ว่าด้วยเรื่องพาสปอร์ตกรณีศีกษา

ว่าด้วยเรื่องพาสปอร์ตอีกเเล้วค่ะ เรื่องเอกสารตั้งเเต่เกิดจนตายทีเดียว จะเกิด จะย้ายที่อยู่ จะ เเต่งงาน เรียนหนังสือ เขาเรียกBureaucy ค่ะ ทำให้ช้า ช้าและก็ช้า บางทีเลยคิดว่า มันจำเป็นขนาดไหน เช่น ใบสมรสที่หลายครั้งคู่สมรสเเทบจะไม่ได้รักกันด้วยซ้ำ ใบปริญญา ที่เอามาโชว์ในโก้ในห้องรับเเขก แต่ชีวิตการทำงานอาจจะไม่มีความสุขเลย

ตอนนี้ก็เป็นเรื่องหนังสือเดินทางที่เรียกว่า พาสปอร์ต การเดินทางออกนอกประเทศ ในหนังสือเดินทางระบุว่าต้องดำเนินการต่ออายุหนังสือเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือนก่อนหน้าวันหมดอายุถึงจะเข้าประเทศนั้นๆเพราะต้องเข้าใจว่า เมื่อหนังสือเดินทางใกล้หมดแบบกระชั้นชิด เดินทางเข้าประเทศเช่น เดินทาง ทางถนนซึ่งไม่จำเป็นต้องโชว์กับทางสายการบินเพื่อเช็คอินถ้าเป็นการเดินทางเข้าประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า เขาจะเช็ควันหมดอายุในพาสปอร์ตเเต่ถ้าขอวีซ่า หนังสือเดินทางต้องไปทำใหม่อยู่ดี
เมื่อผ่านเข้าเขตประเทศเพื่อนบ้านจากไทยเขาก็ไม่อนุญาตให้เข้าประเทศเพราะเมื่อใกล้หมดอายุในวันที่เขาสามารถให้อยู่ในประเทศก็จะเป็นความผิดของคนให้เข้าเมือง เพราะเขาก็ต้องป้องกัน เหตุต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกรณีนี้อย่าหัวเสียไปเลยค่ะ เพราะเรารู้จักตัวเราดี แต่คนอื่นไม่รู้จักเรานิค่ะหลังจากเหตุการณ์ก่อการร้ายมากมายขนาดนี้เขาก็ต้องป้องกันเป็นธรรมดา

เเต่ที่นี้ มีเรื่องถกเถียงกันมาว่าพาสปอร์ตไทยที่หมดอายุเเล้ว สามารถใช้เดินทางกลับประเทศไทยใด้ไหมเจ้าหน้าที่กงสุลให้คำตอบว่าไม่ได้ ต้องมาทำพาสปอร์ตใหม่เพื่อเจ้าหน้าที่ทางสายการบินจะเช็คก่อนที่คุณขึ้นเครื่องและในกรณีที่ต่อเครื่องอาจจะพบความยุ่งยากตามมาแต่ถ้าเป็นพาสปอร์ตที่ใกล้จะหมดอายุอีกไม่กี่เดือนอาจจะมีปัญหาไม่มากนักเพราะเราจะเดินทางกลับเข้าประเทศตัวเองเเละไปทำการต่อได้โดยการเข้าประเทศคงต้องยื่นบัตรประชาชนเพื่อเป็นการยืนยันตัวตนเพราะอาจจะมีคนเก็บพาสปอร์ตของเราเอาไปเปลี่ยนเเปลงเอกสารได้อย่าคิดว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะค่ะ การปลอมแปลงเอกสาร หรือข้าวของ copy เดี๋ยวนี้ออกเกลื่อนทำตามระเบียบเพื่อความสบายใจดีกว่า

แต่ถ้าต่อเครื่องโดยยังอยู่ในสนามบินก็คงไม่มีปัญหาเพราะ เราต้องกลับประเทศไทยอยู่ดี แต่ก็เก็บตั๋วเครื่องบินไว้ด้วย โดยเฉพาะบอร์ดิ้งพาสเพื่อยืนยันว่าเราบินจากไหนมาไหน

ทุกคนจะทราบดีว่าทุกๆที่ มีกฏระเบียบเเละข้อบังคับ ในองค์กรยึดเป็นหลักการในการปฎิบัติงานให้อยู่ในเเนวเดียวกันเเต่ในความป็นจริงเเล้ว พนักงานบางคนไม่ปฏิบัติตามกฏ (เลือกปฎิบัติ)เเต่พนักงานบางคนกฏต้องเป็นไปตามกฏ หากบังเอิญเราโชคดีใด้พบเจ้าหน้าที่พวกเเรกเข้า คุณก็จะใด้รับการอณุโลมเเต่โชคคนเราไม่เหมือนกันทุกคนไป การทำ ตามกฏจะ ปลอดภัยทั้ง2ฝ่ายเเละจะใด้ไม่ต้องมาตามเเก้ปัญหาในภายหลัง

หากคุณใด้ทำการยื่นเอกสารทำในเรื่องเดียวกันกับคนอื่นคุณอาจจะใด้ หรือไม่ใด้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยเเละโชคขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่อง ขึ้นอยู่กับวันเเละเวลาเรื่องที่ออกมาจึงมีความเป็นไปใด้ต่างกัน
คนทำงาน

เพราะฉะนั้นขอให้ยึดกฏยึดหลักการเป็นเเนวทางในการปฏิบัตินอกจากนี้กฏเเละระเบียบการต่างๆยังมีการยกเลิกเเละเปลี่ยนเเปลงอยู่เสมอเราจึงอาจพบใด้ว่าเรื่องที่เราเคยทำใด้ในอดีต เเต่ปัจจุบันข้อกฏหมายหรือกฏระเบียบนี้ใด้ถูกยกเลิกไปเเล้ว ไม่สามารถทำใด้อีกต่อไปเเล้ว เเบบนี้ก็มี

คราวเรามาดูกันว่าการใช้พาสปอร์ตไทยหมดอายุเเล้วเดินทางเข้าประเทศคุณต้องไปเจออะไรบ้าง

ฉันใด้ขออณุญาติเจ้าของคำตอบซึ่งเธอตอบใว้ในบอร์ดพันทิพใว้ นำมาลงบล็อกเผื่อจะเป็นประโยชน์เเก่คุณผู้อ่านท่านอื่นๆผู้โพสคำตอบทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอยู่ค่ะ ดังมีข้อความว่า

"มีคนเข้ามาโพสถามเรื่องการใช้พาสปอร์ตไทยหมดอายุเดินทางเข้าประเทศไทยใด้ พอดีเป็น ตม. ค่ะ เลยจะมาตอบเรื่องตรวจคนเข้าเมืองไทยเป็นแนวทางที่ปฏิบัติกันนะคะ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาตอนที่มาถึงประเทศไทยเพราะแม้ว่าบางกรณีเจ้่าหน้าที่สามารถใช้ดุลพินิจในการอนุญาตได้แต่อาจต้องใช้เวลาบ้าง เดินทางมาเหนื่อย ๆ ก็อยากให้เรียบร้อยไว ๆ ใช่มั้ยค่ะ

สำหรับกรณีคนไทยมี 2 สัญชาติสามารถเลือกใช้หนังสือเดินทางเล่มใดเล่มหนึ่งเข้าประเทศไทยได้ส่วนใหญ่จะแนะนำว่าใช้เล่มไหนเดินทางออกมา ก็อยากให้ใช้เล่มนั้นเดินทางเข้าเพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่จะเปิดหารอยตราประทับที่ตรวจออกมาจากประเทศต้นทางค่ะอันนี้สำหรับกรณีที่จะอยู่ไม่นาน เช่น ออสเตรเลียก็อยู่ได้ 30 วัน แต่ถ้าอยู่นานแล้วใช้เล่มออสเตรเลียเดินทางออกมาก็ยังสามารถเลือกใช้หนังสือเดินทางไทยในการเข้าประเทศได้อยู่ดีถ้าเจ้าหน้าที่ถามถึงรอยตราประทับขาออกจากต้นทางค่อยบอกว่าใช้อีกเล่มเดินทางออกมา แล้วควักมาโชว์ก็ได้ค่ะ เราคนไทย อธิบายเข้าใจอยู่แล้ว

หากคุณอยู่ต่างประเทศเช่นออสเตรเลียพาสปอร์ตไทยหมดอายุเเล้ว เเละต้องเดินทางกลับเมืองไทยกระทันหันเราแนะนำให้ไปติดต่อสถานทูตไทยในออสเตรเลีย ทางสถานทูตจะออก Certificate of Identity มาให้ พอมาถึงตม. ก็ใช้ Certificate of Identity กับหนังสือเดินทางไทยที่หมดอายุคู่กันทาง ตม. ก็จะประทับตราใน Certificate of Identity แล้วก็ไปติดต่อทำเล่มใหม่ที่กรมการกงสุลได้เลยค่ะสบาย สบาย

แต่ถ้าหากคุณไม่ว่างไปก็สามารถใช้หนังสือเดินทางหมดอายุเข้าประเทศได้เหมือนกันแต่พอมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองจะมีความยุ่งยากรอคุณอยู่ค่ะคุณเตรียมใจเผื่อเวลาไว้เลยว่าจะเสียเวลาอยู่แถว ๆ นี้ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ตามระเบียบฯการแสดงตนเป็นคนไทยแต่หนังสือเดินทางหมดอายุทางขาเข้าจะส่งคุณไปทำเรื่องพิสูจน์สัญชาติที่ฝ่ายพิธีการเข้าเมืองซึ่งเดินไปไกลพอสมควร จากนั้นก็จะมีการสอบปากคำซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกเช่นกัน

ยังค่ะ ยังไม่จบ

เพราะเจ้าหน้าที่จะนัดคุณให้ไปรายงานตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ใกล้กับภูมิลำเนาของคุณจะเป็นวันไหนก็ต้องว่ากันอีกที เรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาขาเข้าตรวจสอบเอกสารอีกครั้งเป็นอันเรียบร้อย

จากนั้นจึงไปรับกระเป๋าซึ่งเป็นที่แน่นอนว่ากระเป๋าของคุณต้องโดนลากจากสายพานไปไว้ที่อื่นแล้วก็ต้องไปตามหาที่ lost and found อีก .. โหย โหย เสียเวลาและอาจเสียอารมณ์ค่ะ ขอบอก

ในช่วงหลัง ๆ นี้ คนที่เดินทางบ่อย ๆจะพบว่ามีการขอตรวจสอบบัตรที่นั่ง Boardingpass ซึ่งเป็นการตรวจสอบชื่อในหนังสือเดินทางกับชื่อในตั๋วที่ใช้เดินทางค่ะคือต้องถูกต้องตรงกัน อาจทำให้เสียเวลาบ้างแต่การตรวจสอบนี้ช่วยในเรื่องของการป้องกันบุคคลที่ใช้หนังสือเดินทางปลอมและการทำผิดบางประเภทในกระบวนการค้ามนุษย์ได้ค่ะ แต่ถ้าเผลอลืม boardingpass ไว้บนเครื่องก็ไม่เป็นไร ใช้ตั๋วเครื่องบินแสดงก็ได้ค่ะ"

จบคำตอบของเธอค่ะอ่านเเล้วใด้รับความรู้เพิ่มเติมขึ้นอีกเยอะ ขอขอบคุณมาณ. ที่นี้ด้วยนะคะนอกจากนี้เธอยังมีบล็อกที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมืองอีกด้วยที่ลิ้งค์นี้ค่ะ thailandimmigration

หากคุณผู้อ่านที่ต้องการกลับประเทศไทยเเบบกระทันหันเเละพบว่าพาสปอร์ตไทยหมดอายหรือใกล้จะหมดอายุเเล้วควรติดต่อหรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลไปยังสถานทูตไทยในเขตที่คุณพำนักอยู่เพื่อขอรับคำเเนะนำที่ถูกต้องค่ะ

Create Date : 18 กันยายน 2555
Last Update : 18 กันยายน 2555 20:30:43 น.		1 comments
Counter : 2667 Pageviews.
Share Tweet