Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
อัพเดทวิธีคุมกำเนิดที่สาวสมัยใหม่ควรรู้

"อัพเดทวิธีคุมกำเนิดที่สาวสมัยใหม่ควรรู้มีหลายคำถามที่สาวๆ อยากรู้แต่ไม่กล้าเอ่ยถามคนใกล้ชิด
การใช้ชีวิตคู่ที่มีความสุขนั้น ถึงแม้องค์ประกอบสำคัญคือ ความรัก แต่หากวางแผนชีวิตครอบครัวไม่ดีก็ทำให้คุณเป็นทุกข์ได้เช่นกัน เรานำคำถามที่ยังค้างคาใจสาวๆ มาตั้งคำถามที่ยังค้างคาใจสาวๆ มาตั้งคำถามและหาคำตอบให้ในเวลาเดียวกัน
Q: กำลังจะเริ่มทานยาคุมกำเนิด แต่ที่ร้านขายยาแนะนำว่า ให้กินหลังจากหมดประจำเดือนวันแรก แต่ที่โรงพยาบาลบอกว่าให้กินในช่วงวันที่ 1-5 หลังหมดประจำเดือน ตกลงแล้วจะเชื่อใครดีคะ
A: การที่คุณได้รับข้อมูลที่แตกต่างกันและทำให้คุณสับสนนั้น ก็ต้องถามก่อนว่าคุณเลือกกินแบบไหน เข้าใจว่าที่เภสัชกรแนะนำแบบนั้นแสดงว่าเขาต้องแนะนำยาคุมกำเนิดแบบแผง 21 เม็ดให้ แต่ถ้าได้กินตั้งแต่วันที่ 1-5 หลังจากประจำเดือนรอบนั้น แสดงว่าเป็นยาคุมแบบแผง 28 เม็ด แต่ถ้ายังไม่แน่ใจหากจะมีเพศสัมพันธ์อาจเลือกวิธีคุมกำเนิดแบบนับวันหน้า 7 หลัง 7 (7หน้าหมายความว่า 7 วันก่อนหน้ารอบเดือนจะมา 7 วันหลัง หมายความว่า 7 วัน  นับจากวันแรกที่รอบเดือนมา) หรือให้แฟนใส่ถุงยางอนามัยในช่วง 2 สัปดาห์แรกเป็นออฟชั่นเสริมด้วยจะชัวร์มากขึ้น
Q: ถ้ากินยาคุมกำเนิดเกรงว่าจะมีสิวฝ้าขึ้นเต็มหน้า ทำยังไงดี
 A: ถ้าใบหน้าเริ่มมีฝ้า ให้เปลี่ยนขนาดยาที่มีเอสโตรเจนต่ำลง  คือลดเหลือแค่ 20 ไมโครกรัม ระหว่างนี้ก็ต้องรักษาฝ้าไปด้วย โดยหลีกเลี่ยงการถูกแดดจัด ๆ และใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าทำตามแล้วก็ยังไม่ได้ผล แถมยังทำให้ประจำเดือนขาด ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ หาวิธีคุมกำเนิดแบบอื่นแทนจะดีกว่า
 Q: เคยกินยาคุมแบบแผง 28 เม็ด แต่ต้องไปทำธุระต่างจังหวัด เลยไม่อยากให้ประจำเดือนมาช่วงนั้น หากตัด 7 เม็ดที่ไม่ใช่ยาคุมออกไป แล้วเริ่มกินแผงใหม่ที่ขึ้นด้วยฮอร์โมนเลย จะทำได้หรือไม่
 A: การเลื่อนประจำเดือนให้ออกไปอีกโดยการกินยาเม็ดที่มีฮอร์โมนต่อเลยนั้นทำได้ค่ะ และสามารถทำได้เท่าที่ต้องการ แต่ถ้าอยากให้ประจำเดือนมาปกติ ก็ให้หยุดแผงต่อไปก่อน จากนั้นอีก 2-3 วันประจำเดือนก็จะมาปกติ อาจมีข้อสงสัยว่าแล้วจะเริ่มกินยาคุมอีกทีเมื่อไร ก็เริ่มในวันแรกหลังจากประจำเดือนหมด
Q: เพื่อนบอกให้กินยาคุมแบบฉุกเฉินทุกครั้งหลังจากที่มีเซ็กซ์
A: ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ควรใช้ในกรณีที่โดนข่มขืน ถุงยางหลุดกลางคัน หรือหมดอายุ และลืมกินยาคุม เพราะยาประเภทนี้จะมีฮอร์โมนมากกว่ายาคุมแบบกินทุกวัน แต่ก็มีบางคนที่ใช้ผิดวิธี เหมือนที่เพื่อนของคุณกำลังจะทำนั่นแหล่ะคือ กินหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง หรือกินมากกว่า 3 เม็ด/สัปดาห์ ก็เข้าข่ายเสี่ยงแล้ว เพราะฮอร์โมนที่สูงขึ้นจะทำให้มีผลต่อสุขภาพตามมาด้วย เช่นทำให้มีเลือดออกในช่องคลอดบ่อย การทำงานของมดลูกและรังไข่เกิดความผิดปกติ  แต่รู้ไหมว่า เดี๋ยวนี้ผู้ชายเป็นคนพกยาตัวนี้กันแล้ว และมักหลอกให้แฟนกินหลังมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง อ้างว่าเป็นยาบำรุง
Q: กินยาคุมกำเนิดอาทิตย์แรก ก็เกิดคลื่นไส้แล้ว แต่พออาทิตย์ที่ 2 ยิ่งมีอาการมากขึ้น เลยอยากทราบวิธีแก้หน่อยค่ะ
A: ก่อนจะเลือกวิธีคุมกำเนิดด้วยการกินยา ไม่ว่าจะเป็นแบบแผงกินทุกวัน หรือแบบฉุกเฉิน ควรคิดเผื่อไว้เลยว่า ต้องเจออาการคลื่นไส้ อาเจียนแน่นอน แต่ถ้าคิดจะใช้วิธีนี้ไปก่อน เรามีเทคนิคมาบอกกันแต่เทคนิคนี้ต้องใช้คู่กับวิธีอื่นด้วย นั่นคือ แผงแรกที่กินอาจจะยังไม่ต้องกินตรงเวลาเดียวกันทุกวัน แต่ให้กินสลับเวลาออกไปแล้วให้สังเกตุตัวเองว่า เวลาไหนที่ตัวเองมีอาการคลื่นไส้น้อยที่สุด หรือวันนั้นไม่มีอาการเลยก็ให้ยึดเวลานั้นเป็นเวลามาตรฐานในการกินไปเลย แต่ระหว่างนี้ประสิทธิภาพยาคมอาจด้อยไปบ้าง จึงต้องให้ฝ่ายชายใส่ถุงยางร่วมด้วยไปก่อน อีกวิธีที่แพทย์แนะนำคือ กินยาแก้คลื่นไส้อาเจียนหรือยาแก้แพ้ ก่อนกินยาคุมกำเนิดทั้งสองชนิดประมาณ 15-20 นาที จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าคิดว่ามันจุกจิกเกินไปก็เลือกคุมกำเนิดแบบอื่นจะดีกว่า
Q: จะประยุกต์กินยาคุมแบบธรรมดาให้เหมือนกับยาแบบฉุกเฉิน ทำได้หรือไม่
A: ทำได้ค่ะ โดยกินเฉพาะตัวยาหลังมีเพศสัมพันธ์ 2 เม็ดแรกทันที หรือจะกินภายใน 72 ชั่วโมงก็ได้ หลังจากนั้นนับไปอีก 12 ชั่วโมง จึงทานอีก 2 เม็ด
Q: หากจะกินยาคุมแบบฉุกเฉินซ้อนกับยาคุมแบบปกติได้หรือไม่
A: ทำได้เช่นกัน แต่อาการข้างเคียงจะรุนแรง เช่น มีอาการคลื่นไส้มากกว่าเดิมหรืออาจจะมีเลือดออกผิดปกติคล้ายกับเลือดประจำเดือนออกมาประมาณ 2-5 วัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณแพ้ขนาดไหน แล้วยังทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนด้วยเช่น อาจจะมาก่อนหรือช้าไปประมาณ 1-2 สัปดาห์
Q:  มีวิธีการซื้อยาคุมให้เหมาะกับตัวเองเพื่อลดผลข้างเคียงให้มากที่สุดอย่างไร
A: ควรดูตามฮอร์โมนของร่างกาย ลักษณะรูปร่างของเรา เพราะยาคุมในท้องตลาดมี 3 ประเภท ขึ้นอยู่กับระดับปริมาณของฮอร์โมน คือ ปริมาณน้อย ปานกลาง และปริมาณมากๆ  ให้สังเกตว่าถ้าร่างกายเรามีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะ คือมีหน้าอกโต ประจำเดือนมามาก และหลายวัน ควรจะเลือกยาคุมที่มีฮอร์โมนเพศหญิงต่ำ เพราะจะช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้ด้วย แต่ถ้าใครมีหน้าอกเล็ก มีประจำเดือนน้อย และก็มีน้อยวันด้วย หน้ามัน ผมมัน เป็นสิว แสดงว่าเป็นสาวที่มีฮอร์โมนเพศชายสูง สามารถเลือกยาคุมที่มีฮอร์โมนสูงๆ ได้ ซึ่งฮอร์โมนระดับนี้บางยี่ห้อจะช่วยรักษาสิวได้ด้วย
Q: อยากรู้วิธีคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน แต่เป็นวิธีอื่นบ้างมีไหมคะ
A: มีทั้งที่เป็น 1. ปลาสเตอร์คุมกำเนิด ที่ปิดบริเวณหน้าท้อง หรือท้องแขน ต้องติดครบ 3 สัปดาห์ ถึงค่อยแกะออกแล้วแปะแผ่นใหม่หลังจากนั้นอีก 1 สัปดาห์  2. ห่วงสอดช่องคลอด สอดไว้ในช่องคลอดเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ถอดออกและใส่ห่วงใหม่หลังจากนั้น 1 สัปดาห์  3. ฝังยาคุมกำเนิด หรือพูดง่ายๆ ว่า "ยาฝัง" โดยหมอจะฝังตัวยาอิมพลานอนไว้ที่ใต้ท้องแขน 1 หลอดซึ่งจะคุมได้ 3 ปี
 Q: แล้วถ้าจะป้องกันแบบไม่ใช้ฮอร์โมนมีวิธีไหนบ้าง
 A: มีหลายวิธีเหมือนกันแต่ที่ทำง่ายและป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ดี คือให้คุณผู้ชายเป็นฝ่ายใส่ถุงยางเสีย แต่ถ้าเขาปฏิเสธว่า "ไม่" คุณอาจเลือกใช้วิธี
1. ห่วงอนามัย หรือพูดกันสั้นๆ ว่า ใส่ห่วง ซึ่งหมอจะเป็นผู้ใส่ โดยมี 2 แบบคือ แบบคอปเปอร์ที (Tcu380A)  ใส่ครั้งเดียวคุมได้ถึง 10 ปี แต่ถ้าเป็นแบบมัลติโหลด (ML250) จะคุมได้แค่ 3 ปีเท่านั้น
2. ถุงยางอนามัยสตรี คือใส่ในช่องคลอดก่อนมีเซ็กซ์
3. ใช้วิธีสังเกตในช่วงระยะไข่ตก ให้สังเกตมูกที่ปากมดลูกเพราะตามหลักสรีระศาสตร์ง่ายๆ เลยคือว่า ในช่วงระยะเวลาที่ไข่ตก มูกที่ปากมดลูกจะมีลักษณะเป็นยางยืดมากที่สุด ลองใช้นิ้วสัมผัสมูกที่ปากมดลูกดู ถ้าเริ่มเป็นยางยืดเหนียวให้งดทำกิจกรรมบนเตียงทันที หรือ
 4. ใช้แถบตรวจปัสสาวะเพื่อดูแถบสี ถ้าผลปัสสาวะออกมาเป็นสีแดง ก็แสดงว่าอยู่ในช่วงอันตราย แต่ถ้าผลตรวจปัสสาวะเป็นสีเขียว แสดงว่า ปลอดภัย
Q: อยากรู้จังว่า ตอนนี้สาวๆ เขานิยมใช้วิธีคุมกำเนิดแบบไหนกันมากที่สุด
A: การฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 3 เดือนต่อครั้ง กำลังได้รับความนิยม เพราะสะดวกและไม่ต้องกังวลว่าจะลืมกินยา แต่จะเหมาะกับคุณแม่ที่มีลูกแล้ว เพราะถึงแม้คุณจะหยุดยาแล้ว ก็ใช่ว่าจะมีลูกได้ทันที ต้องอีกประมาณ 6-12 เดือน ถึงจะมีลูกได้ แต่ถ้าเลือกวิธีฝังยาก็คุมกำเนิดได้ถึง 3 ปี  แต่มีผลข้างเคียงคือ ประจำเดือนอาจไม่มาหรือถ้ามาก็น้อยเต็มที แต่ถ้าห่วงเรื่องว่าฝังยาแล้วอาจจะอ้วน มีสิว หรือปวดศีรษะนั้น จะเป็นเฉพาะบางรายเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แทบไม่เกิดอาการอะไรขึ้นเลย
 สาวๆ จ๋า รู้ไว้ใช่ว่านะ
1. เวลาไปซื้อยาคุมกำเนิดสิ่งสำคัญที่ควรบอกเภสัชกร คือ รอบเดือนมากี่วัน มีจำนวนมากน้อยแค่ไหน และมาปกติหรือเปล่า
2. การเก็บยาคุมกำเนิดที่ถูกต้องคือ เก็บไว้ที่อุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง ๆ และเก็บให้พ้นแสง และความชื้น ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพราะความชื้นส่งผลให้ประสิทธิภาพของยาเปลี่ยนแปลงได้
 3. ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน ห้ามใช้ในสตรีที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเพศสัมพันธ์ เช่น เลือดออกในช่องคลอด เยื่อบุมดลูกงอกผิดปกติ เพราะอาจทำให้การรักษามีปัญหาได้
New New AerogardenNew New AerogardenNew Aerogarden Marijuana Reviewcheapest Aerogarden Weed Growcheapest Discount Aerogarden Garden Accessoriescheapest Aerogarden Pro 200 ReviewGood Aerogarden 3 ReviewGood Aerogarden Replacement BulbsGood Aerogarden ProductsBest Aerogarden PromosBest Aerogarden ProBest Aerogarden Promo Couponbuying Infomercial Aerogardenbuying Aerogarden Parts Wholesalersbuying Aerogarden 6 EliteNew Aerogarden Flower Pot ManufacturersNew Aerogarden DirectNew Aerogrow Aerogarden Deluxe Systemcheapest Aerogarden 6 Pod Gardenscheapest Review Aerogarden Deluxecheapest Purchase Aerogarden ProductsGood Aerogarden RefillGood Aerogarden Marijuana How ToGood Aerogrow Aerogarden DiscountsBest Aerogarden PromotionBest Growing Weed AerogardenBest Aerogrow Aerogarden Reviewsbuying Aerogarden With Gourmet Herb Seed Kitbuying Aerogarden Grow Lightsbuying Aerogarden 3 Reviews
"


Create Date : 12 มีนาคม 2553
Last Update : 12 มีนาคม 2553 17:37:27 น. 0 comments
Counter : 350 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หนูเหนือ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หนูเหนือ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.