ของดีในอินเดีย : พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ
หนังสือเล่มนี้หยิบมาอ่านตั้งแต่ตัดสินใจร่วมทริปถ่ายรูปที่อินเดีย ไปจนกลับมาแล้ว เพิ่งอ่านจบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง
ของดีในอินเดีย : พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ
สำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ พิมพ์ครั้งแรก (ของสนพ.) : พฤษภาคม 2541 จำนวน 258 หน้า / ราคา 205 บาท ซื้อเมื่อ : 2 ตุลาคม 2554 อ้านจบ : 20 พฤศจิกายน 2557
::โปรยปกหลัง::
"...ข้าพเจ้ามีความยินดีที่เขียนเรื่องของดีในอินเดียได้ เพราะอินเดียเป็นประเทศที่ข้าพเจ้าสนใจมาช้านาน แม้ว่าข้าพเจ้าจะได้อยู่ประจำเป็นเวลาค่อนข้างสั้น ก็ยังรักษาอนุสาวรีย์อันดีของอินเดียไว้เสมอ ถ้าหากว่าหนังสือเล่มนีจะช่วยทำความเข้าใจอันดี ระหว่างประเทศและประชาชนชาวไทยและชาวอินเดีย ข้าพเจ้าก็จะมีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง..."
- วิจิตรวาทการ - 1 มกราคม 2497
โดยส่วนตัวเราคุ้นเคยกับ "ละครหลวงวิจิตรวาทการ" มากกว่าตัวหนังสือของท่าน เพราะได้ดูละครจากกรมศิลปากร และได้อ่านหนังสือบทละครมาแล้ว แต่เราก็ซื้อหนังสือนิยายของหลวงวิจิตรวาทการบางเรื่องมาดองไว้ ยังไม่ได้อ่าน จนได้กระทั่งได้หนังสือเล่มนี้มา คงเพราะไม่คิดว่าท่านเขียนแนวสารคดีท่องเที่ยวมั๊ง และคงเพราะเป็นเรื่องของประเทศอินเดีย ทำให้เราตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้มาสะสมไว้ และได้ฤกษ์หยิบมาอ่านซะที เมื่อตัวเองจะไปเที่ยวอินเดีย ก็ไปขุดหนังสือเกี่ยวกับอินเดียมาอ่านประดับความรู้ แต่ก็ดันอ่านจบ หลังจากกลับจากอินเดียซะได้
พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงนิวเดลี เมื่อปีพ.ศ.2495 1 ปีในอินเดีย ท่่านได้เดินทางไปเที่ยว (และทำราชการ) ในหลายเมืองใหญ่ แล้วกลับมาเขียนเล่าเรื่องอินเดีย โดยแบ่งการเล่าเรื่องผสมสอดแทรกประวัติศาสตร์ของอินเดีย ทำให้เรารู้จักอินเดียตั้งแต่ยุคอดีต ก่อร้างสร้างตัว ตกเป็นเมืองอาณานิคม และเป็นอิสระ จากนั้นก็เล่าการเดินทางเที่ยวชมเมืองที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า ในช่วงนี้ เราก็ได้เรียนรู้พุทธประวัติแบบสั้นๆ กระชับเพิ่มเติมไปด้วย ช่วงท้าย เล่าถึงเมืองที่ท่านไปเยี่ยมเยือน มีภาพประกอบ ...แน่นอนเป็นเมืองนั้นในยุค 2495
แม้ว่าการอ่านประสบการณ์การเดินทางในอดีต เราไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลท่องเที่ยวในปัจจุบัน แต่มันก็ทำให้เราเห็นร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองที่เคยมีขึ้น และอาจจะสูญสลายไปแล้วก็ได้ อีกทั้ง หนังสือเล่มนี้ ยังบอกเล่าให้เราเห็นถึงความพยายามอยู่ร่วมกัน ของผู้คนต่างศาสนา ต่างภาษา ในประเทศใหญ่ แม้จะต่างกันหลายอย่าง แต่ก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข นี่คือ อินเดีย ประเทศที่รุ่งเรืองมาแต่ครั้งบรรพกาล
"...ข้าพเจ้าต้องไปจากอินเดียในปลายเดือนเมษายน ข้าพเจ้ามิได้ไปโดยปราศจากความเสียดาย ข้าพเจ้ามีความรักและความหวังดีต่อประเทศอินเดียเป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าให้เกียรติและยกย่อง ประเทศอินเดียอยู่เสมอ ในฐานะที่เป็นแหล่งวิชาการและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นถิ่นที่ของพระพุทธศาสนา แม้ว่าข้าพเจ้าจะจากอินเดียไป ข้าพเจ้าก็จะไม่หยุดยั้ง ในการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับอินเดีย และเกี่ยวกับพุทธประวัติ ซึ่งข้าพเจ้าได้กุญแจไว้มาก ในการอยู่อินเดียราว 1 ปี..."
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2557 23:10:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2490 Pageviews. |
|
|
|