Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
29 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
[AF Story] Friendship: เพื่อน << รัก >> เพื่อน === ตอนที่ 8

======


“โอ๊ย!” คนที่ถูกท่อนไม้ปริศนาหรือด้ามไม้กวาดมัดรวมกันสามอันฟาดเข้าสี่ห้าตุ้บเมื่อครู่ ถึงกับร้องลั่นบ้าน เมื่อคนซึ่งกำลังทำแผลให้อยู่นั้นมือหนักไปหน่อย


“ขอโทษเว้ย” คุณหมอจำเป็นหรืออาชีพที่แท้จริงคือเภสัชกรนั้นบอกขอโทษเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก เพราะตัวเขาเองก็ทำแผลไป ขำไป “นี่ข้าว่า ข้ามือเบาที่สุดในบ้านแล้วนะ เอ็งต้องเจอเจ้ามิ้น แล้วจะหนาว” ต้าแอบพูดถึงน้องสาวกับเพื่อนในระยะเผาขน


แต่ขอโทษ...


“อะไรคะพี่ต้า วันนั้นมิ้นทำอย่างเบามือที่สุดแล้วนะ”


เหตุการณ์ที่สองพี่น้องพูดถึงคือวันที่ต้าไปสะดุดอะไรเข้าก็ไม่รู้ แล้วกลิ้งตกบันไดลงมา โชคยังดีที่อวัยวะภายในไม่เป็นอะไร อุบัติเหตุเหลือทิ้งไว้เพียงแค่รอยฟกช้ำดำเขียว และอาการปวดหลังเท่านั้น พอกลับจากโรงพยาบาล ก็ได้น้องสาวคนเดียวนี่ล่ะ คอยดูแล


“คร้าบ เบาก็เบา” ต้าว่ากลั้วหัวเราะ ก่อนจะหันมาแหย่เพื่อนต่อ “เออ หรือว่าเอ็งจะให้น้องบรูน่าผู้แสนจะบอบบางมาทำแผลให้”


บอยที่นั่งเงียบอยู่นานสองนาน พอได้ยินชื่อคนทำร้ายร่างกายเขาเข้าก็เลยอดรนทนไม่ไหว


“บอบบางตรงไหน เอ็งดูรอยช้ำข้าสิ”


แต่ต้ากลับยิ้มมุมปาก แล้วสั่นศีรษะเบาๆ


“บอบบางจริงๆ ยืนยัน” ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเก๊กนิ่งเหมือนเดิม แล้วพูดว่า “ถ้าน้องเค้าไม่บอบบางอะ ป่านนี้เอ็งไปนอนให้หมอหยอดน้ำข้าวต้มนานแล้ว”


ต้าพูดไปตามความเป็นจริง เพราะไม้กวาดที่บรูน่านำมาใช้ฟาดบอยนั้น แค่ด้ามเดียวก็เหลือแหล่แล้ว แต่นี่สงสัยกลัวจะไม่พอน็อกหัวขโมย เลยใส่ไปเสียสาม... ถ้าฟาดด้วยแรงที่มั่นคงกว่านี้ บอยคงอาจจะไม่ได้มาร้องโอ๊ยๆ อยู่ในบ้านอย่างนี้ก็ได้


“มิ้น” เสียงพัดดังมาจากในครัว “มาช่วยคุณแม่ยกของว่างไปเสิร์ฟเพื่อนๆ พี่ต้าเค้าหน่อยลูก”


พอสิ้นเสียงพัด มิ้นก็หันมามองหน้าซาร่าทันที พยักหน้าเป็นเชิงว่ารู้กัน แถมมิ้นยังหันไปหลิ่วตาให้พี่ชายซึ่งก็กำลังมองมาด้วยสายตาอยากรู้อีกด้วย


จากนั้นก็ลุกพรึ่บเตรียมจะเข้าไปในครัวกันทั้งสามคน


แต่ก่อนจะไป ต้ายังมีพูดทิ้งท้าย...พร้อมรอยยิ้มที่มีเลศนัย


“เฮ้ยบอย เดี๋ยวข้าไปเอาของกินมาให้นะ เอ็งให้น้องเค้าทำแผลให้ไปพลางๆ ก่อนละกัน”


เล่นเอาบรูน่าที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างๆ หันไปมองต้าด้วยสายตาไม่เข้าใจ


“เดี๋ยว...พี่...”


แต่ก็พูดได้เพียงเท่านั้น เพราะทั้งสามคนวิ่งลิ่วเข้าไปในครัวเสียแล้ว


ตอนนี้ในห้องนั่งเล่น เลยเหลือเพียงแค่เธอ กับผู้ชายหน้ายื่น ที่เธอเข้าใจผิดว่าเป็นขโมย แล้วเอาไม้กวาดซัดเข้าไป...


สองคนเท่านั้นเอง...


======


ความเงียบสงัดได้เข้าปกคลุมห้องกว้างสีครีมขาว ถึงแม้จะเงี่ยหูฟังสักเท่าไรนั้น ก็คงจะได้ยินแต่เพียงเสียงเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่เท่านั้นเอง


บอยมองผู้หญิงที่เขารู้จักเพียงแค่ชื่อและแรงเหวี่ยงในการฟาดไม้กวาดของเธอเท่านั้นด้วยสายตาเซ็งๆ


มันวันซวยอะไรของเราวะเนี่ย! ไหนจะหอที่เคยอยู่มาหลายปีจะเจ๊ง แถมยังมาโดนทำร้ายร่างกายยามดึกจากคนที่ไม่รู้จักอีกต่างหาก หัวก็แตกด้วย นี่ยังดีนะ ที่ไม่ดวงแตกอีกจนถึงขั้นหาที่นอนไม่ได้


ถึงแม้เขาจะไม่อยากให้ผู้หญิงมือหนักคนนี้มาทำแผลให้ แต่จะทำอย่างไรได้ ก็เพื่อนตัวดีและน้องสาวเพื่อนตัวแสบดันรู้เห็นเป็นใจกันหายตัวเสียนี่ ถ้าไม่ใช่คนที่ทำหน้าทำตาท้าทายอยู่ตรงหน้า ใครจะทำแผลให้เขาล่ะ


จะแกล้งกันก็บอกมาตรงๆ เลยดีกว่าไอ้ต้า...


ดังนั้น บอยจึงเลื่อนกล่องปฐมพยาบาลไปตรงหน้าบรูน่า แล้วบอกว่า


“ได้ยินที่ต้าบอกแล้วใช่มั้ย” แล้วหยิบขวดยาขึ้นมาให้ “คือ พี่หัวแตกน่ะนะ...” แล้วชี้ไปที่รอยเล็กๆ ซึ่งมีเลือกซึมออกมาบริเวณหน้าผากด้วยสีหน้าเรียบเฉย


“หัวแตกแล้วไงมิทราบ” บรูน่าพูดย้อนกลับมา “มันเรื่องอะไรของชั้น...”


บอยได้ยินคนซึ่งเด็กกว่าตนอยู่หลายปีตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วนแบบนี้ก็ชักฉุนขึ้นมาเหมือนกัน


“อ้าว ก็น้องเป็นคนตีจนพี่เป็นแบบนี้นี่ครับ” แต่ก็เลี่ยงไม่พูดถึงเรื่องนั้นไป “น้องก็ควรจะเป็นคนทำแผลให้ ถึงจะถูก”


“พี่หัวแตก...” บรูน่าทำเป็นเลียนเสียงและเก๊กหน้าให้เหมือนบอยที่บอยทำเมื่อครู่ ก่อนจะปรับกลับมาเป็นตัวเอง แล้วพูดย้อนบอยอีกว่า “ใครเป็นน้องนายกัน ก็แค่อายุมากกว่าไม่กี่ปี โธ่...”


พอกันที!


เป็นเด็กเป็นเล็กมาย้อนกันแบบไม่รู้จักว่าใครเด็กใครผู้ใหญ่แบบนี้ เห็นทีต้องสั่งสอนกันซักหน่อยแล้ว


แต่ยังไม่ทันที่บอยจะอ้าปากโต้ตอบ เสียงแกร๊งของจานของว่างที่กระแทกกับพื้นกระจกของโต๊ะรับแขกก็ดังขึ้นก่อน ประหนึ่งเป็นระฆังตีหมดยกอย่างไรอย่างนั้น


“กินขนมกันก่อนนะบรูน่า” มิ้นว่าเสียงแห้ง พลางพยักเพยิดกับซาร่าแล้วเดินไปจับตัวบรูน่าให้ถอยออกมา เพราะตอนนี้เพื่อนของเธอนั้น กำลังอยู่ในท่าที่กำลังจะกระโจนไปทำร้ายร่างกายบอยได้ทุกเมื่อ


ส่วนต้าก็ทำเช่นเดียวกับมิ้น เขาเดินเข้าไปล็อกแขนบอย แล้วพากลับมานั่งที่โซฟา
ถ้าทั้งสามคนมาไม่ทันเวลา คงจะได้เห็นการวางมวยขึ้นในบ้านหลังใหญ่นี้อย่างแน่นอน...


======


มาที่บ้านหลังเล็ก เจ้าของบ้านตัวโตไว้เครากำลังพาสมาชิกใหม่หรือว่าเพื่อนลูกชายทั้งสองคนเดินชมบ้าน พร้อมกับอธิบายไปด้วยว่า ตรงไหนสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่แก้ไขไม่ได้เกิดขึ้น...


ถ้าไม่ใช่เพราะว่าภรรยาสั่งมา เขาก็จะไม่จุกจิกมากมายแบบนี้หรอก เพราะทั้งสองคนนี้ก็เป็นผู้ชาย จะให้ไปทำอะไรตามกรอบ ตามระเบียบแบบแผนเหมือนเด็กผู้หญิงนั้นมันยาก... แต่ยกเว้นผู้ชายอย่างเจ้าต้าไว้คน นายคนนี้ท่าทางจะได้นิสัยแม่มาเยอะ...


“สามคนนอนห้องเดียวพอมั้ย”


นี่ก็เป็นสิ่งที่เจ้าชีวิตกำชับมาอีกนั่นล่ะ


ถึงแม้ว่าพัดจะบอกให้ก้อ ตูน และบอยจ่ายค่าน้ำค่าไฟกันเอง แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่อยากให้เปิดเครื่องปรับอากาศเกินความจำเป็นอยู่ดี นอกจากจะทำให้ต้องจ่ายค่าไฟมากแล้ว ยังทำให้สภาพอากาศรอบๆ บริเวณบ้านร้อนขึ้นอีก


“พอครับ”


กฤตพยักหน้ารับ พลางเปิดประตูห้องนอนหนึ่งในสามเข้าไปดู ว่าแต่เดิมก่อนที่ครอบครัวพี่สาวของเขาจะย้ายออกไป ใครเคยอยู่ห้องนี้


เตียงสองชั้นกับวอลเปเปอร์สีหวาน ไม่ต้องให้บอกก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นห้องของใคร


ภาพเด็กผู้หญิงฝาแฝดหน้าหมวยซึ่งบุคลิกต่างกันสุดขั้วสองคน ยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา ไม่ได้เลือนรางไปไหนแต่อย่างใด


แฝดคนพี่ แอปเปิ้ล มีนิสัยไปทางผู้ชาย คิดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ ใจร้อน


ส่วนแฝดคนน้อง เชอร์รี่ คนนี้อ่อนหวาน เรียบร้อย นิ่งๆ จะชอบเก็บอะไรต่อมิอะไรไว้ในใจ และมักจะถูกพี่สาวดุในเรื่องความเรียบร้อยจนกลายเป็นเฉื่อยชาอยู่บ่อยๆ


สองคนนี้ไปเรียนต่อได้กี่ปีแล้วนะ...รู้สึกได้ว่านานพอดูเหมือนกัน


“ห้องนี้มันเป็นเตียงสองชั้น แถมสีก็...” กฤตอมยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของตูน “ออกจะหวานสำหรับผู้ชายอย่างพวกเราไปหน่อยเนอะ”


แล้วเขาก็เดินนำไปดูห้องถัดไปต่อ


======


สองหนุ่มจากบ้านใหญ่เดินหลบตามกันสาดเพื่อจะไปบ้านเล็ก พร้อมทั้งซอยเท้าให้เดินเร็วขึ้น เพราะว่าตอนนี้ฝนหลงฤดูนั้นเริ่มปรอยลงมาแล้ว


กว่าจะผ่านเข้าไปในบ้านได้ก็ทุลักทุเลพอดูเหมือนกัน


ต้าซึ่งเดินถือกระเป๋าให้คนเจ็บอยู่ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ประหนึ่งเวทีมวยลุมพินีเมื่อกี้ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ นั่นทำให้บอยที่ค่อนข้างแน่ใจอยู่แล้วว่าต้าจะต้องทำแบบนี้หันมามองหน้าทันที


“ตลกตรงไหน”


“ก็ตรงที่เอ็งไปเถียงเอาจริงเอาจังกับเด็กม.ปลายแบบนั้นน่ะสิ” และยังคงไม่หยุดหัวเราะ


“เด็กมันไม่รู้จักกาลเทศะ ก็ต้องสั่งสอนซักหน่อยสิ”


ต้ามองเพื่อน แถมยังเจาะจงไปที่พลาสเตอร์ยาแปะลวกๆ ด้วยตัวบอยเอง สายตาเหมือนจะบอกว่าให้คิดว่าอะไรเป็นอะไรให้ดีเสียก่อน แล้วค่อยพูดออกมา


“ใครจะสั่งสอนใครกันแน่ ข้าเห็นน้องบรูน่าเตรียมจะชกเอ็งอยู่แล้ว”


บอยนิ่งไป เพราะถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ค่อยได้ แต่อย่างไร มันก็คือความจริง...


เด็กผู้หญิงคนนั้นกล้าและแก่นกว่าที่เขาคิดไว้มากทีเดียว


“ก็ข้าเจ็บอยู่นี่หว่า...ลองถ้าสบายดีนะ...”


“เออ ขี้เกียจเถียงด้วยละ” ต้ายิ้ม แล้วเดินนำลิ่วๆ ขึ้นบันไดไปคนเดียวด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้ ‘คนเจ็บ’ มองตามด้วยสายตาละห้อย ราวกับจะบอกว่า เฮ้ย เอ็งกลับมาช่วยพยุงข้าขึ้นบันไดก่อน อย่างไรอย่างนั้น


“เรื่อง...” ตอนนี้ต้าไปอยู่ขั้นบนสุดแล้ว “เชิญคุณคนเก่งเดินขึ้นมาเองเลยครับ กระผมจะรอดู”


จากสายตาละห้อย กลายเป็นเคืองแทน


“เออ ฝากไว้ก่อนเถอะเอ็ง ไว้มีเรื่องอะไร ไม่ต้องมาให้ข้าช่วยเลย...”


======


บรูน่าเดินกระแทกเท้าปึงปังเข้ามาในห้องนอน จากนั้นก็ทิ้งตัวลงบนเตียง แล้วร้องโวยวายออกมา โดยมีซาร่ากับมิ้นนั้นเดินอมยิ้มตามเข้ามา


“โอ๊ย ชั้นเหม็นขี้หน้าผู้ชายคนนั้น”


“งั้นฉีดน้ำหอมหน่อยมั้ยบรูน่า” ตอนแรกบรูน่าคิดว่าคนยิงมุขและเจ้าของมือที่กำลังส่งขวดน้ำหอมมาให้คือมิ้น และกำลังจะหันไปว้ากพอดี แต่พอคิดอีกที มิ้นหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วนี่ แล้วมือใครล่ะ


พอหันมาดู กลับเป็นซาร่าเสียอย่างนั้น


“ซาร่าอารมณ์ดีขึ้นแล้วเหรอ” อันที่จริง บรูน่ายังคงติดใจเรื่องที่มิ้นบอกว่า ซาร่าไม่ได้งอนอยู่ เพราะตอนที่เธอลงมานั้น ซาร่าดูซึมเอาการ เลยพยายามถามออกมาแบบอ้อมๆ


“แล้วเราไปอารมณ์เสียตอนไหน”


“อ้าว ไม่ได้งอนมิ้นหรอกเหรอ” บรูน่ายิงคำถามไปตรงๆ และเหมือนเธอจะทันเห็นว่าสีหน้าซาร่าเปลี่ยนเป็นเชิงเหมือนเด็กทำผิดแล้วโดนผู้ใหญ่จับได้แว่บหนึ่ง...แต่ก็แค่แว่บเดียวจริงๆ บรูน่าเลยไม่แน่ใจ


“งอนมิ้น...” คนถูกถามคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้กับบรูน่า แล้วพูดด้วยเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินว่า “มิ้นรู้ว่าเราน้อยใจมิ้น จากบรูน่าเองหรอกเหรอ”


คนฟังพยักหน้าหงึกอย่างไม่คิดอะไร แต่เมื่อเวลาผ่านไป...


“อ้าว ไหนซาร่าบอกไม่ได้งอนมิ้น”


“ก็เราไม่ได้งอน...” ซาร่าพูดเสียงอุบอิบ เบากว่ากระซิบเมื่อกี้ที่บรูน่าต้องเงี่ยหูฟังอีก “เราก็แค่น้อยใจนิดหน่อยเอง... ก็เพื่อนคนแรกของที่นี่ของเรา อยู่ดีๆ ก็ไม่สนใจขึ้นมาซะงั้น... เราก็ไม่รู้จะพูดกับใครไง เลยดูเงียบๆ ไป” ก่อนจะพูดเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นว่าบรูน่าส่งสายตาล้อๆ มาให้


“แต่ไม่ได้งอน อันนี้เรื่องจริง...”


“ซาร่ารู้ป้ะ” บรูน่ายิ้มกว้าง “ทำแบบเนี้ย เหมือนมิ้นตอนเจอกับเราครั้งแรกๆ เลย”


ซาร่ามีสีหน้าประหลาดใจ บรูน่าเลยเล่าเรื่องที่ค่ายภูเก็ตให้ฟัง...


พอเล่าจบ ซาร่าก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้


“ตลกใช่มั้ยล่ะ แถมเหมือนซาร่าตอนนี้เด๊ะ” บรูน่าว่ากลั้วหัวเราะ ก่อนจะหันมาถามอีก “เออ แล้วซาร่าอารมณ์ดีขึ้นเพราะอะไร ตอนเราลงไป เห็นยังหน้างออยู่เลย”


แต่ซาร่าก็เสมองไปที่อื่น ไม่ยอมตอบคำถาม...


บรูน่าเลยหมดปัญญาที่จะล้วงเอาความรู้สึกของเพื่อนใหม่ออกมา แล้วอยู่ดีๆ ก็พูดโพล่งขึ้นมา


“เออ คืนนี้บรูน่านอนพื้นนะ”


“อ้าว....” ซาร่าลากเสียง “ทำไมไม่มานอนเตียงด้วยกันง่ะ”


“ม่ายรู้...” บรูน่าตอบกลับด้วยเสียงยานคาง ฟังดูกวนประสาทยิ่งนัก


“ไว้มิ้นอาบน้ำเสร็จแล้วค่อยถามละกันนะจ๊ะ”


======



Create Date : 29 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2550 4:08:30 น. 0 comments
Counter : 426 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Diagonal
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Diagonal's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.