|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
WWR2 - 2 : จดหมายรักตุรกี
การหาหนังสือมาอ่านตอบโจทย์ในเกมเหมันต์ขยันอ่าน เป็นความท้าทายอย่างนึงของเราเลยล่ะ ความตั้งใจของเราอยู่ตรงที่
อ่านหนังสือที่มีอยู่แล้ว เท่านั้น ไม่ซื้อมาเพื่ออ่านตอบโจทย์ เพื่อกำจัดกองดองของตัวเอง เลือกอ่านหนังสือไม่ซ้ำกับที่เพื่อนๆ อ่านและรีวิวไปแล้ว เพื่อสร้างตัวเลือกใหม่ให้กับเพื่อน และข้อต่อมาที่เราได้อ่าน ก็คือ
จดหมายรักตุรกี : วิชญา บุณยเกตุ
สำนักพิมพ์วงกลม พิมพ์ครั้งที่ 1 : กรกฎาคม 2551 ราคา 170 บาท / 175 หน้า ซื้อเมื่อ : 12 พฤษภาคม 2552
::โปรยปกหลัง::อาการตกหลุมรักนี่มันไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ แถมไม่มีการเตือนล่วงหน้าเสียด้วย เหมือนกันเดินทาง แม้จะศึกษาข้อมูล อ่านมามากขนาดไหนก็คาดเดาไม่ได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง อย่างเช่นการตกหลุมรักระหว่างเดินทางของสาวเจสซี่กับหนุ่มชัยโชติช่วง ที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีทางออกจึงต้องเขียนจดหมายถึงคนที่กรุงเทพฯ ในฐานะเจ้านายของผู้ชาย ซึ่งก็บังเอิญไปเป็นเพื่อนของฝ่ายสาวเข้า เรื่องก็เลยออกมาขำๆ ให้คนอ่านต้องลุ้นว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร
ตุรกี เป็นประเทศที่ไม่อยู่ใน list ที่อยากไปมาก่อน แต่เรามีเพื่อน chat เป็นชาวตุรกี เมืองอีสตันบูล อยู่ 2 คนที่ปัจจุบันนี้ไม่ได้คุยกันแล้ว ดังนั้นเมื่อได้เห็นหนังสือนี้ตอนแรกที่วางแผง หยิบๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่า ทำรูปเล่มออกได้สวยดี แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องรีบซื้อมาเพื่ออ่านทันที พอเห็นอีกครั้งในร้าน 50% ในช่วงที่อ่านหนังสือท่องเที่ยวเยอะแยะ ก็เลยหยิบขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง และพบว่าเป็นแนวการเขียนเล่าเรื่องผ่านจดหมาย ฉีกแนวหนังสือท่องเที่ยวออกไป และภาพประกอบหลักของหนังสือเล่มนี้ก็ไม่ใช่ภาพถ่าย ความน่าสนใจก็เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งหยิบมาตังค์ เอากลับมาดองไว้บนชั้นหนังสือต่อไป และได้มีโอกาสอ่านก็ตอนที่เห็นโจทย์นี้พอดีนั่นเอง
การเล่าเรื่องการเดินทางผ่านมุมมองของตัวละคร 2 ตัว คือไกด์นำเที่ยวสาวเจสซี่ และหนุ่มลูกทัวร์ ชัยโชติช่วง ที่ต่างเขียนจดหมายเล่าเรื่องเที่ยวถึง คุณเป็ด แต่เล่าต่อเนื่องกันไปตามเส้นทางท่องเที่ยว ผสมผสานประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่ผู้เขียนได้ผ่านสายตา ช่างเป็นประวัติศาสตร์ที่ย้อนหลังไปถึงยุคจักรวรรดิ์โรมัน จักรวรรดิ์ออตโตมัน ไกลมากกกกกกกก ความสวยงามของสถาปัตยกรรมตั้งแต่ยุคไบเซนไทน์ โรมัน เรื่อยมาจนถึงยุคศาสนาอิสลามรุ่งเรือง ทำให้ประเทศตุรกี่เริ่มเข้ามาอยู่ใน list ประเทศน่าไปเที่ยวของเราแล้วล่ะ
เส้นทางท่องเที่ยวในหนังสือเล่มนี้ เราจะได้เที่ยว อีชเมียร์ เซลจุค อีฟีซุส คูซาดาซึ ปามุคคาเล คอนย่า คัปปาโดเจีย และอิสตัลบูล <ชื่อเมืองอ่านยากชะมัด> เรื่องราวที่เกี่ยวกับความรัก..น้อยมาก ไม่เหมือนการเขียนนิยายประกอบการท่องเที่ยว อย่างเช่น ทางรัก-สายสัมพันธ์ ของทมยันตี หรือเยี่ยมวิมาน ของว.วินิจฉัยกุล หนังสือเล่มนี้จึงต้องจัดไว้ในประเภทสารคดีท่องเที่ยวนั่นแหละ เพียงแต่กลวิธีการเล่าเรื่องแตกต่าง น่าสนใจขึ้นมาอีกหน่อย ช่วงท้ายเล่ม มีข้อมูลเพื่อเตรียมตัวเที่ยว เช่นการขอวีซ่า วันหยุดประจำปีและเทศกาล ภาษา อาหาร (มีสูตรอาหารให้หัดทำด้วย) ของฝาก และเรื่องราวของคนสำคัญในประวัติศาสตร์ รวมทั้งเรื่องของเตอร์กีซบาซและฮาเรม
คงอีกนานกว่าเราจะเก็บสะสมงบประมาณไว้เดินทางไปเที่ยวประเทศนี้ ช่วงนี้ก็อาศัยหาหนังสือท่องเที่ยวมาอ่านไปพลางๆ ก่อน ยังมีหนังสือท่องเที่ยวประเทศตุรกีอีกเล่มบนชั้นหนังสือ รอให้เราอ่าน
ตอบโจทย์ 5-9. [แม่ไก่] อ่านหนังสือที่ดำเนินเรื่องด้วยการเขียนจดหมาย หรือ หนังสือที่ดำเนินเรื่องในลักษณะการเขียนบันทึกประจำวัน จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ได้
ความเห็นที่รีวิวไว้ที่กระทู้ >> //www.pantip.com/cafe/library/topic/K9911135/K9911135.html ความเห็นที่ 70
สารคดีท่องเที่ยวประเทศตุรกี ทริป 7 วัน ที่นำเสนอการเดินทางด้วยจดหมายของคนสองคน คนหนึ่งเป็นหญิง เป็นไกด์นำเที่ยว เขียนเรื่องการเดินทางถึงเพื่อนของเธอที่เป็น บก.นิตยสาร ส่วนอีกคนเป็นชาย เป็นช่างภาพนิตยสาร เขียนเรื่องเล่าการท่องเที่ยวถึงบก.นิตยสาร เจ้านายของเขา เป็นเพื่อนของเธอ
ตุรกี ดินแดน 2 ทวีป ที่มีประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรืองสลับล่มสลายมายาวนาน ผ่านเหตุการณ์สำคัญของโลกมาหลายยุคหลายสมัย มีศิลปะผสมผสานทั้งคริสต์และอิสลาม
จดหมายของเธอและเขา เล่าสลับกัน แต่เป็นการเดินทางที่ต่อเนื่องกัน ไม่ได้เล่าย้อนกันไปมา เป็นลำดับเวลาที่ทำให้รู้ว่า ทัวร์คณะนี้เดินทางจากไหนไปไหน เที่ยวที่ไหน มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เยอะมาก แต่เรื่องรักหวานๆ น้อยนิด คงเพราะเป็นหนังสือที่จัดไว้ในประเภท "สารคดีท่องเที่ยว" มากกว่าจะเป็นนิยายที่อิิงการท่องเที่ยว ช่้วงท้ายเล่้ม มีข้อมูลการท่องเที่ยว ประเภทการเตรียมตัว คำศัพท์บางคำ และสูตรอาหารให้ลองทำด้วย
อ่านจบแล้วอย่างไปตุรกี่นะเนี่ย ประเทศหรือเมื่องที่มีความเป็นมาให้ศึกษาแบบนี้ เราชอบนักล่ะ แต่โอกาสที่จะได้เดินทางไปจริงๆ นั้น ยังไม่รู้จากมาถึงเมื่อไหร่ อาศัยเที่ยวไปตามตัวหนังสืออย่างนี้เรื่อยไปซะก่อน
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 22 ธันวาคม 2553 7:48:17 น. |
|
14 comments
|
Counter : 2715 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 22 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:11:24 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:15:13 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:27:42 น. |
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:01:32 น. |
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:03:26 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:26:25 น. |
|
โดย: nulaw.m วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:58:56 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 30 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:32:58 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:19:25:52 น. |
|
| |
|
นัทธ์ |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]
|
รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้ และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
เพราะว่ามันไม่ซ้ำกับคนอื่นจริงๆ เล่มนี้เราเพิ่งเคยเห็น
และช่วงนี้ หลังจากอ่าน "ดื่มดินกินแดด" มาแล้วพักใหญ่
มีความรู้สึกอยากอ่านอะไรๆ แบบนี้ คือแนวท่องเที่ยวบ้าง