Day 1 วันเเรก Kuching Sarawak

วันที่ 1

Sarawak Head Hunter Ride 2011 ถูกจัดขึ้นโดย WTR นิตยสารมอเตอร์ไซค์ชั้นนำของมาเลย์เซีย ร่วมกัน การท่องเที่ยวแห่งมาเลย์เซีย และ สายการบินมาเลย์เซีย ที่คัดเลือก นักขี่มาร่วมกันในครั้งนี้ ซี่งมี ชาวมาเลย์เซีย อินโดนีเซีย อินเดีย รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี แคนาดา และขาดไม่ได้แน่นอนค่ะ ไทย โดยดิฉันเอง ในคราวนี้ เป็นช่างภาพบนหลังเจ้าสองล้อ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งนับว่าท้าทายมาก เพราะเท่าที่ฟังจากการประชุมก่อนการขี่ เส้นทางค่อนข้าง เป็นคลื่นในบางเส้นทาง แต่เอาละค่ะ ไหนๆ ก็ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนคนไทยแบบนี้ ถึงไหนถึงกันค่ะ

การเดินทางมาถึงโดยไปพักที่ โรงแรมในกัวลาลัมเปอร์ก่อน คำว่า กัวลา คือ ความหมายว่าเส้นทางของแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันค่ะ โรงแรมที่ไปพัก อยู่ไม่ไกลนัก เรียกว่า Mines คือ เป็นเหมืองแร่ดีบุกเก่า เมื่อก่อนที่ประเทศมาเลย์เซียจะมีแร่ดีบุกอยู่มากมาย และทางมาเลย์เซียได้เชิญให้ชาวจีนเข้ามาสำหรับเหมืองแร่ดีบุก โดยเฉพาะ เพราะชาวจีนมีความชำนาญ ส่วนชาวอินเดียก็มีความชำนาญในเรื่องการก่อสร้างเส้นทางรถไฟ



แร่ดีบุก เอาไว้ทำกระป๋องบรรจุอาหารต่างๆ ภายหลังแร่ดีบุกน้อยลง เหมืองแร่ก็ปิดกิจการและได้เปลี่ยนมาเป็นโรงแรม และสนามม้าแข่งและแหล่งช๊อปปิ้งคอมเพล็กซ ที่รู้จักกันดีใน นาม ของ Mines โรงแรมที่ไปพัก ชื่อว่า The Place of Golden Horses มีเนื้อที่กว้างมากและที่พิเศษและเป็นจุดเด่นคือ สมชื่อจริงๆ ค่ะ คือ มีแต่ม้า ม้า และก็มา ไม่ว่าจะเป็นการตบแต่งในปลีกย่อย เช่นพื้นหินขัด ก็มีลายเกือกมา แม้กระทั่งพรม หน้าต่าง กระจก ขาโต๊ะยังถูกออกแบบให้เป็นข้ามาเลยค่ะ และครีมอาบน้ำ ขวดบรรจุก็เป็นเหมือนม้าหมากรุกเลยทีเดียว เอาใจคนเกิดปีม้าแท้ๆ
โรงแรมที่เป็นโรงแรมพักของนักธุรกิจด้วยนั้น จะมีเตารีดอยู่ในตู้เสื้อผ้าอยู่ด้วย ตอนที่ไปถึงโรงแรมเป็นช่วงที่เรียกว่า อาหรับซีซั่น คือ การที่มีนักท่องเที่ยวอาหรับมาพักเป็นจำนวนมาก และแอคท่าถ่ายรูปกันมากมาย การที่ชาวอาหรับมาเที่ยวที่มาเลเซียเป็นจำนวนมากก็เพราะมาเลเป็นเมืองที่เป็นมุสลิม อาหารการกินหาได้สะดวกกว่า และสามารถหาสิ่งบันเทิงได้มากมาย โรงแรมนี้ขึ้นชื่อสำหรับคู่ฮันนีมูนและครอบครัว เพราะจะเห็นมากันเป็นคู่ๆ และ เด็กๆ มากันเป็นโขยงๆ เลยทีเดียว












การเดินทางก็เริ่มขึ้นโดย นักบิดนานาชาติ ออกเดินทางจากสนามบิน กัวลาลัมเปอร์ไปยัง เกาะบอร์เนียว โดยลงที่ Kuching เมื่อออกจากโรงแรมก่อนที่จะถึงสนามบินก็มีโอกาส ที่เข้าไปเยี่ยมชม NAZA AUTOWORLD ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายรถต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ ต่างๆ จากค่ายชั้นนำ ของอิตาลี แน่นอน เช่น Aprilia, Ducati, Vespa และอื่นๆ รวมทั้ง ชอบเปอร์ที่ใครๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ เช่น Harley Davidson รถยนต์ก็มี Ferrari, Porsche และ รถจากค่ายญี่ปุ่นที่มาแรงที่สุด ในยอดขายที่มาเลย์คือ Kawasaki ที่ มีส่วนแบ่งในการตลาดมากที่สุด เมื่อเทียบกับค่ายรถของ ญี่ปุ่นยี่ห้ออื่น ที่ทราบมาเป็นเพราะว่า ค่ายอื่นจะเป็นตัวแทนจำหน่ายย่อย ไม่ได้เป็นผู้จัดจำหน่าย หลังจากที่เยี่ยมชม รถมาพอแก้ความยาก เพราะดูเหมือนอยากจะทดลองขับ หรือ ขี่ไปเสียทุกยี่ห้อเลยทีเดียว ก็มาพักทานอาหารกลางวัน อย่างรวดเร็วที่ NAZA นั้นเอง



























เมื่อท้องอิ่มก็ได้เวลาเดินทางมุ่งตรงไปยังสนามบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม เมื่อถึงเรียบร้อยก็เดินทางเข้าพักที่โรงแรม และเตรียมตัวเพื่อฟังตารางการเดินทาง และรายละเอียด จาก welcome drink แต่ก็มีอาหารว่างเตรียมรออีกนั้นแหละ เออ งานนี้กิน และก็กินอีกแล้ว เพราะจากอาหารกลางวัน ที่เครื่องก็มีอาหารให้ และมาถึง ก็มี อาหารว่าง และจะมีอาหารเย็นอีก ที่โรงแรม รถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายให้เราเลือกเพื่อที่ออกเดินทางเตรียมพร้อม เมื่อทราบเส้นทางการเดินทางและรายละเอียดเรียบร้อยก็ขึ้นไปเก็บกระเป๋า เปลี่ยนเสื้อผ้า และพร้อมกันเพื่อจะไปงาน Rainforest World Music Festival 2011






เป็นเทศกาลดนตรี ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซียก็ว่า ได้และจัดขึ้นในป่าจริง โดยใช้สถานที่ของ Sarawak Cultural Village โดยเมื่อก่อนจะเป็นดนตรีพื้นบ้านของชาวเผ่าต่างๆ มาแสดงแต่ในปัจจุบันก็มีวงดนตรีจากทั่วโลก มาแสดงร่วมด้วยโดยการคัดเลือกจากกองการจัดการ การจองตั๋วอาจจะต้องจองกันเป็นปีๆ เลยทีเดียว การเข้างานเขาจะมีที่ผูกข้อมือให้ที่เหมือนกับสายผูกข้อมือที่ใช้อยู่ในโรงพยาบาล มีบาร์โค้ด ติดอยู่ แต่ละสี คือ แต่ละวันที่เข้าไป จะแกะออกไม่ได้นอกจากตัดทิ้งเสีย

เมื่อเข้าไปถึงก็จอดรถกันเรียบร้อย ก็เดินทางเข้าไปที่สถานที่เป็นเหมือนกระท่องสูง เพื่อไปตั้งต้นที่นั้น และแล้วก็มีอาหารเย็นต้อนรับอีกแล้ว เออ คนที่นี้กินกัน 6 มื้อจริงๆ และที่สำคัญการทักทายของมาเลย์ จะถามก่อนเสมอว่า กินข้าวหรือยัง ถ้าเป็นชาวอังกฤษจะถาม อากาศเป็นอย่างไรบ้าง แน่ละฝนตกทุกวันที่โน่น ถ้าเป็นที่อิตาลีจะเป็นว่า สบายดีไหม คนไทยก็ไปไหนมา คำทักทายถ้ามองไปลึกๆ ก็แปลกดีเหมือนกันนะค่ะ

จากนั้นก็แยกย้ายกันออกไป ดูดนตรี หรือจะเข้าไปร่วมกิจกรรม ของหมู่บ้านที่มีอยู่แต่ละจุด และ เราก็ตรงไปยัง เวทีทันที และ ทันใดนั้นหลังจากจบวงจากแมคซิโก ก็เป็นวงดนตรีจากอิตาลี แสดงขึ้นมาทันที เป็นดนตรีประเภทที่โปรดมาก เพราะ เป็นการบรรเลง ที่เรียกว่า Taranta หรือ Tarantura อ่านว่า ตารันต้า หรือ ตารันตูร่า จะเป็นการบรรเลงที่มีกลอง และ รำมะนา Tambourine มีรูปร่างคล้ายกลองแบนๆ ขึงด้วยหนังหน้าเดียวขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ10นิ้ว รอบๆ ขอบมีลูกกระพรวนติดอยู่เป็นระยะๆ เพื่อทำให้เกิดเสียงกรุ๋งกริ๋งเวลาผู้เล่นเขย่าเป็นเครื่องประกอบจังหวะที่พวกเสปน ยิปซี ใช้ประกอบการเต้นรำมาช้านาน เป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกครึกครื้น สนุกสนานจนอดที่จะขยับเท้า และเคลื่อนไหวตามจังหวะไม่ได้ และมีการเต้นประกอบ ตารันต้า จะเรียกอีกชื่อว่า Pizzica จะเป็นการเต้นรำที่มักจะเป็นคู่ โดยมากจะเป็นผู้หญิงและผู้ชาย จะเชื่อกันว่า คนที่เต้นโดนแมลงมุมมีพิษกัดและจะสื่อออกมาจากการเต้นเหมือนถูกทิ่มแทงของพิษและวิญญาณ โดยการคนเต้นจะอยู่ตรงกลางถูกร้อมลอบ ไปด้วยกลุ่มคนที่ ตีกลอง เขย่ารำมะนาด และจะมีผู้ชายไปประคองเต้นด้วยเพื่อขับไล่วิญญาณออกไป ในปัจจุบัน จะเป็นผู้หญิงเต้นกับผู้หญิงหรือ ผู้ชายกับผู้ชาย รับรองจังหวะสนุกสนานมาก ครั้งแรกที่เคยได้ฟังยังอดขยับร่างกายตามไปไม่ได้ ที่สำคัญ การแต่งกายที่จะให้เข้ากับจังหวะคือ กระโปรงยาว ที่เหมือนการแต่งกายของหญิง ชาวยิปซีนั่นเองค่ะ




















แต่วงที่มาเป็นวงที่ผสมผสานกับเครื่องดนตรีสมัยใหม่สนุกสนานกันมาก เมื่อถึงเวลา ใกล้เที่ยงคืน แต่งานเลิกตีหนึ่ง เราก็ต้องรวมพลกันกลับเพราพรุ่งนี้ขบวนต้องออกเดินทางกันแต่เช้า…

Create Date : 23 กรกฎาคม 2554		0 comments
Last Update : 29 กรกฎาคม 2554 11:02:03 น.
Counter : 1166 Pageviews.
Share Tweet