Group Blog
สิงหาคม 2559

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
แปลเรื่องสั้นของตัวละครแอนเดอร์ส (Anders) จากเกมดราก้อนเอจ II (Dragon Age II)




  สำหรับภาคอังกฤษ อ่านที่นี่ (x)


แสงที่นี่ไม่ถูกต้อง สีมันเหลืองเกินไป แยงตา แถมยังมาจากด้านบน  ข้างงงันอยู่พักหนึ่งว่าเหตุใดเรื่องนี้จึงผิดปกติดวงอาทิตย์…มันก็อยู่บนนั้นตลอดมาไม่ใช่หรือ นี่ข้านึกจำอะไรอยู่กันแน่

แล้วความทรงจำก็กลับมาหาข้า แดนเฟด ข้าเป็นเมจ ข้าใช้เวลาอยู่ที่นั่น ข้าจำได้มันเป็นดินแดนที่มีแต่ม่านหมอก ดินแดนแห่งความฝัน ข้าจำถูกแล้วแสงที่นั่นไม่เหมือนที่นี่ ที่นั่นแสงส่องมาจากพื้นและกำแพง ไม่ได้มาจากแหล่งเดียวเหมือนที่นี่แต่ข้าเคยแต่ไปเยือนที่โน่นเป็นครั้งคราวนี่นา ทำไมอยู่ ๆ  ข้าถึงรู้สึกเหมือนมันเป็นบ้านไปได้

นี่ข้าจำอะไรไม่ได้อีก

ข้ายันตัวนั่ง แสงมันสว่างขึ้น แล้วก็มืดลง ก่อนจะคงที่ในที่สุด หัวข้ากลับมาปวดตุ้บๆ อีกครั้ง  ด้วยความเคยชิน ข้าดึงพลังมานามาไล่อาการความเจ็บปวดเลือนหายเมื่อเจอพลังเวทเข้าช่วยบรรเทา  ข้าพยายามใช้ความคิด เริ่มด้วยเรื่องง่าย ๆก่อนก็แล้วกัน ชื่อข้า ข้าชื่ออะไร

ข้าชื่อแอนเดอร์ส

ข้าชื่อจัสติส

เมื่อก่อนมันไม่ยักยากเท่านี้เลย

แล้วข้าก็พลันนึกขึ้นได้ เสียงจัสติส เสียงข้าพูดผ่านร่างเปื่อยเน่าที่เขาเคยใช้อาศัย

“ถึงเวลาแล้ว เจ้าให้ข้าเห็นความอยุติธรรมซึ่งร้ายแรงมากกว่าที่ข้าเคยพานพบเจ้ากล้าพอจะรับความช่วยเหลือจากข้าหรือไม่”

ข้ารู้ว่าเขาเสนอสิ่งใด

ถ้าจะอยู่ในโลกมนุษย์ จัสติสจำต้องมีร่างให้เขาคอยใช้อาศัยตลอดชั่วอายุ ไม่ใช่ซากศพที่รังแต่จะเน่าเปื่อยมากขึ้นทุกวันหากข้าตกลงช่วยเขา เขาจะมอบทุกสิ่งที่เขามีให้ข้า ทุกอย่างที่เขาเป็น เมื่อร่วมมือกันพวกเราสองคนจะเปลี่ยนธีดาส/เธดาสให้เป็นโลกที่ความยุติธรรมเป็นสิ่งปกครอง มิใช่ความหวาดกลัว

โลกที่ไม่มีหอคอยเมไจ ไม่มีพวกเทมพลาร์โลกที่เมจทุกผู้เรียนรู้วิธีใช้พรสวรรค์ของตนและยังได้กลับไปนอนบ้านในยามค่ำโลกที่ไม่มีแม่คนใดต้องซ่อนลูกตัวเอง...หรือต้องเสียเขาไปเพราะเพื่อนบ้านหวาดกลัวโลกที่ทุกคนเห็นว่าเวทมนตร์คือของขวัญจากพระผู้สร้างไม่ใช่คำสาปเหมือนอย่างที่เป็นทุกวันนี้

ภาพที่ว่าแทบยากเกินจินตนาการข้า หอคอย ทมพลาร์ทั้งสองสิ่งหล่อหลอมชีวิตข้า ข้าอายุเพียงสิบสองปีเท่านั้นยามพวกเขามาแม่ข้าร่ำไห้เมื่อพวกเขาใส่ตรวนทีข้อมือข้า แต่พ่อดีใจที่ข้าต้องไป พ่อกลัว กลัวมาตลอดตั้งแต่เหตุไฟไหม้ในโรงนาครั้งนั้นไม่ใช่แค่กลัวว่าข้าจะทำอะไรได้บ้าง แต่เขากลัวตัวข้ากลัวว่าเวทมนตร์ที่ข้ามีคือทัณฑ์จากพระผู้สร้าง พ่อคิดว่าพระองค์ลงโทษพ่อโทษฐานที่เคยทำบาปเล็กๆ น้อย ๆ

ข้ารู้อยู่ตลอดแลว่าตัวเองไม่มีวันยอมข้าไม่มีวันเป็นอย่างที่พวกเขาอยากให้เป็น เมจที่อ่อนน้อม เชื่อฟัง ผิดจริงตามเขาว่าแต่ก่อนมาเจอจัสติส ข้าก็ตัวคนเดียว ข้าไม่เคยคิดไกลไปกว่าการหลบหนีของตัวเองว่าจะไปหลบซ่อนที่ใดดี อีกนานเพียงใดกว่าพวกนั้นจะหาตัวพบ

ส่วนในตอนนี้ แม้กระทั่งความคิดนั้นก็ทำข้าสะอิดสะเอียนก็ทำไมกันเล่าที่คนตั้งมากมายต้องทนใช้ชีวิตอย่างที่ข้าไม่ยอมทน ทำไมเล่าหอคอยเมไจจึงยังต้องคงอยู่เพียงเพราะมันมีมาก่อนหรือ เพียงเพราะว่าคนที่ได้อ่านได้ฟังถ้อยคำของเอนดราสเตบิดเบือนให้มันมีความหมายว่าเมจต้องเป็นนักโทษหรือเหตุใดจึงไม่มีใครลุกขึ้นมาปฏิวัติ

“มันใกล้รู้สึกตัวแล้ว” ข้าได้ยินเสียงคนพูดกำลังเข้ามาใกล้นี่เอง ข้ารู้จักเขา เกรย์ วอเดน

“พระผู้สร้างเถอะเขาเป็นอะไรไป ” มากันสองคนอีกคนหนึ่งข้าไม่รู้จัก

“จู่ ๆ มันก็เป็นบ้าขึ้นมา ตาเรืองแสง...ผิวปริแยกเหมือนมีไฟสุมอยู่ข้างในเอาแต่พร่ำอยู่นั่น...เรื่องความอยุติธรรม ปฏิวัติสักอย่างเนี่ยแหละ ตอนแรกนึกว่าข้าต้องฆ่าอ้ายตัวหายนะนี่ทิ้งเหมือนเป็นหมาบ้าแล้วแต่อยู่ดี ๆ มันก็ล้มพับไป”

“พวกเมจเวรตะไล”

ข้าพยายามดันตัวเองขึ้นจากพื้น พยายามลืมตา ประจันหน้ากับพวกเขาอย่างลูกผู้ชายไม่ใช่ซากตัวอะไรสักอย่างที่เฮอร์ลอคคายออกมาอย่างที่รู้สึกอยู่ ข้าพอเห็นละโรแลนด์นั่นเอง แน่นอนว่าต้องเป็นเขา ราคาที่ข้าต้องจ่าย เมื่อพวกเกรย์ วอเดนกรุณาเกณฑ์ข้าให้เข้าร่วมช่วงชิงตัวข้าไปจากใต้จมูกเทมพลาร์ โรแลนด์เคยเป็นพวกนั้น จนกระทั่งพวกสมุนมืดทำลายอารามที่เขาสังกัดแล้วเขารู้สึกว่าพระผู้สร้างประสงค์ให้ตนเองเป็นเกรย์ วอเดนไม่เคยมีใครพูดดอกว่ามีข้อตกลงกัน แต่พอพวกเทพลาร์หยุดเรียกร้องโรแลนด์ก็กลายมาเป็นเกรย์ วอเดน ตั้งแต่นั้นมาเราสองคนก็ทำภารกิจต่าง ๆ ด้วยกันมันชัดเจนเสียยิ่งกว่าอะไรดีว่าพวกนั้นส่งเขามาคอยจับตาดูข้า

ผีห่าตัวใดดลใจให้ข้าตกลงรับปากจัสติสในที่ที่เขาอาจมาเห็น

เมื่อเห็นเขาถนัดตา ข้าก็เสียใจที่ตัวเองเลือกใช้คำนั้น มันปลุกบางอย่างในตัวข้าข้าสงสัยว่าจัสติสจะเข้าควบคุมยากกว่าเดิมหรือไม่หากร่างนั้นทมีจิตอีกดวงหนึ่งอาศัยอยู่แล้วแต่ถามไปก็เท่านั้นความคิดเขาก็คือความคิดข้า เขาก็คือข้าข้าไม่มั่นใจแล้วด้วยซ้ำว่าตนเองสงสัยอะไรอยู่กันแน่

โรแลนด์ขยับมาอยู่ตรงหน้าข้า ตรากริฟฟินสีขาวบนอกเขาเลือนราง ตาข้าพร่ามัวยามเห็นตรารูปดาบเพลิงสีเงินบนเกราะสหายเขาข้ารู้แน่ชัดในวินาทีนั้นเองว่าโรแลนด์ทรยศข้า

“เกรย์ วอเดน เห็นพ้องว่าเราไม่ให้ที่หลบภัยพวกเดนมนุษย์” เขาพูดเสียงขึ้นจมูกเปี่ยมไปด้วยความลำพองใจ ข้าไม่จำเป็นต้องได้ยินมากกว่านั้นดอกเขานำเทมพลาร์มาหาข้า มาหาเรา ซึ่งมันก็คือสิ่งที่เรารอคอยมานานพอดี

ข้าไม่เห็นยามตัวข้าเปลี่ยน เห็นแต่เพียงเงาสะท้อนในตาและเสียงกรีดร้องของพวกนั้นข้าวาดแขนไปข้างหน้า เกราะซิลเวอร์ไลท์ไม่ได้พังภินท์ คล้ายว่ามันระเบิดหลอมกลายเป็นเหล็กร้อน ๆ เสียมากกว่า เนื้อดาบละลาย สาดลงบนอกของเทมพลาร์ผู้นั้นข้าตามซ้ำด้วยพลังเวทเรียกเปลวไฟมาเผาเนื้อหนังใบหน้าเขาจนเหี้ยนเกรียมเหลือเพียงกระดูกกรุ่นๆ ทิวไม้ไหม้ไฟ กระโจมค่าย… ทุกอย่างรอบตัวพวกเรา

โรแลนด์ยังยืนอยู่ ข้าได้กลิ่นลีเรียมที่เขาดื่มเข้าไป มันช่วยกันเขาจากแรงระเบิดเมื่อครู่แต่เขากลัว ข้าเห็นว่าโล่เขาสั่น ข้ารู้ว่าเขาต้านสัญชาตญาณที่บอกให้หนีแทบไม่ไหว แล้วความคิดก็พลันวาบเข้าสมองข้าขึ้นมา“นี่ข้าเป็นตัวอะไร” ข้าเคยประจักษ์มาแล้วว่าเขาต่อกรกับนางพญาโขยงสมุนมืดและพวกเดนมนุษย์โดยไร้ซึ่งความกลัว

ดาบเขาปะทะกับอกข้า ข้าปล่อยให้โดน  มันก็แค่เหล็ก เหล็กทำอะไรข้าไม่ได้ข้าไม่ใช่คนธรรมดา พอด้ามดาบฝังลึกในอกข้าจนมิดแต่ไม่เห็นข้าแสดงท่าทีอะไรโรแลนด์ก็ยอมแพ้ เขาหันหลังแล้วออกตัววิ่งหนีข้ากระชากหัวเขาให้หลุดจากคอจากด้านหลัง ไม่ได้ใช้เวทมนตร์ ตัวข้าอย่างเดียวเนี่ยแหละไม่ว่าตอนนี้ข้ากลายเป็นตัวอะไรไปแล้ว เลือดเขากระเซ็นเข้าปากข้ารสชาติมันเหมือนไวน์ใส่น้ำผึ้ง ข้ารู้สึกอุ่นวาบไปทั่วทั้งตัว เขาเกลียดข้าตอนนี้เขาก็ตายแล้ว เขากลัวข้า ตอนนี้เขาก็ตายแล้ว เขาตามล่าข้าตอนนี้เขาก็ตายแล้ว

พวกมันต้องตายกันให้หมด เทมพลาร์ทุกตัว ซิสเตอร์ทุกตัวทที่ขวางทางสู่เสรีภาพของเราจะต้องตายอย่างทรมานความตายของพวกมันจะคอยสุมเชื้อไฟให้พวกเรา เราจะได้รับความยุติธรรม เราจะได้ล้างพยาบาท

ข้าเพิ่งมารู้สึกตัวว่าอยู่คนเดียว ยืนอยู่ท่ามกลางป่าที่กลายเป็นทะเลเพลิงแทบเท้าข้ามีแต่ร่างเทมพลาร์และเกรย์ วอเดน มีมากมายเหลือเกินข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาอยู่ที่นี่กันด้วย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้าเป็นคนฆ่า แต่ทุกสิ่งรอบตัวข้าต่างยืนยันอย่างเดียวกันมันไม่ใช่สภาพสมรภูมิหลังเสร็จศึกอย่างที่ข้าเคยคุ้นชิน หากแต่เป็น โรงเชือดที่ฉานไปด้วยเลือดและเศษอวัยวะมนุษย์

นี่ไม่ใช่ความยุติธรรม นี่ไม่ใช่วิญญาณที่เป็นสหายข้า ตัวข้าเขากลายเป็นอะไรไปแล้ว ข้ากลายเป็นอะไรไปแล้ว เราต้องรีบไปจากที่นี่ไม่มีที่ให้ข้าอยู่ในหมู่เกรย์ วอเดนอีกแล้ว

บนโลกนี้ยังมีที่ให้ข้าอยู่อีกไหม




Create Date : 11 สิงหาคม 2559
Last Update : 11 สิงหาคม 2559 18:11:26 น.
Counter : 599 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

What I want I cannot have
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]