กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 กรกฏาคม 2552
 

RRR 2 :: ห้องเรียนกลางทุ่งกว้าง : ภาคต่อของ 'ในทุ่งกว้าง'



จาก ในทุ่งกว้าง ผ่านมาสิบกว่าปี..ถวัลย์ มาศจรัส จึงนำเอาชีวิตห้าเกลอแห่งทุ่งนาออกมาโลดแล่นอีกครั้ง

"...ในช่วงที่มีการปฏิรูปการศึกษา ท่าน ดร.รุ่ง แ้ก้วแดง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เชิญนักเขียนไปร่วมฟังแนวคิดเรื่องการปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อให้นักเขียนเป็นพลังสำคัญส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษาแล้ว ผมก็นึกถึงๆ หน้าตามอมแมมที่ผมเคยอยู่กับพวกเขามาอย่างยาวนาน ในมโนสำนึก เด็กๆ เหล่านั้นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผมอยู่กลางบ่อโคลนที่เราเคยลงไปลุยจับปลากันจนเปื้อนเปรอะมอมแมม ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว นั่นคือห้องเรียนที่มีความอยู่รอดของชีวิตเป็นเดิมพัน เป็นการเรียนที่เน้นผุ้เรียนเป็นสำคัญอย่างที่ท่าน ดร.รุ่ง แก้วแดง ปรารถนาจะให้เกิดในยุคปฏิรูปการศึกษา ผมฟังแล้วก็เกิดแรงบันดาลใจ เมื่อกลับไปแล้วก็จับเด็กๆ เหล่านั้นซึ่งเคยเขียนไว้ในชุด ในทุ่งกว้าง ให้ออกมาโลดเต้นบนทุ่งอักษรบทเวทีกระดาษอันอีกคราวในชื่อ ห้องเรียนกลางทุ่งกว้าง ความรักงานเขียนชุดนี้มาก เขียนแล้วก็เพียงขัดเกลาเพิ่มเติม ใครมาขอให้พิมพ์ก็ไม่ให้ แต่ได้รวมเป็นชุดมอบให้ท่าน ดร.รุ่ง แก้วแดง ด้วยความเคารพที่ได้จุดประกายความคิดให้เกิดงานเขียนชุดนี้ไว้ชุดหนึ่ง..."


ห้องเรียนกลางทุ่งกว้าง : ถวัลย์ มาศจรัส

สำนักพิมพ์ธารอักษร พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2544 ราคา 90 บาท / 125 หน้า
ซื้อเมื่อ : 7 ธันวาคม 2544


แมัเวลาจะล่วงเลยมาหลายสิบปี แต่ผู้เขียนไม่ได้สร้างให้ตัวละครทั้ง 5 เติบโตขึ้นตามวันเวลาแต่อย่างใด
จ๊อด จุก เีปีย โก๊ะ และแก้ว ยังคงเป็นเด็กชายในวัยประถมอยู่เช่นเดิม
พฤติกรรมแก่นแก้วแสนซน ยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
พร้อมกับการเรียนรู้ชีวิตจริงจากผู้ใหญ่ใกล้ตัว อย่างพ่อ ปู่ไปล่ หลวงพี่
และครูโสภา..ก็ได้เรียนรู้จากเด็กๆ ด้วยเช่นกัน

tree 3

ครูโสภา ไปเข้ารับการอบรมที่สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอเสียห้าวันเลยทีเดียว พอเปิดเรียนวันจันทร์ก็ำทำให้เ็ด็กๆ แปลกใจ "วันนี้นักเรียนของครู สวยๆ หล่อๆ กันทุกคนเลย" ครูโสภาชมเด็กๆ ทำให้หลายคนยิ้มหน้าบาน บบางคนเหลียวมองหน้ากันล่อกแล่ก

... "เมื่อก่อนครูเรียกเธอว่า นายควายบ้าง นายทึ่มบ้าง แต่จริงๆ แล้ว..." ครูหยุดกระแอม ส่วนจ๊อดก้มหน้าใจเต้นไม่เป็นส่ำ นึกต่อคำพูดของครูในใจว่า..แต่จริงๆ แล้ว เธอก็ยังเป็นนายควายอยู่ คิดแล้วก็สุดสยอง "...แต่จริงๆ แล้ว เขาฉลาดกว่าครูเสียอีก" คำพูดของครูทำเอาเด็กๆ ตาค้าง โดยเฉพาะจ๊อดแทบจะสิ้นสติไปเลยทีเดียว "เขาเลี้ยงควายเก่ง หาหนู ปู ปลามาเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เขาำทำอะไรได้อีกตั้งหลายอย่าง ซึ่งครูไม่สามารถทำได้ เกี่ยวข้าว นวดข้าว เขาก็ทำได้โดยที่โรงเรียนไม่เคยสอนเขาเลย" ในความรู้สึกของเด็กๆ แล้ว วันนี้ครูโสภาพูดได้ไพเราะและยิ้มสวยกว่านางสาวไทยเสียอีก "จริงๆ แล้วแก่นแท้ของการเรียนการสอนนั้น คือการเรียนรู้ของผู้เรียน พวกเธอต้องเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ครูเป็นศูนย์กลาง" เด็กๆ ฟังประโยคนี้แล้วไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าครูโสภากำลังพูดถึงอะไร

"เอาเถอะๆ ต่อไปนี้นะ ห้องเรียนจะมีอยู่ทุกที ในห้องนี้ ใต้ร่มไม้ บนหลังควาย ท้องไร่ ท้องนา ในกระต๊อบ ในตึก อ้อ! บ้านเรายังไม่มีตึก" ครูโสภาหัวเราะ "ในวัด ในหมู่บ้าน บ้านหมอแผนโบราณ ห้วย หนอง คลอง บึง ล้วนเป็นห้องเรียนของพวกเธอทั้งนั้น"

... ครูโสภาเองก็ยิ้ม เธอคิดต่อไปว่า นอกจากเรื่องขนมที่ทำจากข้าวแล้ว พิธีกรรมที่เกี่ยวกับข้าว เพลงที่เกี่ยวกับข้าว ภูมิปัญญา วัฒนธรรมที่เกี่ยวกับข้าวนั้น มีอยู่ในห้องเรียนกลางทุ่งกว้างนี่เอง หลักสูตรท้องถิ่นอย่างนี้ เนื้อหามีอยู่ครบถ้วนแล้วรอบๆ โรงเรียนที่เธออยู่นี่เอง เพียงแต่เธอกับเด็กๆ ช่วยกันค้นหา จัดหมวดหมู่ จัดระบบการเรียนรู้เสียใหม่ โดยใช้เด็กๆ เป็นศูนย์กลางของการถ่ายโยงความรู้ เธอก็จะเป็นคล้ายดั่งผักตบชวา ไม่ว่าน้ำจะขึ้นหรือลง ก็ยังคงลอยเด่นอยู่เหนือผืนน้ำตลอดไป

แวบหนึ่งเธอคิดไปถึง ตำแหน่งอาจารย์ 3 ครูต้นแบบ ครูแห่งชาติไปโน่น เกียรติยศ ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้นมีจุดเริ่มต้นจากากรตั้งต้นทำคุณประโยชน์ โดยมีเด็กๆ เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ทั้งสิ้น เธอยิ้มกับความฝันที่ทุกคนมีสิทธิที่จะฝัน
tree 3


ต้องขอบคุณการปฏิรูปการศึกษาที่ทำให้เราได้ย้อนรำลึกบรรยายกาศชนบทจากวรรณกรรมเยาวชนชุดนี้อีกครั้ง
แต่ตอนแรกซื้อมา เราก็แค่พลิกอ่านผ่านๆ ตาไปก่อน
จนกระทั่งมาร่วมเล่น Rainy Read Rally (RRR) นั่นแหละ
โจทย์จากคุณอั๊งอังอา บอกให้ อ่าน fiction ที่ตัวเอกเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรมทางใดทางหนึ่ง
หรือชื่อเรื่องมีคำว่า ทุ่ง นา สวน ไร่ ฟาร์ม หรือที่เกี่ยวกับการเกษตร

ก็นึกถึงในทุ่งกว้างขึ้นมาทันทีทันใด แต่เรื่องอะไรจะหยิบเล่มเดิมมาอ่านกันเล่า เล่มต่อที่ยังไม่ได้อ่านก็มี

ว่าแล้วก็หยิบลงจากชั้นหนังสือมาอ่านซะ
...อ่านจบรวดเร็ว เพราะเล่มบางๆ ตัวหนังสือก็โตดีด้วย
อรรถรสความสนุกสนาน บรรยากาศสงบเย็นแบบชนบทยังคงอยู่

แต่ที่ขัดใจก็คือ ทำไมฝ่ายพิสูจน์อักษรไม่พิถีพิถันให้มากกว่านี้หน่อยนะ
อ่านๆ ไป ก็...อ้าว พิมพ์ผิด
....อ่านไปอีกนิด.. อ้าว พิมพ์เกิน
อ่านมาอีกหน่อย..เอ๊ะ ตรงนี้น่าจะพิมพ์สลับคำ
ไม่ได้นับหรอกว่ามีอีกกี่จุด...แต่มันทำให้หนังสือชุดโปรดมีตำหนิ...

แล้วในที่สุดเราก็มีรีวิวหนังสือเล่มนี้ ในกระทู้ :
//www.pantip.com/cafe/library/topic/K8072958/K8072958.html#1
ความเห็นที่ 17 เก็บมาได้ 10 คะแนนตุนไว้ก่อน
เป็นเล่มที่ 2 นำมาเคลมคะแนน ...แต่หยิบมา up blog ก่อนเพื่อความต่อเนื่อง

tree 3


เนื้อหาที่รีิวิวไว้ก่อนหน้านี้
ในท้องทุ่งนาชนบท
...เป็นห้องเรียนกว้างใหญ่ของเด็กๆ ทั้ง 5 คน คือ จ๊อด จุก แก่น แก้ว และเปีย
ครูของเด็กเหล่านี้ คือ พ่อ แม่ ลุง หลวงพี่ และชาวตำบลบ้านเหนือหลายต่อหลายคน
วิชาที่เด็กๆ ได้เรียน คือ วิชาเพื่อทำมาหากิน เช่น การทำเตาไฟ การตกปลาหมู
ดักปลาไหล การทำเบ็ด การช้อนกุ้ง การล่อ-จับปลาช่อน การเลี้ยงควาย
การทอผ้า และอื่นๆ อีกมากมาย
สิ่งเหล่านี้เป็นวิชาที่พวกเรา รู้ได้จากการอ่านหนังสือ แต่ไม่ได้ลงมือปฏิบัติ

อ่านแล้วย้อนรำลึกชีวิตวัยเยาว์
ที่แม้เราจะไม่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบพวกเค้า
แต่เรานับถือในความรู้และภูมิัปัญญาของชาวบ้าน
เรื่องราวเรียบง่าย สนุกสนาน และซุกซน
ถ้อยคำ สำนวนของผู้เขียน ทำให้เรามองเห็นแสงแดดยามเช้า
สายน้ำไหลเื่อื่อย ทุ่งข้าวเหลืองอร่าม
.... อยากใช้ชีิวิตเรียบง่ายแบบชาวชนบทจัง
....ไม่ต้องรีบเร่งแข่งขันแบบคนกรุง





Create Date : 27 กรกฎาคม 2552
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 23:17:16 น. 14 comments
Counter : 1953 Pageviews.  
 
 
 
 
ช่วงนี้ดูผู้เช่าบล็อกจะรำลึก

ถึงจินตภาพอดีตของวิถีชีวิตชาวชนบท

น่าดู สงสัยกำัลังโหยหาอะไรบางอย่าง

รึเปล่าเอ่ย
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:52:18 น.  

 
 
 
มาอ่านรีวิว..เก็บเป็นข้อมูลความรู้เวลาเลือกหนังสือค่ะ
เรื่องส่วนที่ยกมา..เรื่องราวของครูโสภากับพวกเด็กๆเหล่านั้น
ก็อารมณ์คล้ายๆสมัยก่อนเลย..คุณครูเราก็สอนแบบนี้แหล่ะ
ว่า"เด็กๆต่างหากคือศูนย์กลาง ไม่ใช่คุณครูที่เป็นศูนย์กลาง"
 
 

โดย: nikanda วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:6:06:51 น.  

 
 
 
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณนัทธ์...ผึ้งไม่ได้เข้าบล็อกมาเป็นอาทิตย์ ช่วงนี้งานเยอะจริงๆ พอดีวันนี้มาแต่เช้าเลยขอแว่บเข้าบล็อกก่อนค่ะ ไม่งั้นเด๋วก็อดเข้าอีก..แล้วถ้าว่างอีกจะรีบมาทักทายนะคะ
 
 

โดย: Sweety PB วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:00:48 น.  

 
 
 
มาอ่านอีกที


สำหรับเรา
โจทย์นี้ยังหาหนังสือไม่ได้เลยค่ะ แหะๆ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:14:36 น.  

 
 
 
คุณชาญ >> ไม่ได้โหยหาอะไรค่ะ แต่เพราะเป็นหนังสือตามโจทย์ RRR ค่ะ ...ก็เลยต้องขุดมาเล่าซะหน่อย

คุณแจง >> ช่วงปฏิรูปการศึกษาก็ยินคำนี้บ่อยๆ "child center" ปัจจุบันปฏิรูปกันไปแล้ว เด็กๆ ก็เลยกลายเป็นศูนย์กลางแทบทุกเรื่อง...

คุณผึ้ง >> ยินดีที่แวะมาค่ะ

คุณสาวไกด์ >> เราว่าโจทย์นี้ นิยายสมัยใหม่ก็มีหลายเล่มนะ อย่างชุดล่าสุดของพิมพ์คำ..ก็มีเรื่องที่พระเอกทำฟาร์มนี่นา
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:41:00 น.  

 
 
 
นี่เป็นวิถีชีวิตผู้คนแถวบ้านเราเลยอ่ะค่ะ...
แต่เป็นสมัยที่เราเป็นเด็ก ๆ นะ
เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะแล้ว...
เด็กอนุบาลก็พกโทรศัพท์มือถือแล้วล่ะ...เฮ้อ...
 
 

โดย: แม่ไก่ วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:26:09 น.  

 
 
 
คุณแม่ไก่ >> เด็กๆ สมัยนี้...ก้าวหน้าเร็วค่ะ..บางทีเราก็ตามไม่ทัน
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:08:38 น.  

 
 
 
เล่มนี้น่าสนใจอีกแล้วค่ะ เราก็ยังหาเล่มที่มาตอบโจทย์แบบที่พี่สาวไกด์ว่าไม่ได้เลยค่ะ แต่ก็ยังไม่คิดหาตอนนี้นะ โจทย์ข้ออื่นยังรออีกตรึมเลย
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:43:53 น.  

 
 
 
แวะมาทักทาย คุณนัทธ์สบายดีนะคะ ฝนตกทุกวันดูแลสุขภาพด้วยนะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
 
 

โดย: เกศสุริยง วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:25:28 น.  

 
 
 
ไม่เคยอ่านทั้งสองเล่มเลยค่ะ
 
 

โดย: ภาวันต์ วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:30:00 น.  

 
 
 
คุณนัทธ์ โสภานี่คนใกล้ตัวอ้อนเลยค่ะ
เป็นคุณครูเหมือนกันซะด้วยนะ ^^
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:31:25 น.  

 
 
 
เดี๋ยวน้อยหน้าอ้อน..อิอิ
คุณครูภาษาไทยตอนม.สี่ของแจง
ก็ชื่อโสภาเหมือนกันจ้ะ ..ผอมๆ ผมยาว
แต่ห้าว..ไม่ค่อยสมชื่อโสภาเลย..

ว่าแต่ว่า..โสภาแปลว่าอะไรเอ่ย..สวยเปล่า??
 
 

โดย: nikanda วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:5:44:11 น.  

 
 
 
ุคุณส้ม >>

คุณเกศ >> ขอบคุณค่ะ

คุณยุ้ย >> ดูเหมือนเราจะเลือกหนังสืออ่าน (เพื่อเอามาเล่าต่อ) ต่างจากหลายๆ คนนะเนี่ย

ุคุณอ้อน >> มีตัวอย่างให้เห็นชัดซะด้วย

คุณแจง >> แต่เราไม่เคยมีครูชื่อโสภาล่ะ...มีแต่เพื่อนชื่อ โสภา
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:11:28 น.  

 
 
 
อ้าว ปรากฏว่าเข้ามาอ่านแล้ว
ความจำสั้นจังค่ะอ้อน แหะๆ
 
 

โดย: BeCoffee วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:20:49:22 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com