อันเนื่องมาจากโครงการ RRR อีกเช่นกัน
และยังคงเป็นหนังสือนอกรายการที่แจ้งไว้แต่ต้นด้วยล่ะ
เพราะได้อ่านเล่มแรก จึงไปหยิบเล่มที่ 2 จะได้เคลมคะแนนตามโจทย์ได้

สายใยรัก : กนกวลี พจนปกรณ์

สำนักพิมพ์อรุณ พิมพ์ครั้งที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ราคา 125 บาท / 149 หน้า
ซื้อเมื่อ : 25 กรกฎาคม 2552

เราอ่านผลงานของ กนกวลี พจน์ปกรณ์ ไม่มากนัก
แต่ซื้อเล่มนี้มา เพราะเห็นเป็นนิยายสั้นๆ ที่มีคำโปรยปกน่าสนใจ
แหม...พล๊อตน้ำเน่าแบบนี้ ชอบนักล่ะ ในช่วงเวลาที่ชีวิตไม่อยากเครียด
อ่านเรื่องแบบ...ขายตัวใช้หนี้...ง่ายดี ไม่ต้องคิดตามให้เหนื่อยสมอง
เราซื้อหนังสือเล่มนี้จากร้าน 50% ใส่ถุงพลาสติกไว้ เลยไม่ได้ทำความรู้จักหนังสือก่อนซื้อ นอกจากอ่านโปรยปกหลัง
กลับมาอ่านที่บ้าน ถึงได้ทราบว่า เป็นนิยายรุ่นแรกของนามปากกานี้
ห่างจากฉบับพิมพ์ครั้งแรก 20 ปี ...ซึ่งพล๊อตลักษณะนี้ ก็ยังพบเห็นจากนักเขียนรุ่นเยาว์
รึว่า..การขายตัวใช้หนี้ แบบตั้งใจ แบบถูกหลอก จะเป็นพล๊อตยอดนิยมของนักเขียนมือใหม่

สายสุรีย์ สาวน้อยวัยยี่สิบกว่าๆ เธอตกปากรับคำว่าจะ "ช่วยพ่อ"
"พ่อจะให้หนูช่วยยังไงล่ะคะ"
เธอย้อนถามงงๆ คุณฤทธิ์ไม่ได้บอกรายละเีอียดอะไรเพิ่มเติม
แต่คาดคั้นเอาคำมั่นสัญญาแทนว่า
"หนูจะช่วยพ่อหรือ แน่ใจนะว่าหนูจะไม่เปลี่ยนใจ ตอนนี้ความหวังของทุกคนในบ้าน
ขึ้นอยู่กับหนูคนเดียว ถ้าหนูช่วย น้องก็จะได้เรียนต่อ พ่อก็ปลอดหนี้
พ่อจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่สักที"
สายสุรีย์ถอนหายใจ เมื่อพ่อพูดอย่างนี้แล้ว เธอในฐานะลูกจะปฏิเสธอย่างไร
หญิงสาวตัดสินใจรับปาก ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่า พ่อจะให้เธอช่วยเหลือด้วยวิธีไหน

จากนั้น ก็เป็นกระบวนการสร้่างฉากพบกัน ...พ่อกับแม่เลี้ยงเชิญพระเอกมาทานข้าวที่บ้าน
โดยมาวุ่นวายจับนางเอกแต่งตัวให้สวย...

ใช่...คุณตรีคนนี้ เธอเคยเห็นมาก่อน ก็เห็นเขาจากข่าวคราวในหน้าหนังสือพิมพ์นั่นเอง
เขาเป็นหนุ่มใหญ่วัยสามสิบเศษ หน้าที่การงานใหญ่โต เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่
ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการธนาคาร และบัดนี้ตรีได้เข้ามารับผิดชอบกิจการนี้อย่างเต็มตัว
สายสุรีย์ยังนึกออกว่า นอกจากชื่อเสียงด้านหน้าที่การงานและฐานะของเขาแล้ว
ยังมีชื่อเสียงอีกด้านที่กล่าวขานกันหนาหู นั่นคือ ความเจ้าชู้
เขามักจะมีข่าวควงหญิงสาวคนโน้นคนนี้อยู่เสมอ

สายสุรีย์ไม่รู้หรอกว่า ..แม่เลี้ยงเธอเดินแผนยังไง
ส่วนพระเอกของเรารู้เท่าทันความคิดของพ่อแม่เธอ
แต่เขาก็ประทับใจกับรูปลักษณ์แรกพบกับเธอ
ข้อเสนอออกจากฝ่ายพ่อแม่รึฝ่ายพระเอก ในเรื่องไม่ระบุชัด
แต่ที่สายสุรีย์รับทราบมาคือ

"เขาติดใจสายแล้วนะ พ่อกับน้าได้พูดกันแล้วก็เห็นดีเห็นงามด้วย
เพราะเราติดหนี้แบงก์เขาอยู่มาก ถ้าทางหนูไม่มีปัญหาอะไร
เืีรื่องหนี้สินนั่น เขาก็จะยกให้"
สายสุรีย์ได้แต่นิ่งงัน บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร เธอได้แต่มองหน้าพ่ออย่างน้อยใจ
และเสียใจ ผิดกับผู้เป็นพ่อที่หัวเราะหึๆ

สายสุรีย์มีน้องชายที่กำลังเรียนหนังสืออยู่คนหนึ่ง เธอจึงตกลงใจช่วยพ่อ ตามวิธีของพ่อ
เพราะหวังให้น้องได้เรียนหนังสือต่อให้จบ ทดแทนบุญคุณพ่อไปด้วย
เธอย้ายมาอยู่คอนโดกับตรี..ใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
ไม่เรียกร้องอะไรเพิ่มเติม จากสิ่งที่เขาจัดหาให้ ร่วมทั้งเงิน
โดยมีแม่เลี้ยง มาคอยตักตวงจากเธอ...ซึ่งเรื่องนี้ตรีรู้
เขาจึงเห็นว่า นางเอกของเราแปลกกว่าสาวอื่นๆ ที่เคยคบหา
ความใกล้ชิด สร้างความประทับใจขึ้นที่ละเล็กละน้อย
ตรีไม่ได้ล่วงล้ำหรือหักหาญน้ำใจสายสุรีย์เลย ทำให้เธอประหลาดใจเหมือนกัน
ก็ไหนว่า เป็นคนเจ้าชู้ ...แต่เธอก็ยังเห็นข่าวตรีควงสาวอยู่คนนึง
ข่าวซุบซิบว่า คนนี้เป็นตัวจริง หวังแต่ง
พอเธอยินยอมพร้อมใจตกเป็นของตรีแล้ว เธอก็ยิ่งเจียมตัวเจียมใจยิ่งขึ้น
เพราะเชื่อว่า ครบสัญญา 3 ปี เธอต้องไปจากเขา
หรือถ้าเขาแต่งงาน ก็จะขอไปจากเขาก่อนครบสัญญา

แต่เรื่องนี้คลี่คลาย ความรักที่ต่างฝ่ายต่างเก็บไว้ในใจก็เปิดเผย
สุดท้ายก็ Happy Ending ยิ้มได้เมื่อปิดหนังสือลง ...
แม้พล๊อตจะเกร่อ เห็นบ่อย อ่านมาหลายเรื่อง หลายนักเขียน
แต่สำนวนของกนกวลีเรียบเรื่อย ไม่มีถ้อยคำแบบซึ้งๆ ติดใจ
แต่มีฉากให้อมยิ้ม เขินอาย แทรกมาบ้าง
อ่านได้แบบรวดเดียวจบเลย...

เราเห็นว่าหนังสือเล่มบางๆ อ่านจบแล้ว น่าจะเก็บไปเคลมคะแนนจาก RRR ได้บ้าง
ก็เลยมาไล่อ่านโจทย์ดูว่่าจะเข้าโจทย์ไหนดี ...แล้วก็เจอโจทย์ที่เหมาะสม
ต้องหาอีกเล่มมาอ่านซินะ ขอเป็นเล่มบางๆ หน่อยจะอ่านจบเร็ว
ไม่ค้างเติ่งเหมือน 5 เล่มที่เลือกไว้แต่แรก เลยมาลงตัวที่เล่มนี้

คือรัก : ดวงตะวัน

พิมพ์คำสำนักพิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2547 ราคา 80 บาท / 149 หน้า
ได้รับเมื่อ : 23 ตุลาคม 2547

โปรยปกหลัง
“ปี๊บเห็นต้นแก้วนั่นไหม ตอนนี้มีแต่ใบเขียว
ไม่มีดอกเลยสักดอก แต่สักวันเมื่อถึงฤดูกาล
ถึงเวลาที่เหมาะสม น้ำ แดด และอุณหภูมิที่พอเหมาะพอดี
ต้นแก้วก็จะผลิดอก เบ่งบาน งดงาม
ไม่มีใครหรืออะไรห้ามได้หรือเร่งได้
...พี่เชื่อว่า ความรักก็เหมือนต้นไม้ดอกไม้
มันมี “เวลา” ของตัวเองที่จะเบ่งบาน
...มี “ทาง” ของตัวเองที่จะแล่นโลดไป”

การค้นหาตัวตนที่แท้จริงของ “ดวงตะวัน”
โดยตัวละครจาก แผ่นดินหัวใจ รุ้งจันทร์ตะวันดาว และ รักแผลงฤทธิ์

ดวงตะวันเขียนเรื่องนี้เป็นหนังสือแถมสำหรับผู้ซื้อหนังสือของเธอ 2 เล่มในงานหนังสือเดือนตุลา
เธอบอกกับคนอ่านว่า

"...และหากจะให้ตอบลึกลงไปกว่านั้น คือรัก คือนิยายขนาดสั้น
ที่นักเขียนคนหนึ่ง เขียนขึ้นอย่างนึกสนุกไปกับคนอ่าน
ที่มักมีจดหมายเย้าแหย่ ส่งอีเมล์มาแซว โปสการ์ดมาโวยวาย บ่น และดุ
ทุกครั้งที่อ่านข้อความเหล่านี้น ก็มักมี "ภาพ" ผู้อ่านอยู่ในใจนักเขียนเสมอ
ไม่ใช่ภาพของใครคนใดคนหนึงก็จริง แต่ภาพนั้นกลับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ชัดพอๆ กับภาพของตัวละครที่นักเขียนปั้นแต่งขึ้นในนิยาย
และชัดเช่นเดียวกับความรู้สึกสนุกในใจนักเขียนที่เย้าแหย่ อยากแซวนักอ่านบ้าง..."

ด้วยเหตุนี้ ...นิยายเรื่องนี้จึงดำเนินเรื่องอยู่ในบรรยากาศของ "งานหนังสือ"

เรื่องราวของสาวน้อย "พริบพันดาว" ที่เกิดไปเห็นชายหนุ่มชื่อ ตะวัน เซ็นลายเซ็น "ดวงตะวัน"
เธอก็เลยเกิดความไม่แน่ใจว่า นักเขียนสาวที่เธอเพิ่งซื้อหนังสือ
เพิ่งขอลายเซ็นในบูธเมื่อตะกี้นั้น คือ "ดวงตะวัน" ตัวจริงหรือไม่
แล้วยังมีเพื่อนๆ ของชายหนุ่มชื่อ ฉายฉาย ศรา โมลี บายศรี รุ่งเช้า ปรากฏตัวราวกับโดดออกมาจากนิยายที่เธออ่าน
พริบพันดาว พยายามติดตามค้นหาให้ได้ว่า "ตะวัน" คือ ดวงตะวัน
แม้ว่า "ซัน" ชายหนุ่มวัยใกล้เคียง ผู้เป็นหลานชายนั่น จะบอกว่า ไม่ต้องหาหรอก
ปล่อยเรื่องของนักเขียนไว้อย่างนั้น ....และสนุกกับการอ่านผลงานของเขาต่อไปเถอะนะ
ความสงสัยของพริบพันดาว พาให้เราสงสัยไปด้วย
แต่อะไรก็ไม่สนุกเท่า "ดวงตะวัน" หยิบเอาคำพูด คำบ่น ของนักอ่านมาไว้ในเรื่องนี้ด้วย

"น้องช่วยบอกคุณดวงตะวันด้วยนะคะว่า ช่วยทำปกให้เป็นเซ็ตเดียวกันหน่อยไม่ได้หรือ
เสียดายปกแบบเก่าที่ซื้อไปแล้วน่ะค่ะ"

หรือการบรรยายบรรยากาศของงานหนังสือ
และความรู้สึกของนักอ่าน "หนอนหนังสือ" ทั้งหลายได้ตรงใจเราสุดๆ

...ถึงไม่ซื้อ ก็ขอแค่ได้ไปอยู่ในท่ามกลางสิ่งของที่เ่ราสนใจ
พบปะผู้คนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ...แค่ดู แค่ชม ก็ชื่นใจ มีความสุขแล้ว

แต่แล้วในท้ายที่สุด

พริบพันดาวกระชับหนังสือ คือรัก แนบอก
"ใช่ ซัน ไม่ว่าดวงตะวันตัวจริงจะเป็นใคร แต่เวลานี้
ฉันรู้แล้วว่า ใครคือ 'ดวงตะวัน' สำหรับฉัน"

เป็นอันว่าผ่านไปอีก 2 เล่มในโครงการ RRR สำหรับตอบโจทย์ข้อนี้
20-4. [ยาคูลท์] อ่านหนังสือ 2 เล่มที่ชื่อเรื่องมีคำเหมือนกัน (เช่น ฤดูดาว + ฤดูกาลของหัวใจ)
ได้รีวิวเคลมคะแนนไว้ที่กระทู้นี้
//www.pantip.com/cafe/library/topic/K8094480/K8094480.html
ความเห็นที่ 194

เรื่องรักจาก 2 นักเขียน...
เรื่องหนึ่งเป็นความรักที่ค่อยๆ คุ้นเคย และเบ่งบานไปตามระยะเวลา
อีกเรื่องหนึ่งเป็นความรักแบบปุ๊บปั๊บ ไม่ได้ตั้งตัว
แต่ทั้ง 2 เรื่องก็สร้างรอยยิ้ม ความอบอุ่น แบบอิ่มในหัวใจให้คนอ่านได้อย่างดี

---

เนื้อหาที่รีวิวไว้ก่อนหน้านี้

เล่มแรก
สายใยรัก: กนกวลี พจนปกรณ์
สำนักพิมพ์อรุณ พิมพ์ครั้งที่ 3 : กุมภาพันธ์ 2552
ราคา 125 บาท / 149 หน้า

นิยายเก่าตั้งแต่ีปี 2531 ที่นำกลับมาตีพิมพ์ใหม่...เราไม่ได้ติดตามงานเขียนของคุณกนกวลีมาแต่แรกเริ่ม ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องออกใหม่
ก็แม้..โปรยปกหลัง..มันชวนให้อ่านนี่นา

"ความใฝ่ฝันของสายสุรีย์พลันดับวูบ
เมื่อต้องมารับรู้ึถึงหนี้สิ้นก้อนโตที่พ่อก่อขึ้น
และหนทางเดียวที่จะ "ปลดหนี้"
นั่นก็คือ..ตัวเธอ.. พร้อมสัญญาอัปยศ..สามปี
อึ้ง อาย และอดสู คือความรู้สึกที่ประดังเข้ามา
เมื่อต้องจำทนรับสภาพ "เมียบำเรอ" ของตรี นายธนาคารหนุ่มหล่อ
เจ้าสำราญ ผู้มีดวงตาคมกริบและ "รู้ทัน" เกมปลดหนี้นี้อย่างทะลุปรุโปร่ง"

ไงล่ะ..พล๊อตง่ายๆ ที่หาได้ทั่วไปจากทั้งนิยายไทยนิยายเทศ
อ่านเอาเพลิน...ตัวละครไม่กี่ตัว
เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อพ่อขอร้องให้ลูกสาวช่วย โดยไม่บอกว่าจะให้ช่วยอย่างไร
แล้วคนเจ้ากี้เจ้าการจัดฉากให้สาวน้อยวัยเริ่มทำงานได้พบกับนายธนาคารหนุ่มวัยสามสิบกว่าปีนี้
ก็คือ แม่เลี้ยง....
เมื่อเห็นหน้ากันแล้ว..พระเอกประทับใจนางเอกยังไงไม่ได้บรรยายไว้
แต่ก็มีข้อเสนอผ่านมาทางพ่อนางเอก ให้นางเอกจำยอม ย้ายไปอยู่คอนโดกับพระเอก
เพื่อปลดหนี้ห้าล้าน...แต่จ่ายให้ก่อนแค่ครึ่งเดียว อีกครึ่งก็เมื่อเขาได้ตัวนางเอกแล้ว
แต่จากที่อ่าน..พระเอกคงถูกใจนางเอกจริงๆ แต่อาศัยความเจ้าเ่ล่ห์เอาตัวลูกสาวเขามานั่นแหละ
ได้มาแล้ว ก็ไม่ทำอะไร แค่เอาอกเอาใจ ให้คอนโด ให้รถ และบอกเงื่อนไขข้อตกลงด้วยตนเอง
เรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ เน้นให้เราสัมผัสถึงความทุกข์ใจ ความไม่แน่นอนของนางเอก
ความอบอุ่นแบบผู้ใหญ่ของพระเอก ไม่ได้แสดงให้เห็นบทเจ้่าชู้อย่างคำข่าวลือเลย...
ทำให้นางเอกยินยอมพร้อมใจด้วยตนเอง ...แต่ก็อยู่ด้วยความหวาดหวั่นว่า
ชีวิตจะเป็นอย่างไร เมื่อสัญญานี้สิ้นสุด...
แต่ยังไงก็ตาม เรื่องนี้ก็จบแบบมีความสุข..คู่รักเข้าใจกันในที่สุด...

หนังสือเล่มนี้ซื้อมาเมื่อวานนี้จากร้าน 50% (เช่นเคย) ซื้อเพราะโปรยปกหลังนั่นแหละ
เกิดอยากรู้ขึ้นมาคุณกนกวลีเขียนเรื่องแนวนี้ออกมาแบบไหน
เพราะที่เคยอ่าน..ไม่ใช่แนวนี้
ถึงได้รู้ว่าเป็นงานเขียนยุคแรกๆ และเป้นเรื่องที่เธอรักซะด้วย
...นักเขียนหัดใหม่เนี่ย..เค้ามักเริ่มเขียนนิยายกันด้วยพล๊อต ปลดหนี้ แม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง กันรึยังไงนะ ?

เอาล่ะ..อ่านจบแล้วมานั่งคิดอีกที ..เห็นว่าเพื่อนๆ รีวิวนิยายกันส่วนใหญ่
ไอ้เล่มที่เราเลือกไว้อย่างหนานั่นก็ขยับไปทีละนิด
อย่ากระนั้นเลย เอาเล่มนี้มาเก็บคะแนนบ้า้งแล้วกัน ไล่ดูก็พอจะมีเข้ากับโจทย์้ได้ 2 ข้อแต่ว่าเราต้องอ่านอีกเล่มด้วย

ตกค่ำเราก็เลยเลือกหนังสือจากชั้นหนังสือลงมาได้อีกเล่ม

เล่มที่สอง
คือรัก : ดวงตะวัน
พิมพ์คำสำนักพิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2547
ราคา 80 บาท / 143 หน้า

เล่มนี้ได้มาฟรี..ตอนซื้อหนังสือของ "ดวงตะวัน" 2 เล่มในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปี 47 นั่นแหละ
คุณนักเขียนเขียนเป็นบรรณาการให้นักอ่าน
โดยเอาตัวละครจาก แผ่นดินหัวใจ รุ้งจันทร์ตะวันดาว และรักแผลงฤทธิ์
ออกมาโลดแล่นอีกครั้ง..เพื่อให้ "พริบพันดาว" ได้ตื่นเต้น และติดตามค้นหาว่า "ดวงตะวัน" คือใครกันแน่
ใช่ นักเขียนสาวที่แจกลายเซ็นให้เธอ หรือ
เป็นชายหนุ่ม ที่ยืนหลบมุมแอบมองอยู่มุมบูธ หรือว่า
เป็นหนุ่มน้อยอีกคน ที่ชวนเธอพูดคุย
แต่ไม่ว่าสุดท้ายแล้ว พริบพันดาว จะรู้หรือไม่ว่า คนไหนคือ "ดวงตะวัน" ตัวจริง
แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่า "ใครคือ 'ดวงตะวัน' ในใจของเธอ

เรื่องนี้อ่านสนุกตรงที่บรรยากาศส่วนใหญ่อยู่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
คุณนักเขียนเก็บบรรยากาศ เก็บคำถามที่คนอ่านชอบไปเซ้าซี่ถามนักเขียน เอามาเรียงร้อยไว้ในเรื่อง
เก็บความรู้สึกของ "หนอนหนังสือ" ที่ไปรวมตัวกันในงานละลายทรัพย์นี้มาเล่าต่อ

อ่านแล้วคิดถึงตัวเองชะมัดเลย
แต่เราไม่ถึงกับตามหาหรอกว่า นักเขียน คนที่ยืนเซ็นชื่อให้กับเรา เป็นตัวจริงหรือตัวปลอมกันแน่
เพราะที่เราพอใจ ไม่ใช่ตัวนักเขียน แต่เป็น ตัวหนังสือที่เรียงร้อยออกมาต่างหาก

Create Date : 06 สิงหาคม 2552
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 23:17:45 น.		10 comments
Counter : 2861 Pageviews.
Share Tweet