Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Oops ! ปากเหม็น


เรื่องสุขภาพ ไม่ได้มีแต่ร่างกายนะ ช่องปาก ก็สำคัญ สุดหล่อสุดสวยแค่ไหน ถ้ากลิ่นลมหายใจไม่สุนทรีย์ คงไม่มีใครอยากใกล้แน่นอน เพื่อน ๆ รู้มั้ยว่า กลิ่นปาก นอกเหนือจากเป็นอุปสรรคขวางกั้น ไม่ให้ใครนึกอยาก เฉียดเข้ามาใกล้แล้ว หากเป็นเรื้อรังเนิ่นนาน อาจบ่งถึง ปัญหาของสุขภาพภายในด้วยนะ ไม่ใช่เล่นๆ

มีหลายสาเหตุค่ะ อย่างแรกที่รู้กันคือ บรรดา เครื่องเทศ หรืออาหารจำพวก กระเทียม หอม แอลกอฮอล์หรือยาสูบทุกประเภท พวกนี้กลิ่นอายของมัน แล่นปรู๊ดเข้าเส้นเลือด พุ่งเข้าปอด ออกมาทางลมหายใจ อึ๋ย !!! แปรงฟัน หรือกลั้วปากไม่ได้ผลหรอก อาจจะนิดหน่อย แต่ทางที่ดี ลดการกินพวกนี้ ให้น้อยลงดีกว่านะ อย่าคิดว่ากินมาก แล้วจะมีกลิ่นปากเท่านั้น กินไม่พอ ก็สามารถ... เหมือนกัน เค้าเรียก ""กลิ่นจากความหิว"" มาจากการปล่อยลมหายใจออก ของน้ำย่อยตับอ่อน ที่ไม่ได้ย่อยอาหาร ฮา... ฮา
 
ส่วน ""กลิ่นปากยามเช้า"" น่ะ เกิดจาก เชื้อแบดทีเรีย ที่ก่อตัวขึ้น ในปากระหว่างนอนหลับอ้าปาก คร่อกฟี้ อย่างที่หลายๆ คนตื่นมาแล้วรู้สึกปากแห้ง ยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ ยาแก้แพ้ หรือคนที่มีนิสัยชอบหายใจทางปาก ก็มีสิทธิมีกลิ่นปากได้เช่นกัน
 
สาเหตุใหญ่อีกอย่างหนึ่งก็คือ ""พลัค"" กลุ่มเชื้อแบดทีเรีย ที่ชอบอาศัยอยู่กับฟัน บริเวณรอบๆ ตามซอก หรือรอยต่อระหว่างเหงือกกับฟัน พวกนี้นะ ถ้าไม่แปรงฟัน ขัดฟันด้วยไหมขัดฟัน และขูดหินปูนปีละ 2 ครั้ง ก็จะสะสมอยู่ แบบดาวน์น้อย ผ่อนนาน 10 ปี ไล่ยังไงก็ไม่ไป จนกว่าตึก เอ๊ย ฟันจะทรุดผุพังไปนั่นแหละ 
 
คิดดูนะ เจ้าแบดทีเรียพลัคนี่ร้ายกาจนัก ทำให้เกิดอาการอักเสบ ทำให้เหงือกและฟัน แยกจากกัน ประหนึ่งแจ็คกำลังจมดิ่งสู่ก้นทะเล โดยที่โรสซึ่งนอนอืด อุ้ย นอนเกาะซากเรือก็ยังช่วยไม่ได้ เพราะตัวเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน นั่นแหละค๊า... ซึ่งถ้าไม่ได้รับการเยียวยา ทั้งเหงือกและกระดูกรองรับ ฟันก็จะอ่อนแอ กว่าจะรู้ตัว จากที่แค่มีกลิ่นตุๆ ในปากก็จะกลายเป็นโรคเหงือกเรื้อรัง เป็นอาหลอไปในที่สุด
 
รู้สาเหตุแล้ว วิธีดูแลรักษาก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย จะระงับกลิ่นลมหายใจก่อนจะมี หรือรู้ตัวว่ากำลังจะมี ก็ต้องรีบตั้งต่านไว้ก่อน อย่างที่บอกแค่กลั้วปาก อมน้ำยาขลุกขลิก 2-3 ที ช่วยไม่ได้หรอก แพทย์แนะนำว่า ทางที่ดีก็คือ
 
1. ให้ใช้ไหมขัดฟัน ขัดตามซอกฟัน เพื่อเอาเศษอาหารและแบคทีเรียออก แต่ไม่ต้องรุนแรงจนได้เลือดนะ ประเดี๋ยวต้องมานั่งรักษาโรคเหงือกร่นอีก การขัดฟันนี่เค้าว่าให้ทำก่อนแปรงฟัน

2. แปรงก็แปรงให้ละเอียดทุกซอกทุกมุม วันละ 2 ครั้ง ฟันด้านใน ก็อย่าลืมด้วยนะ ลิ้นก็เหมือนกัน เดี๋ยวมันน้อยใจแย่ เลือกใช้แปรงที่ขนนุ่ม และไม่ต้องรอให้แปรงบานแบะถึงจะเปลี่ยนนะ แค่ 2 เดือน ก็เปลี่ยนได้แล้วล่ะ

3. หลังมื้ออาหาร อย่าลืมบ้วนปาก เพื่อเอาเศษอาหารที่ติดอยู่ ตามซอกฟันออกไป สำคัญนะ เพราะถ้าปล่อยไว้นอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้ว ยังทำให้ฟันผุอีกต่างหาก

4. หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก เช่น สะตอที่มาข้อมูล :


Create Date : 09 มิถุนายน 2553
Last Update : 9 มิถุนายน 2553 10:40:14 น. 0 comments
Counter : 314 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หนูเหนือ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หนูเหนือ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.