|
RRR 4 :: กุนซือ เบื้องหลังท่านผู้นำ
อันเนื่องมาจากโครงการ RRR อีกเช่นเคยเป็นโจทย์ข้อที่ 4 แล้ว ในขณะที่หนังสือในโครงการ TBR ของเรายังไม่มีอะไรคืบหน้ามาเลย ไม่เป็นไรอีกตั้ง 4 เดือนกว่าๆ จะหมดปี ...ค่อ่ยๆ สลับอ่านไปละกัน
หนังสือเล่มนี้ตอนแรกเลือกมาอ่านเื่พื่อจะตอบโจทย์ใหม่ที่ให้อ่านหนังสือ 2 เล่ม 2 ประเด็น เราก็เลยเลือกเล่มบางๆ ขืนเลือกเล่มหนาอีก ก็ต้องอ่านกันนานอีก แต่พออ่านจบมันไม่ใช่ ..ไม่ตรงโจทย์นั้น เลยต้องเปลี่ยนมาเคลมคะแนะจากโจทย์อื่นแทนกันไป
กุนซือ : น. สร้อยอินทนิล
สำนักพิมพ์ดอกหญ้า พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน 2540 ราคา 95 บาท / 200 หน้า ไม่ระบุปีที่ซื้อ
โปรยปกหลัง เมื่อผู้มีอำนาจสูงสุด คุมบังเหียนโดยขาดทิศทาง วงล้อแห่งอธิปไตยจึงกลับซ้ำรอยเดิม หากคราวใดความสัมพันธ์และผลประโยชน์ มีคุณค่าเหนือกว่าความบริสุทธิ์ใจ ครานั้น คนดีที่ทุ่มเทหัวใจให้กับงาน ...จะถูกเขี่ยให้พ้นทาง กุนซือ นวนิยายตีแผ่วงการเมืองในยุครัฐบาลรัฐประหารกำลังเฟืองฟู
โปรยปกใน - หน้า ในคณะรัฐบาลชุดนี้มีบุคคลหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์และประเมินเรื่องต่างๆ ให้นายกรัฐมนตรีตัดสิน ตำแหน่งประธานคณะบัญชางาน สำนักนายกรัฐมนตรี กลายเป็นตำแหน่งสำคัญมากในคณะรัฐบาล นักข่าวบางคนเรียกตำแหน่งนี้อย่างไม่เป็นทางการว่า "กุนซือ"
น. สร้อยอินทนิล คือใคร...ไม่รู้..ตอนที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ คงเป็นเพราะสนใจพล๊อตมากกว่า จากคำนำสำนักพิมพ์ ก็ได้รู้จักผู้เขียนมากขึ้น
"กุนซือ" เล่มนี้ เป็นนวนิยายที่ "น. สร้อยอินทนิล" ผู้มีประสบการณ์หลากหลาย คุ้นเคยกับเวทีกาพย์กลอน เรื่องสั้น และงานด้านภาษา ตลอดจนงานหนังสือมาแล้วพอสมควร ทั้งในชีวิตการศึกษาและการทำงานก็ได้เกี่ยวข้องกับวิชารัฐศาสตร์และการเมืองมาพอตัว เตยไปอยู่สถานทูตในต่างประเทศ จึงได้เห็นชีวิตนักการทูต และด้วยความที่เป็นคนสนใจเกี่ยวกับบทบาทของนักการเมืองไทย สมัยประชาธิปไตยล้มลุกคลุกคลานเป็นอย่างมาก ด้วยแรงบันดาลใจที่อยากถ่ายทอดให้ทุกคนได้รับทราบถึงอดีตที่ผ่านมา จึงได้เขียนนวนิยายแนวการเมืองที่น่าสนใจเล่มนี้
ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนข้างต้นนี้เอง ตัวเอกของเรื่อง จึงทำงานเป็นทูตประจำต่างประเทศ ถูกเรียกตัวกลับเมืองไทยเมื่อเกิดการรัฐประหาร โดยท่านแม่ทัพผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม
เมื่อทราบเจตจำนงและความตั้งใจของหัวหน้าคณะปฎิวัตินี้แล้ว ท่านทูตปฏิเสธตำแหน่งรัฐมนตรี โดยสิ้นเชิง แต่ท่านแม่ทัพก็หว่านล้อมและเสนอตำแหน่งใหม่ให้แก่ท่านทูตจนได้
"ผมเข้าใจท่านทูต แต่เสียดายความรู้และความซื่อสัตย์สุจริตของท่าน ผมต้องการคณะรัฐมนตรีที่ประกาศออกไปแล้วประชาชนไม่ร้องยี้ จึงอยากให้ท่านร่วมรัฐบาล แต่เมื่อท่านทูตยืนยันแข็งขันผมก็ต้องยอม แต่ท่านทูตต้องยอมผมบ้างโดยมาช่วยผมในฐานะที่ปรึกษา ผมจะตั้งท่านทูตเป็นประธานคณะบัญชางานสำนักนายกรัฐมนตรี" ท่านหัวหน้าปฏิวัติผู้ชาญฉลาดเสนอตำแหน่งใหม่ ที่ไม่เคยมีอยู่ในทำเนียบข้าราชการทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายประจำในประเทศไทยมาก่อน ให้แก่คู่สนทนาที่เป็นพลเรือน ...
"ก็หน้าที่ประธานที่ปรึกษานายกนั่นแหละท่านทูต ให้คำปรึกษาผมได้ทุกเรื่อง ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ผมมีความรู้ทางด้านที่ว่านี้น้อย ก็ต้องพึ่งท่านทูตละ ตำแหน่งนี้อย่าปฏิเสธเลยนะครับ"
ท่านทูตไชยาตอบรับตำแหน่งนี้ และช่วยท่านนายกทหารคิดและจัดการกับปัญหาต่างๆ ให้คลี่คลาย เรียบร้อย ได้อย่างละมุมละม่อม ทั้งการประท้วงเรื่องค่าแรง การประท้วงก็กลุ่มเกษตรกร ความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา จนใครต่อใครก็ทราบกันว่า บุคคลสำคัญอีกคนเบื้องหลังนายกรัฐมนตรี คือ กุนซือ
อำนาจ ชื่อเสียง ก็มาพร้อมๆ กับศัตรูผู้ป้องร้าย บุตรสาวท่านทูต ชอบพอกับบุตรชายท่านนายก ท่านทูตเองก็สังเกตเห็นไ้ด้ กลับกลายเป็นว่า สังคมมองว่า ท่านทูตเตรียมเสนอบุตรสาวของตัวให้เป็น "น้อย" ของท่านนายก ซะงั้น
นี่ยังเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่เริ่มต้นขึ้นเมื่อรัฐบาลคิดทำโครงการใหญ่ ต้องกู้เงินต่างชาิติ ต้องจัดประมูลงาน ซึ่งท่านทูตอยู่ในตำแหน่งประธานคณะกรรมการชุดนี้ ก็เลยถูกฝ่ายที่วิ่งล้อบบี้ไม่เป็นผลสำเร็จ ออกข่าวใส่ไคล้ ทำนองว่าคอรัปชั่่น รับเิงินจากบริษัทที่ชนะการประมูล ... เพราะเรื่องนี้ทำให้นายกกับท่านทูตแตกคอกัน นั่นเป็นเพราะฝ่ายบริษัทที่ปล่อยข่าวนั้น ...อย่างไรเสีย
พรรคพวกในคณะรัฐบาลหลายคนก็มีหุ้น อีกทั้งผลการประมุลก็ยังไม่ประกาศเป็นทางการ ก็ถือว่าฝ่ายนั้นประมูลได้ไปซะ
ท่านนายกเห็นควรแบบนั้น ...แต่ท่านทูตไม่ยอม มันจะกลายเป็นว่าข่าวลือนั่นกลายเป็นข่าวจริง ...จึงขอลาออก ย้ายตัวเองไปอยู่ต่างประเทศซะ ....บุตรสาวท่านทูตจึงลาออกจากงานและย้ายตามไปด้วย เรียกได้ว่า โกรธกับลูกชายนายกไปด้วยนั่นแหละ และท้ายที่สุดแล้ว คณะรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ก็ถูกรัฐประหารอีกครั้ง เป็นอันจบเรื่อง
อ่านไปก็คิดถึงภาพการเมืองในความทรงจำตามไปด้วย ... วัฏจักรการเมืองไทยวนเวียนไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รัฐธรรมนูธที่ได้มาจากการ "บังคับ" มอบออกมา ก็ยังเป็นไปอยู่เช่นนั้น ปฏิวัติ รัฐประหาร คืนอำนาจ เลือกตั้ง แล้วปฏิวัติ วนไปวนมาอยุ่นั่นเอง
นิยายเรื่องนี้ ยังเขียนได้อีกยาวนัก พอตัดจบ เลยรู้สึกค้างคา ยังไม่จุใจ ... เราทำอะไรไม่ได้ ก็ตัดจบไว้แค่นี้เหมือนกัน
ใช้เล่มนี้ ตอบโจทย์ 15-4. [ยาคูลท์] หนังสือที่ชื่อผู้แต่งมีตัวย่อ (เช่น ก. สุรางคนางค์, พ. เนตรรังษี) และหนังสือต้องหนา 100 หน้าขึ้นไป ในกระทู้ //www.pantip.com/cafe/library/topic/K8150310/K8150310.html ความเห็นที่ 119
ความเห็นที่เคยรีวิวไว้
ผู้นำมีความสำคัญมากเพียงใด กุนซือผู้เคียงข้างผู้นำย่อมสำคัญเพียงนั้น "กุนซือ" นวนิยายตีแผ่วงการเมืองในยุครัฐบาลรัฐประหารกำลังเฟืองฟู
นิยายขนาดสั้นเรื่องนี้เขียนและตีพิมพ์ใน "สตรีสาร" ช่วงปี 2524 เมื่อถึงตอนที่ 2 บ้่านเมืองก็เกิดการรัฐประหารพอดิบพอดี ...
นิยายเรื่องนี้ เราว่าออกจาก "เบา" ไปหน่อยแม้ประเด็นจะดูเหมือนหนัก เพราะเป็นเรื่องการเมือง การปกครอง แต่ถ้าอ่าน "ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน" มาแล้ว น้ำหนักในแต่ละจุดค่อนข้างโหวงๆ ชอบกล
เมื่อนายทหารใหญ่ระดับนายพล ยึดอำนาจจากรัฐบาลเดิม ก็เชิญตัว "ท่านทูต" ที่เคยรู้จักและเชื่อถือมาร่วมรัฐบาล แต่ท่านทูตเล่นการเมืองไม่เป็น ก็เลยให้ความช่วยเหลือเพียงแค่ ขอเป็นที่ปรึกษา เท่านั้น ท่านแม่ทัพใหญ่ หัวหน้าคณะรัฐประหารก็แต่งตั้งให้เป็น ประธานคณะที่ปรึกษาบัญชาการ" อันเป็นตำแหน่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ในช่วงแรกหลังจากทำรัฐประหาร วิสัยทัศน์และการแก้ปัญหาของท่านมแม่ทัำพผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ค่อนข้างดี นำพาประเทศไปในทิศทางที่ OK เพราะทำตามคำแนะนำจาก "ท่านทูต" กุนซือข้างตัว แต่แล้วก็มาถึงจุดหนึ่ง เมื่อประเทศต้องทำโครงการก่อสร้างโรงกรองน้ำเสีย ก็มีผู้วิ่งมาล๊อบบี้ท่านทูตในฐานะคณะกรรมการดำเนินการประมูล พอไม่สำเร็จก็จะแบล็กเมล์ แต่ก็ไม่สำเร็จอีก สุดท้ายก็ปล่อยข่าวในทำนองว่า ท่านรับสินบนจากอีกบริษัทที่ชนะการประมูล ประเด็นคอร์รัปชั่น ก็เกิดขึ้นตรงจุดนี้ แต่ความที ท่านนายกห่วงว่า อำนาจจะลดถอย หากเชื่อคณะกรรมการประมูลชุดนี้ ให้บริษัททางสวิสชนะประมูล แทนที่จะเป็นบริษัทจากฝรั่งเศสซึ่งมีบริษัทตัวแทนไทย (และมีพรรคพวกผุ้ร่วมรัฐบาลเป็นกรรมการบริษัทด้วย) ท่านทูตเดินเกมการเมืองพลาด เลยลาออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่ง จากนั้นไม่นานต่อมา คณะรัฐบาลชุดนี้ ก็ถูกลูกน้องเก่ายึดอำนาจ รัฐประหาร จนได้
มีประเด็นเรื่องรักๆ แทรกมานิดหน่อย ระหว่างลูกสาวท่านทูตกับลูกชายท่านแม่ทัพ
เราว่าเรื่องนี้ถ้าเขียนขยายเป็นนิยายขนาดยาว คงสนุกกว่านี้ ประเด็นและเหตุการณ์ก็น่าสนใจดี เสียแต่ว่า ไม่ปูพื้น เริ่มเร็ว จบเร็วไปหน่อย
มีข้อความช่วงท้ายที่ "โดน" ขอยกมาซะหน่อย
"อะไรๆ ก็การเมือง ทำไมการเมืองมันจะดีบ้างไม่ได้ ผู้มีอำนาจเล่นการเมืองแบบนี้ บ้านเมืองจะเจริญได้อย่างไร ปัญหาต่างๆ หมักหมมมานานยังไม่พอ ยังมีพลังคร่ำครึที่จะรั่งความเจริญ แถมผู้มีอำนาจบางคนก็มีสายตาสั้น เห็นแก่เรื่องผลประโยชน์ถ่ายเดียว อย่างนี้วันหนึ่งก็จะแย่งอำนาจกันเพื่อแบ่งผลประโยชน์กันอีก แล้วการรัฐประหารก็จะเกิดขึ้นเป็นวงจรไม่รู้จบ หัวหน้าคณะปฏิวัติหนึ่งก็จะถูกปฏิวัติโดยคณะปฏิวัติใหม่ต่อไป ท่านนายกฯ เองก็ระวังไว้เถอะค่ะ"
Create Date : 11 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 23:18:18 น. |
|
6 comments
|
Counter : 962 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:16:29:26 น. |
|
โดย: nikanda วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:21:41:22 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:22:03:22 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:8:11:24 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
ชอบข้อความที่ยกมาเช่นกัน