากกึ่งอุ้มมาที่โซฟา กว่าตัวบรูน่าจะขึ้นมาอยู่บนโซฟาได้หมดนั้น เล่นเอาคนลากหอบไปหลายยกทีเดียว


เพียงแค่ห้านาทีผ่านไปเท่านั้น แต่กับซาร่าแล้ว มันนานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์


เธอนั่งจ้องเข็มวินาทีกระดิกเดินไปบนหน้าปัดนาฬิกาติดผนังอยู่อย่างนั้น... พลางคิดต่อในใจว่า


สมมติรถพยาบาลมาแล้ว เธอจะทำอย่างไรต่อ?


แต่เหมือนกับสวรรค์ยังเข้าข้างซาร่าอยู่บ้าง เพราะเจ้าของเสียงที่ดังก่อนตัวคนพูดจะเดินเข้ามานี้ คงจะช่วยแบ่งเบาภาระของเธอไปได้มากทีเดียว


“ซาร่า เห็นเมื่อวานไอ้ก้อบอกข้าวต้มเนื้อซาร่าอร่อยมาก วันนี้ทำอีกรึเปล่า พี่จะขอมาฝากท้องหน่อย”


คนทำข้าวต้มเนื้อสะดุ้ง สะบัดหน้าขึ้นมองไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว


“พี่บอย!”


ใช่! เธอลืมคนบ้านโน้นไปได้อย่างไร?


ดูท่าบอยยังงงๆ อยู่กับอาการดีใจเกินเหตุของซาร่าเมื่อเห็นหน้าตน แต่เมื่อเขาเดินเข้ามาในตัวบ้าน แล้วเห็นร่างที่นอนไม่รู้สึกตัวอยู่ที่โซฟาเท่านั้นล่ะ ดวงตาก็เบิกกว้าง ก่อนจะละล่ำละลักถามเด็กผู้หญิงตรงหน้า


“ซาร่า บรูน่าเป็นอะไร” เสียงแข็งทำให้ซาร่าสะดุ้งไปเหมือนกัน


“ไม่รู้ค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย...แต่ซาร่าโทรเรียกรถพยาบาลแล้วนะคะ”


เธอพยายามสรุปเรื่องที่ทำไปแล้วออกมาให้บอยได้รับรู้ แต่ดูๆ ไปแล้ว ผู้ชายตัวสูงคนนี้จะไม่ยอมรับฟังเท่าใดนัก ทั้งคิ้วที่ขมวดจนติดกัน ดวงตานิ่ง จากปากที่เคยยื่นกลายเป็นเม้มจนบางเฉียบ อาการต่างๆ เหล่านี้บ่งบอกได้ว่า บอยกำลังเครียด...อย่างหนัก!


และยิ่งยืนยันได้ด้วยประโยคต่อไปนี้


“รถพยาบาลมันจะทันได้ไง...” ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบกุญแจรถขึ้นมา “เดี๋ยวพี่พาไปเองดีกว่า สมิติเวชใช่มั้ย ที่ใกล้ที่สุด”


“เท่าที่หนูเคยผ่าน คิดว่าใช่ค่ะ”


ราวกับว่าบอยถามส่งๆ ไปอย่างนั้นเอง เพราะยังไม่ทันที่ซาร่าจะพูดจบ เขาก็ตรงเข้าไปช้อนตัวบรูน่าแล้วเตรียมจะอุ้มไปที่มอเตอร์ไซค์คู่ชีพของเขาทันที!


“ซาร่ารอที่บ้านนะ รอแจ้งข่าวกับคนอื่น”


คนรับคำสั่งพยักหน้า ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พลางเหลือบมองไปที่บ้านอีกหลัง


“ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ไอ้ตูนไปร้าน ส่วนไอ้ก้อ...ไปไหนไม่รู้มัน”


จากนั้นบอยก็พาบรูน่ามาที่รถ แล้วอุ้มตัวเธอขึ้นไปนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ โดยมีซาร่าวิ่งตามมาช่วย


“ซาร่าจับตัวบรูน่าไว้ก่อน” บอยออกคำสั่ง ก่อนที่เขาจะขึ้นนั่งบนอานมอเตอร์ไซค์ “โอเค เอามือบรูน่ามาเกาะเอวพี่ไว้นะ จะได้ไม่ตก” คนที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ทำตามทันที “อืม เอาล่ะ” เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย และบอยแน่ใจแล้วว่าบรูน่าคงไม่ร่วงไปจากมอเตอร์ไซค์ได้ง่ายแน่ๆ เขาก็หันมาพูดกับซาร่า “รอในบ้านนะ”


“ค่ะ”


ซาร่าออกไปนั่งรอที่ระเบียงหน้าบ้าน ในใจเธอร้อนรนนัก


เมื่อไรจะมีใครกลับมาสักที...


ทันใดนั้น เหมือนคนที่กำลังเคลื่อนรถมาจอดหน้าประตูบ้านรับรู้ถึงความคิดของเธอ กระจกไฟฟ้าจึงถูกเลื่อนลงมา พร้อมกับดวงหน้าก้มต่ำมามองดู


“ซาร่า ทำไมมานั่งนอกบ้าน มีอะไรรึเปล่า”


เภสัชกรหนุ่ม เจ้าของบ้านนั่นเอง ซาร่ามองต้าแล้วก็อดที่จะผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ไม่ได้


อย่างน้อยๆ ตอนนี้ เธอก็ไม่ได้เครียดคนเดียวแล้ว


ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ประตูใหญ่ และเกาะรั้วคุยกับต้า


“บรูน่าไม่สบายมากค่ะ แต่พี่บอยพาไปโรงพยาบาลแล้ว” เธอรายงานเหตุการณ์ไป พร้อมกับชะโงกหน้าดูนาฬิกาข้อมือเรือนสวยของคนในรถ แล้วประมาณเวลาเอาในใจ “ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ตอนนี้ ก็น่าจะถึงแล้ว”


เมื่อรู้เรื่องราวจากเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่เกาะรั้วอยู่นี่ ต้าก็มีสีหน้าเครียดขึ้น แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาเพื่อนทันที คุยกันอยู่สักพัก สีหน้าเขาก็เริ่มดีขึ้น เมื่อวางไป ต้าหันมาหาซาร่าที่พยายามชะเง้อคอด้วยความอยากรู้พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง


“บรูน่าถึงมือหมอเรียบร้อยแล้ว”


พอได้ยินดังนั้น ซาร่าก็ระบายลมหายใจที่ยาวกว่าทุกครั้งอย่างโล่งอกเป็นที่สุด


“แล้วมัวแต่ยืนอยู่ตรงนั้นทำไม” ประโยคนี้ของต้าทำเอาซาร่างง เขาจึงพูดเสริมความต่อ “ไม่อยากไปเยี่ยมบรูน่ารึไง”


“อยากค่ะอยาก” ถึงแม้จะรับคำแล้ว แต่ก็ยังยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้น


“งั้นก็ขึ้นมาสิ”


“ค่ะ” ซาร่ายืนตัวตรง พลางเปิดประตูแล้วจะวิ่งมาขึ้นรถ แต่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ก่อน


“เดี๋ยวค่ะพี่ต้า ซาร่ายังไม่ได้ล็อกบ้าน” ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดกลับเข้าไปใหม่ อากัปกริยานั้นเรียกรอยยิ้มที่นานๆ จะมีสักครั้งของคนตรงที่นั่งคนขับได้อย่างไม่ยากเย็น


======


ท้องฟ้าเริ่มโพล้เพล้ ตอนนี้ที่ค่ายอาสาพัฒนาซึ่งมิ้นไปร่วมนั้น กำลังจัดเตรียมอาหารเย็นให้กับเด็กชาวบ้านตาใสๆ ที่อดมื้อกินมื้ออยู่ทุกเมื่อเชื่อวันกันอย่างแข็งขัน โดยมีเธอเป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ในการทำงานครั้งนี้


“พี่คะ เดี๋ยวช่วยมิ้นยกถาดหลุมไปวางตรงนั้นหน่อยนะคะ” มิ้นออกปากบอกรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งยืนอยู่แถวนั้น “ขอบคุณนะคะพี่” เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอต้องการ มิ้นก็เอ่ยขอบคุณพร้อมกับรอยยิ้ม


ในระหว่างที่ ‘หัวเรือใหญ่’ กำลังจะเดินไปดูการเตรียมงานที่อื่น ก็มีคนมาเรียก


“มิ้น...ตะกี้มีโทรศัพท์มาหาแกอะ”


คนถูกเรียกหันมามองด้วยแววตางุนงง ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า ลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋าถือซึ่งวางไว้ในบ้านพักของชาวค่ายอีกที


“รับให้เหรอ ขอบใจนะ” แล้วถามต่อว่า “ว่าแต่ จากใครอะ”


“ที่บ้านแก บอกว่า เพื่อนที่มาพักด้วยไม่สบายหนัก”


ด้วยความที่ไม่เชื่อหูตัวเองทำให้มิ้นถามย้ำเพื่อนอีกครั้ง เมื่อแน่ใจว่าฟังไม่ผิดก็ถามต่อ


“เพื่อนคนไหน ซาร่า...?” มิ้นเอ่ยชื่อเพื่อนที่ไม่รู้จักได้ไม่นาน แถมยังตัวจ้อยมีแนวโน้มต่อการป่วยมากกว่าอีกคนขึ้นมาก่อน แต่จริงๆ ก็ไม่อยากให้เพื่อนพยักหน้าว่าใช่เลย เพราะถ้าเกิดเป็นซาร่าที่ป่วยจริง ตัวเธอคงไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรต่อในอีกสัปดาห์กว่าๆ ที่เหลือแน่


“เออ ซาร่านั่นแหละมั้ง” เพื่อนรับคำ แต่ก็ดูไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร เลยเสริมว่า “ชั้นคิดว่าใช่นะ ชื่อเป็นสระอา สองพยางค์ คงฟังไม่ผิดหรอก”


แต่คนที่เพื่อนป่วยกลับไม่ได้ยินอะไรต่อจากคำว่าซาร่าทั้งสิ้น


และไม่ต้องรอให้เวลาผ่านไปนาน สติมิ้นก็หลุดลอยกลับไปที่บ้านเรียบร้อยแล้ว


======



Create Date : 05 ธันวาคม 2550
Last Update : 5 ธันวาคม 2550 21:25:51 น. 0 comments
Counter : 157 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Diagonal
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Diagonal's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.