|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
แวมไพร์กับคืนข้ามปี
ว่างจัง…คุณว่าอย่างนั้นไหมครับ? สำหรับพวกคุณแล้วจะมีสักกี่ปีที่ได้อยู่ฉลองคืนส่งท้ายปีอย่างเดียวดายเช่นผม อ๊ะ! ผมรู้ว่าคุณคิดอยู่ในใจว่าก็...ฉันนี่ยังไงล่ะ อย่าครับ ผมว่าไม่ใช่อย่างนั้นหรอก คุณลองคิดดูสิ ตั้งแต่เวลาที่คุณเกิดมาจนโตขนาดนี้ ผมเดาได้ว่ามีไม่ถึงสิบครั้งหรอกครับที่คุณจะต้องฉลองเทศกาลนี้อย่างเดียวดาย สำหรับผมนะเหรอครับ มันผ่านมาหลายครั้งแล้ว ไม่รู้กี่ร้อยปี
ผมเป็นแวมไพร์ครับ ช่วงชีวิตผมยาวนานกว่าพวกคุณเยอะ ผมจะไปที่ไหนก็ได้ อีกอย่างผมเป็นนักชิม อาหารของผมมีอยู่ทุกที่ ก็อย่างที่คุณรู้นั่นแหละครับ อาหารของผมคือเลือดของมนุษย์
อ๊ะ...อ๊ะ อย่าเพิ่งเมินหน้าหนีสิครับ ผมไม่ใช่ผู้บริโภคจอมตะกละเสียหน่อย ผมเป็นพวกรักษาสุขภาพ บริโภคแต่พอดี คนใจดีที่แบ่งปันเลือดให้ผม(แม้เจ้าตัวจะไม่ตั้งใจก็เถอะ) ผมจะให้สิ่งตอบแทนเป็นความฝันอันแสนสุข เขาจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับร่างกายที่กระปี้กระเปร่า มนุษย์มีระบบการสร้างเลือดหมุนเวียนอยู่แล้วนี่ครับ ตามที่พวกคุณเคยเรียนตอนประถม
แล้วสาเหตุที่ผมมาติดแหง็กอยู่ในประเทศของพวกคุณนะเหรอครับ? เพราะอารมณ์ตัวเดียวแท้ๆเชียว ผมเกิดเบื่ออากาศอันแสนหนาวเหน็บ อยากมาสัมผัสเมืองร้อนบ้าง แม้ว่าผมจะโดนแดดไม่ได้ก็เถอะ ขอเอาแค่บรรยากาศก็ยังดี แต่แล้วเหตุการณ์สุดวิสัยก็เกิดขึ้น สนามบินปิดเพราะความขัดแย้ง
คุณกำลังนึกอยู่ใช่ไหมล่ะว่าผมเป็นแวมไพร์ทำไมไม่บินไป ทำอย่างนั้นน่ะมันง่าย แต่ผมจะขาดความรื่นรมย์ในการเดินทางนะสิครับ เดินทางคนเดียวมันไม่ค่อยน่าอภิรมย์ การมีชีวิตอยู่อย่างยาวนานสิ่งที่แลกมาคือความเหงา เปล่าเปลี่ยวสุดขั้วหัวใจ เป็นคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อคุณยังคงความหนุ่มสาว ขณะที่คนรู้จัก คนรักค่อยๆล้มหายตายคุณไป คนตายกลับสู่พื้นดิน แต่ความทรงจำต่างๆนั้นยังคงอยู่กับผู้มีชีวิตอมตะเช่นผม ความเหงามันฆ่าคนได้นะครับ คุณว่าไหม?
แวมไพร์หลายตนจึงเริ่มคิดถึงความตาย เมื่อนั้นเขาจะรู้ทันทีถึงคำสาป เขาจะตายได้ก็ต่อเมื่อถูกตอกหัวใจด้วยลิ่มหรือกระสุนเงิน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาต้องแบกรับก็คือการลงทัณฑ์ในนรก ขอโทษนะครับที่ผมไม่สามารถบอกพวกคุณได้ว่านรกเหมือนกับที่พวกคุณเคยเห็นในหนังสือหรือเปล่า เพราะผมไม่เคยไป…
การมีชีวิตอยู่ยาวนานและต้องแฝงตัวอยู่ในสังคมทำให้ผมติดนิสัยแบบพวกคุณมาหลายอย่าง อย่างหนึ่งก็คือการใช้ชีวิตอย่างรื่นรมย์ เที่ยว พักผ่อน หิวเมื่อไรก็กินอาหาร ผมชอบที่ๆที่มีคนอยู่เยอะๆ การมองดูผู้คนใช้ชีวิตตะเกียกตะกายดิ้นรนผมว่าเป็นเรื่องน่าสนุกนะ คุณว่าอย่างนั้นไหมครับ?
เอ…ผมเล่าถึงไหนแล้วล่ะ ใช่! สนามบินปิด ผมถอนหายใจเล็กๆเมื่อรู้ข่าว ความขัดแย้งในอุดมการณ์ที่ต่างกันมีทุกยุคทุกสมัย นักปราชญ์ของพวกคุณก็เคยกล่าวเอาไว้นี่ครับว่าการเมืองจะเริ่มต้นเมื่อมีคนสองคน วันที่เหลือผมจึงว่าง อารมณ์รื่นรมย์ที่จะออกเดินทางไปประเทศอื่นของผมหมดแล้วครับ แม้ว่าสนามบินจะเปิดใหม่อีกครั้งก็ตาม ผมจึงมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ในคืนนี้ไง
สาวนักเที่ยวยิ้มหวานเชิญชวนผม ความจริงหล่อนก็ดูอวบอัดเซ็กซี่ดีนะครับ แต่ไม่ใช่แบบที่ผมชอบ ผมเป็นนักบริโภคที่เรื่องมากสักหน่อย ชอบบริโภคแบบรื่นรมย์ ถ้าจะให้ดื่มเลือดปนรสเหล้าล่ะก็ ผมไม่นิยม
ทันใดนั้น ผมก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคย กลิ่นอาหารอันโอชะ…ผมยืนสูดกลิ่นที่ลอยมาตามลม กลิ่นมาจากที่สูง ตึกระฟ้าข้างหน้าโน่น ผมหามุมมืดแล้วแปลงร่างบินไปยังที่หมาย ประตูกระจกเปิดอยู่ เหมือนเชิญชวนให้เข้าไป ห้องนั้นเป็นคอนโดตกแต่งแบบทันสมัย ที่พวกคุณบอกว่าน้อยแต่มากนั่นแหละ โต๊ะอาหารมีขวดเหล้าและแก้วทรงสูงทิ้งเกลื่อน เสียงเพลงแจ๊ซแซ็กโซโฟนแว่วหวานดังแผ่วๆ
ผมเดินตามกลิ่นอาหารเข้าไป ในห้องน้ำตกแต่งโทนขาวดำ ผู้หญิงผมยาวในชุดแซกสีขาวแต่เปรอะด้วยสีแดงของอาหารนั่งระทดระทวย คอและแขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนอ่างอาบน้ำ ของเหลวสีแดงไหลรินออกจากข้อมือ เอาละสิ ผมมาเจอคนฆ่าตัวตายเข้าแล้ว แม้ว่าอาหารจะอยู่ตรงหน้า แต่ถ้าจัดแต่งไม่ดี ผมก็ไม่รับ อีกอย่างการดูดดื่มขณะที่อีกฝ่ายหายใจระรวยรินอย่างนี้เป็นการเอาเปรียบเกินไป โดยเฉพาะเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ผมเป็นสุภาพบุรุษเสมอ...
“ คุณมาแล้วเหรอ คุณมาหาฉันแล้วใช่ไหม “ ผู้หญิงที่นั่งบนพื้นห้องน้ำพึมพำด้วยเสียงหอบโหย พยายามยันกายอันไร้เรี่ยวแรงมาทางผม “ คุณมาหาฉันแล้วใช่ไหม คุณจะไม่ทิ้งฉันไปแล้วใช่ไหม “ น้ำตาของเธอปริ่มเบ้าตาอย่างหน้าสงสาร ว้า…แล้วอย่างนี้สุภาพบุรุษอย่างผมจะทิ้งสุภาพสตรีไปได้อย่างไร
“ ขอโทษครับ คุณคงจำคนผิด “ ผมยิ้มเย็นให้เธอ น้ำตาของเธอไหลเป็นสาย โอ๊ะ…โอ ผมแพ้น้ำตาของผู้หญิงเสียด้วยสิ “ เช็ดน้ำตาเสียสิครับ ผู้หญิงเหมาะกับใบหน้ายิ้มแย้มมากกว่า “ ผมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอซับน้ำตา
“ คุณเป็นใคร มาที่นี่ได้ยังไง “ เธอยกมือที่เต็มไปด้วยน้ำสีแดงไหลหยดย้อยขึ้น สีแดงไหลหยดลงพื้นดังติ๋งๆ น่ากินชะมัด… อ๊ะ! ผมขอโทษ เราไม่ควรทานอาหารที่ตกลงพื้น ถูกต้องไหมครับ ดูเหมือนเธอจะรู้ตัว มองแขนข้างนั้นสลับกับมองหน้าผม
“ ฉันตายไปแล้ว ใช่ไหม งั้นคุณก็คงเป็นยมทูต “ เธอหัวเราะเสียงขื่น ตอนนี้สติเธอคงกำลังพร่าเลือนจนมองไม่เห็นความน่าแปลกใจในการเข้ามาของผม คนธรรมดาเขาคงขึ้นมาห้องนี้ทางหน้าต่างไม่ได้หรอก “ ดีเลย ฉันตายแล้ว กลายเป็นผี แต่ก่อนอื่นนะคุณยมทูต คุณช่วยรอฉันหน่อยได้ไหม ขอไปแก้แค้นคนหน่อย “ มีการดีใจที่ตัวเองเป็นผีด้วย แปลกพึลึกแฮะผู้หญิงคนนี้
“ ฉันจะไปแก้แค้นคนที่มันทิ้งฉัน ไม่ถึงตายหรอก เอาแค่ให้จำจนตาย “ เสียงเธอเข่นเขี้ยว เอากับผู้หญิงสิ…เรื่องอารมณ์แปรปรวนนี่มีกันทุกคนตั้งแต่ราชินีผู้เลอโฉมยันนางทาสต่ำต้อย โดยมากจะเรื่องเดียว ผู้ชาย…
“ การแก้แค้น อาฆาต พยาบาทเป็นสิ่งไม่ดีนะครับ “ “ แล้วคุณเคยได้ยินคำว่าตาต่อตาฟันต่อฟันหรือเปล่าล่ะ “ เธอกลับไปพาดคอที่ขอบอ่างอาบน้ำอีกแล้ว ใบหน้านั้นขาวซีดยิ้มเซียวๆ ผมคิดว่าถ้าเธอรู้จักคำพูดที่ว่านั่นจริงๆคงไม่มานั่งอยู่อย่างนี้หรอก
“ คุณยมทูต ทางไปนรกไกลไหม “ ผมได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ หล่อนคงจะอยู่ในอาการช็อคจนเกิดอาการหลอน อีกอย่างคำถามนั่นผมก็ตอบเธอไม่ได้ บอกแล้วยังไงครับว่าผมไม่เคยไปนรก
“ ระหว่างทางที่จะพาฉันไปนรก คุณจะลองฟังเรื่องน้ำเน่าของผู้หญิงโง่ๆสักคนไหม “ ผมเลิกคิ้วแล้วก็พยักหน้า ตอนนี้คุณคงนึกต่อว่าผมอยู่ในใจแล้วใช่ไหมครับ ว่าทำไมไม่เรียกรถพยาบาล ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะเป็นการตัดสินใจของเธอเอง ผมขัดไม่ได้ สุภาพบุรุษที่ดีไม่ควรขัดความต้องการของหญิงสาว มาตรฐานของคุณกับผมใช้ร่วมกันไม่ได้ อย่าลืมสิครับว่าผมเป็นแวมไพร์
“ ฉันรัก รักเขามาก “ นิยายรักในคืนสิ้นปีหลุดมาจากริมฝีปากซีดของเธอ “ รักมากที่สุด ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อเขา เปลี่ยนตัวเอง ทำตัวให้สวยไฮโซเพื่อเขา “ ผู้หญิงตรงหน้ายังพรรณนาไม่เลิก “ แต่สุดท้าย เขาก็ทิ้งฉันไปกับคนที่รวยกว่า สาวกว่า บัดซบที่สุด “ เสียงสถบนั้นระคนกับเสียงสะอึกสะอื้น ความรักนี่แหละเป็นสาเหตุอันดับต้นๆของการปลิดชีวิตตนเอง
“ ทำไม ฉันผิดอะไร ฉันทุ่มเทให้เขาทุกอย่าง “ น้ำตาเธอยังไหลริน และหยดลงพื้นเจือกับหยดของอาหาร “ คุณตอบหน่อยสิ ยมทูต ฉันทำผิดอะไร “ หล่อนโผมาทางผม ดูดีๆผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้อายุมากอะไร ถ้าเทียบกับอายุผมนะครับ แล้วผมจะตอบเธออย่างไรดีล่ะ “ ยมทูต คุณเคยเป็นมนุษย์มาก่อนใช่ไหม คุณเคยรักใครหรือเปล่า “ เป็นคำถามที่ตอบยากมาก ความทรงจำเกี่ยวกับความรักของผมครั้งสุดท้ายก็สมัยวิคเตอเรี่ยนโน่น สาวสูงศักดิ์ที่สุดท้ายก็ตัดสินใจยิงกระสุนเงินใส่อกตัวเองตาย
“ ทำไมเขาถึงทำอย่างนี้กับฉัน ทำไม ฉันทำอะไรผิด ฉันทำอะไรผิด “ ผมมองดูผู้หญิงตรงหน้าแล้วนึกสะท้อนภาพใครบางคนเมื่อหลายร้อยปีก่อน ใครบางคนที่ต่อสู้กับคำถามว่าทำไม และเพราะอะไรเธอในยุควิคเตอเรี่ยนจึงทิ้งผมไป
“ ผมไม่รู้สิ ผมไม่รู้ บางทีอันอาจจะเป็นเรื่องที่ยากเกินจะหาคำตอบ “ คำตอบที่ผมเคยตอบตัวเอง ผมก็เคยถามตัวเองอย่างนี้เหมือนกัน จนคร้านที่จะหาคำตอบแล้ว “ ฉันเกลียดความรัก เพราะรักฉันถึงต้องเสียใจแบบนี้ “ เธอคร่ำครวญเสียงโหย ผมก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน สิ่งที่ผมคิดว่าน่ากลัวที่สุดในหีบแพนโดร่าที่เปิดออกก็คือ ความรัก คลั่งไคล้ ไหลหลง หญิงคลั่งในรัก ชายคลั่งในหญิงสาว สิ่งนี้น่ากลัวกว่าอำนาจการทำลายล้างใด
ผมไม่ได้ตอบอะไรเธอ เรานั่งกันเงียบๆอยู่ในห้องน้ำ น้ำสีแดงจากตัวเธอไหลออกมาเรื่อยๆ “ คุณยมทูต เมื่อไหร่จะเอาตัวฉันไปสักที “ ดวงตาของเธอเริ่มจะอ่อนแสงลง “ ฉันหนาวแล้ว “ “ บางทีที่ๆคุณจะไปอาจจะหนาวกว่านี้ก็ได้ “ ผมหัวเราะหึๆเสียงเพลงแจ๊ชดังมาแผ่วๆ ห้องในตึกสูง สิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่เหมือนตายแล้ว กับคนที่ไฟชีวิตกำลังจะมอดดับ
“ ไปกันไหม “ “ คะ “ “ ไปแก้แค้นอย่างไงล่ะ “ ผมรวบร่าเธอขึ้น พาบินไปท่ามกลางแสงสีอันพร่างพรายของเมืองหลวง ราวกับท้องฟ้าเป็นวงกลมลูกเดียวกัน บนฟ้ามีดาว ด้านล่างมีดวงไฟเทียม การหาใครสักคนไม่ใช่เรื่องยากโดยเฉพาะถ้ามีผู้นำทางชั้นดี สักพักจึงมาถึงบ้านหลังหนึ่ง ผมกับเธอยืนมองการนับถอยหลังปีใหม่อยู่ที่ข้างหน้าต่าง เธอซบศรีษะบนไหล่ผมตลอด
“ ไหนว่าคุณจะแก้แค้นยังไงล่ะ “ เธอเงียบดวงตาเลื่อนลอย “ เขาอยู่ตรงหน้าคุณแล้วนะ คืนนี้เป็นคืนสิ้นปี ผมเลยให้สิทธิพิเศษ “ เธอหัวเราะขื่นจนร่างซีดนั้นสั่นไหว “ ทีแรกฉันกะจะแก้แค้นนะ ระหว่างที่คุณพาฉันมา ฉันคิดมาตลอดว่าจะทำยังไง จะหลอกให้ตกใจจนฉี่ราด หัวโกร๋น หรือแกล้งให้ตกบันได “
“ แล้วคุณจะเลือกวิธีไหนล่ะ “ สายตาผมยังมองไปที่หน้าต่างซึ่งกั้นความมืดมิดยามรามราตรีอันหนาวเหน็บและบรรยากาศอบอุ่นเปี่ยมสุขแห่งการฉลองในบ้านหลังนั้น “ ไม่รู้สิ พอฉันเห็นเขายิ้ม แล้วก็...” “ ใจอ่อน “ ผมพึมพำ เธอส่ายศีรษะปฏิเสธ
“ เปล่าหรอก เพียงแต่พอเห็นเขายิ้มแล้ว...” เสียงนั้นอึกอักในลำคอ ก่อนที่เธอจะระบายลมหายใจยาว “ เขายังยิ้มสวยเหมือนเดิม ยิ้มเหมือนผู้ชายที่ฉันเคยหลงรัก “ ผมรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่เปียกชื้นบริเวณหน้าอก “ ฉันเลยไม่รู้จะทำยังไงดี “ เฮ้อ! ก็บอกแล้วยังไงครับว่าผู้หญิงน่ะอารมณ์แปรปรวน
“ โทษทีนะคะคุณยมทูต ที่ต้องมาทำงานในวันสิ้นปีอย่างนี้ “ เธอบอกผมขณะที่อยู่ในอ้อมกอด “ ไม่เป็นไรหรอกครับถือว่าเป็นบริการพิเศษ “ ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะปรกติผมไม่ทำอะไรแปลกๆอย่างนี้หรอก “ ฉันทำให้คุณลำบากนะเนี่ย อยากให้ของขวัญคุณจังที่ทนความเอาแต่ใจของฉัน “
ผมยิ้มเย็น สบตากับดวงตาเศร้าสร้อยของคนในอ้อมกอด “ ไม่เป็นไรครับ คุณให้ของขวัญผมแล้ว ผมได้ฟังเรื่องรักในคืนนี้ “ “ รักรันทดล่ะสิ “ “ แล้วคุณละครับ อยากได้อะไรเป็นของขวัญปีใหม่ “ เธอนิ่วหน้างงๆ “ ฉันมีสิทธิ์ได้ด้วยเหรอคะ “
ผมยิ้มแทนคำตอบ เธอผ่อนลมหายใจยาว ยิ้มกว้างให้ผม เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเธอยิ้มสวย “ งั้นเอาเป็นชาติหน้า ขอให้ฉันเจอกับผู้ชายที่จริงใจ หอบดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่มาให้ก็แล้วกันนะคะ “ ลมหนาวของยามราตรีเสียดสีผิวเนื้อ พร้อมกับเสียงที่เงียบไปของคนในอ้อมแขน เวลามาถึงเร็วกว่าที่คิด…
“ ว๊าว! “ ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมผู้ป่วยพิเศษมักจะอุทานคล้ายๆกันเมื่อเห็นกุหลาบขาวช่อใหญ่บนโต๊ะหัวเตียง การ์ดสีดำตัวอักษรสีทองหรูหราห้อยอยู่ที่ช่อดอกไม้ “ ชาติหน้ามาเร็วกว่าที่คิดนะครับ “ หญิงสาวในชุดผู้ป่วยยิ้มบางๆเมื่อมีคนถามถึงตัวคนให้ “ ผู้ชายดีๆจ๊ะ “ เธอตอบเพียงแค่นั้น ผู้ชายดีๆที่เธอคิดว่าเป็นยมทูต แต่เมื่อเห็นรอยคมเขี้ยวหล่อนก็รู้เลยว่าไม่ใช่... ผู้ชายดีๆที่พาหล่อนมาทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล พร้อมของขวัญปีใหม่
ผมมองเธอจากดาดฟ้าของโรงพยาบาลยามเย็น อาการเธอดีขึ้นมาก ใบหน้าสดใส ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงตัดสินใจช่วยเธอเอาไว้ สงสัยผมคงจะติดอาการอารมณ์แปรปรวนจากผู้หญิงเป็นแน่ บางทีนี่อาจจะเป็นความรื่นรมย์อย่างหนึ่งในชีวิตที่แสนยาวนานของผมก็ได้ ไม่เป็นไร การเลี้ยง ทำให้มีสุขภาพดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อาจจะเป็นอาหารรสเลิศ ชวนให้ลิ้มลอง ที่รอการมาชิมของผมก็ได้ บอกแล้วอย่างไรละครับว่าผมเป็นนักบริโภคที่ชอบความรื่นรมย์… สวัสดีปีใหม่นะครับ…
++++++++++++
Create Date : 03 มกราคม 2552 |
Last Update : 3 มกราคม 2552 0:51:27 น. |
|
2 comments
|
Counter : 487 Pageviews. |
|
|
|
โดย: beautyswan วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:2:38:18 น. |
|
|
|
โดย: โสดในซอย วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:13:07:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]