ถ น น ส า ย นี้ มี ต ะ พ า บ...ช่ ว ย ห รื อ เ บี ย ด เ บี ย น
Bismillahir Rahmanir Raheem ไอ้เปี้ยก ตื่นได้แล้ว สายจนตะวันจะส่องตูดอยู่แล้ว จะต้องให้แม่ปลุกอีกซักกี่ครั้งกัน วันนี้เราต้องไปกันเช้าหน่อย เพราะวันพระใหญ่ คนเค้ามาทำบุญกันแต่เช้า โธ่ ช่างน่าเบื่ออะไรเช่นนี้ ผมได้แต่คิดในใจว่าแล้วมันจะต้องเป็นเช่นนี้ด้วยหรือ ชีวิตประจำวันอันแสนจะซ้ำซากจำเจของผมหมุนเวียนเป็นอยู่อย่างนี้ เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยเสียงปลุกแบบเดิมๆ กินมื้อเช้า ออกจากบ้านไปทำสิ่งที่คนเขาเรียกกันว่างาน เพื่อแลกกับอาหารประทังชีวิต หน้าที่ของผมคือการไปนั่งบริเวณใกล้กับแม่น้ำที่ไหลผ่านหน้าวัดแห่งหนึ่ง พร้อมกับป้ายอันโตที่มีข้อความเขียนติดไว้ว่า โปรดสัตว์ได้บุญ
โดยปกติแล้ววันธรรมดา คนไม่เยอะเท่าไหร่นัก ผมก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก แต่วันนี้เป็นวันพระใหญ่ ผู้คนจึงหลั่งไหลกันมาทำบุญอย่างไม่ขาดสาย หลังจากเสร็จกิจจากการทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์กันแล้วต่างก็แวะเวียนกันมาเลือกซื้อนกน้อยในกรง หรือปลาไหล หรือตะพาบน้ำตัวน้อยๆ ไปปล่อยตามใจชอบ ผู้คนที่พลุกพล่านและแสงตะวันที่ร้อนแรงราวกับจะแผดเผาทุกอย่างให้มอดไหม้เช่นวันนี้ ทำเอาผมอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปเลยทีเดียว ตะวันผ่านคล้อย ผู้คนเริ่มบางตา ยามเย็นเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาเป็นสัญญาณที่ทำให้ผมดีใจที่ไกล้จะได้เวลากลับไปพักผ่อนเสียที มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาเลือกซื้อตะพาบน้ำไปสองตัว จากนั้นทั้งสองก็เดินตรงไปยังท่าน้ำ เลือกทำเลที่เหมาะสมนั่งลง ตั้งจิตอธิษฐาน ซึ่งหากสังเกตให้ดีจะพบว่าบริเวณรอบๆ ตัวพวกเขาในตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยปลาไหลและเหล่าตะพาบน้ำตัวน้อยที่ถูกปล่อยไปตั้งแต่เช้า พวกมันต่างพากันตะเกียกตะกายใช้ทุกส่วนที่มีของร่างกายไม่ว่าจะเป็นครีบ หางหรือแม้แต่ฟัน ในการยึดเกาะติดกับบรรไดท่าน้ำ เพื่อไม่ให้ถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำอันเชี่ยวกราด พออธิษฐานเสร็จ สองหนุ่มสาวก็ค่อยๆ หย่อนตะพาบน้ำลงในน้ำ ทันใดนั้นเองผมก็รู้สึกได้ถึงความเย็นจับขั้วหัวใจและพลังของกระแสน้ำอันเชี่ยวกราดที่กำลังพัดพาร่างกายผมออกจากฝั่ง ผมตะโกนสุดเสียง ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยย ผมว่ายน้ำไม่เป็น (แต่เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ใครจะได้ยินล่ะ ผมเป็นตะพาบน้ำนี่นา) ความหวาดกลัวแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจผม ผมพยายามกวาดแขนขาสั้นๆ ของผมเพื่อตะเกียกตะกายเข้าสู่ฝั่ง แต่กระแสน้ำอันบ้าคลั่งนี่รุนแรงเกินกว่าจะต้านทานไหว ผมเริ่มอ่อนแรง หมดกำลังที่จะต้านทานต่อไป ผมคงจะถูกมันพัดพาไปอย่างไร้จุดหมาย จุดสิ้นสุดของชีวิตผมคงมาถึงแล้วเป็นแน่ และแล้ว ไอ้เปี้ยกกกกกกกกกกกกกกกก ตื่นโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย โตเป็นควายแล้วยังเยี่ยวรดที่นอนอีกนะมึง มือของแม่หิ้วหูผมไว้ข้างหนึ่ง พร้อมกับหน้าตาอันบูดบึ้ง แสดงถึงความโกรธสุดขีด เนื้อตัวและที่นอนของผมเย็นเฉียบ เปียกปอนไปหมด อ่ะนะ ผมดันฝันบ้าๆ ว่าผมกลายเป็นตะพาบน้ำซะงั้น ไอ้กระแสน้ำเย็นเฉียบในฝันนั้นมันคงเป็นฉี่ของผมเอง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++ สลัดขนบนตัวลุกขี้นมาลับสมองโดยการเข้าร่วมโครงการ ถนนสายนี้..มีตะพาบ สนใจรายละเอียดไปดูกันได้ที่ บล็อกธรรมนูญ แห่งตะพาบ
ขอบคุณหัวข้อและภาพประกอบในครั้งนี้มาจากคุณพู่ JewNid
ตื่นแต่เช้ามาเพื่อจะอัพบล็อก พยายามจะคลานให้ทันตะพาบน้ำท่านอื่นๆ แต่เวลาที่ตุรกีมันช้ากว่าที่ไทยไป 5 ชั่วโมง เช้าที่นี่ก็บ่ายที่ไทยแล้ว คอมก็ดันงอแง ทะเลาะกับคอมเสร็จก็มีคนตื่นมาแย่งใช้คอม (มีหลักฐานมาให้ดูด้วย) แล้วท่านชายก็ยิ้มอย่างผู้มีชัยที่แย่งคอมได้สำเร็จ นังแจ๋วเลยเซ็งไป
เฮ้อเอาเหอะ คลานช้ายังดีกว่าไม่คลานเนอะ (ยังมีใจจะคลานจ้า อิอิ)
และหัวข้อในครั้งต่อไป วันที่ 15 มีนาคม 2553 กับหัวข้อที่ตั้งขึ้นโดยคุณกะว่าก๋า จั๊กแร้รมควันกับจักจั่นลงรู ซึ่งทำเอากระอักเลือดทีเดียว คงต้องงัดกระบวนยุทธ์ออกมาจากตับอ่อนกันเลยทีเดียว
คำที่บังคับให้มีในเรื่องหนึ่งประโยคคือ
ถ้าพี่ไม่รักหนู พี่จะรู้มั้ยว่าพี่ควรจะรักกับใคร
ภาพประกอบเชิญเลือกหามาเองตามใจชอบจ้า
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 1 มีนาคม 2553 13:37:21 น. |
|
23 comments
|
Counter : 473 Pageviews. |
|
|
ยืยยยยยยย
อย่างนี้เรียกฝันที่เกิดจากรรมโดยแท้
ขอบคุณที่เขียนด้วยกันจ้า
โจทย์ข้อหน้า มาปวดตับกันเด้อ